ถาม.
ในพระคัมภีร์เดิมที่พระเจ้าบอกว่าในเรื่องการกินแต่ละชนิด หมูพระองค์บอกว่ากินไม่ได้ และสัตว์ที่มีกลิ่นกุ้งก็กินไม่ได้ ปลาหมึกกินไม่ได้ ปลาไหลกินไม่ได้ ปลาดุกกินไม่ได้ อันนี้หมายความว่าไงค่ะ มันยังต้องใช้ได้อยู่ไหมค่ะ
ตอบ.
เราย้อนกลับไปดูในพระคัมภีร์เดิมนะครับ แล้วก็สมัยหลายพันปีก่อนเราพบว่าทำไมพระเจ้าห้ามชาวยิวไม่ให้กินสัตว์เหล่านี้ เป็นเพราะว่าคือสัตว์เหล่านี้กินสิ่งที่สกปรกมีเชื้อโรคอยู่เต็มไปหมด แล้วก็กินซากศพ หรือว่าปลาไหลมันชอบอยู่ที่ไหน อยู่ในที่ที่มันกินอาหารที่สกปรกแล้วก็มันกินซากศพ แล้วอะไรก็ตามนะครับที่เกี่ยวกับเชื้อโรคที่ไม่สะอาดพระเจ้าก็ห้าม
พอมาถึงยุคพระคุณ ในสมัยพระคัมภีร์ใหม่ และมาถึงยุคพวกเราทุกวันนี้ ถามว่าสัตว์เหล่านั้นมันกินสกปรกไหม? และเกี่ยวข้องอะไรกับศาสนากับพระกับการไหว้การกราบไหว้ไหม? ถ้าไม่เกี่ยวข้องเรากินได้ และถ้าไม่สกปรก เราอธิษฐานขอบพระคุณและกินได้
พระเยซูตรัสและก็เปาโลนะครับพูดว่า อะไรที่กินเข้าไปก็ถ่ายออกมา แต่ที่สำคัญนะครับเลือดห้ามกินเป็นอันขาด เลือดก็ยังเป็นคำสอนที่พระเจ้ายึดที่จะสั่งเราไม่ให้กินเลือดนะครับ (กจ 15:20, 28–29) แต่สิ่งอื่นทุกวันนี้เขาเลี้ยงหมูสะอาดแล้วใช่ไหม ปลาดุกเขาเลี้ยงสะอาดแล้ว คือสัตว์หลายชนิดที่พระเจ้าห้ามในสมัยก่อน ทุกวันนี้เรากินได้ด้วยการขอบพระคุณ ถ้าหากไม่ทำอะไรต่อร่างกายของเราที่เป็นวิหารของพระเจ้า
คือในพระคัมภีร์เดิมพระเจ้าห้าม แต่ในพระคัมภีร์ใหม่พระเยซูตรัสว่ากินอะไรก็กินได้ แล้วเปาโลพูดโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ว่ากินอะไรก็ได้ กินโดยการขอบพระคุณ และของเหล่านั้นที่เรากินไม่ใช่เนื้อไม่ใช่อาหารไม่ใช่อะไรที่ผ่านการเซ่นไหว้กราบไหว้ของพระอื่นมาแล้วนะครับ
ไม่ใช่ว่าเราเห็นว่าในพระคัมภีร์เดิมสั่งพระเจ้าสั่งไม่ให้กินปลาไหล ก็ไม่กินปลาไหลตลอดชีวิต หรือปลาดุกไม่กินตลอดชีวิต เราต้องเข้าใจนะครับคือขอย้ำว่าสมัยก่อนสัตว์เหล่านี้กินอาหารกินซากศพกินสิ่งที่สกปรกทำให้เป็นเชื้อโรคทำให้ร่างกายของเราจะมีปัญหา
แต่ทุกวันนี้เขาเลี้ยงแบบใหม่สะอาดแล้ว หมูเขาก็เลี้ยงให้สะอาดแล้ว หมูสมัยก่อนทำไมพระเจ้าห้าม เพราะว่ามันไปกินอุจจาระของมนุษย์ แล้วก็มันถ่ายออกมาแล้วก็มันกินอุจจาระของมันเอง เพราะฉะนั้นทุกวันนี้คือมีความก้าวหน้ามีการพัฒนาเรื่องการเลี้ยงสัตว์ทั้งหลาย เพราะฉะนั้นสัตว์เหล่านี้สะอาดแล้วนะครับ เรากินได้โดยการขอบพระคุณ
แต่นะครับสำหรับผู้เชื่อใหม่ สำหรับพี่น้องที่เชื่อใหม่ แล้วก็อ่านพระคัมภีร์เดิมแล้วก็รู้สึกว่าฟ้องผิด ยังฟ้องผิดอยู่ไม่กล้ากิน ก็อย่าเพิ่งกินครับ ถ้าหากเราสงสัยเราฟ้องผิดก็ผิดนะครับ
แต่สำหรับผมและก็การเข้าใจความหมายในฝ่ายวิญญาณการได้รู้คำพูดของพระเยซูและเปาโลยืนยันว่า กินอะไรก็ได้ แต่รู้ไหมพวกท่านห่วงเรื่องการกิน แต่พวกท่านไม่เคยสนใจเรื่องความรัก เรื่องการแสดงความเมตตา ความดีที่ออกมาจากใจของพวกท่าน นี่คือสิ่งที่พระเยซูย้ำ อย่าใส่ใจเรื่องการกิน แต่สิ่งที่พูดออกมา สิ่งที่สำแดงออกมา เป็นความรักไหม ความดีไหม ความเมตตาไหม ผู้อื่นได้รับผลประโยชน์จากเราหรือไม่ อันนี้สำคัญกว่า