** ผู้ชายคนหนื่ง เป็นเศรษฐีร่ำรวยมาก มีบ้านพักอยู่ชนบท ท่านถ่อมใจและรักเด็กมาก ท่านจะจัดงานเพื่อให้เด็กมาเล่นของเล่น กินขนม อาหาร สนุกสนานกัน ที่บ้านของท่านอาทิตย์ละครั้ง.
เมื่อถึงเวลางาน พ่อแม่ก็พาลูกๆ มาส่งที่บ้านเศรษฐีท่านนี้เช่นเคย.ก่อนกลับบ้าน...วันนั้น ท่านก็ประกาศบอกให้เด็กๆทุกคนว่า "ได้เวลากลับบ้านแล้วนะลูกๆ ทั้งหลาย. พวกเจ้าอยากได้อะไร ของเล่น อาหาร ขนม เอากลับบ้านไปได้ มากที่สุดเท่าที่จะมากได้" เด็กๆ ก็วิ่งไปเอาของเล่นบ้าง ขนมบ้าง อาหารบ้างจนไม่มีที่จะใส่
- เด็กผู้หญิงคนหนื่ง เดินมาหาเศรษฐีท่านนั้นช้าๆ เธอยื่นมือมาจับชายเสื้อของท่าน และเงยหน้าขื้นจ้องมองตาของท่าน
- เศรษฐี: "ลูก ..ทำไมไม่ไปเอาขนม ของเล่นกับเขาล่ะ ไม่ต้องกลัวนะว่ามันจะหมด พ่อยังมีอีกเยอะ..ไปสิลูก"
- เด็กหญิง : " ของเล่นเหล่านั้นวันหนื่งหนูก็จะเบื่อ ขนมและอาหารวันหนื่งก็จะหมด แต่หนูอยากเป็นลูกสาวของท่านค่ะ เพราะว่าท่านเป็นเจ้าของทุกสิ่ง และมีทุกสิ่ง ไม่มีวันหมด"
- เศรษฐี : ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป..เจ้าคือลูกสาวที่รักของเรา"
** เมื่อเราได้รู้จักพระเจ้า เราวิ่งหาพระพร ความสุข ชีวิตการงานที่ดี ฐานะมั่งมี สุขภาพดี ตำแหน่งชื่อเสียงที่ดีทั้งภายในและนอกคริสตจักร ฤทธิ์เดช พลังอำนาจ การอัศจรรย์ ของประทาน แต่เรากลับไม่รู้จักและสนิทชิดเชื้อกับพระเยซู. ส่วนมากคำ อธ. ของเรามักจะเน้นที่การขอ(สิ่งที่ต้องการ)มากกว่า และไม่เน้นในด้านความสัมพันธ์ที่ลึกซื้งแบบส่วนตัวกับพระเจ้า. . . เพราะว่าจิตใจของเรายังจดจ่อไปที่ขนม ของเล่นและอาหารในโลกนี้
- ท่านวิ่งหาอะไรกันอยู่ ?
อ่าน: บทความหนุนใจ