ถาม.
มี คำถามครับ คือว่าตอนแรกเราประกาศข่าวเสริฐเรื่องความรอด และสันติสุข คนก็เข้ามาเยอะ แต่พอเราประกาศเรื่องอาณาจักรทำไมเขาถดถอยไปครับ ผมยากจะรู้สาเหตุครับท่าน อ. ครับขอบคุณพระเยซู
ตอบ.
1. เราอาจประกาศเรื่องอาณาจักร และพูดถึงเรื่องที่ขัดแย้งกับคริสตจักรศาสนา อย่างเช่น สิบลด พระบัญญัติ ฯลฯ เร็วเกินไป
2. เขารับไม่ได้ เพราะเขาเป็นดินสามประเภท ในมัทธิว 13 ครับ
มัทธิว บทที่ 13
13:3 และพระองค์ตรัสหลายประการกับพวกเขาเป็นคำอุปมา โดยกล่าวว่า “ดูเถิด ผู้หว่านคนหนึ่งออกไปเพื่อหว่าน
13:4 และเมื่อเขาหว่าน เมล็ดพืชก็ตกตามหนทางบ้าง และพวกนกก็มากินเมล็ดพืชเหล่านั้นเสีย
13:5 บ้างก็ตกบนที่ต่าง ๆ ที่มีหินเยอะ ซึ่งเป็นที่ ๆ เมล็ดพืชเหล่านั้นมีเนื้อดินไม่มาก และพวกมันงอกขึ้นทันที เพราะพวกมันมีดินไม่ลึก
13:6 และเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นแล้ว เมล็ดพืชเหล่านั้นก็ถูกแผดเผา และเพราะเหตุพวกมันไม่มีราก พวกมันจึงเหี่ยวไป
13:7 และบ้างก็ตกท่ามกลางต้นหนามทั้งหลาย และต้นหนามเหล่านั้นก็งอกขึ้น และปกคลุมเมล็ดพืชเหล่านั้นเสีย
13:8 แต่เมล็ดพืชอื่น ๆ ก็ตกที่ดินดี และเกิดผล หนึ่งร้อยเท่าบ้าง หกสิบเท่าบ้าง สามสิบเท่าบ้าง
13:9 ผู้ที่มีหูที่จะฟัง จงให้ผู้นั้นฟังเถิด”
13:10 และพวกสาวกมาและทูลพระองค์ว่า “ทำไมพระองค์ตรัสกับพวกเขาเป็นคำอุปมา”
13:11 พระองค์ทรงตอบและตรัสกับพวกเขาว่า “เพราะว่าข้อความลึกลับของอาณาจักรแห่งสวรรค์โปรดให้ท่านทั้งหลายทราบได้ แต่คนเหล่านั้นไม่โปรดให้ทราบ
...
13:4 และเมื่อเขาหว่าน เมล็ดพืชก็ตกตามหนทางบ้าง แล้วนกก็มากินเสีย
** "และเมื่อเขาหว่าน" วันที่พระองค์ออกจากบ้าน และชนะการทดลอง
** "เมล็ดพืชก็ตกตามหนทางบ้าง" คือประกาศเรื่องราชอาณาจักรกับ ยิว ฟาริสี และใครก็ตามที่ฟังแล้วรับไม่ได้ เพราะเขาแสวงหาเรื่องสวรรค์นรกอยู่ เขาไม่รู้เรื่อง ไม่สนใจราชอาณาจักร
** "ดินตามทาง" คือจิตใจที่ถูกสอนถูกเหยียบย่ำให้แน่นแก่นจนรับเรื่องอาณาจักรไม่ได้แล้ว
** "คนเดินไปมาแต่ละครั้งบนดินนั้น" คือคนที่สอนแต่ละคนเรื่องสวรรค์นรก
** ทุกวันนี้คริสเตียนที่เป็นดินตามทางมีเยอะมาก 90-95 % เพราะเขาปักใจ ถูกเสี้ยมสอนมาอย่างดี เรื่องสวรรค์นรก ถ้าเราพูดเรื่องราชอาณาจักร ก็หาว่าเป็นพวกเทียมเท็จ (เราพูดในแง่การศึกษา)
** มธ 13:1-4 คือเรื่องราวเกี่ยวกับราชอาณาจักร แต่ผู้เชื่อส่วนมากตีความหมายแปลว่า คนที่ได้ยินข่าวประเสริฐ แต่รับไม่ได้ และไม่ได้รอด อันนี้ไม่ถูก
** "แล้วนกก็มากินเสีย" "นก" ในที่นี้ คือมารซาตาน
** เมื่อยิว ฟาริสี และ คริสเตียนศาสนารับไม่ได้ฟังไม่รู้เรื่อง มารก็จะหาวิธี หรือใช้คนมาพูดบอกสอนเขาว่าระวังนะเขาสอนผิด สุดท้ายเขาก็ทิ้งไป
...
13:5 บ้างก็ตกในที่ซึ่งมีพื้นหิน มีเนื้อดินแต่น้อย จึงงอกขึ้นโดยเร็วเพราะดินไม่ลึก
** ที่ที่มีหิน มีเนื้อดินน้อย
- "หิน" คือจิตใจที่รักบาปมาก
- "ดินน้อย" คือจิตใจที่แสวงหา ร้อนรน หิวกระหายมีไม่มากเท่าไหร่
- เมื่อเขารับเรื่องราชอาณาจักรและเรียนรู้ แต่ด้วยใจที่รักบาปนั้นชักนำเขาให้เลิกเรียน และเลิกแสวงหาอาณาจักรต่อไป เขาจึงหมดโอกาส
13:6 แต่เมื่อแดดจัดแดดก็แผดเผา เพราะรากไม่มีจึงเหี่ยวไป
** "แดดจัดแดดก็แผดเผา" หมายถึง พระเจ้าสร้างเรา เพื่อให้เข้าสู่ปัญหามากมายตลอดชีวิต
** ต้นไม้พืชผักต้องการแสงแดดเพื่อการเติบโต และเกิดผลฉันใด ลูกแห่งราชอาณาจักรย่อมต้องการแสงแดด (ปัญหา) ฉันนั้นเพื่อการเติบโต และเกิดผลมากมาย
** "ราก" คือความเชื่อที่ถูกแล้ว คือได้พบราชอาณาจักรสวรรค์นี้แล้ว
- อีกอย่าง พระเจ้าไม่ได้สร้างเราเป็นเรือที่จอดทิ้งไว้ที่ริมฝั่งเพื่ออวดความสวยงาม แต่สร้างเราเพื่อให้ออกทะเลไปเผชิญกับคลื่นและพายุ
- พี่น้องผู้เชื่อส่วนมากเข้าใจผิด คิดว่าเชื่อพระเจ้าแล้วชีวิตจะสบาย มีพระพรมากมายรออยู่ เพียงแต่เราเชื่อฟัง สุดท้ายผิดหวังกันหมด
...
13:7 บ้างก็ตกกลางต้นหนาม ต้นหนามก็งอกขึ้นปกคลุมเสีย
** นี่คือเรื่องราวของการเข้าสู่ชีวิตชัยชนะ ไม่เกี่ยวกับความรอดในวันสุดท้าย
** "ต้นหนาม" ในที่นี้ คือเงินทองทรัพย์สมบัติความสบายสิ่งล่อตาล่อใจของโลกนี้
** เมื่อคนนี้ได้ฟัง และรับเอาข่าวดีเรื่องราชอาณาจักร แต่ด้วยความรักที่มีให้โลกอย่างมากมายยังทิ้งความรักโลกไม่ได้ รักโลกไปจนตาย เขาต้องพลาดโอกาส