ถาม.
อย่างที่เราสามัคคีธรรมกันทางโซเชียล เราก็ไม่ได้อยู่ใกล้กันอยู่ห่างไกลกัน
1. ถ้าเราไม่ได้เข้าที่คริสตจักรและถ้าเรามีอะไรฉุกเฉินที่ต้องขอความช่วยเหลือจากพี่น้องที่เรามีความสัมพันธ์กันอยู่ในโบสถ์ เราท่านข้าวทานอาหารด้วยกัน ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รักเราแต่เราก็รู้สึกห่วงใยเขาแล้วก็อยากเจอเขา
2. แล้วอย่างเราเจ็บไข้ได้ป่วยมีอะไรที่จะให้พี่น้องในโบสถ์ช่วยเหลือเรา ที่จะช่วยเหลือบางสิ่งบางอย่างที่เราทำไม่ได้
3. แล้วก็เราไม่ได้หักขนมปังร่วมกับพี่น้อง
อันนี้มันจะอยู่ในน้ำพระทัยของพระองค์หรือเปล่า ที่พระองค์บอกว่าอย่าขาดการประชุม ให้อธิษฐานเผื่อซึ่งกันและกัน คริสตจักรเป็นครอบครัวเป็นหนึ่งเดียวกันที่เราจะอยู่ดูแลซึ่งกันและกัน แล้วเรามาอยู่ในโทรศัพท์เนี่ย เราอยู่ห่างไกลกัน แล้วเราก็ขาดพี่น้อง ถึงแม้ว่าพี่น้องที่อยู่ใกล้เราจะไม่น่ารักแต่ว่ามีอะไรฉุกเฉินเราก็สามารถขอให้เขาช่วยหน่อยนะ แต่เราไม่ได้เข้าโบสถ์ไม่ได้มีพี่น้องแล้ว มันจะโดดเดี่ยวไปไหมคะ
ตอบ.
เราต้องเข้าใจนะครับว่า เปาโลพูดว่าอย่าขาดการประชุม เปาโลพูดถึงคริสตจักรไหน คริสตจักรศาสนาคริสต์ คริสตจักรฝ่ายเนื้อหนัง หรือคริสตจักรฝ่ายวิญญาณ ตอบผมได้ไหมครับ?
คริสตจักรฝ่ายวิญญาณแน่นอนนะครับ เมื่อเปาโลพูดถึงว่าจงอยู่ร่วมกันเป็นพระกายเดียวกัน พระกายก็คือพระกายฝ่ายวิญญาณ ไม่ใช่พระกายศาสนาคริสต์ ไม่ใช่คริสตจักรศาสนา
แล้วเปาโลพูดว่าจงอย่าขาดการประชุม ก็คือพูดถึงพระกายฝ่ายวิญญาณ เปาโลไม่ได้พูดถึงศาสนาคริสต์ หรือโบสถ์ หรือคริสตจักรศาสนาทุกวันนี้ เราเข้าใจกันนะครับ
ใช่ครับมีความอบอุ่น แต่ก็เป็นความอบอุ่นแบบศาสนาคริสต์ ใช่ครับมีการช่วยเหลือ แต่ก็มีการช่วยเหลือแบบศาสนาแบบเนื้อหนังแบบคริสตจักรศาสนา ถามว่ารักแท้มีไหม ไม่มี. ผมขอย้ำขอยืนยันนะครับ รักแท้ไม่มี อันนี้คือรักอากาเป้น่ะ..ไม่มี.
แล้วส่วนมากก็เป็นการสวมหน้ากาก ก็ดูแลกันช่วยเหลือกันบ้าง ก็เหมือนสมาคมทั่วไป ก็เหมือนศาสนากลุ่มทั่วๆ ไปที่มีการดูแลช่วยเหลือกัน แล้วดีไม่ดีศาสนาอื่นเขายังดีมีการช่วยเหลือมากกว่าคริสตจักรทุกวันนี้ก็มีใช่ไหม
เพราะฉะนั้นพอถึงเวลาก็แตกแยกกัน ถึงเวลาก็เกลียดชังกัน พอถึงเวลาก็แตกก๊กแตกเหล่า
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคือเปาโลพูดว่าอย่าขาดการประชุม ก็คือเปาโลเตือนคริสตจักรที่เป็นคริสตจักรฝ่ายวิญญาณแล้ว ก่อตัวเป็นพระกายเที่ยงแท้แล้ว
ถามว่าแล้วถ้าหากเราอยู่ไกลกัน เราไม่ได้มีคริสตจักรฝ่ายวิญญาณที่อยู่ใกล้บ้าน ที่อยู่ใกล้เรา เราจะทำยังไง
"เรื่องการเชื่อพระเยซู เป็นเรื่องการวางใจในพระเยซู ไม่ใช่วางใจในมนุษย์"
เรื่องการเชื่อพระเยซู ก็คือถ้าหากว่าจำเป็นจริงๆ ไม่มีกลุ่มไม่มีใครที่เป็นพระกายฝ่ายวิญญาณ เราร่วมไม่ได้เราก็ไม่ต้องร่วม แล้วพระเยซูสนับสนุนน้ำพระทัยของพระบิดา ก็คือให้เราออกมา อันนี้ผมพูดตามพระคัมภีร์ตามเปาโลและตามพระเยซู และตามหนังสือยอห์นที่พูด อย่าลืมนะครับยอห์นเตือนคริสตจักรเจ็ดคริสตจักรในหนังสือวิวรณ์บทที่ 2-3 ลองไปอ่านดูนะครับ
แล้วทุกวันนี้คริสตจักรไม่ได้มาตรฐาน ไม่ได้ดำเนินชีวิตตามน้ำพระทัยของพระเจ้า เพราะฉะนั้นเมื่อไม่มีการดำเนินชีวิตคริสตจักรตามน้ำพระทัย พระเจ้าจึงต้องให้เราออกมา แล้วเราทุกวันนี้ที่ออกมาไม่ใช่บังเอิญ เราไม่ได้เลือกออกมาเอง พระวิญญาณผลักดันคุณให้ออกมา มีใครกล้ายืนยันไหมครับว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์ผลักดันเราออกมา เอเมนไหม
คือเราอยู่ไม่ได้ เราอยู่ไม่ได้อยู่ยังไงก็อยู่ไม่ได้ คือเราอิ่มแล้ว เราอิ่มในอาหารฝ่ายวิญญาณแล้ว เราจะกลับไปไม่ได้ อันนี้ผมขอย้ำนะครับ ถ้าอยู่ต่อก็คือเรือมันจะล่ม ก็คือชีวิตของเราจะล่มจมลงไป ใช่ครับมีการช่วยเหลือจากมนุษย์ แต่จะมีการลงโทษจากพระเจ้า เอาไหมครับ จะเอาอันไหนดี
อย่าลืมนะครับว่ายอนบทที่ 6 ข้อ 44 "ไม่มีผู้ใดมาถึงเราได้นอกจากพระบิดาผู้ทรงใช้เรามาจะทรงชักนำให้เขามา และเราจะให้ผู้นั้นฟื้นขึ้นมาในวันสุดท้าย"
พระองค์จะเป็นคนชักนำเรามา ถึงจุดนี้ได้ ไม่ใช่เรามาเอง ไม่ใช่เราพบมานาที่ซ่อนไว้เอง
เพราะฉะนั้นถ้าหากเรายังรักพี่น้องยังรักกลุ่มรักโบสถ์ที่เรารู้สึกว่ามีความอบอุ่น เราไปร่วมกับเขาได้ครับ ผมก็ไม่ได้ห้ามแล้วก็พี่น้องเราก็ไม่ได้ห้าม คือเราไปร่วมกับเขาได้อยู่กับเขาได้ แล้วก็แบ่งปันทุกข์สุขกับเขาต่อไปได้เหมือนกันไม่เป็นไรครับ แล้วก็มารับมานาต่อไปก็ได้ไม่มีใครว่า
เพียงแต่ว่าวันหนึ่งถึงเวลาที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทำงาน แล้วเราก็จะอยู่ไม่ได้เอง แต่ตอนนี้เราอยู่หักขนมปังกับเขาก็หักไปได้หักไปต่อไม่เป็นไรครับ
สำหรับเรื่องการจะมีพระกาย จะร่วมกับพี่น้องจะเป็นกลุ่ม เป็นพระกายเที่ยงแท้อยู่ที่ครอบครัวเราหรืออยู่บริเวณแถวนั้น ก็คือรอเวลา รอเวลาที่พระเจ้าจะเปิด ทุกอย่างจะมาเองตามเวลาของพระองค์กำหนด
เราแค่ดำเนินชีวิตต่อไป ทำงานต่อไป สนิทบอกรักต่อไป สะสมมานาต่อไป
สิ่งที่สำคัญก็คือถ้าเราจะมีบทบาทในการดูแลพี่น้อง แล้วก็มีส่วนในพระกาย ที่จะเป็นผู้ที่จะรับผิดชอบวิญญาณของพี่น้องทั้งหลาย ก็คือเราแยกแยะบทเรียน นำบทเรียนมา เเล้วก็ทำให้มันสมบูรณ์ ทำให้มันชัดเจนกระจ่าง
ขอการเปิดเผยให้มากยิ่งขึ้นสำหรับเรา เพื่อเราจะเข้าใจ เเล้วก็เราจะแบ่งปันพี่น้องได้
1. คือการก่อพระกาย ก่อตั้งคริสตจักร
2. ก็คือการได้มีส่วนเสริมสร้างพี่น้อง การเผยพระวจนะที่เป็นคนที่สำคัญ
ขอย้ำว่าเรื่องเวลา เป็นเวลาของพระเจ้า เราไม่รู้ว่ากี่เดือนกี่ปี แต่พอเวลามาถึงเราจะรู้เอง