ถาม.
มีพี่น้องใหม่เขามาฝึกเดินในมานาฯ ใหม่ๆ เขาถามว่า ถ้าเรามาเดินในมานาฯ เนี่ยเราใช้ตัวใหม่เดิน เราก็จะได้มีบำเหน็จรางวัลเป็นทองคำและเงินและเพชรพลอย
แต่คริสเตียนศาสนาที่ทุกวันนี้เขาได้รับการอวยพร เขาก็ใช้ตัวเก่า มันเป็นการอวยพรแบบไหนค่ะ
ตอบ.
สำหรับบำเหน็จของพระเจ้านะครับแบ่งออกเป็น 2 ส่วน
ส่วนแรก ก็คือพระองค์ตอบแทนผู้เชื่อทั้งหลายที่รับใช้พระเจ้าที่ทำทุกสิ่งเพื่อพระเจ้าในโลกนี้ ก็คือพระพรก็คือรางวัลที่พระองค์ให้ อาจจะช่วยเรื่องปัญหาชีวิตเรื่องเศรษฐกิจเรื่องครอบครัวเรื่องอะไรทั้งหลาย ที่นำมาให้มีอยู่มีกิน หรือการงานดีขึ้น หรือครอบครัวอบอุ่นขึ้น ซึ่งเป็นบำเหน็จที่จบอยู่ตรงนี้ คือได้ตรงนี้แล้วก็จบตรงนี้ มันไม่ไปต่อที่อาณาจักรและฟ้าสวรรค์ใหม่แผ่นดินโลกใหม่ เรียกว่าการก่อขึ้นด้วยไม้ฟางและหญ้าแห้ง
การใช้ชีวิตเก่าเพื่อรับใช้พระเจ้า เพื่อทำทุกสิ่งเพื่อพระเจ้า เพื่ออธิษฐาน เพื่อประกาศข่าวประเสริฐทั้งหลาย เรียกว่าการก่อขึ้นด้วยไม้ฟางหญ้าแห้ง ถ้าเราทำด้วยตัวเก่า มีบำเหน็จไหม? มี. (แต่บำเหน็จนี้ก็คือใช้ได้แต่เฉพาะในโลกนี้เท่านั้น ไปใช้ที่โลกหน้าไม่ได้และในอาณาจักรไม่ได้) พระเจ้าอาจจะให้เรามีทรัพย์สินบ้าง แต่ทรัพย์สินเนี่ย เงินในอาณาจักรเราคิดว่าเงินดอลลาร์ เงินบาทไทย เงินลาวกีบ เงินหยวน เงินประเทศต่างๆ จะมีโอกาสได้เอาไปใช้ที่อาณาจักรไหม การงานที่เราเจริญขึ้น เศรษฐกิจเราดีขึ้น เราอาจจะมีบ้านที่พระเจ้าอวยพรให้ได้ซื้อบ้านได้มีที่อยู่ที่อาศัย แล้วถามว่าทุกสิ่งมันจะถูกย้ายไปที่อาณาจักรไหม? (ไม่ค่ะ) อันนี้เรียกว่าผลตอบแทนของพระเจ้าที่ให้เป็นบำเหน็จในชีวิตนี้ในโลกนี้เท่านั้นสำหรับคริสเตียนศาสนาที่ใช้ตัวเก่าเพื่อทำเพื่อพระเจ้า
คือทุกสิ่งพระเจ้าให้ผลตอบแทนนะครับ พระเจ้าไม่ได้ใจดำ แล้วก็พระเจ้าเป็นความรักพระองค์ให้ในสิ่งที่สมควรจะให้ คุณทำอะไรคุณก่อด้วยอะไรคุณก็ได้รับสิ่งนั้นเป็นผลตอบแทน
แต่สิ่งที่ดีที่สุดนะครับ ก็คือใช้ตัวใหม่เพื่อคิดเพื่อทำเพื่อรับใช้เพื่อเดินในพระวิญญาณเพื่อเดินในความเชื่อ ตัวใหม่เป็นตัวสำคัญเป็นสิ่งที่สำคัญมากเป็นกุญแจ เรียกว่าการก่อขึ้นด้วยทองคำเงินและเพชรพลอย
เมื่อเราคิดพระเจ้าพระบิดาเป็นคนคิด เมื่อเรากระทำดำเนินชีวิตพระเยซูคริสต์เป็นคนดำเนินชีวิต เรียกว่าเงิน
แล้วเมื่อเราเกิดผลแห่งพระวิญญาณ เมื่อเราทำนู่นนี่นั่นแล้วเกิดผลเพื่อพระเจ้า เรียกว่าเพชรพลอย ก็คือผลของพระวิญญาณบริสุทธิ์
เพราะฉะนั้นเมื่อพระเจ้าทั้ง 3 กระทำกิจผ่านเรา บำเหน็จก็คือไม่ใช่แต่เฉพาะมีในโลกนี้เท่านั้น แต่บำเหน็จก็ยังจะมีผลต่ออาณาจักรและฟ้าสวรรค์ใหม่แผ่นดินโลกใหม่
และสรุปสุดท้าย ก็คือถ้าหากเราทำด้วยตัวใหม่ รับใช้ได้ตัวใหม่ ประกาศด้วยตัวใหม่ ดำเนินชีวิตด้วยตัวใหม่ทุกวันตั้งแต่เช้าจนค่ำ สิ่งหนึ่งที่เราจะได้รับไม่เหมือนคริสเตียนศาสนาที่จะไม่ได้รับ ก็คือมงกุฎ ตำแหน่งครับผม
เราจะมีตำแหน่งแล้วก็อยู่ในอาณาจักรนั่งใกล้ๆ พระเยซู รับประทานร่วมกับพระเยซู พระเยซูไปไหนไปกับพระองค์ได้ ขอไปด้วยนะพระเยซูอยากไปด้วยไปดูดาวดวงนี้ ไปดูกาแล็กซีนี้ ไปที่โน่นที่นั่น ไปกับพระองค์ แล้วก็รับใช้ปกครองบ้านเมืองร่วมกับพระองค์เอเมน สิ่งเดียวที่คริสเตียนศาสนาไม่ได้รับ ก็คือ มงกุฎ
แต่เรามีโอกาส โอกาสอยู่ใกล้ๆ มือเราแล้ว อย่าทิ้งโอกาสนี้ไป ทำยังไง? สนิทมากๆ สนิทเยอะๆ บอกรักพระเยซู ใกล้ชิดพระเยซู แสวงหาความรักเน้นที่ความรักกับพระเยซูกับพระเจ้า แล้วก็เน้นที่ความรักต่อพี่น้อง ใครผิดใครถูกไม่สำคัญช่างมัน แต่เรารักไว้ก่อน เพื่อบำเหน็จเพื่อมงกุฎ เอเมน
ถาม.
เอเมน เรื่องของบำเหน็จรางวัลขออ่านมัทธิวบทที่ 6:1-2 ครับ “จงระวังให้ดี ท่านอย่าทำทานต่อหน้ามนุษย์เพื่อจะให้เขาเห็น มิฉะนั้นท่านจะไม่ได้รับบำเหน็จจากพระบิดาของท่านผู้ทรงสถิตในสวรรค์ เหตุฉะนั้น เมื่อท่านทำทาน อย่าเป่าแตรข้างหน้าท่านเหมือนคนหน้าซื่อใจคดกระทำในธรรมศาลาและตามถนน เพื่อจะได้รับการสรรเสริญจากมนุษย์ เราบอกความจริงแก่ท่านว่า เขาได้รับบำเหน็จของเขาแล้ว” เอเมนครับ
ตอบ.
สำหรับคริสเตียนฝ่ายวิญญาณพวกเรา เราทำตามที่พระเยซูสั่ง นี่คือพระบัญญัติใหม่ เมื่อเราทำทาน คำว่า ทำทาน ในพระคัมภีร์ภาษากรีก ก็คือให้ คือช่วยเหลือ ในลักษณะประมาณนั้นนะครับการให้การช่วยเหลือการทานให้ เมื่อเราให้ใครหรือให้คริสตจักรให้พี่น้องให้คนยากจนให้ใครก็ตาม คนที่ไม่เชื่อก็ตามนะครับ เมื่อมีการให้ อย่าเสนอชื่ออย่าบอกถ้าเป็นไปได้ คืออย่าบอกเขาว่าเราเป็นคนให้ ขอให้เราหลีกเลี่ยงเรื่องชื่อเรื่องเสนอให้คนอื่นรู้ว่าเราเป็นคนให้หรือเรามีส่วนในการให้ ให้แต่พระบิดาผู้เดียวเท่านั้นที่รู้ว่าเราเป็นคนให้
ใครจะมองเราว่าคนนี้ไม่เคยให้ใคร ไม่เคยช่วยใครใจดำ เป็นคนที่ไม่ใจกว้าง ไม่มีใจกว้าง เราอย่าไปใส่ใจนะครับเพราะว่าเราแสดงสิ่งนี้ให้พระเจ้าคนเดียวที่เห็น คนอื่นไม่สำคัญ เพื่อเราจะแลกกับบำเหน็จที่พระองค์เตรียมไว้ให้เราอยู่บนสวรรค์ เอเมน
และสิ่งที่สองนะครับ ก็คือการอธิษฐาน การอธิษฐานเราอยากบอกใครว่าเราอธิษฐานไปบ่อยๆ เราอธิษฐานเป็นประจำ อธิษฐานทั้งวันนะ อธิษฐานวันละหลายชั่วโมงนะ อธิษฐานตื่นแต่เช้าตีห้านะ คือเราไม่โฆษณาเราไม่บอกใครนะครับ เราเงียบๆ เข้าไว้เพราะว่าพระเยซูสั่งเองบอกว่า การอธิษฐานของท่าน คือเข้าไปอยู่ในห้องคนเดียว ความหมายก็คือไม่ให้ใครรู้ พูดง่ายๆ นะครับ
ถาม.
ขออนุญาตเสริมครับก็คือเมื่อก่อนเราก็ด้วยใช่มั้ย พี่น้องคริสเตียนหรือว่าเมื่อก่อนพวกเราก็ด้วยซึ่งตอนยังไม่เข้าใจอะไรเราทำเราก็ไม่ได้คำนึงถึงข้อนี้ เราทำไปแต่ว่าในใจลึกๆ เราก็จะหวังผล ก็คืออยากให้เขารู้ว่าเราทำ แต่พระคำข้อนี้บอกว่าการสรรเสริญจากมนุษย์เป็นบำเหน็จของเราแล้ว ซึ่งก็คือไม่มีบำเหน็จในยุคหน้าใช่มั้ยครับ จะมีเฉพาะการสรรเสริญในยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็นที่เขาบอกว่า เราทำได้ทำดีก็ขอบพระคุณพระเจ้าสรรเสริญพระเจ้า อย่างไรก็ตามแต่เราทำด้วยกันหวังผลที่เขายกย่องเรา หรือแม้ไม่ยกย่อง เขายกย่องเราเราก็ดีใจใช่มั้ยครับ ซึ่งเมื่อก่อนก็เป็น
ก็ขอบคุณพระเจ้าสำหรับบำเหน็จรางวัลที่เราจะซ่อนไว้ในพระคริสต์เราทำดีด้วยคนใหม่แล้วก็ไม่บอกใครเอเมน
ตอบ.
สำหรับคริสเตียนศาสนาโดยทั่วไปส่วนมาก เมื่อทำอะไร เมื่อช่วยใคร เมื่อให้ใคร หรือเมื่ออธิษฐาน เมื่ออดอาหาร เมื่อเฝ้าเดี่ยว เขาจะประกาศเขาจะบอกแต่บอกในลักษณะของการบอกใบ้หรือการบอกที่ไม่ใช่ทางตรง เพื่ออะไรครับ เพื่ออยากให้ทุกคนรู้ว่าเขาเข้มแข็ง อยากให้ทุกคนรู้ว่าเขาอธิษฐาน เฝ้าเดี่ยว เขาตื่นแต่เช้า หรือเพื่อบอกให้คนอื่นรู้ว่าเขาอดอาหาร คือเป็นการบอกแบบเนียนๆ เข้าใจไหม คือถ้าบอกตรงๆ เนี่ยคนอื่นเขาจะคิดว่าเราอวดนะ แต่คือบอกในลักษณะของการบอกที่ไม่ใช่ทางตรง ให้คนยกย่อง นี่คือเป็นหนึ่งในบำเหน็จที่เขาได้รับพระเยซูตรัสเองใช่ไหมว่า "เขาได้รับบำเหน็จแล้ว" เมื่อเขาโฆษณาเมื่อเขาประกาศให้ทุกคนได้รู้ คนก็ยกย่องเขาโอ้ทำไมดีจังเลยเข้มแข็งจังเลยคนนี้น่ารัก นี่คือบำเหน็จที่เขาได้รับ
แล้วก็บางคนที่ทำเพื่อพระเจ้าหลายสิ่งหลายอย่างด้วยตัวเก่า พระเจ้าก็ให้ผลตอบแทนของเขานะครับ อาจจะมีผลตอบแทนเรื่องพระพรเรื่องทรัพย์สินเรื่องการช่วยเหลือเรื่องการเลี้ยงดูเรื่องอะไรต่างๆ ที่เข้ามาในชีวิตของเขา ความสะดวกสบายความราบรื่นของชีวิต อันนี้พระเจ้าให้เป็นบำเหน็จ แต่มันใช้ได้แต่เฉพาะในโลกนี้เท่านั้น ไม่มีบำเหน็จไม่มีมงกุฎที่จะมาในช่วงยุคอาณาจักรแล้วก็ฟ้าสวรรค์ใหม่แผ่นดินโลกใหม่
ถ้าเราได้รับมานาฯ เราฟังมานาฯ มาเป็นประจำนะครับ เมื่อเรากลับไปอ่านหนังสือมัทธิว มาระโก ลูกา ยอห์น และจดหมายฝากของเปาโลทั้งหลาย เราจะเห็นสิ่งหนึ่ง ก็คือ ความชัดเจน ความกระจ่าง คือพระคำพระเจ้ามันจะทะลุเข้าไปในสมองในวิญญาณในจิตใจของเรา คือเห็นชัดเจนเห็นกระจ่างไปทั้งหมดความสว่างมันจะเจิดจ้า ถูกไหมครับ คือมันเห็นความหมายอ่ะ แต่ก่อนเราอ่านไปเรื่อยๆ ก็ไม่เห็นความหมายไม่รู้ซึ้งอะไรไม่เข้าใจอะไรมากอ่านไปเรื่อยๆ
แต่ตอนนี้เนี่ยเราอ่าน แล้วเราหยุด แล้วเราคิด เราเห็นความจริงอยู่ตรงนั้นมันอยู่ตรงหน้าเรา คือทำอะไรก็ตามนะครับอย่าให้มือซ้ายรู้ว่ามือขวาของเรากระทำอะไร คือตอนนี้เราเข้าใจเลย อ๋ออย่าให้พี่น้องคริสเตียนที่อยู่ในพระกายรู้ว่าเรากำลังทำอะไร คือทุกสิ่งมันมีความหมายที่เราเข้าใจชัดเจน เอเมน
ถาม.
ในอดีตตอนที่กำลังฝึกเดินใหม่ๆ นะคะ แล้วได้ช่วยเหลือใครบางคนไป แล้วก็มีพี่น้องหลายคนที่ช่วยเหลือซึ่งกันและกันไป ก็จะมาเล่าให้กันฟัง เราก็เอ๊ะเหมือนมีพระคำอยู่นะว่าเราไม่บีบแตรข้างหน้าข้างหลัง ก็ตอนนั้นยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่ แต่มันก็ยังอยากพูดอยู่ แล้วพูดถึงว่าเราจะเตือนสติพี่น้องยังไงค่ะเกี่ยวกับเรื่อง อ๋อเพราะฉันอธิษฐานเผื่อเธอ พระเจ้าจึงอวยพรเธอรักษาเธอแล้วก็ดูแลช่วยเหลือเลี้ยงดูเธออย่างดี เพราะฉันอธิษฐานเผื่อเธอนะ อย่างเงี้ยเราพูดได้หรอค่ะ
ตอบ.
อันนี้พูดไม่ได้นะครับ สำหรับอันนี้เป็นความคิดของคริสเตียนศาสนา อันนี้เราต้องขอการชำระเปลี่ยนความคิดจากพระเจ้า เราจะปิดเป็นความลับว่าเราอธิษฐานเผื่อใครบ้าง ไม่มีใครรู้นะครับว่าผมอธิษฐานเผื่อใครบ้างจะเดาก็เดาไปเลยตามสบาย แต่ไม่มีใครรู้แน่นอน
เราจะไม่บอกใครว่าเราอธิษฐานและเราจะไม่บอกใครว่าเราอธิษฐานเผื่อใครในแต่ละวัน เพราะว่าพระเยซูเป็นคนสั่งไง ก็คือการอธิษฐานของท่าน การให้ของท่าน และการอดอาหารของท่าน อย่าให้ใครรู้ ให้ทำเป็นความลับ
ความลับคืออะไร คือไม่ให้ใครรู้เป็นอันขาด เพราะฉะนั้นเมื่อเราเห็นว่าเขาเกิดผล เราก็..คือเบื้องหลังอ่ะที่เราไปบอกนี่ฉันแหละเป็นคนอธิษฐานเผื่อเธอที่ผ่านมา มันมีการอวดนิดๆ อยากได้หน้านิดๆ ถูกไหม มันมีความรู้สึกแบบนั้นนิดๆ นึงไม่มากก็น้อย นี่เป็นความคิดและนิสัยของคริสเตียนศาสนา คืออยากมีนิดๆ นึงให้คนชม หรือว่าโอ้ฉันได้ผลได้เกิดผลได้รับอะไร ก็คือเขาคนนั้นอธิษฐานเผื่อเรานะ แบบชื่นชอบเขานิยมเขา อันนี้เป็นสิ่งที่เราต้องหลีกเลี่ยงนะครับ เราไม่มีตัวตนอย่าลืมนะครับ
เราเป็นเหมือน “คือมันจะมีผู้ชายคนหนึ่งที่เป็นขโมย คือเขาไปขโมยของคนรวยมาให้คนจน แล้วเขาใส่หน้ากาก คือไม่มีใครรู้ว่าเป็นเขา เขาก็ใช้ชีวิตปกติธรรมดา แต่พอตกกลางคืนเขาก็จะใส่หน้ากากแล้วก็แต่งตัวเป็นเหมือนคนที่ไม่รู้จัก แล้วก็ไปเอาของจากคนรวยมาแล้วก็ไปแจกให้คนยากจน แล้วพอกลางวันปุ๊บเขาก็เปลี่ยนเป็นคนละคน” เราคริสเตียนควรจะเป็นคล้ายๆ ประมาณนั้นนะครับ ก็คือเราอธิษฐานเผื่อใครก็ตาม เราให้ใครก็ตาม เราจะไม่มีตัวตน เอเมน
พี่น้องที่ได้รับคำตอบจากพระเจ้าโดยการอธิษฐานเผื่อของผู้อื่นนะครับ เรามาเป็นพยานได้ แต่เราเป็นพยานแบบนี้ก็คือ “ขอบคุณพระเยซูที่พระองค์ตอบคำอธิษฐานแล้ว แล้วก็ขอบคุณพี่น้องที่มีส่วนอธิษฐานเผื่อด้วย เอเมน” เท่านั้นพอ ไม่ต้องเล่าว่าพระเจ้าช่วยปลดหนี้ พระเจ้าช่วยแก้ไขปัญหาแล้ว จากการทะเลาะกันก็กลับคืนดีกันกับสามี เงินที่หายไปก็ได้กลับคืนมาครบ แล้วก็อะไร คือเล่าไปยาวนะครับ คือไม่จำเป็นมันไม่จำเป็นเพราะพี่น้องไม่ได้รับกับเรา ใช่ไหม. คือเราถูกปลดหนี้เนี่ยพี่น้องคนอื่นที่ติดหนี้อยู่ก็ยังติดหนี้อยู่เหมือนเดิมนะครับ
เพราะฉะนั้นคือการพูดน้อยๆ การบอกว่า “ขอบคุณพระเจ้าที่วันนี้พระองค์ตอบคำอธิษฐานแล้ว พระองค์แก้ไขปัญหาให้แล้ว พระองค์ช่วยเหลือแล้ว คำอธิษฐานได้รับคำตอบแล้ว ขอบคุณพระเจ้าและขอบคุณพี่น้องที่อธิษฐานเผื่อ” จบไม่ต้องพูดถึงเรื่องอะไร
ถาม.
ขอถามอีกนะคะว่า เรามาประชุมอธิษฐานกันในวันพุธวันเสาร์ เราจะได้บำเหน็จมั้ยค่ะ เนื่องจากว่าเรานั่งอธิษฐานนี่ชาวบ้านรู้หมดได้ยินหมดนะคะ
ตอบ.
การอธิษฐานที่พระเยซูบอกว่าให้อธิษฐานในที่ลับลี้ ก็คือคนเดียว คือตัวพี่น้องคนเดียวที่เข้าไปอยู่ในห้อง หรือพูดฮึมๆ อยู่คนเดียวเมื่อเราขายของทำขนมมีคนมาเยี่ยมอยู่ที่ไหนท่ามกลางผู้คนมากมาย แต่เราฮึมๆ อยู่ในใจก็คือนี่คือการอธิษฐานที่เป็นลักษณะของพระเยซูสั่งในที่ลับ
แต่เมื่อเราอธิษฐานร่วมกันกับพี่น้องสามัคคีธรรมกับพระกายก็คือเป็นสิ่งที่เราต้องเปิดเผย ไม่มีใครนะครับที่เข้ามาแล้วทุกคนปิดไมค์ แล้วก็อืมๆๆ มันเป็นไปไม่ได้ใช่ไหม คือเราทุกคนต้องพูดเพื่อเสริมสร้างกันและกัน เอเมน
สรุปคำตอบนะครับ ก็คือตอนที่พระเยซูบอกว่าอย่าเปิดเผยอย่าบอกใครว่าเราอธิษฐาน ก็คือคนเดียวส่วนตัว private
แต่เมื่อมามีส่วนร่วมกับคริสตจักร มาสามัคคีธรรมร่วมกับพี่น้อง เป็นการอธิษฐานที่ทุกคนร่วมกัน อันนี้ต้องเปิดเผย แต่ก็เปิดเผยเฉพาะในกลุ่มพวกเรา หรือจะลง youtube ก็ไม่เป็นไรนะครับก็ไม่เสียหายเพราะว่ามันเป็นการอธิษฐานแบบเปิดเผย
ถามว่าได้รับรางวัลไหมบำเหน็จไหม บำเหน็จมีเยอะมาก การอธิษฐานเผื่อตั้งกลุ่มอธิษฐานคืนวันพุธกับคืนวันเสาร์ พี่น้องทราบไหมเป็นสิ่งที่พระเจ้าพอพระทัยมากที่สุดแล้วก็เตรียมบำเหน็จให้เรา ใครที่ขาดพระพรขาดบำเหน็จไม่ว่าจะเป็นบำเหน็จในชีวิตนี้ เข้ามานะครับ มีเวลาอาจจะ 10 นาทีก็ได้ 15 นาทีก็โอเค 30 นาทีก็ไม่เป็นไร คือเข้ามาอย่างน้อยได้เข้ามามีส่วนอธิษฐานร่วมกับพี่น้องนิดนึงก็พอนะครับ อยากได้บำเหน็จเยอะก็อยู่นานๆ กับพี่น้อง แต่ต้องตามขนาดของความเชื่อ แล้วก็เวลาเรามีเท่าไหร่เราทำได้เท่าไหร่ ก็เข้ามา แล้วก็ออกไป พี่น้องก็ไม่ว่าอะไรเรา เพราะว่าเราเข้าใจกันว่าใครมามีเวลาน้อยมีเวลาเยอะก็แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละคน เอเมน
แล้วพี่น้องนะครับที่เป็นผู้นำผู้ดูแลห้ามไปต่อว่าเขา ทำไมมา 10 นาทีแล้วออกไป ไม่มาดีกว่าไหม หรือมาครึ่งชั่วโมง เอาอยู่ให้เต็มเลยอยู่ให้ครบเลยดีไหม คือเราไม่ต่อว่าใครนะครับ สำหรับคริสตจักรฝ่ายวิญญาณในอเมริกาก็คือใครเข้ามาเข้ามาได้นิดๆ หน่อยๆ ก็เข้ามา 5 นาทีก็ได้ก็ออกไป อันนี้คือไม่มีใครต่อว่าใคร แล้วแต่พระวิญญาณบริสุทธิ์จะนำเขา แล้วแต่เขาความสะดวกของใครของมัน เอเมน
อีกอันนึงนะครับมีบางคนมาถามผมว่า การอธิษฐานเนี่ย คือเรามาร่วมสามัคคีธรรม หรือเราอธิษฐานส่วนตัวคนเดียว เราพูดไปเรื่อยว่าถวายตัวใหม่นับตายถวายตัวพูดเกี่ยวกับเราๆๆๆ ขอยกโทษบาปข้าพระองค์ ขอชำระข้าพระองค์อะไรทั้งหลาย จากนั้นค่อยมาสรรเสริญยกย่องขอบพระคุณพระบิดาได้ไหม ไม่ได้ครับ. ไม่เหมาะนะครับ
เมื่อเราเริ่มต้นอธิษฐานกับพระเจ้า เริ่มต้นการสนทนาสามัคคีธรรมกับพระเจ้า สิ่งแรกๆ เลยสิ่งแรกตื่นนอนตอนเช้าหรือตอนไหนก็ตามที่เราสะดวกเพื่อที่จะใช้เวลาคุยกับพระเจ้า อันแรกที่จะมาก่อนคืออะไร คือพระเจ้า สรรเสริญขอบพระคุณยกย่องอยากจะร้องเพลงถวายแด่พระเจ้าก็ได้ก็ดี หรือทำอะไรก็ได้แต่ต้องพระเจ้าต้องมาก่อน หลังจากนั้นก็คือเราค่อยพูดเรื่องสารภาพบาป เรื่องขอ เรื่องถวายตัวใหม่อะไรก็แล้วแต่ แต่สิ่งแรกก็คือสรรเสริญยกย่องขอบพระคุณพระเจ้าก่อน เอเมน
ถาม.
อยากจะถามว่าสมมุติว่าเราเข้ามาสามัคคีธรรมกันวันพุธหรือวันเสาร์ ที่เราอธิษฐานเผื่อซึ่งกันและกัน สมมุติว่ามีพี่น้องเข้ามาในห้องด้วยกันแต่เขาไม่พูดอะไรเลยไม่บอกเราว่า อธิษฐานเผื่อด้วยค่ะ หรือว่าอะไร เขาไม่พูดอะไรเลย แต่เราคิดถึงอยากอธิษฐานเผื่อเขา อันนี้เราก็อธิษฐานได้ไหมหรือว่าไม่ต้องเลยเขาไม่ได้บอกเรา เราก็ไม่อธิษฐานให้เขา อันไหนถูกค่ะ
ตอบ.
สำหรับการอธิษฐานเผื่อพี่น้องนะครับ ไม่ว่าพี่น้องที่จะเข้ามา แล้วบางคนเข้ามาแต่ไม่เสนอไม่บอกว่าขออธิษฐานเผื่อด้วย เราอธิษฐานเผื่อเขาเลย แล้วก็พี่น้องที่ไม่มีโอกาสได้มามีส่วนร่วมในการอธิษฐานครั้งนั้น เราพูดแบบนี้นะครับ “ขอให้น้ำพระทัยของพระบิดาสำเร็จในพี่น้องคนนี้ ในพี่น้องทุกคน เอเมนพระเยซู” เท่านั้นก็ได้ครับ
สำหรับพี่น้องที่มาร่วมนะครับบอกว่ามีปัญหาเรื่องลูก มีปัญหาเรื่องหนี้สิน มีปัญหาเรื่องรถ มีปัญหาเรื่องอะไรก็ตาม คำอธิษฐานที่ดีที่สุดที่พระเจ้าอยากได้อยากฟังก็คือ “พระบิดาเขามีปัญหา แต่ขอให้น้ำพระทัยของพระองค์สำเร็จในชีวิตของเขา” เท่านั้นพอ แล้วพระเจ้าจะเป็นคนไปจัดการเอง พระเจ้ารู้ว่าเขามีปัญหาอะไร เราไม่ต้องบอก
เราเห็นกันไหมสมัยก่อนเราเป็นคริสเตียนศาสนา เราจะสั่งเหมือนสั่งเมนู แล้วเราจะสั่งสอนพระเจ้า บอกต้องทำแบบนี้ต้องทำแบบนั้น จำกันได้ไหม ผมก็เคยเป็นนะครับ "พระบิดาขอพระองค์ขัดเกลาขอพระองค์กำจัดขอพระองค์จัดการกับสิ่งนี้ขอพระองค์แก้ไขตรงนี้ขอพระองค์ทำแบบนี้ขอพระองค์ทำแบบนั้นกับคนโน้นที่มีปัญหาอันนี้" ก็คือสั่งพระเจ้าแล้วก็แนะนำพระเจ้าด้วย อันนี้เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมนะครับ
สำหรับคำอธิษฐานที่ถูกต้องที่ดีที่สุดที่พระเจ้าต้องการเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้าก็คือ “พระบิดาขอให้น้ำพระทัยของพระองค์สำเร็จในชีวิตของพี่น้องคนนี้ เอเมน ในคริสตจักรของพวกเรา เอเมน” เท่านั้นนะครับ แล้วพระเจ้าจะเป็นคนไปจัดการเองพระเจ้ารู้ว่าเขาเป็นอะไรเขามีปัญหาอะไร เอเมน
มีอีกกรณีหนึ่งนะครับถ้าหากว่าพี่น้องบางคนที่เป็นทุกข์ แล้วก็เป็นผู้เชื่อใหม่ ซึ่งผมเองก็เคยใช้วิธีนี้ก็คือ “พระบิดาพระองค์เมตตาพระองค์รัก พระองค์แบกเอาความเจ็บไข้ของเขาไปที่กางเขนแล้ว โดยพระคุณของพระเจ้าเพียงแค่พระองค์แตะครั้งเดียวเขาก็จะหายดี ในพระนามพระเยซู” เราพูดแบบนี้ได้
แต่พี่น้องที่เชื่อมานาน เป็นคริสเตียนในฝ่ายวิญญาณพวกเรา อยู่กับพวกเรานาน เขาเข้าใจคือเขามาบอกว่า อธิษฐานเผื่อด้วยสุขภาพมีปัญหา เราก็บอกว่า “พระบิดาขอให้น้ำพระทัยของพระองค์สำเร็จในพี่น้องคนนี้ เอเมน” เท่านั้นพอ
ถาม.
ขออนุญาตอีกค่ะคืออันนี้อาจจะไม่ใช่อยู่ในที่เราคุยกันตอนนี้ค่ะ แต่อยากเข้าใจค่ะว่า เคยไปหลังจากที่มารับมานาฯ แล้ว แล้วก็ไม่ได้กลับไปที่เดิมแล้วที่เป็นกลุ่มไฟที่วางมือแล้วล้มลง แต่ปรากฏว่ามีวันนึงได้ไปเพราะว่ามีความจำเป็นต้องไป แล้วก็ผู้ที่วางมือรักษาทำแบบแปลกๆ มากเลยแบบว่าไม่เคยเห็นมาก่อนค่ะ ก็เคยเห็นมาเยอะแล้ว แต่อันนี้ไม่เคยเห็นมาก่อน ก็คือใช้เป่าด้วย เอาปากไปเป่าเหมือนเราเป็นเด็ก แล้วก็ตาก็แบบแปลกๆ มากเลย อันนี้มันมีเกิดขึ้นใหม่ๆ มีด้วยแบบนี้ ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้นนะคะ
ตอบ.
สำหรับในท่ามกลางศาสนาคริสต์มันยังจะมีอะไรใหม่ๆ อีกเยอะที่เราคิดไม่ถึง แล้วก็มันทำให้เราตกใจได้ คือมีหลายสิ่งที่เขาเอามาจากศาสนาอื่นมาทำ มีเต็มไปหมดนะครับ
เรื่องภาษาแปลกๆ มันไม่ได้มีแต่เฉพาะเริ่มจากหนังสือโครินธ์ที่เปาโลพูดถึง คือภาษาแปลกๆ เนี่ยมันเป็นการกระทำของพวกที่นับถือศาสนาอื่นเขากราบไหว้พระอื่น อยู่ในเมืองโครินธ์มีพระมากมายที่เขานับถือ แล้วเมื่อเขาถึงเวลาที่เขาจะทำพิธีเขาก็จะมารวมกันแล้วก็ทำพิธีกราบไหว้พระ จากนั้นเขาจะพูดนะครับ ..ลลลลล ลั่นลิ้น.... คือจะพูดแบบนี้ จากนั้นเนี่ยก็คือมีพี่น้องคริสเตียนไปเห็น พอไปเห็นปุ๊บเนี่ย ก็เข้ามาในคริสตจักร เมื่อเข้ามาในคริสตจักรเขาก็พูดแบบนั้น ปรากฏว่าเต็มคริสตจักรหลายคนก็พูดคนนี้ก็พูดคนนั้นก็พูด ก็พูดไปหมดเลย แล้วบอกว่าเป็นภาษาที่มาจากพระวิญญาณ เขาอ้างแบบนี้
แล้วปรากฏว่ามีคนไปฟ้องเปาโล เปาโลก็เขียนจดหมายมาต่อว่าเขา ทำไมพวกท่านพูดแบบนี้ใน 1 โครินธ์บทที่ 14 จากนั้นนะครับก็มีการใช้ภาษาแปลกๆ คือการลั่นลิ้น มีมาเรื่อยๆ แต่มันไม่ใช่คริสเตียนที่เป็นคนเริ่มทำนะ คือศาสนาอื่น เราจะเห็นว่ามีพุทธบางนิกายมีใช่ไหม การพูดภาษาแปลกๆ ลั่นลิ้นเนี่ย มีนะ ผมเคยเห็นนะครับ แต่ประเด็นมันอยู่ตรงที่คือเขาใช้มานานแล้วมีหลายร้อยหลายพันปีแล้ว ก่อนที่คริสเตียนจะเอามาใช้
แล้วการวางมือการเป่าการหัวเราะในพระวิญญาณ การร้องไห้ในพระวิญญาณ การกลิ้งไปมา บอกว่าทุกสิ่งโดยพระวิญญาณ แล้วก็สุดท้ายขอโทษนะครับขออนุญาตพูดมีตดในพระวิญญาณด้วย คือคิดกันได้ยังไง แล้วก็มีคนเชื่อด้วย อันนี้มันแปลกมากใช่ไหมมีคนเชื่อด้วยนะว่ามาจากพระวิญญาณ แล้วเพื่ออะไร มันเพื่ออะไร ใช่ไหม คือเราเห็นผลประโยชน์เราเห็นประโยชน์ที่ได้รับเนี่ย ไม่มี. มันคืออะไร แล้วก็มีการเป่าก็คือเขาเอามาจากศาสนาอื่น
เพราะฉะนั้นเราขอบคุณพระเจ้าที่พระเจ้าเปิดตาเราได้เห็นความสว่างแล้วเราเห็นความชัดเจนของพระคำพระเจ้า ซึ่งภาษาแปลกๆ เรียกว่าภาษาต่างๆ แล้วการกระทำของพี่น้องกลุ่มไฟเขาได้รับจากศาสนาอื่นมาก็เยอะ แล้วก็เขาคิดขึ้นมาเองก็เยอะ อย่าตกใจนะแค่นี้เนี่ยเมื่อก่อนมีเยอะกว่านี้อีกนะครับ มีหมาเห่าหมาหอนด้วย มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นในคริสตจักร
ล่าสุดเราเห็นคริสตจักร .... ที่เป็นประเด็นอยู่ หลายคนรู้ความจริงก็คือ มีการฉ้อโกง มีการเอาเงินออกไปนอกระบบไปทำสิ่งอื่น แล้วก็คำสอนน่ากลัวมาก แล้วก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่ไปสอนเด็ก เป็นครูสอนเด็ก คือด่าว่าเขาไปต่อว่าเขาไปสาปแช่งเขาด้วย เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะมาก แล้วก็มีคนมาคอมเมนต์ สุดท้ายเขาก็ยอมรับผิดเพราะว่ามีผู้นำมาเตือนเขา เขาก็ขอโทษทุกคน ถ้าไม่ขอโทษนะครับก็คือมันจะเป็นเรื่องที่โด่งดังเป็นชื่อเสียงมากมาย แล้วเป็นชื่อเสียงในด้านลบด้วย เขาก็เลยออกมาขอโทษ
แต่สิ่งที่แปลกๆ เนี่ยมันยังจะมีมาอีกเยอะในท่ามกลางกลุ่มไฟ เพราะฉะนั้นเราไม่ต้องแปลกใจ เราขอบพระคุณพระเจ้าที่เราได้หลุดพ้นออกมาจากสิ่งเหล่านี้แล้ว เราแสวงหาผู้เดียวเท่านั้นก็คือพระเยซู เราไม่แสวงหาไฟ ฤทธิ์เดช การไล่ผี รักษาโรคอะไรทั้งหลาย ภาษาแปลกๆ เพราะว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่สำรองเป็นสิ่งที่อยู่ภายนอก แต่สิ่งที่อยู่ภายในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เราควรจะแสวงหาก็คือ “พระเยซู”
สิ่งที่ผมพูดมีหลักฐานยืนยันก็คือใน 1 โครินธ์บทที่ 3:10-12 คือถ้าหากท่านก่อรากฐานขึ้นด้วยสิ่งอื่น ก็จะเป็นไม้ฟางหญ้าแห้ง แต่ถ้าหากท่านก่อรากฐานชีวิตด้วยพระคริสต์ เห็นไหมครับด้วยพระคริสต์
มันคืออะไรก่อรากฐานของชีวิตด้วยพระคริสต์ คุณตื่นนอนตอนเช้าคุณมีพระคริสต์อยู่ในคุณ คุณอธิษฐานพระคริสต์อยู่ในคุณ คุณทำอะไรพระคริสต์อยู่ในคุณ คิดแทนคุณ ทำแทนคุณ อนุญาตเลยให้พระองค์เลยถวายตัวให้พระองค์เป็นคนทำเป็นคนคิดเป็นคนทำทุกสิ่ง นี่คือให้พระคริสต์เป็นรากฐานของชีวิต คือทำอะไรก็ตามขาดพระคริสต์ไม่ได้ เอเมน
ส้มตำที่ไม่มีปลาร้าก็ไม่อร่อยฉันใด คริสเตียนที่ไม่มีพระคริสต์อยู่ในเราก็เป็นชีวิตที่ไม่มีรสชาติฉันนั้น
ถาม.
อยากถามเรื่องการอธิษฐานค่ะ ยังไม่เข้าใจว่าถ้าเราจะให้พี่น้องอธิษฐานเผื่อ เหมือนกับตัวอย่างเช่นว่า ประเทศใช่มั้ยค่ะ เราต้องเจาะจงแบบว่าประเทศนั้นประเทศนี้ หรือว่าต้องเหมารวมแบบว่าทั่วโลกอย่างนี้ค่ะ เอเมน
ตอบ.
สำหรับเรื่องการอธิษฐานเผื่อประเทศนู้นประเทศนี้ บ้านเมืองนี้บ้านเมืองนู้น จังหวัดนู้นจังหวัดนี้ สำหรับถ้าหากว่าพระวิญญาณดลใจให้เราคิดถึงที่ไหน เราก็อธิษฐานเผื่อที่นั่น แต่อย่าไปพูดเหมารวมนะครับ 168 ประเทศเนี่ย คือไม่ไหว แล้วมันไม่จำเป็นไม่ใช่หน้าที่ของเรา เอเมน
แล้วมีบางคนคือมาพูดกับผมบอกว่าสงสารพี่น้องที่อยู่ภาคใต้คนที่อยู่ภาคใต้จนร้องไห้ คิดถึงเขามากเป็นห่วงเขามากจนร้องไห้ ผมอยากจะบอกพวกเรานะครับ เรามองไปที่พระคำพระเจ้าในหนังสือวิวรณ์ แล้วเรามองไปที่เหตุการณ์ที่พระเจ้ากำหนดให้เกิดขึ้น มันจะต้องเกิด สำหรับเรานะครับเราปล่อยวาง เราขอบพระคุณพระเจ้าพระองค์อนุญาตให้เกิดอะไรมันก็เกิด เพราะว่ามนุษย์ได้รับผลที่โลกนี้มนุษย์คนบาปที่เขาทำกันอยู่ แล้วก็โลกนี้มันจะเกิดอันนี้ แผ่นดินไหว น้ำท่วม สงคราม สิ่งเหล่านี้จะเกิดนะครับเราห้ามไม่ได้
เราสงสารได้นะครับแต่อย่าให้มันเกินไป อย่าให้มันจนถึงขั้นแบบคือต้องร้องไห้ ร้องไห้ทั้งวัน หรือร้องไห้มาก จนคือคิดมากเกินไป คืออย่าให้คำว่าเกินไปเนี่ยมันเข้ามา เราอาจจะสงสารเราอาจจะร้องไห้เล็กๆ น้อยๆ นิดๆ หน่อยๆ แล้วอธิษฐานเผื่อพี่น้องคริสเตียนก่อน สิ่งแรกอธิษฐานเผื่อพี่น้องคริสเตียนที่อยู่ภาคใต้ก่อน แล้วจากนั้นก็อธิษฐานเผื่อคนที่ไม่เชื่อ ขอพระเจ้าให้โอกาสเขาที่จะฉวยโอกาสยามยากลำบากยามเจออุทกภัย ก็คือมีโอกาสได้พบพระเจ้าได้กลับใจมาเชื่อมาหาพระเยซู ไม่ใช่ให้เขาปลอดภัยนะ คือให้เขามีโอกาสได้รับเชื่อรับพระเยซู นี่คือเป้าหมายของพระเจ้า เอเมน
ถาม.
แล้วก็อีกอย่างหนึ่งคือว่าเราต้องแบบว่าอธิษฐานเผื่อคริสตจักรนี้ เราเจาะจงทีละคริสตจักรหรือว่ารวมกันค่ะ เอเมน
ตอบ.
อีกครั้งนะครับถ้าหากพระเจ้าดลใจเราให้คิดถึงแต่คริสตจักรนั้นเป็นส่วนมาก เราก็ใส่ใจในการอธิษฐานเผื่อเขา แล้วถ้าเรามีโอกาสมีเวลาเราอาจจะพูดได้ ขอพระองค์ดูแลลูกๆ ของพระองค์ทั่วโลก หรือในประเทศไทย หรือที่ไหนสักแห่งหนึ่ง เราก็พูดได้นะครับ อยู่ที่การดลบันดาลของพระวิญญาณบริสุทธิ์เร้าใจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ว่าให้เราอธิษฐานเผื่อใครที่ไหนตรงไหน เพราะว่าพระเจ้าเป็นผู้ที่ให้คำอธิษฐานผ่านเราไปถึงพระเจ้าแล้วพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็ทำงาน เพราะฉะนั้นฟังพระสุระเสียงของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เอเมน
อีกครั้งนะครับ ถ้าน้ำท่วมที่ไหน จะมีอีกเมื่อไหร่ ขอให้เราปล่อยปลงวาง แล้วขอให้เราเข้าใจตรงนี้ว่าพระเจ้าเป็นคนอนุญาตให้เกิด แล้วคนที่ได้รับความเดือดร้อนนะครับ เราอธิษฐานเผื่อขอให้เขามีโอกาสได้พบพระเจ้า ไม่ใช่ขอให้ปลอดภัย ไม่ใช่ขอให้อยู่ดีกินดี ไม่ใช่ขอให้แบบกลับมาสู่สภาพเดิม แต่ขอให้เขาได้พบพระเจ้าเมื่ออยู่ในท่ามกลางเหตุร้ายมรสุมชีวิตแบบนี้ เราเข้าใจหรือยังครับนี่คือเป้าหมายของพระเจ้า มาช่วยวิญญาณนะครับไม่ใช่มาช่วยร่างกาย
ที่ต่างประเทศนะครับเมื่อเกิดอุทกภัยเกิดน้ำท่วมเกิดไฟไหม้เกิดสงครามเนี่ย มีคริสเตียนมากมายที่ไปช่วยนะครับ แล้วก็บางครั้งพระเจ้าอาจจะส่งคริสเตียนไปไม่ถึง พระเจ้าก็ทำงานเองก็มี บางคนก็เห็นนิมิตเห็นในความฝันพระเจ้ามาช่วย สุดท้ายเขาก็กลับใจ ซึ่งผลได้มาจากความทุกข์ยากการเจออุทกภัย การเจอมรสุมชีวิตทั้งหลาย เพราะฉะนั้นที่ภาคใต้นะครับเราอธิษฐานเผื่อเขาเพื่อเขาจะพบพระเจ้า เราอธิษฐานเผื่อขอให้ชีวิตของเขาหนักกลายเป็นเบา ขอเขามีโอกาสได้มารับความรอดกลายเป็นบุตรพระเจ้าด้วยกันกับพวกเรา นี่คือน้ำพระทัยของพระเจ้าที่จะอธิษฐานเผื่อเขา เอเมน