เราเคยคิดกันไหมว่าพระเจ้าต้องการให้เราแข่งขัน ไม่ใช่คำพูดของเปาโลนะ เปาโลบอกว่าเราแข่งขันกันไปจนถึงชัยชนะ ใช่ไหม เราเคยคิดถึงเรื่องนี้กันไหม
แต่ก่อนเราเป็นคริสเตียนศาสนา เราไม่เคยผิดใช่ไหม อยู่ไปวันๆ พระเยซูมาก็ถูกรับขึ้น ก็รอดไปสวรรค์แค่นั้นเอง
ตั้งแต่นี้ต่อไป ผมขอท้าพวกเราทุกคนในที่นี้เลย เราจะแข่งขันกันเอเมน เราจะเข้าไปในอาณาจักร บางคนบอกว่าอาจารย์เราแข่งคุณไม่ได้ อาจารย์อาจจะได้เป็นกษัตริย์ เมื่อเช้าพี่น้องบอกว่าอาจารย์ต้องได้เป็นกษัตริย์แน่นอนเลย ใครจะไปรู้ครับ เราอาจจะเป็นกษัตริย์เหนือผมก็ได้ เอเมนไหม
ห้ามคิดนะครับว่าคนนี้จะเป็นใหญ่ คนนี้จะเป็นเล็ก คนนี้จะเป็นแบบนี้แบบนั้น ห้ามคิดครับ แต่หน้าที่ของเรา ก็คือวิ่งให้สุดกำลัง เอเมน วิ่งให้สุดกำลัง เพื่อจะเข้าอาณาจักร แข่งกับผู้อื่น แต่การวิ่งแข่งของเราไม่เหมือนการแข่งของแบบโลก
การแข่งของโลก คือแบบนี้ เขาจะวิ่งไม่มองใครไม่สนใจใคร วิ่งคนเดียวเอาชนะให้ได้ แล้วบางคนล้ม เขาก็กระโดดข้าม แล้วก็ไปต่อ
แต่คริสเตียนผู้ชนะเรา พวกเราฝึกมานาฯ ก็คือ เราวิ่งไป ใครเหนื่อย เราช่วยเขา อ่ะ.. คุณไปก่อนไม่เป็นไร คุณไปก่อน ผมไปทีหลังก็ได้ ช่วยเขา คนล้ม อ่ะ.. ดึงขึ้นเลย แล้วก็ช่วยเขาพยุงเขา นี่คือการแข่งขันของผู้ชนะ มันตรงข้ามกับการแข่งขันแบบโลกนี้
แล้วก็การแข่งขันแบบคริสเตียนศาสนา คริสเตียนศาสนานะครับพอเห็นใครล้มปุ๊บ เขาทำยังไง เขาไม่หลบนะ ชาวโลกเขาแข่งขัน คนอื่นล้มเขาหลบ แต่คริสเตียนแข่งขัน คนอื่นล้ม เขาเหยียบ แล้วเวลาวิ่ง เวลาวิ่งคนอื่นไม่ล้ม วิ่งตามมาเนี่ยก็จะผลักใช่ไหม คือตัดสินกันไง ตัดสินกัน เป็นคริสเตียนวัวกระทิง
คริสเตียนกบคืออะไรครับ คือนานๆ มาคริสตจักรทีนึง ขี้เกียจนอนดูทีวีอยู่บ้าน ไม่ไปไหนไม่ทำอะไรไม่รับใช้ คริสเตียนกบ
คริสเตียนไก่ คือคริสเตียนที่แบบว่าขยันทำงาน หาเงิน ยุ่งอยู่กับการทำงาน ไม่มาคริสตจักร บอกว่าไม่มีเวลา เธอไปเถอะ ไม่มีเวลาทำงาน ไปขายของ คริสเตียนไก่
คริสเตียนไส้เดือน คือคริสเตียนตาบอด คือไปเรื่อยๆ ใครนำทางไปทางไหนก็ไป ไม่มีตา คริสเตียนไส้เดือน
คริสเตียน M 150 ใจร้อน ขยัน ทำๆๆๆ ทำเพื่อพระเจ้า จะทำด้วยตัวเก่า ทำด้วยแรงของ M 150 ไม่ได้ทำด้วยแรงของพระคริสต์ที่อยู่ในเรา เอเมน
- การแข่งขันได้เริ่มขึ้นแล้ว (the race has begun)
เมื่อเราได้รู้และเข้าใจน้ำพระทัยของพระบิดา เราควรเอาใจใส่อย่างจริงจังเรื่องการอยู่เพื่อทำนาของพระองค์ และเพื่อร่วมกันเสิรมสร้างคริสตจักร และร่วมกันสนิทในพระองค์
ถึงเวลาแล้วครับ ที่เราควรจะเอาใจใส่ submit ตัวเราให้พระเจ้า บอกว่า ขอบพระคุณพระเจ้าเราพบมานาที่ซ่อนไว้แล้ว เรารับสันติสุขทุกวันเวลาแล้ว เราเข้าสู่กระบวนการการเปลี่ยนแปลงจิตใจใหม่แล้ว เราจะทำ คือจริงจัง จริงใจ ให้กับพระเจ้า เอเมน ที่ผ่านมาเราประกาศ ไม่ประกาศ บอกไม่บอก คือทำเป็นแบบทำตามใจเรา ต่อไปเราจะทำตามใจพระเจ้า เอเมน
ในกาลาเทียบทที่ 5 มีสองคำที่เปาโลใช้..
1. ดำเนินชีวิตอยู่ในพระวิญญาณ Live in the Spirit
Live in the Spirit พี่น้องเข้าใจนะครับ Live in the Spirit แปลว่าอะไร ดำเนินชีวิตอยู่ในพระวิญญาณ Live in the Spirit แล้วมีอีกคำหนึ่งเปาโลบอกว่า เมื่อท่านดำเนินชีวิต อยู่ในพระวิญญาณแล้ว ท่านควรจะ walk in the Spirit เมื่อ Live in the Spirit แล้ว ยังไม่พอนะ ต้อง walk in the Spirit
walk in the Spirit คืออะไร แต่ละก้าว แต่ละก้าว คือต้องเดินตรงไป จริงจังจริงใจซีเรียส เราอยู่ในพระวิญญาณ เราอยู่ในความเชื่อ เราฝึกเดิน เราขอบพระคุณพระเจ้า มีสันติสุข เข้าสู่กระบวนการการเปลี่ยนแปลง รับมานาที่ซ่อนไว้ ทำอะไรก็ทำ ไม่ทำก็ไม่ทำ ใช่ไหม คือแบบไม่จริงไม่จัง คือไม่เป็นกระบวนการ ไม่เป็นขั้นตอน
แต่ต่อไป เราจะ walk in the Spirit เอเมน
walk in the Spirit ก็คือ เดินอย่างจริงจัง อย่างมีระเบียบ เดินไปกับพระเจ้าสม่ำเสมอ เอเมน
walk in the Spirit ก็คือ เดินในทางของพระเยซูอย่างสม่ำเสมอ รับใช้อย่างสม่ำเสมอ แบกกางเขนอย่างสม่ำเสมอ คือนับว่าตายทุกวัน แบ่งมานาฯ อย่างสม่ำเสมอ
เมื่อก่อนเราทำก็ทำ ไม่ทำก็ไม่ทำ คิดจะทำก็ทำ ไม่คิดทำก็ไม่ทำ ต่อไปเราจะทำอย่างสม่ำเสมอ เรียกว่า walk in the Spirit ครับ
2. นี่คือสิ่งที่สองที่พระเจ้าต้องการให้เราทำ
ปีกว่าที่ผ่านมาปีสองปีที่ผ่านมา ผมชวนเราคุย สามัคคีธรรม สัมมนาทุกที่ทุกแห่ง หลายปีนะครับเป็นเวลาของการ Live in the Spirit ผ่านไปแล้ว
ต่อไปนี้นะครับนับจากนี้ไป ก็คือการ walk in the Spirit ก็คือการทำทุกสิ่งทุกอย่างอย่างสม่ำเสมอ submit ตัวเราให้พระเจ้า แล้วตระหนักนะครับว่าเราทุกคนเป็นปุโรหิตหลวงของพระเจ้า เอเมน
- การเป็นหนึ่งในพระกาย พระเยซูอธิษฐานเผื่อเราให้เป็นหนึ่งในพระกาย
ยน 15:1-5 พระคริสต์ คือศูนย์กลางของทุกสิ่งที่พวกเรา (พระกาย) ต้องการ การสามัคคีธรรมจึงต้องมี พระคริสต์เป็นศูนย์กลางในเวลาประชุม พระองค์เป็นผู้หล่อเลี้ยงเราเป็นทุกสิ่งที่เราต้องการ
ยอห์นบทที่ 15:1-5 พระเยซูตรัสมีคำหนึ่งที่น่าสนใจ พระเยซูบอกว่า แยกจากเราแล้วท่านจะทำอะไรไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นทุกวันนี้คริสเตียนส่วนมาก แยกจากพระเยซู ไม่สนิทในพระเยซู ผมพูดถูกไหม ใช่ไหม แต่เราคริสเตียนมานาฯ เราขอบพระคุณพระเจ้า เรารู้จักวิธีการสนิทในพระเยซูแล้ว เราจะไม่แยกจากพระเยซู เราจะติดสนิทอยู่กับพระเยซู
แล้วเวลาที่เรามาอยู่ร่วมกันเป็นหนึ่งในพระกาย เรา ทุกคนก็ต้องฝึกในการที่จะสนิทอยู่ในพระเยซู ในขณะเดียวกันด้วย เพราะว่าเวลาเรามาอยู่ในคริสตจักร เราไม่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เราพูดคนละเรื่อง เราคิดคนละแบบ คิดต่าง อันนั้นไม่ถูกครับ เราต้องคิดเหมือนกัน ต้องคิดพระเยซู เราต้องพูดเหมือนกัน ต้องพูดพระเยซู เราต้องทำเหมือนกัน ทำแบบพระเยซู ต้องเรียนรู้ในการเป็นหนึ่งเดียวในพระกาย จะเป็นหนึ่งยังไง จะทำยังไง จะทำอะไรบ้างนะครับ
แต่ขั้นแรกพระเยซูบอกว่า ถ้าแยกจากเราท่านจะทำอะไรไม่ได้ เราจะต้องติดสนิทอยู่กับพระเยซู และคริสตจักรของเราจะต้องเป็นคริสตจักรที่ติดสนิทอยู่กับพระเยซู
- ในหนังสือโรม 11 บทแรก เปาโลพูดถึงการนำผู้เชื่อเข้ามาถึงพระเจ้าและการดำเนินชีวิตใหม่ฝ่ายวิญญาณ แต่ในบทที่ 12 ท่านขอร้องให้ผู้เชื่อทั้งหลายถวายตัว (ตัวใหม่หลายๆ ตัว) ในฐานะของพระกาย ให้เป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิตแด่พระเจ้า
โรมบทที่ 6:13 เปาโลหนุนใจเราว่าถวายตัวใหม่ของเรา ให้พระเจ้าคนเดียว โรม 6:13 ถวายเราคนเดียวครับ แต่โรมบทที่ 12 เปาโลหนุนใจเรา ว่าถวายทั้งคริสตจักรให้พระเจ้าเลย
“โรม 6:13 อย่ายกอวัยวะของท่านให้แก่บาปให้เป็นเครื่องใช้ในการอธรรม แต่จงถวายตัวท่านแด่พระเจ้า เหมือนหนึ่งคนที่เป็นขึ้นมาจากความตายแล้ว และจงให้อวัยวะเป็นเครื่องใช้ในการชอบธรรมถวายแด่พระเจ้า”
จงถวายตัว ก็คือคนเดียวนะครับ
แต่ตอนนี้คือเปาโลหนุนใจ ให้ถวายทั้งคริสตจักร ให้พระเจ้าเลย เอเมน
ถวายทั้งคริสตจักรให้พระเจ้า ก็คืออะไร ก็คือเราทุกคนมีส่วน มีส่วนรับผิดชอบ ทุกพี่น้องทุกท่านในคริสตจักร เราเอาหัวใจของทุกคนมาให้พระเจ้า เราทำอะไรก็ได้เพื่อช่วยเอาวิญญาณของเรา เพื่อนมัสการพระเจ้า เราเอาทุกคนมาเพื่อติดสนิทอยู่กับพระเจ้า เสริมสร้างกันและกัน เป็นหนึ่งเดียวในพระกาย ไม่ทิ้งกัน ไม่มองกันในแง่ลบ
เราอยู่ในคริสตจักรร่วมกันปุ๊ป เรามามอง คนนี้มีประวัติเสีย คนนี้ไม่ดี คนนี้เป็นคนบาป คนนี้มีปัญหา คนนี้เห็นเขาทำบาป อันนั้นไม่มีอีกแล้วครับ “2 คร 5:17 เหตุฉะนั้นถ้าผู้ใดอยู่ในพระคริสต์ ผู้นั้นก็เป็นคนที่ถูกสร้างขึ้นใหม่แล้ว สิ่งเก่าๆ ก็ร่วงไป ดูเถิดกลายเป็นสิ่งใหม่ทั้งสิ้น”
ดูเถิดกลายเป็นสิ่งใหม่ทั้งสิ้น เดี๋ยวก่อนผมมี Samsung Galaxy พี่น้องดูสิครับ มันใหม่นะ มันใหม่ พี่น้องเชื่อไหมว่ามันใหม่ ดูสิใหม่ทั้งนั้นเลย ใช่เพราะว่าเราดูไกล เราไม่ได้ดูใกล้ๆ ถ้าดูใกล้ๆ พี่น้องจะเห็นนะครับ เพราะผมทำมันตกหลายครั้ง มันเป็นรอย มันไม่ได้ใหม่จริงๆ มันดูเหมือนใหม่ ใช่ไหม ทีนี้ดูใกล้ๆ เลย ดูใกล้ๆ เห็นรอยไหม (เห็นรอยขีดข่วนเยอะ)
พี่น้องฟังดีๆ นะครับ 2 คร 5:17 บุคคลผู้ใดที่อยู่ในพระคริสต์ เราอยู่ในพระคริสต์หรือยังครับ (อยู่แล้ว) เอเมน ตั้งแต่วันที่เราเชื่อนะครับ เราอยู่ในพระคริสต์ตั้งแต่วันที่เราเชื่อ ตั้งแต่วันที่เราเชื่อ 1 คร 1:30 พระเจ้านำเราเข้ามาอยู่ในพระคริสต์แล้ว เอเมน ตั้งแต่วันที่เราเชื่อเราอยู่ในพระคริสต์แล้ว
ทีนี้ พระคัมภีร์ข้อนี้บอกว่า 2 คร 5:17 บุคคลผู้ใดที่อยู่ในพระคริสต์ อยู่แล้วๆ ก็ถูกสร้างขึ้นใหม่แล้ว อย่าไปมองตัวเองนะ อย่าไปมองห้ามมองเด็ดขาด เราใหม่ในพระคริสต์ เอเมน เราใหม่เนี่ย ใหม่ในพระคริสต์ ไม่ใช่ใหม่ตัวนี้ (ตัวเรา) แต่ใหม่ในพระคริสต์ สิ่งเก่าๆ ก็ร่วงผ่านไปแล้ว ไม่มีสิ่งเก่าแล้วนะ มันผ่านไปหมดแล้ว มันร่วงเลยไปแล้ว มันจบไปแล้ว ดูเถิด ดูสิ ดูสิ ดูสิเห็นไหม มีแต่สิ่งใหม่ๆ ทั้งนั้น เอเมน
2 คร 5:16 เปาโลหนุนใจเราโดยพระวิญญาณ ตั้งแต่นี้ต่อไป ห้ามมองใคร ในฝ่ายเนื้อหนัง ห้ามมองใคร ตามมาตรฐานของโลกนี้ อย่ามอง ถ้ามองเราจะเห็นความผิดความบาป มองเราจะเห็นความชั่วช้า มองเราจะเห็นความไม่ดี มองเราจะเห็นจุดที่เป็นตำหนิ มีตำหนิ เราเคยมองกันแบบนี้มาแล้วใช่ไหม ไม่ได้ตัดสินนะครับ แต่เราพูดความจริง อันนี้เป็นสิ่งที่เป็นอยู่ฝ่ายเนื้อหนัง
เราไม่ได้มองทุกคนเป็นคนใหม่ เราไม่ได้มองทุกคนตามมาตรฐานของพระเจ้า แต่เรามองตามมาตรฐานของโลกนี้ แม้แต่เปาโลเตือนแต่เราไม่ฟัง ทำไม เพราะว่าเราไม่รู้ เราไม่ได้รับการเปิดตา
แต่ตั้งแต่นี้ต่อไปเมื่อเราถูกเปิดตาแล้ว เปาโลเตือนเรา อย่ามองคนอื่นตามมาตรฐานของโลกนี้ในฝ่ายเนื้อหนัง เรามองทุกคนเป็นคนใหม่ทั้งนั้น ใหม่ในพระคริสต์ ทุกคนเป็นพี่เป็นน้องกัน รักกัน เอเมน
- เปาโลเน้นว่า พระกายต้องเคลื่อนไหว ช่วยกัน และขาดกันไม่ได้ ทั้งยังทำหน้าที่ของตน ด้วยความรักและแคร์ต่อผู้อื่น
ที่อเมริกานะครับ พอคนหนึ่งพูดเสร็จ คนอื่นก็จะลุกขึ้น ลุกขึ้น แย่งกันพูดเลย แย่งกันเผยพระวจนะ ถ้าใครพูดไม่ได้ก็ลุกขึ้นอธิษฐาน เขาแย่งกันทำ
การเคลื่อนไหวของพวกเรา เป็นหนึ่งเดียว เป็นหนึ่งเดียวกัน คือเราเห็นความรักที่จริงใจ จริงจัง ความรักแท้ๆ นะครับที่ออกมา ไม่ใช่การเสแสร้งแกล้งทำ ไม่ใช่การแสดงละคร คือไม่พูดถึงเรื่องความผิด ไม่พูดถึงเรื่องเนื้อหนัง แล้วจะเน้นที่การเสริมสร้างพี่น้องเวลาเราพูด ทุกคำจะมีความรักออกมา จะมีการเสริมสร้างออกมาจากปากของเขา
ต่อไปเราฝึก ขอให้พระเจ้าชำระเราในส่วนนี้ ไหมครับ เพื่อเราจะอยู่ร่วมกันได้ ตามน้ำพระทัยของพระบิดา
- ปัญหาเรื่องคิดต่าง (the different opinion) ภายใน คริสตจักร อาจจะมีความคิดเห็น แนวความคิด และมุมมองที่แตกต่าง เรื่องใครถูกใครผิด (เรื่องย่อยๆ) ใครสะอาดไม่สะอาด แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้น คือเราต้องร่วมอยู่ในพระกาย (ของผู้ชนะ)
เมื่อเรารู้แล้วนะครับว่าเรารับมานาที่ซ่อนไว้ เป็นความรู้ที่ถูกต้องแล้ว เราขอบคุณพระเจ้า เมื่อเรารู้แล้วว่ามีพี่น้องกลุ่มหนึ่ง เราไปร่วมนมัสการกับพวกเขา เรารับมานาฯ ด้วยกัน เชื่อถูกต้อง ไม่มีเชื้อยีสต์ ไม่มีคำสอนที่ผิด เเล้วไม่พูดถึงคำสอนที่เป็นน้ำนมบ่อยเกินไป เราร่วมกับเขานะครับ หลังจากนั้นก็ทำยังไง
คนที่รับมานาฯ ใหม่ๆ อาจจะมีความคิดต่าง แน่นอนครับ หรือบางครั้งเราจะเห็นจุดนึงที่คนอื่นไม่เห็น คนอื่นก็ไม่เห็นจุดที่เราเห็น คือมันมีความคิดที่คิดต่าง ถ้ามีกรณีนี้เกิดขึ้นเราจะทำยังไง รับฟังครับ รับฟัง พิจารณา แล้วก็อย่าลืมนะครับคริสตจักรผู้ชนะเราเอาเสียงส่วนมากชนะ เสียงส่วนน้อยต้องยอม ยอมก็คือยอมจริงๆ
คนที่มีความคิดต่าง บางครั้งก็คือเขาพูดด้วยการใช้อารมณ์ ต้องการเอาชนะก็มี แต่เราผู้ชนะนะครับ เราผู้ปกครองคริสตจักร เราอยู่ในกลุ่มมานาฯ เราทำทุกสิ่งด้วยความรัก ค่อยๆ พูดกัน เข้าใจกัน เข้าใจเขาไม่เป็นไรเขายังเด็กอยู่เขายังไม่เข้าใจ ตาเขายังไม่ถูกเปิดในจุดนี้ อันนี้สำคัญจดไว้นะครับ ค่อยๆ พูดกัน
เพราะว่าอีกไม่นานเรามีคริสตจักรนะครับ จะมีคนคิดต่าง มีการขัดแย้ง ไม่เข้าใจกัน แล้วห้ามนะครับ อย่าใช้คุณสมบัติชีวิตของซาตานตอบโต้ แต่เราใช้ชีวิตของพระคริสต์ อย่าลืมนะครับคริสตจักรเป็นที่สำแดงชีวิตใคร (พระคริสต์)
- เราทำทุกสิ่งในพระวิญญาณ (we do all things in the Spirit)
เราจำกันได้ไหมว่า walk in the Spirit / Live in the Spirit เราประกาศนะครับก็ต้องประกาศในพระวิญญาณ เราสามัคคีธรรมร่วมกัน ก็ต้องสามัคคีธรรมในพระวิญญาณ ทุกสิ่งทุกอย่างเลย คริสเตียนฝ่ายวิญญาณเราทำในฝ่ายวิญญาณในพระวิญญาณ อย่าลืมนะครับ
บางครั้งเนี่ย เราจะหลุด เราจะหลง หลงคืออะไรครับ หลงคือการไปมองด้านลบ หลงคือการไปมองเนื้อหนัง หลงคือกันไปมองในจุดที่ไม่ดีของพี่น้อง เรียกว่าหลุด เรียกว่าไม่ได้เดินในวิญญาณ
- เราไม่เพียงแต่ดำเนินชีวิตอยู่ในพระวิญญาณ แต่เรายังประกาศ เลี้ยงดูป้อนและร่วมกันรับใช้ในพระวิญญาณด้วย
เห็นไหมครับ ตอนสามัคคีธรรมมีคนมาถกเถียง ขัดแย้ง คิดต่าง เราตอบคำถามเขาเราช่วยเขาในพระวิญญาณ
- ละทิ้งตัวเก่า (deny your old self) ปุโรหิตที่พร้อมจะรับใช้ คือปุโรหิตที่พร้อมจะตายต่อตัวเก่าอย่างสิ้นซาก (ลก 9:23)
พระเยซูเป็นคนบอกเอง ใครที่จะตามเรามา ใครที่จะเป็นสาวกของเรา ต้องละทิ้งตัวเก่า ต้องสละทิ้ง แล้วแบกกางแขนตามเรามาทุกวัน ถ้าใครไม่ทำแบบนี้ก็ไม่เหมาะที่จะเป็นศิษย์ของเรา เราทุกคนเป็นศิษย์ของพระเยซูใช่ไหม ทุกคนที่เชื่อพระเจ้า เป็นศิษย์ของพระเยซูเป็นสาวกของพระเยซู
อย่าเข้าใจผิดนะครับ บางคนคิดว่าศิษย์ของพระเยซู ก็คือผู้รับใช้ ผู้มีหน้าที่ในคริสตจักร ไม่นะ ศิษย์หรือสาวกของพระเยซู คือคริสเตียนทุกคน แล้วสาวกของพระเยซูทุกคนจะต้อง ละทิ้ง สละทิ้ง ทิ้งชีวิตเก่าไป deny yourself คือ deny your old self คือปฏิเสธตัวเก่าของเรา แล้วตามพระเยซูไปทุกวัน ก็คือตายทุกวัน มีชีวิตใหม่ทุกวัน เอเมนไหมครับ
การดำเนินชีวิตอยู่ในวิญญาณ ก็คือความหมายเดียวกัน ก็คือการดำเนินชีวิตอยู่ในพระวิญญาณ เพราะว่าพระวิญญาณอยู่ในวิญญาณ พระวิญญาณอยู่ในฝ่ายวิญญาณอยู่แล้ว พระวิญญาณไม่อยู่ในฝ่ายเนื้อหนัง
การละทิ้งตัวเก่าไม่ใช่การเลิกทำบาปนะ การละทิ้งตัวเก่าก็คือการนับว่าตายทุกวัน อย่าสับสนนะครับ บางคนบอกว่า ฉันยังทำบาปอยู่แสดงว่ายังไม่ได้ละทิ้งตัวเก่า ไม่ใช่นะครับ การฝึกเดินก็คือการละทิ้งตัวเก่า นับว่าตายทุกวันเนี่ย เรายังทำบาปอยู่ แต่เราเชื่อว่าเราเป็นคนใหม่ และนับว่าตายทุกๆ วันกับพระเยซู เรียกว่าการละทิ้งตัวเก่า คือไม่เอาแล้ว พระบิดาเอาไปเถอะ เอาไปทิ้งเลยชีวิตเก่า ข้าพระองค์ไม่ต้องการ ตอนนี้เป็นคนใหม่ อยากอยู่ในฝ่ายวิญญาณ อยู่ในพระวิญญาณกับพระเจ้า
- เราต้องเรียนรู้ที่จะมองไปที่พระคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา ไม่ใช่มองที่อื่นเหมือนที่เราเคยทำ
เราจำกันได้นะสมัยก่อน เรามาคริสตจักร มาร่วมกัน เรามองไปที่ใคร บางคนมองไปข้างๆ บางคนมองไปที่คนที่เราแอบชอบ บางคนมองไปที่คนที่เราไม่ชอบ ใช่ไหม บางคนมองไปที่ศิษยาภิบาล ชื่นชมนิยมชมชอบเขา ยกย่องเขา บางคนมองไป คือมันมองไปที่อื่น