ตัวบาป เนื้อหนัง มนุษย์วิญญาณ และวิธีหลุดพ้นจากอำนาจของตัวบาป เราจึงเชื่อฟังพระเจ้าได้โดยไม่ต้องพยายาม
1. เพราะอาดัมทำบาป มนุษย์จึงกลายเป็นคนบาปและเป็น “เนื้อหนัง” (โรม 7:14)
2. เนื้อหนังไม่มีอะไรดีอยู่เลย พระเจ้าไม่รับความดีของเนื้อหนัง (โรม 7:18)
3. เนื้อหนังอ่อนแอ แต่มนุษย์ไม่รู้ตัว (โรม 6:19; 7:15 / ยรม 17:9)
4. เนื้อหนังเป็นเหตุให้ร่างกายนี้กลายเป็นร่างกายแห่งบาป (ว่องไวต่อการทำบาป) และร่างกายแห่งความตาย (อ่อนแอ) (โรม 7:24)
5. เนื้อหนังถูกขายให้ตัวบาปแล้ว (โรม 7:14)
6. ตัวบาปเข้ามาสิงอยู่ในเนื้อหนัง (โรม 5:12)
7. เนื้อหนังกลายเป็นทาสของตัวบาป (โรม 6:17, 20)
8. ตัวบาปเป็นบุคคลเพราะมันสิงสถิตในมนุษย์ได้ (โรม 7:17)
9. ตัวบาปเป็นผู้บังคับจิตใจสั่งให้ร่างกายเราทำบาป เราไม่ได้เป็นคนทำบาป (โรม 7:17-20)
10. ทุกครั้งที่เราจะทำดีเชื่อฟังพระเจ้า เนื้อหนังจะลุกขึ้นมาขัดขวางทันที (โรม 7:21, 23-24)
11. เนื้อหนังไม่สามารถเชื่อฟังพระเจ้าในแต่ละวันได้ เพราะตัวบาปนำกฎแห่งความบาปเข้ามาเพื่อบังคับเราไม่ให้เชื่อฟัง (โรม 7:23)
12. พระบัญญัติเป็นมาโดยพระวิญญาณ (โรม 7:14) แต่ไม่ได้มีไว้ให้มนุษย์วิญญาณรักษา
- มนุษย์วิญญาณไม่ได้อยู่ใต้พระบัญญัติแต่อยู่ใต้พระคุณ (โรม 6:14)
13. ตัวบาปทำลายร่างกายผู้เชื่อไม่ได้ หรือลงโทษผู้เชื่อไม่ได้ มันจึงล่อลวงผู้เชื่อให้รักษาพระบัญญัติ เมื่อเราพยายามจะรักษาพระบัญญัติ เรากลายเป็นเนื้อหนัง ตัวบาปก็ลุกขึ้นขัดขวางชักนำเราให้ทำบาป เมื่อเรารักษาไม่ได้ พระบัญญัติก็เป็นคนลงโทษเรา (โรม 7:14-24)
- หลังเชื่อ คริสเตียนกลายเป็น มนุษย์วิญญาณ แต่ผู้เชื่อส่วนมากไม่เข้าใจเรื่อง มนุษย์วิญญาณดังกล่าว
- เมื่อเรารู้ความจริง และนับทุกวันว่าตาย ตัวเก่าเนื้อหนังก็ตายไปหมดไป ตัวบาปที่สิงสถิตในเนื้อหนังก็ทำอะไรเราที่เป็นมนุษย์วิญญาณไม่ได้ (โรม 6:6) เพราะว่าผู้ที่ตายแล้วก็หลุดพ้นจากตัวบาป (โรม 6:7) เราไม่ได้อยู่ใต้พระบัญญัติแต่อยู่ใต้พระคุณ (โรม 6:14) อยู่ใต้พระคุณคือให้พระคริสต์เป็นผู้ดำเนินชีวิตแทนเราในเรา (กท 2:20)
1. เพราะว่าพระเยซูเชื่อฟังพระเจ้า คริสเตียนจึงได้กลายเป็นคนชอบธรรมและเป็น “มนุษย์วิญญาณ” (โรม 5:19-21/ ยน 3:6) เนื้อหนังถูกตรึงตายแล้วกับพระเยซู เมื่อพระเยซูตายเราก็ตาย (โรม 6:2-12)
2. มนุษย์วิญญาณ เป็นคนใหม่ในพระคริสต์ พระเจ้าจึงพอพระทัยและเมื่อเราถวายชีวิตใหม่นี้แด่พระเจ้า พระองค์ก็ยอมรับ (โรม 6:13)
3. มนุษย์วิญญาณเข้มแข็ง เพราะว่าเรามีพระคริสต์สถิตอยู่ในเราเป็นความหวังแห่งการทำดีเชื่อฟังได้ (คส 1:27)
4. เมื่อเราพบมานาที่ซ่อนไว้ เราเชื่อว่าเราใหม่ และเดินด้วยตัวใหม่ ร่างกายนี้จึงกลายเป็นร่างกายแห่งความชอบธรรมและร่างกายแห่งชีวิต ที่มีพลังมากมายและร้อนรนกระตือรือร้นในการทำดี
5. มนุษย์วิญญาณนี้ ถูกขายให้พระเจ้าแล้ว (1 คร 6:19-20)
6. พระคริสต์เข้ามาสถิตอยู่ในวิญญาณใหม่และจิตใหม่ (โรม 8:10-11, 16 / 2 คร 5:17 / อฟ 3:17)
7. มนุษย์วิญญาณกลายเป็นทาสของความชอบธรรมคือพระคริสต์ (โรม 6:16, 18)
8. พระคริสต์สถิตอยู่ในเรา คือตัวตนของพระเยซูคริสต์ที่ฟื้นขึ้นมาจากความตาย (โรม 8:9)
9. เราไม่ต้องทำดี ไม่ได้ทำดี แต่พระคริสต์ต่างหากที่ดำเนินชีวิตเชื่อฟังพระบิดาในเราผ่านเรา (ฟป 1:21; 2:13 / กท 2:20)
10. เมื่อเราฝึกเดินทุกวัน นานพอสมควร เราจะไม่มีแรงทำบาป ไม่รู้สึกตอบสนองต่อบาป แต่พระวิญญาณพระคริสต์จะนำเราให้เดินในพระวิญญาณเสมอ (ยน 15:5 / ฟป 2:13)
11. มนุษย์วิญญาณและพระคริสต์ในเรา สามารถกระทำทุกสิ่งได้ และง่ายมากที่จะเชื่อฟังพระเจ้า (มธ 19:26)
12. มนุษย์วิญญาณไม่ต้องรักษาพระบัญญัติ เพราะเรามีชีวิตที่อยู่เหนือพระบัญญัติ ธรรมชาติใหม่ของพระคริสต์จะกระทำทุกสิ่งที่เป็นน้ำพระทัยพระบิดา
13. เมื่อเราไม่แตะพระบัญญัติ หรือไม่พยายามทำดีเชื่อฟังพระเจ้า เรียกว่าอยู่ใต้พระคุณ ใต้พระคุณคือพระคริสต์ทำแทนเราในเราในแต่ละวัน
ขณะที่อยู่ใต้พระบัญญัติคือเราต้องพยายามทำดีเชื่อฟังด้วยกำลังของเนื้อหนัง เวลาผ่านไป พระวิญญาณดูการฝึกที่ไม่ท้อในการนับและการสนิทบอกรัก เราก็จะเห็นการก่อขึ้นของพระคริสต์ทั้งการเกิดผลของพระวิญญาณได้มากขึ้นๆ สรรเสริญพระเยซู
เราไม่ได้ทำบาปแต่ตัวบาปเป็นคนทำในเราผ่านเรา และเราก็ไม่ได้ทำดีเชื่อฟังแต่พระคริสต์ต่างหากที่ทำในเราผ่านเรา เราเป็นแค่ภาชนะที่ยอมให้พระคริสต์ดำเนินชีวิตเพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า