วันนี้เราจะพูดกันถึงเรื่องการทดลองของพระเยซูในมัทธิวบทที่ 4
คริสเตียนส่วนมากเข้าใจผิด ไม่รู้กติกาของการทดลองระหว่างพระเยซูกับมารซาตาน
• เมื่อพระเยซูทรงถูกนําโดยพระวิญญาณออกไปที่ถิ่นทุรกันดาร แล้วก็ให้มารมาทดลอง กติกาของการทดลองที่แท้จริงแล้ว ก็คือพระเยซูเสด็จมาในโลกนี้ ในสภาพของบุตรมนุษย์ บุตรมนุษย์ก็คือมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง
แล้วพระเยซูขณะเดียวกันก็มีสภาพเป็นบุตรพระเจ้า บุตรพระเจ้าก็คือพระเจ้าพระภาคพระบุตรที่จะลงมาเกิดเป็นมนุษย์
พูดง่ายๆ ก็คือแท้ที่จริงแล้ว พระเจ้าพระบุตร ไม่ใช่พระบุตรที่เกิดจากพระบิดา แต่พระเจ้าพระบุตรเป็นพระภาคหนึ่งของพระเจ้า ของพระเจ้าทั้งสามพระภาค และสาเหตุที่พระองค์ทรงพระฉายาว่าพระเจ้าพระบุตร ก็คือวันหนึ่งพระองค์จะลงมาบังเกิดเป็นมนุษย์ ก็เลยเรียกว่า "พระบุตร"
• กติกาของการทดลอง ก็คือมารซาตานจะพยายามล่อพระเยซูให้ออกจากสภาพของการเป็นบุตรมนุษย์ มายืนอยู่ในสภาพของการเป็นบุตรพระเจ้า นี่คือกติกา ถ้าหากเมื่อไหร่พระเยซูยกเลิกยอมมายืนอยู่ในฐานะหรือสภาพของบุตรพระเจ้าใช้ฤทธิ์อํานาจเสกหินให้เป็นอาหาร และกระโดดลงจากพระวิหาร การกระทําเหล่านี้ฟ้องว่าพระองค์ใช้ฤทธิ์อํานาจของการเป็นพระบุตรพระเจ้า พระเยซูก็จะแพ้ แต่ถ้าหากพระเยซูยืนอยู่ในลักษณะของบุตรมนุษย์ไม่ใช้อํานาจอะไร เป็นมนุษย์คนหนึ่งเป็นผู้ชายคนหนึ่ง พระเยซูก็จะชนะ
(พระเยซูเสด็จมาและถูกทดลองในฐานะของบุตรมนุษย์)
• เรารู้แล้วว่าพระเยซูเสด็จมาในโลกนี้ ในฐานะของบุตรมนุษย์ และพระเยซูจะครอบครองโลกนี้เป็นกษัตริย์ในฐานะของบุตรมนุษย์ ราชอาณาจักรสวรรค์ที่พระองค์จะครอบครองนั้นเป็นราชอาณาจักร พระเจ้าทรงกระทำไว้กับดาวิดและชนชาติอิสราเอล จะมีผู้ชายคนหนึ่งมาบังเกิดเพื่อเป็นกษัตริย์ครอบครอง
เราจะพบคำว่า บุตรมนุษย์ มากมายในพระคัมภีร์ใหม่ พระเยซูบังเกิดมาเป็นมนุษย์ในสภาพของบุตรมนุษย์ พระเยซูเข้ามาสู่การทดลองในสภาพของบุตรมนุษย์ และมีคุณสมบัติที่พร้อม ชนะการทดลองได้ เพื่อที่จะเป็นกษัตริย์แห่งราชอาณาจักรสวรรค์
และในวันหนึ่งพระเยซูก็จะเสด็จกลับมาในสภาพของบุตรมนุษย์เช่นกัน
และในวันหนึ่งข้างหน้าเมื่อพระเยซูกลับมาแล้วในสภาพของบุตรมนุษย์ก็จะครอบครองจักรวาลครอบครองโลกนี้ในสภาพของบุตรมนุษย์เช่นกัน
ฉะนั้นแล้วกติกาของการทดลองครั้งนี้ ก็คือห้ามพระเยซูออกจากสภาพของบุตรมนุษย์ไปเป็นบุตรพระเจ้า ใช้ฤทธิ์อํานาจเพื่อเสกก้อนหินให้เป็นขนมปัง เพื่อกระโดดลงจากตึกพระวิหาร ลงไปในพื้นและให้ทูตสวรรค์รองรับ
เมื่อซาตานเริ่มทดลองมันก็บอกว่า (ถ้าเจ้าเป็นบุตรพระเจ้า) นี่คือสิ่งที่บ่งบอกให้เรารู้ว่าซาตานต้องการล่อลวงพระเยซูให้มายืนในฐานะสภาพของบุตรพระเจ้า
• มันพูดว่า (ถ้าท่านเป็นบุตรพระเจ้า) ก็จงเสกก้อนหินเหล่านี้ให้เป็นอาหารสิ แต่พระเยซูตอบว่ามนุษย์ มนุษย์ พระเยซูใช้คําว่า มนุษย์ คือยืนกรานยืนยันอยู่ในสภาพของมนุษย์ไม่ยอมเปลี่ยนไม่ยอมไปเป็นบุตรพระเจ้าเพื่อสําแดงฤทธิ์อํานาจ ทั้งๆ ที่พระองค์เป็นบุตรพระเจ้า และบุตรมนุษย์ในเวลาเดียวกัน แต่การเสด็จมาของพระเยซู ก็คือมาในฐานะของ บุตรมนุษย์ เพื่อจะครอบครองโลกนี้เป็นกษัตริย์
• ทีนี้มันแพ้ครั้งหนึ่ง พระเยซูไม่ยอมหลงกลมัน ไม่ยอมไปยืนอยู่ในสภาพของบุตรพระเจ้า มันจึงนําพระเยซูไปที่พระวิหารแล้วก็ให้กระโดดลง มันบอกอีกว่า (ถ้าท่านเป็นบุตรพระเจ้า ถ้าท่านเป็นบุตรพระเจ้า เป็นพระบุตรพระเจ้า กระโดดลงสิ แล้วทูตสวรรค์จะรองรับท่าน) มันล่อให้พระเยซูออกจากสถานะหรือสภาพของบุตรมนุษย์ ไปเป็นบุตรพระเจ้า พระเยซูตอบว่า "อย่าทดลององค์พระผู้เจ้าของท่าน อย่าทดลององค์พระผู้เจ้า" ก็คือคําพูดของมนุษย์คนหนึ่งน่ะ ไม่ต้องทดลองพระเจ้า คือพระเยซูยังยืนกรานยืนยันอยู่ในสภาพของบุตรมนุษย์เหมือนเดิมไม่ยอมเปลี่ยน
ซาตานจึงแพ้ครั้งที่สอง หลอกให้พระเยซูออกจากสภาพของบุตรมนุษย์ไปเป็นบุตรพระเจ้าไม่ได้
• ครั้งที่สามมันจึงเปลี่ยนแผน ซาตานจึงเปลี่ยนวิธีการล่อลวงพระเยซู เมื่อพระเยซูไม่ยอมออกจากตำแหน่งสภาพฐานะของบุตรมนุษย์ไปเป็นบุตรพระเจ้า พระเยซูต้องการที่จะเป็นมนุษย์คนหนึ่งธรรมดา
ทีนี้ซาตานมันจึงพูดว่า การทดลองครั้งที่สาม ซาตานจึงพูดว่า (ดูสิทุกสิ่งในโลกนี้ เราจะให้ท่าน นมัสการเรา) คือมันมองพระเยซูในฐานะของบุตรมนุษย์ และมันบอกว่า (มนุษย์ นมัสการเราสิ กราบไหว้เราสิ แล้วเราจะให้ทุกสิ่งนี้แก่เจ้า) พระเยซูจึงตรัสตอบว่า "จงไปเสียให้พ้น เรานมัสการพระเจ้าองค์เดียวเท่านั้น" นี่คือการยืนยันที่จะเป็นมนุษย์คนธรรมดาคนหนึ่งของพระเยซูคริสต์ตั้งสามครั้ง
• การทดลอง พระเจ้าอนุญาตให้มารซาตานทดลองสามครั้งเท่านั้น ถ้าหากพระเจ้าปล่อยให้มันทดลองต่อไป มันก็จะทดลองต่อไปไม่ยอมหยุด ไม่ยอมเลิก มารซาตานจะไม่ล้มเลิกง่ายๆ และไม่ยอมเปลี่ยนใจ แต่เพราะว่าพระเจ้าไล่มันไป สามครั้งพอ เราก็รู้แล้วว่าการทดลองไม่จําเป็นต้องมีมากมายหลายครั้ง เพียงแต่สามครั้งเราก็รู้ว่าพระเยซูชนะและจะทดลองอีกร้อยครั้งพระเยซูก็จะชนะ
(กษัตริย์ของชาวยิวที่มาตามพระสัญญาของพระเจ้า)
• ทีนี้ทําไมพระเยซูต้องอดอาหารถึง 40 วัน สาเหตุก็คือคนที่จะเป็นกษัตริย์หรือผู้เผยพระวจนะผู้รับใช้ ต้องอดอาหารและต้องมีดีกว่าคนอื่น ไม่ใช่ธรรมดา
เมื่อพระเยซูชนะการทดลอง พระองค์จึงมีคุณสมบัติที่พร้อมสำหรับที่จะเป็นกษัตริย์แห่งราชอาณาจักร
เมื่อพระเยซูชนะการทดลองแล้ว พระเจ้ารับรอง ทูตสวรรค์ก็มาปฏิบัติพระองค์ หลังจากนั้น มัทธิวบทที่ 4:17 กล่าวว่าพระองค์จึงเริ่มออกไปประกาศว่าจงกลับใจเสียใหม่เพราะราชอาณาจักรสวรรค์มาใกล้แล้ว
นั่นคือการเริ่มต้นแสวงหาประชากรแห่งราชอาณาจักร
ปกติแล้วอาณาจักรทั้งหลายในโลกนี้จะมีประชากรราษฎรรออยู่แล้ว เพื่อจะมีคนขึ้นมารับตำแหน่งเป็นกษัตริย์ปกครองครอบครอง (แต่สำหรับพระเยซู ยิวจะปฏิเสธพระองค์)
พระเจ้ารู้ดี เมื่อนั้นพระเยซูจึงออกไปตามหาราษฎรแห่งราชอาณาจักร ก็คือประกาศ ใครที่รับเอาข่าวประเสริฐเรื่องราชอาณาจักร ใครที่ยอมรับพระเยซูเป็นกษัตริย์ คนนั้นก็มีส่วนเป็นราษฎรแห่งราชอาณาจักรในอนาคตต่อไป