สัตว์ร้ายขึ้นมาจากทะเล
13:1 และข้าพเจ้าได้เห็นสัตว์ร้ายตัวหนึ่งขึ้นมาจากทะเล มันมีเจ็ดหัวและสิบเขา ที่เขาทั้งสิบนั้นมีมงกุฎสิบอัน และมีชื่อที่เป็นคำหมิ่นประมาทจารึกไว้ที่หัวทั้งหลายของมัน
** "สัตว์ร้ายตัวหนึ่ง" คือพระคริสต์เทียมเท็จที่จะมาปรากฏในช่วงสามปีครึ่งสุดท้าย
** "ขึ้นมาจากทะเล" คือมาจากชาวต่างชาติแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
** "มันมีเจ็ดหัว" คือกษัตริย์ซีซาร์เจ็ดองค์ที่จะมาปรากฏเพื่อช่วยมังกรหัวหน้าของมัน (ซาตาน)
** "และสิบเขา" คือกษัตริย์อีกสิบองค์
** "ที่เขาทั้งสิบนั้นมีมงกุฎสิบอัน" คือตำแหน่งหรือสิทธิอำนาจที่มังกรมอบให้พวกมัน
13:2 สัตว์ร้ายที่ข้าพเจ้าได้เห็นนั้น เหมือนเสือดาว และเท้าเหมือนเท้าหมี และปากเหมือนปากสิงโต และพญานาคได้ให้ฤทธิ์ของมัน และที่นั่งของมัน และสิทธิอำนาจอันใหญ่ยิ่งแก่สัตว์ร้ายนั้น
** "เหมือนเสือดาว" หมายถึงความเฉลียวฉลาดว่องไวในการจู่โจมและทำร้ายศัตรู
** "เท้าเหมือนเท้าหมี" หมายถึงพลังมหาศาลเพื่อเหยียบย่ำศัตรูของมัน
** "ปากเหมือนปากสิงโต" หมายถึงการยึดครองกลืนกินบรรดาประชาชาติอย่างโหดร้าย
13:3 ข้าพเจ้าได้เห็นว่าหัวๆหนึ่งของสัตว์ร้ายดูเหมือนถูกฟันปางตาย แต่แผลที่ถูกฟันนั้นรักษาหายแล้ว คนทั้งโลกติดตามสัตว์ร้ายนั้นไปด้วยความอัศจรรย์ใจ
** วิญญาณของกษัตริย์ซีซาร์หนึ่งในเจ็ดจะฟื้นขึ้นจากตาย ทำให้คนทั้งโลกหลงเชื่อและติดตามเพราะฤทธิ์เดชอำนาจของมัน
13:4 เขาทั้งหลายได้บูชาพญานาคที่ได้ให้อำนาจแก่สัตว์ร้ายนั้น เขาได้บูชาสัตว์ร้ายนั้น กล่าวว่า "ใครจะเปรียบปานสัตว์นี้ได้ และใครสามารถจะทำสงครามกับสัตว์นี้ได้"
** "สัตว์ร้ายนั้น" หมายถึงพระคริสต์เทียมเท็จ
13:5 และยอมให้สัตว์ร้ายนั้นมีปากที่พูดคำกล่าวร้ายและหมิ่นประมาท และยอมให้มันใช้อำนาจกระทำอย่างนั้นตลอดสี่สิบสองเดือน
** พระคริสต์เทียมเท็จจะอ้างตัวเป็นพระเจ้า และอ้างว่าตนเป็นพระคริสต์ที่จะกลับมา
** มันจะสร้างพระวิหารสำเร็จ ในระยะสามปีครึ่งสุดท้าย
** "สี่สิบสองเดือน" หมายถึงสามปีครึ่ง (42 / 12 = 3:5)
13:6 มันกล่าวคำหมิ่นประมาทต่อพระเจ้า เพื่อหมิ่นประมาทต่อพระนามของพระองค์ ต่อพลับพลาของพระองค์ และต่อผู้ที่อยู่ในสวรรค์
** "พระวิหาร" ในที่นี้ หมายถึงพระวิหารในสวรรค์ (ลานชั้นนอกของพระวิหาร หมายถึงพระวิหารในกรุงเยรูซาเล็ม)
สัตว์ร้ายกระทำสงครามกับพวกวิสุทธิชน
13:7 และยอมให้มันทำสงครามกับพวกวิสุทธิชน และชนะเขา และให้มันมีอำนาจเหนือชนทุกตระกูล ทุกภาษา และทุกประชาชาติ
** พระเจ้าทรงอนุญาตให้พระคริสต์เทียมเท็จชนะ และข่มเหงผู้เชื่อที่ไม่ได้ถูกรับขึ้นไปเพราะชีวิตยังขึ้นๆ ลงๆ ไม่สุกงอมเป็นผู้ชนะทุกชาติทุกภาษา
13:8 และบรรดาคนที่อยู่ในแผ่นดินโลกจะบูชาสัตว์ร้ายนั้น คือคนทั้งปวงที่ไม่มีชื่อจดไว้ในหนังสือแห่งชีวิตของพระเมษโปดก ผู้ทรงถูกปลงพระชนม์ตั้งแต่แรกทรงสร้างโลก
** "ไม่มีชื่อจดไว้ในหนังสือแห่งชีวิต" หมายถึงคนที่จะไม่รอดเพราะว่าเขาไม่ได้รับเชื่อพระเยซูและไม่ได้บังเกิดใหม่
13:9 ใครมีหูก็ให้ฟังเอาเถิด
** "หู" หมายถึงหูฝ่ายวิญญาณที่พระเจ้าเปิดให้ได้ยิน และเข้าใจ
** หนังสือวิวรณ์ คือการเปิดเผยของพระเจ้า หูของอาดัมไม่อาจได้ยินและเข้าใจได้เพราะฉะนั้นจึงต้องมีหูฝ่ายวิญญาณเพื่อรับการเปิดเผยจากพระเจ้า
13:10 ผู้ใดที่กำหนดไว้ให้ไปเป็นเชลยผู้นั้นก็จะต้องไปเป็นเชลย ผู้ใดฆ่าเขาด้วยดาบผู้นั้นก็ต้องถูกฆ่าด้วยดาบ นี่แหละคือความอดทนและความเชื่อของพวกวิสุทธิชน
** ความรอดในช่วงเจ็ดปีแห่งความทุกข์ทรมานนี้ ผู้เชื่อต้องยอมทนทุกข์ ถูกข่มเหง และไม่ทิ้งกันจนหลายคนอาจจะต้องถูกฆ่าตาย แต่ถ้าเขาทนได้จนถึงที่สุดก็จะรอดเพื่อพิสูจน์ความเชื่อของเขา
สัตว์ร้ายขึ้นมาจากแผ่นดินโลก
13:11 และข้าพเจ้าเห็นสัตว์ร้ายอีกตัวหนึ่งขึ้นมาจากแผ่นดิน มีสองเขาเหมือนลูกแกะ และพูดเหมือนพญานาค
** "สัตว์ร้ายอีกตัวหนึ่ง" หมายถึงผู้เผยพระวจนะเทียมเท็จที่เป็นผู้รับใช้อีกคนหนึ่งของซาตานที่จะมาปรากฏเพื่อช่วยพระคริสต์เทียมเท็จเพื่อทำร้ายผู้เชื่อในประเทศอิสราเอลในระยะสามปีครึ่งสุดท้าย
** "ขึ้นมาจากแผ่นดิน" มาจากประเทศอิสราเอล (ทะเลหมายถึงต่างชาติ และแผ่นดินหมายถึงประเทศอิสราเอล)
** "มีสองเขาเหมือนลูกแกะ" หมายถึงภายนอกดูเหมือนจะเป็นคนดี
** "พูดเหมือนพญานาค" หมายถึงคำพูดคำสอนที่ล่อลวงผู้คนมากมายให้หลงเชื่อและกราบไหว้มารซาตาน
13:12 มันใช้อำนาจของสัตว์ร้ายตัวเดิมนั้นอย่างครบถ้วนต่อหน้าสัตว์ร้ายตัวเดิมนั้น มันทำให้โลกและคนที่อยู่ในโลกบูชาสัตว์ร้ายตัวเดิมนั้น ที่มีแผลปางตายแต่รักษาหายแล้ว
** พระคริสต์เทียมเท็จมอบอำนาจให้มันเพื่อนำคนมากมายมากราบไหว้ และติดตามสัตว์ร้ายตัวแรกที่ฟื้นขึ้นจากตาย
13:13 สัตว์ร้ายนี้แสดงการมหัศจรรย์ใหญ่ จนกระทำให้ไฟตกลงมาจากฟ้าสู่แผ่นดินโลกประจักษ์แก่ตามนุษย์ทั้งหลาย
** สมัยก่อนท่านเอลียาห์ขอไฟจากฟ้าสวรรค์ลงมาเผาไหม้เครื่องบูชา ฟืนและหิน (1 พงศ์กษัตริย์ 18:36-38)
** ครั้งนี้ผู้เผยพระวจนะเทียมเท็จใช้อำนาจของมารซาตานทำการอัศจรรย์ได้เหมือนกันจนคนทั่วโลกต้องตกตะลึงในฤทธิ์อำนาจของมัน
13:14 มันล่อลวงคนทั้งหลายที่อยู่ในโลกด้วยการอัศจรรย์นั้น ซึ่งมันมีอำนาจกระทำท่ามกลางสายตาของสัตว์ร้ายตัวเดิมนั้น และมันสั่งให้คนทั้งหลายที่อยู่ในโลกสร้างรูปจำลองให้แก่สัตว์ร้าย ที่ถูกฟันด้วยดาบแต่ยังมีชีวิตอยู่นั้น
** "รูปจำลอง" ในที่นี้ คือรูปจำลองของซีซาร์ที่ฟื้นขึ้นจากตาย
13:15 และมันมีอำนาจที่จะให้ลมหายใจแก่รูปสัตว์นั้น เพื่อให้รูปสัตว์ร้ายนั้นทั้งพูดได้ และกระทำให้บรรดาคนที่ไม่ยอมบูชารูปสัตว์ร้ายนั้นถึงแก่ความตายได้
** ผู้เผยพระวจนะเทียมเท็จจะใส่วิญญาณเข้าไปในรูปจำลองและรูปจำลองนั้นสามารถพูดได้ ซึ่งเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายในประวัติศาสตร์ที่รูปภาพพูดได้ (สดด 115:5)
13:16 และมันยังได้บังคับคนทั้งปวง ทั้งผู้ใหญ่ผู้น้อย คนมั่งมีและคนจน ไทยและทาส ให้รับเครื่องหมายไว้ที่มือขวาหรือที่หน้าผากของเขา
** "เครื่องหมาย" ในที่นี้ คือชื่อของซีซาร์นีโร
** ทุกคนที่ยอมกราบไหว้และติดตามมัน จะต้องมีชื่อของมันที่มือขวาหรือที่หน้าผาก
13:17 เพื่อไม่ให้ผู้ใดทำการซื้อขายได้ นอกจากผู้ที่มีเครื่องหมายนั้น หรือชื่อของสัตว์ร้ายนั้น หรือเลขชื่อของมัน
** ในช่วงสามปีครึ่งสุดท้ายแห่งยุคพระคุณ ผู้เชื่อทั่วโลกต้องทนทุกข์ถูกข่มเหงอย่างมากมาย และไม่อาจถูกรับขึ้นไปได้เพราะยังไม่สุกงอม หรือได้รับจิตใจใหม่ แต่ดำเนินชีวิตดีบ้างบาปบ้างไปวันๆ ไปจนวันตาย
วว 13:18 ในเรื่องนี้จงใช้สติปัญญา ถ้าผู้ใดมีความเข้าใจก็ให้คิดตรึกตรองเลขของสัตว์ร้ายนั้น เพราะว่าเป็นเลขของบุคคลผู้หนึ่ง เลขของมันคือหกร้อยหกสิบหก
** สติปัญญาและความเข้าใจในที่นี้คือการเปิดเผยจากพระเจ้า มีผู้เชื่อมากมายพยายามตีความหมายและมั่นใจว่าตนแปลถูก แต่เนื่องจากไม่ได้รับการเปิดเผยจากพระวิญญาณจึงรับรู้ความจริงไม่ได้
** ขณะที่ท่านยอห์นเขียนหนังสือวิวรณ์ อาณาจักรโรมันรุ่งเรือง และ นีโร ซีซาร์ เป็นกษัตริย์ครอบครองทั่วราชอาณาจักรดังกล่าว ท่านยอห์นจึงไม่เอ่ยชื่อของ นีโร ซีซาร์ แต่ให้ผู้เชื่ออ่านและขอสติปัญญาจากพระเจ้ากันเองว่าพระคริสต์เทียมเท็จที่วิญญาณของ นีโร ซีซาร์ จะกลับมาเป็นใหญ่ ให้ซาตานใช้มาข่มเหงผู้เชื่อในระยะสุดท้าย
** นีโร ซีซาร์ มาจากภาษาฮิบรู คือ 666 หรือ หกร้อยหกสิบหก