ถาม.
ขอถามค่ะอย่างดิฉันมาอยู่กับลูก แล้วลูกมีห้องพระก็คือห้องนอนนั่นแหละแต่มีหิ้งพระใหญ่ แล้วเขาก็เอาผ้าบังไม่ให้เห็น แต่ว่าเป็นห้องเดียวกันที่จะให้แม่นอนน่ะ แล้วพอเราเข้าไปนอน เรามาเชื่อพระเจ้าเนาะแล้วให้เราไปนอนในห้องพระ แล้วเรา อธ. ทุกวันแต่หัวใจมันหนักมากหนักหัวมากแล้วก็ไม่ค่อยสบายบ่อย แล้วลูกก็ให้ไปฉีดยาบำรุง ก็ไปฉีด เขาก็ถามแม่ดีขึ้นไหม ตัวร่างกายน่ะไม่เจ็บแต่มันหนักมันไม่เบาอ่ะมันหนักหัวหนักตัวมันบอกไม่ถูกอ่ะค่ะ แล้วก็บอกกับลูกว่ามันหนักหัวมันเป็นอะไรก็ไม่รู้มันหนักแต่หัว ลูกให้อาบน้ำร้อนดูมันก็ไม่หายมันหนักเหมือนเดิม หนักไปหนักมาก็ อธ.ว่าเราเป็นลูกพระเจ้า สิ่งที่มันไม่ใช่ของจริงมันไม่สามารถทำอะไรเราได้ เราก็ อธ.กับพระเจ้าแบบนี้ แต่มันก็ดีแป๊บๆ พอเรานอนอยู่ในห้องนั้นทุกวันๆ มันก็หนักหัวหนักอยู่ทุกวัน
แล้วพอพัดลมมันพัดผ้าเปิดไปเห็นตรงรูปเคารพ เรารู้สึกมันสะอิดสะเอียนมันจะอ้วก แล้วอยู่ได้ 1 เดือนแล้วร่างกายมันไม่ไหว อธ. ก็ไม่ไหว ไปห้องประชุมพี่น้องอธิษฐานเผื่อ กลับมาก็ปวดหัวเหมือนเดิม แล้วตอนนี้รู้สึกว่าพระเจ้าผ่านลูกสะใภ้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ลูกสะใภ้บอกว่าแม่ไม่หายถ้างั้นเดี๋ยวเปลี่ยนห้องให้แม่นะ คือห้องใหม่ห้องไม่มีหิ้งพระ ปรากฏว่าตอนนี้ขอบคุณพระเจ้าค่ะการหนักหัวนี้ไม่มีเลยค่ะมันหายไปหมดเลย นอนห้องใหม่ห้องที่ไม่มีหิ้งพระอ่ะ มันหายมันเบามันโล่งค่ะ แต่ว่ามันมีความคิดที่มองเห็นตอนนี้ ขออาจารย์เผื่อด้วยค่ะ
ตอบ.
เดี๋ยวอีกไม่นาน เดี๋ยวอีกไม่นานก็จะผ่านไปนะครับ แต่สิ่งที่สำคัญผมอยากหนุนใจพี่น้องทุกท่าน เมื่อมีญาติหรือคนในบ้านของเราที่ไม่เชื่อแล้วเขาจัดที่นอนให้เรานอนในห้องเดียวกัน อาจจะมีผ้าม่านกั้นก็ตามนะครับ แต่เราไม่ควร ไม่ควรที่จะนอนห้องนั้นเป็นอันขาด
1. ถ้าหากความเชื่อของเราไม่ถึง มาไม่ถึงการสุกงอม หรือมาไม่ถึงการเป็นหนุ่มในความเชื่อ เราจะโดนเล่นงานนะครับ เราจะไม่ปลอดภัย แล้วเราเองจะมีอาการนู่นนี่นั่นเกี่ยวกับร่างกายของเรา แล้วจิตใจของเราด้วยกระทบกระเทือนด้วย แต่ส่วนวิญญาณเนี่ยก็คือทำอะไรเราไม่ได้เพราะว่าพระเจ้าสถิตอยู่ แต่เราจะอยู่ในห้องเดียวกันกับพระคือเป็นไปไม่ได้ ไม่ควรทำนะครับ อันตรายมากนะครับ
และสำหรับคนที่สุกงอมแล้ว เป็นผู้ใหญ่ในฝ่ายวิญญาณแล้ว ถ้าจะไปนอนในห้องที่มีพระ ซึ่งอาจจะมีผ้าม่านกั้นก็ตาม อันนี้จะทำอะไรผู้เชื่อที่สุกงอมไม่ได้ แต่ปัญหาจะเกิดขึ้นกับคนที่อยู่ในบ้านที่ไม่เชื่อนะครับ มันจะไปเล่นงานคนที่เป็นญาติเรา
เพราะฉะนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุด หลีกเลี่ยงได้ก็หลีกเลี่ยง อย่านอนในห้องที่มีพระนะครับ
“พระเยซู เราทั้งหลายรักพระองค์ เอเมน ขอบคุณพระองค์สำหรับแนวทางชีวิตที่พระองค์วางไว้เพื่อเราจะดำเนินชีวิตตามน้ำพระทัยของพระองค์ แล้วขอบคุณสำหรับพี่น้องที่พระองค์เลือกนำมาสู่พระคำแห่งความจริง แล้วขอบพระคุณที่ผ่านการทดลองมากมาย แล้วสิ่งไหนที่ลูกบุตรของพระองค์ไม่รู้ไม่เข้าใจ ขอทรงเมตตายกโทษ แล้วขอการนำพาขอการรักษาขอการลบล้างชำระจิตใจไม่ให้คิดถึงไม่ให้มีผลกระทบในวันข้างหน้าต่อไป พระเยซูพวกเรารักพระองค์เอเมน”
ถาม.
ขออนุญาตถามค่ะเรื่องงานศพนะคะ ช่วงอาทิตย์ที่แล้วพี่ชายของคุณพ่อเสีย แล้วทีนี้เราก็ไปร่วมงาน แต่ก็ไม่ได้มีการร่วมในการพนมมือไหว้ หรือว่าทำอะไรที่เกี่ยวกับกราบไหว้รูปเคารพ หรือว่าทานอาหารในบ้านงานศพ เราก็จะระมัดระวังตัวอย่างมากเลย แต่ทีนี้พอดีว่ากลับมาบ้าน แต่มีอาการแบบแน่นหน้าอกก็คือเหมือนกับว่าหายใจไม่ออกนะคะแล้วก็ปวดท้องอย่างหนักเลยค่ะ คือกลับมาบ้านแล้วก็นอนก็เกิดอาการแบบนี้ แต่เราก็ได้อธิษฐานกับพระเจ้าสารภาพบาปในสิ่งที่บางทีลูกอาจจะเผลอทำความผิดบาปโดยที่ไม่รู้ตัวนะคะ พอสารภาพบาปเสร็จแล้วไม่นานก็หายค่ะ ก็เลยไม่ทราบว่าเกิดจากสิ่งที่เราไปร่วมงานอะไรหรือเปล่า แต่ว่ามันจำเป็นนะคะก็ต้องไปนะคะ
ตอบ.
เมื่อเราไปร่วมกับพี่น้องกับญาติที่เขาไม่เชื่อ แล้วทำพิธีทางศาสนาของเขา แน่นอนครับจะมีผลกระทบถึงความเชื่อของเราถึงร่างกายของเรา อาการอ้วกเนี่ยมาแล้วนะครับ แล้วก็อาการปวดท้อง อาการปวดหัว อาการปวดอะไรบางอย่างที่เกิดขึ้นเนี่ย คือเป็นผลที่ได้มาจากที่เราไปร่วมนะครับ
สิ่งที่สำคัญเรากลับมานะครับ สารภาพบาป ขอการชำระ ขอให้เรากลับมาอยู่ในความบริสุทธิ์เหมือนเดิม เอเมน
นานมาแล้วที่ผมเคยไปอยู่บ้านของคุณแม่ ซึ่งมีพระเต็มไปหมดนะครับในที่แห่งหนึ่ง อยู่ข้างๆ กับห้องที่ผมนอนอยู่ แล้วก็ปรากฏว่าคือขอบคุณพระเยซู คือไม่เคยฝันร้าย ไม่เคยฝันอะไรเลย เพราะว่าผมเมื่อเข้าไปดูปุ๊บเนี่ยผมก็บอกว่า นี่คืออาณาเขตของพระเจ้า อาณาเขตของอาณาจักรของพระเยซู อาณาเขตของอาณาจักรสวรรค์ อยู่ใครอยู่มัน แล้วก็ผมก็ไม่คิดจะขับไล่ไม่อธิษฐานอะไรทั้งนั้น ก็คืออยู่ใครอยู่มัน เพราะว่าผมรู้ว่าคุณแม่ น้องๆ หลาน เขาอยู่ตรงนั้น ถ้าผมทำอะไร ซึ่งผมปลอดภัยนะครับแต่เขาจะไม่ปลอดภัย
เพราะฉะนั้นการที่เราอยู่กับญาติ กับคนที่ไม่เชื่อ อยู่ในบ้านหลังเดียวกัน เราทำอะไรก็ได้เพื่อไม่ให้เราเดือดร้อนและเพื่อไม่ให้เขาเดือดร้อน ต้องคิดถึงเขาด้วยคิดถึงเราด้วย เพราะฉะนั้นการไม่ก้าวก่ายกันและกัน การที่จะอยู่ใครอยู่มัน เป็นสิ่งที่ดีที่สุด เราไม่ต้องอธิษฐานขับไล่ เราไม่ต้องไปทำอะไร เราเดินผ่านนะครับเราเห็นเราก็เฉยๆ เดินผ่านไปเฉยๆ
ซึ่งคริสเตียนหลายคนนะครับเมื่อเห็นสภาพแบบนี้อธิษฐานขับไล่ใหญ่เลย สุดท้ายคนที่เป็นเจ้าของบ้านหรือคนที่อยู่ในบ้านซึ่งไม่เชื่อ ที่เป็นญาติเราก็เดือดร้อน อันนี้ขอให้ระมัดระวัง
การอยู่ร่วมกับคนที่ไม่เชื่อ คนละศาสนากับเรา เป็นสิ่งที่เราต้องระมัดระวังความเดือดร้อนผลกระทบที่จะได้รับ เขาอาจได้รับหรือเราอาจได้รับนะครับ
การที่จะอยู่อย่างสันติ สงบทั้งสองฝ่าย ก็คืออยู่ใครอยู่มันครับ เอเมน