เราอยากให้เนื้อหนังชนะ เราก็ไม่เดินในพระวิญญาณ ไม่ดำรงอยู่ในพระวิญญาณ ไม่ปักใจในพระวิญญาณ ไม่พูดคุย ไม่บอกรัก ไม่สนทนา ไม่อธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ เราแพ้แน่นอน
และการฝึกของเรา การปักใจในพระวิญญาณ การสนิทบอกรัก พูดคุย สนทนา สะสมมานาฯ ก็คือทำให้พระเจ้าชนะ และพระเจ้าทำกิจในเรามากยิ่งขึ้น สุดท้ายเราก็ทำบาปน้อยลง น้อยลงๆ
และเมื่อเราฝึกนานเข้านานเข้า สิ่งที่เราจะเห็น ก็คือพลังของพระเจ้าชีวิตของพระเจ้าจะครอบคลุมเรา สุดท้ายเราก็กลายเป็นผู้ชนะ แต่เรื่องนี้ต้องใช้เวลา (ต้องใช้เวลา)
บางคนนานหลายปี 2-3 ปีเห็นผล 4-5 ปีทำบาปน้อยลง 6-7 ปีทำบาปน้อยลง น้อยลงๆ สุดท้ายก็คือเป็นผู้ชนะ นานๆ ทำบาปทีนึง นานๆ เผลอทีนึง นี่คือพระคุณพระเจ้าที่พระองค์ต่อสู้กับตัวบาปเนื้อหนังในเรา ผู้ชนะแน่นอนว่าก็คือพระเจ้า ซาตานตัวบาปกฎแห่งบาปชนะเราไม่ได้ เพราะว่าพระวิญญาณมีพลังที่ยิ่งใหญ่ มีชีวิตที่ยิ่งใหญ่กว่า
สุดท้ายเราจะเห็นว่าข้อที่ 18 ถ้าหากพระวิญญาณทรงนำพวกท่าน พวกท่านก็ไม่ได้อยู่ใต้พระบัญญัติ ถ้าจะพูดต่อก็คือแต่อยู่เหนือพระบัญญัติ
เหนือพระบัญญัติคืออะไร.. คือทำได้ทุกสิ่ง รักพระเจ้าได้สุดจิตสุดใจ รักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง รักศัตรู รักทุกคน เอาความรักนำหน้า เอาความรักเป็นใหญ่ เอาอากาเปมาเลย เป็นรักไม่มีเหตุผล ไม่มีเงื่อนไข ไม่มีขีดจำกัด เอเมนพระเยซู
สำหรับผมผมชื่นชมยินดี ผมขอบพระคุณพระเจ้า คือกระโดดโลดเต้นดีใจมากเมื่อได้พบกาลาเทีย 5:16 จงดำเนินชีวิต ก็คือจงดำรงชีวิตในพระวิญญาณ และพวกท่านจะไม่สนองตัณหาของเนื้อหนัง เป็นทางออกที่พระเจ้าจัดเตรียมไว้ให้เรา
และอีกอย่างคือถ้าเราอยากจะพยายามเลิกทำบาป ก็คือการที่เรากลับไปเป็นเนื้อหนัง เมื่อเรากลับไปเป็นเนื้อหนังมีอะไรเกิดขึ้น... ตัวบาปก็มา กฎแห่งบาปก็มา กฎแห่งความตายก็มา ทุกสิ่งที่เป็นชีวิตเก่า เนื้อหนังอาดัม ความอ่อนแอ การพ่ายแพ้ก็จะมีเต็มในเราแน่นอน
เพราะฉะนั้นที่เราใช้คำพูดที่ว่า ก็ทำบาปต่อไป คือไม่ได้อยากทำ ความหมายคือไม่ได้อยากทำ แต่ถ้าหากเราจะพยายามไม่ให้ทำบาปด้วยเนื้อหนัง เราก็จะกลับไปเป็นเนื้อหนัง และเราก็จะถูกตัวบาปเอาชนะเราได้ คือจะกลับไปเป็นคนแพ้ พูดง่ายๆ คือก็เลยจำเป็นที่จะต้องปล่อยตัว แต่หลังจากที่เราปล่อยตัวแล้วเราทำบาปแล้วเราถูกตีสอน ก็คือเราโอดครวญคราง ขอพระเจ้า "พระองค์ ข้าพระองค์ไม่อยากกลับไปทำบาปซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีก ขอพระองค์เมตตาข้าพระองค์ด้วย"
อย่าลืมน่ะว่าพระเจ้าทำงาน พระเจ้าทำงาน พระเจ้าทำงาน เอเมน พระองค์ทำงาน พระองค์ไม่เคยปล่อยทิ้งเราไว้ให้ทำบาป ถ้าหากเรามีจิตใจร้อนรนกระตือรือร้นอยากเลิกทำบาปจริงๆ พระองค์อยู่ที่นี่ แล้วก็คอยช่วยเราและพยายามช่วยเราและพระองค์ทำงานหนักเพื่อช่วยเรา สรรเสริญพระเยซู
ถาม.
ก็คือระยะที่เรายังเลิกมันไม่ได้ เราพอถึงเวลาที่เราจะต้องทำ เราก็ต้องทำใช่ไหมครับ แล้วก็ทางออกเป็นยังไงครับ เอเมนครับ
ตอบ.
ถ้าเป็นไปได้นะครับ ก็คือทำในที่ ที่ไม่มีคนเห็นเพื่อไม่ให้เขาสะดุด แล้วก็สารภาพ สารภาพกับพระเจ้า ด้วยความเสียใจนะครับ ไม่ใช่สารภาพเฉยๆ ด้วยความเสียใจ และจริงจังจริงใจกับเรื่องนี้ แล้วบอกกับพระเจ้าว่า "ข้าพระองค์ไม่ต้องการที่จะทำมันอีก ขอชำระในจุดนี้ ในส่วนนี้ ในจุดบกพร่องข้อนี้ที่ข้าพระองค์ยังทำอยู่ ขอพระองค์เมตตา"
หลังจากนั้นนะครับ เมื่อเราสารภาพ แน่นอนที่สุดพระเจ้าจะทำงาน แล้วก็รอเวลาอาจจะไม่ใช่เร็วๆ ไม่ใช่เร็วๆ นี้ แต่สิ่งที่สำคัญ ก็คือเราปักใจ ดำเนินดำรงอยู่ในพระวิญญาณอยู่สม่ำเสมอ นับตายถวายตัวใหม่ตลอดเวลา เรื่องการตีสอนมีแน่นอนแต่จะเบา พระเจ้าจะตีสอนเราร้อยนึง
การสารภาพด้วยความจริงจังจริงใจเสียใจจะทำให้พระองค์ลดเหลือ 20-30-40-50 แล้วแต่น้ำพระทัยของพระเจ้าครับ แล้วแต่ว่าเราจะรับได้มากน้อยแค่ไหน พระองค์รู้นะครับว่าเรามีขนาดการรับน้ำหนักของการลงโทษของพระเจ้าเท่าไหร่ ชีวิตของเราพระเจ้าก็เข้าใจ
ความหมายก็คือทำต่อไป แต่ด้วยความที่เราไม่ได้อยากทำ แต่ไม่อยากเป็นเนื้อหนัง ก็ทำ แล้วก็รีบมาสารภาพเข้ามาทางพระโลหิต ไม่ต้องฟ้องผิดนะครับอย่าฟ้องผิด เข้ามาทางพระโลหิต แล้วก็สนิทในพระองค์ ปักใจ ดำเนินดำรงชีวิตในพระวิญญาณต่อไป
จำได้ไหมพระโลหิตมีคุณสมบัติอย่างหนึ่งที่พระองค์ตั้งไว้นะครับ ก็คือการที่ไม่ให้เราฟ้องผิด เมื่อเราสารภาพปุ๊บ พระเจ้าก็ลืมมันแล้ว พระเจ้าจำไม่ได้นะ ว่าเราเมื่อกี้เราทำอะไร 2 นาทีผ่านมาเนี่ยเราทำอะไร เมื่อเราสารภาพพระเจ้าก็ยกโทษและลบล้างด้วย
คำว่า ลบล้าง ภาษาอังกฤษก็คือ delete หรือ erase ก็คือลบล้างมันไปจำไม่ได้ เพราะฉะนั้นห้ามเราฟ้องผิด การฟ้องผิดจะทำให้เรากลับไปสู่ความอ่อนแอ ความน้อยใจ ความเสียใจ ทุกสิ่งที่เป็นเนื้อหนังก็จะเข้ามาใหม่เข้ามาเอาชนะเราได้อีก
...
ถาม.
ถ้าผมทำบาปวันนี้ แล้วผมสารภาพปุ๊บเสร็จเรียบร้อย วันต่อมาผมมีความคิดอยู่ในหัวว่า วันนี้เราแบบประมาณลักษณะว่าถ้าเจอบาปตัวนี้เราจะไม่ทำบาปแน่นอน เรามีความรู้สึกว่าเรามีความสบายใจ เราจะไม่ทำเราจะไม่ทำแน่นอน เสร็จแล้วเราพอถึงตอนเย็น เราเจอบาปตัวนี้ปุ๊บ เราก็เลือกที่จะไม่ทำมัน แบบนี้เราอยู่ใต้พระบัญญัติไหมครับ เอเมนครับ
ตอบ.
เราเลือกที่จะไม่ทำมัน และพระวิญญาณบริสุทธิ์นำเราให้ชนะมันได้ ไม่ทำได้ ก็คือการทำกิจของพระเจ้าที่อยู่ในเราแล้วครับ คำว่า เลือกที่จะไม่ทำ หรือไม่อยากทำ หรือไม่ทำ อันนี้เป็นผลของพระวิญญาณครับ
แต่ถ้าสมมุติว่า ถ้าสมมุติว่าวันนี้นะครับเราสารภาพ แล้วปรากฏว่าพรุ่งนี้เราทำใหม่หรืออีกชั่วโมงหนึ่งต่อมาเราไปทำอีก ไม่ต้องน้อยใจครับ เพราะว่านี่คือกระบวนการการก่อขึ้นของพระวิญญาณที่อยู่ในเรา "พระเจ้าใช้เวลา เราใช้การสนิท การบอกรัก การพูดคุย สนทนา สะสมพระคำที่เป็นความจริงเพื่อการชำระนะครับ"
เราทำมันก็จำเป็นนะครับคือจำเป็นนะครับ การที่จะเป็นผู้ชนะก็เหมือนต้นไม้ที่ต้องใช้เวลาเพื่อเติบโตเห็นผล เห็นผลเยอะๆ ใช่ไหมก็ต้องรอเวลานะครับ พระเจ้าเป็นคนรดน้ำนะ เราเป็นต้นไม้ที่ปลูกที่พระเจ้าปลูกแล้วพระองค์รดน้ำ กว่าจะเกิดผลเนี่ยต้องใช้เวลานานหลายปี
...
ถาม.
อยากจะถามเรื่องสงคราม จิตศาสตร์ เพราะว่าบางครั้งเวลาฝึกคือฟังฟังอยู่ค่ะ บางทียังไม่เข้าใจทั้งหมดนะคะ เพราะว่าในส่วนตัวรู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนสองใจ คือตอนที่เราสนิทนะคะจะบอกรักพระเยซูสนิทในพระเยซู แต่ในความคิดหนึ่งทำไมมันยังไปคิดเรื่องทางโลกนะคะ ก็พยายามบังคับอยู่ในพระคริสต์นะ อยู่ในพระคริสต์นะ เราถูกชำระแล้ว ตายแล้ว แต่ก็ยังมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนใจหนึ่งก็ยังคอยคิดเหมือนคล้ายๆ จะแย่งชิงจิตใจนะคะ พยายามจะดึงเราออก เหมือนกับสองจิตที่กำลังต่อสู้กัน คือบางครั้งไม่เข้าใจว่าทำไมเกิดขึ้นอย่างนี้อยู่ในใจของเราคะ
ตอบ.
เราจำกันได้ไหม เรื่องมนุษย์ภายใน และมนุษย์ภายนอก
มนุษย์ภายใน มีพระวิญญาณอยู่ในเรา มีพระบิดา พระบุตร พระวิญญาณบริสุทธิ์อยู่ในเรา
ส่วนมนุษย์ภายนอก ก็ยังมีเนื้อหนัง ตัวบาป กฎแห่งความบาป กฎแห่งความตาย แล้วสองฝ่ายนี้ต่อสู้กัน
ที่คำว่า ใจหนึ่งก็บอกรักสนิท ก็คือฝ่ายพระเจ้าเป็นคนทำกิจในเราแล้ว แต่ปรากฏว่าตอบสนองกิเลสตัณหาโลภโกรธหลงยังรักในโลก ยังรักในเนื้อหนังสิ่งที่เป็นของโลกอยู่ นี่คืออีกใจหนึ่ง ก็คือตัวบาป ก็คือเนื้อหนังที่ยังรักโลก
แล้วอย่าลืมนะครับว่าสองฝ่ายนี้ต่อสู้กันอยู่ ไม่ต้องแปลกใจสองฝ่ายนี้ต่อสู้กันอยู่ แล้วเราเป็นคนที่อยากให้พระเจ้าชนะและพระเจ้าชนะมากขึ้น มากขึ้น มากขึ้นในเรา ก็คือเราเน้นที่การ เปาโลพูดว่ากาลาเทีย 5:16 จงดำรงอยู่ในพระวิญญาณ จงดำเนินอยู่ในพระวิญญาณ เพื่อท่านจะไม่ตอบสนองตัณหาของเนื้อหนัง
ถ้าหากใจหนึ่งเรายังรักโลกยังรักฝ่ายเนื้อหนังอยู่ ไม่ต้องน้อยใจ ปล่อยให้เป็นการเอาชนะเป็นการทำงานของพระเจ้า ไม่ใช่หน้าที่ของเรา หน้าที่ของเราก็คือสนิท
สำหรับผมเมื่อก่อนนะครับผมจะบอกเลย ชอบก็ชอบไป รักก็รักไป รักโลกชอบโลกไป ไม่นานหรอกแกจะแพ้ ถ้าเราพูดแบบนี้ ก็คือการมั่นใจเชื่อมั่นในอำนาจของพระเจ้าในการทำงานในความจริงของพระเจ้าที่สัญญาไว้ในกาลาเทีย 5:16-17 แล้วสุดท้ายแน่นอนครับพระเจ้าชนะ พระเจ้าเป็นผู้ชนะอยู่แล้ว เอเมน
...
ถาม.
ที่อาจารย์บอกว่า พระองค์พระเจ้าเป็นผู้ทำให้เกิดผลอ่ะค่ะ กรณีที่ผู้เชื่อเดินในทางของพระองค์เดินตามน้ำพระทัยสนิทบอกรักพูดคุย แล้วก็เกิดสิ่งอะไรมากมายที่พระองค์ทำกิจในตัวเรา แล้วทำให้เกิดผลมากมายซึ่งเราก็รู้ แล้วเป็นไปได้ไหมคะว่าการเอาชนะบาปการเลิกทำบาป จะไม่เป็นระยะเวลาเท่าถึงอาจารย์เปาโล ที่อาจารย์บอกว่าใช้เวลา จะมีการชำระบาปได้ในกรณีพิเศษไหมคะ
ตอบ.
คือสำหรับผู้เชื่อที่มีกรณีพิเศษ ก็คือพระเจ้าให้เขานะครับใช้เขานะครับให้ดำเนินชีวิตเพื่อเอาชนะบาป เพื่อถวายเกียรติแด่พระองค์ มีครับ.
บางคนที่อาจจะไม่ต้องผ่านคริสตจักรศาสนาหรือกลายเป็นคริสเตียนศาสนามาก่อน อยู่ดีๆ พระเจ้าก็รับเขามาเพื่อเปิดตา เพื่อพระองค์ได้รับเกียรตินะครับเป็นกรณีพิเศษ
สำหรับการที่จะเป็นผู้ชนะที่เป็นตามกำหนดเวลาของพระเจ้า อันนี้เป็นสิ่งที่เราผู้เชื่อทุกคนควรจะมีประสบการณ์
สำหรับผู้ที่พิเศษ ก็คือเอเมนสำหรับเขานะครับ แต่เราเนี่ยคือจำเป็น มันมีความจำเป็น ถ้าหากเราตกต่ำเท่าไหร่ เราอยู่ในคริสเตียนศาสนานานเท่าไหร่ เราเจ็บปวดมากเท่าไหร่ ถูกทุบตีโดยพระบัญญัติมากเท่าไหร่ เราก็จะซาบซึ้งถึงพระคุณพระเจ้า เอเมนไหมครับ เราจะเห็นนะครับว่า..โอ้พระคุณพระเจ้าคือยิ่งใหญ่มาก เป็นสิ่งสำคัญมาก
แล้วอันนี้ผมก็รับประกันนะครับ คือถ้าผมจะถามพี่น้องที่รับมานาฯ หรือพวกเราตอนนี้ที่ร่วมสามัคคีธรรมกันอยู่ เราเห็นผลกันไหมที่พระเจ้าทำแทน ไม่มากก็น้อยเราเห็นกันแล้วใช่ไหม นี่คือการกระทำกิจของพระเจ้าที่ได้มาจากการ... เราใส่ใจในการฝึกครับ
ถ้าหากพี่น้องบางคนบอกว่า รับมานาฯ มานานหลายปี สนิทบอกรักพูดคุยกับพระเยซู สะสมมานาฯ มานานหลายปี แต่ไม่เห็นมีอะไรเลยก็ยังเหมือนเดิมเท่ากับตอนที่เป็นคริสเตียนศาสนา แสดงว่าการรับมานาฯ ของเราไม่ใช่แล้ว ไม่ใช่การเปิดตาของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เป็นการรับความรู้เฉยๆ เรื่องมานาที่ซ่อนไว้เป็นเรื่องของการเปิดตา เป็นเรื่องของตา
สรุปนะครับ ชีวิตคริสเตียนมีเรื่องเดียวที่สำคัญ จำได้ไหมพระเยซูบอกตั้งแต่ตอนแรกในมัทธิวบทที่ 6 ตาเป็นความสว่าง ตาเป็นดวงสว่าง เป็นประทีป เป็นหลอดไฟของร่างกาย ถ้าหากตาบอดก็จะมองไม่เห็นอะไร เดินไปไหนก็ไม่ได้ คือมันอยู่ยากมาก เราเคยอยู่ในความมืดกันไหม จะงมหาอะไรจะจับอะไรจะทำอะไรมันก็ยาก จะเอาปลั๊กไปเสียบเพื่อชาร์จแบตเรามันก็ยากใช่ไหม ถ้าไม่เปิดไฟไม่มีไฟฟ้าไม่มีแสงสว่าง คือมันยากมากนะครับการดำเนินชีวิตคริสเตียนศาสนา
แต่พอเราได้รับการเปิดตา ก็คือมีความสว่างเข้ามา ตาที่ถูกเปิดนะครับก็จะเห็นทำอะไรก็ง่าย แล้วสุดท้ายนะครับ ถ้าเห็นครบ คือทุกสิ่งมันง่าย ง่ายไปหมดเลย สรรเสริญพระเยซู เรามาถึงคำว่า แอกเบา ภาระเบา กางเขนเบา อยู่ในการพักผ่อนจริงๆ แล้ว
เพราะฉะนั้นเมื่อเราได้ยินมานาฯ ได้ฟังมานาฯ เป็นสิ่งที่ดีนะครับ พระวิญญาณบริสุทธิ์นำเรามาไม่ใช่บังเอิญ แต่สิ่งต่อไปที่เราควรจะทำนะครับ ก็คือขอพระวิญญาณเปิดตาข้าพระองค์ให้เห็นความจริง ข้าพระองค์จะไม่เอาหูฝ่ายเนื้อหนัง เอาความคิดสติปัญญาของอาดัมมาใช้ แต่ขอพระองค์เป็นคนอธิบาย เป็นคนเปิดเผย เป็นคนนำข้าพระองค์ที่จะได้เห็นความจริงที่ซ่อนไว้อยู่ โดยการแบ่งปันของพี่น้องทั้งหลายของคริสตจักรของพระกายเที่ยงแท้ สุดท้ายนะครับพระเจ้าก็จะเปิดให้เรา เอเมน
เป็นเรื่องปกติที่คริสเตียนเราต้องการที่จะเลิกทำบาป เป็นเรื่องปกติ สำหรับเราแต่ละคนและผมเองตอนที่เป็นคริสเตียนใหม่ๆ เราเน้นที่อยากทำดี อยากเชื่อฟังพระเจ้า อยากรักษาพระบัญญัติ อยากถวายสิบลด อยากทำทุกสิ่งให้เป็นที่พอพระทัยพระเจ้า เพื่อพระเจ้าจะดีใจ แล้วเราเองก็ปลื้มนะครับว่าเราเป็นคริสเตียนที่ดีเป็นลูกที่ดีของพระเยซู
แต่ความจริงมันไม่ได้เป็นแบบนั้น เราล้มเหลว เราแพ้ทุกคนนะครับ พระเจ้าทำให้เราแพ้ เพราะว่าพระเจ้าบอกว่านั่นไม่ใช่วิธีของเราที่จะนำเจ้ามาเพื่อเป็นบุตรของเรา เรานำเจ้ามาเพื่อเปิดตาเจ้าให้เห็นว่าตัวเก่าของเจ้าตายแล้ว และการใช้ชีวิตอยู่ทุกวันนี้ ก็คือคนใหม่ตัวใหม่ที่พระองค์เป็นคนประทานให้ และพระองค์เป็นคนทำทั้งหมด
ตั้งแต่ภายนอกจนถึงภายใน ตั้งแต่เท้าจนถึงศีรษะ คือพระองค์เป็นคนทำทั้งหมด ไม่มีคำว่า เราทำ ไม่มี พระเจ้าเป็นคนทำทั้งหมด
หน้าที่เรานะครับสิ่งเดียว ก็คือเอ่ยปาก พูด ใช้ลิ้นของเรา "เอเมนพระเยซูข้าพระองค์รักพระองค์ เอเมนข้าพระองค์ตายทุกวัน เอเมนข้าพระองค์เป็นคนใหม่ เอเมนพระองค์เอาไปใช้เลยอวัยวะทุกส่วนในชีวิตของข้าพระองค์ เพื่อถวายเกียรติแด่พระองค์" แค่พูดนะครับ เราดีแต่พูดนะครับ แต่พระเจ้าดีแต่ทำ เอเมน
ถาม.
ก็คือเราเป็นคนใหม่แล้วเนี่ยกับพระเยซู คนใหม่กับพระเยซู เราอยู่ในตำแหน่งตรงไหนครับ เราอยู่ข้างๆ พระเยซู หรือว่าเราอยู่ร่วมกันกับพระเยซู หรือว่าเราอยู่เป็นหนึ่งเดียวกับพระเยซูครับ คือเราอยู่ตรงไหนครับเอเมนครับ
ตอบ.
ทุกวันนี้วิญญาณของเรากับวิญญาณของพระเยซูเป็นอันเดียวกัน ไม่ใช่สอง คืออยู่ในพระองค์ พระองค์อยู่ในเรา ติดกันแล้วนะครับ เป็นหนึ่งเดียวเลยนะครับ ถ้าเอาทองคำมาหลอมมาเผาไฟ ถึงจุดความร้อนสุดๆ มันถูกเผาไหม้มันก็จะละลายใช่ไหม และสุดท้ายมันก็เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ในโรมบทที่ 8 บอกว่าเรากับพระคริสต์พระวิญญาณเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
คำว่า อันหนึ่งอันเดียวกัน ไม่ใช่ว่าอยู่ใกล้ๆ กัน อยู่ด้วยกัน แต่คือเป็นหนึ่งเลย เป็นหนึ่ง ถ้าหากเราเชื่อว่าพระองค์เป็นหนึ่งในข้าพระองค์ ถ้าหากเราเชื่อว่าพระองค์อยู่ในข้าพระองค์ และพระองค์อยู่ในเรา เราอยู่ในพระองค์ ความจริงก็จะปรากฏครับ เราจะเห็นว่านิสัย ชีวิต คุณสมบัติ บุคลิก มันจะมีสิ่งหนึ่งนะครับที่ปรากฏออกมา แล้วเราก็จะแปลกใจว่าเอ๋.. ทำไมเราไม่ได้ชอบที่จะยิ้ม ทำไมเราไม่ได้ชอบที่จะรักใคร ทำไมเราไม่ได้ชอบที่จะเมตตาใคร คือมันเกินไปมันไม่ชีวิตเราแล้ว เราจะรู้สึกว่ามีอาการแบบนี้บ่อยเป็นประจำ เพียงแต่เราเชื่อนะครับว่าพระองค์กับเราเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแล้ว
สำหรับผมตอนแรกที่ได้รับมานาฯ ก็คือผมเป็นคนที่ไม่เชื่ออะไรใครง่ายๆ คำพูดของใคร การเขียน การอะไรก็แล้วแต่ ผมจะถามนะครับว่า ตายกับพระเยซูเนี่ย ตายเมื่อไหร่ ตายยังไง ตายแล้วได้อะไร แล้วตายแบบไหน ก็จะไปค้นนะครับ ค้น สุดท้ายคือการนับของเรา การเชื่อของเรา การกระทำทุกสิ่งของเราทุกวันนี้ อยู่บนพื้นฐานของการได้รับความรู้ที่ครบไม่สงสัย เราจึงนำมาฝึกได้
แต่ถ้ามีคนมาบอกนะครับ เราต้องนับตายถวายตัวใหม่ แล้วพี่น้องก็นับตายถวายตัวใหม่ โดยที่ไม่กลับไปค้นหาความจริง ความรู้ที่อยู่เบื้องหลังของคำว่าตาย และถวายตัวใหม่ ตายยังไง ตายเพื่ออะไร ตายแล้วได้อะไร ตายจากอะไร สิ่งเหล่านี้นะครับเป็นสิ่งที่สำคัญเมื่อเราได้รับพื้นฐานรากฐานของความรู้เหล่านี้ มันจะช่วยเรานะครับให้มีความเชื่อที่เท่าเมล็ดผักกาดของพระเยซู ยิ่งใหญ่มากนะ เป็นความเชื่อที่ยิ่งใหญ่มาก แต่สำหรับเราก็คือเท่าเมล็ดผักกาดนะครับ เราก็จะเห็นปรากฏการณ์ การอัศจรรย์ สิ่งประหลาด ปาฏิหาริย์ ทุกสิ่งที่มาจากพระเจ้าในพระคริสต์ก็จะเกิดขึ้นกับเรา
เพราะฉะนั้นเราได้เรียนรู้อะไร แล้วก็ต้องกลับไปขอการเปิดตา ขอการเปิดเผย ขอการชำระจากพระเจ้าให้ได้เรียนรู้ได้เข้าใจมากยิ่งขึ้น สิ่งที่อยู่เบื้องหลังของการตาย ของการเป็นคนใหม่ ของการเดินในพระวิญญาณ ทุกเรื่องนะครับ
...
ถาม
หมายถึงว่าถ้าเราอยากเห็นพระเยซู เห็นตัวใหม่ที่พระเยซูสำแดงออกมา แบบตอนนี้เรายังไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่ แสดงว่าเรายังใช้อาดัมอยู่เยอะกว่าที่เป็นพระคริสต์ทำใช่ไหมครับ
ตอบ.
แน่นอนครับ ตอนนี้ก็คืออาดัมเนื้อหนังยังครอบคลุมชีวิตเราอยู่ และเรายังเป็นอาดัมเนื้อหนังอยู่
การหลีกหนีจากชีวิตเก่านะครับ ก็คือจำได้ไหมเปาโลใส่ใจเรื่องอะไรบ้าง เราไปทำเรียนแบบเดินตามแบบอย่างของเปาโล แน่นอนที่สุดไม่นานเราจะออกจากเนื้อหนัง แล้วมาเดินในพระวิญญาณได้ในแต่ละวัน
แต่สิ่งที่สำคัญก็คือการฝึกตามอย่างแบบอย่างของเปาโล แต่ฝึกอย่างเป็นระเบียบ ฝึกอย่างเป็นระเบียบ
สิ่งที่ผมอยากจะขอย้ำ ก็คือถ้าหากเราเป็นศาสนาคริสต์หรือคริสเตียนศาสนา สิ่งเดียวที่เขามีอยู่ในความคิดของเขาหรือในจิตใจของเขานะครับ ก็คือทำยังไงฉันจะไม่ทำบาป ทำยังไงฉันจะเชื่อฟังพระเจ้าได้ นี่คือความคิดของต้นไม้แห่งความรู้ดีชั่ว และความคิดของคนที่เป็นเนื้อหนังและเป็นอาดัม
สำหรับพระเจ้า พระเจ้าต้องการให้เราไม่สนใจไม่ใส่ใจเรื่องทำยังไง ดีได้ยังไง เลิกบาปเลิกชั่วได้ยังไง พระเจ้าบอกว่าไม่ต้องไปยุ่ง ไม่ต้องไปคิดอะไรไม่ต้อง สิ่งที่เราควรทำนะครับก็คือเน้นที่ชีวิต
ชีวิตคืออะไร... คืออยู่กับชีวิต สนิทในชีวิต อยู่ใกล้ใครอยู่กับใครสุดท้ายนะครับเราก็จะเป็นอันนั้น
เราจำกันได้ไหมมีเพื่อนเป็นนักเลง ในที่สุดเราก็มีใจเหมือนนักเลงหรืออยากไปกับเขาอยากเป็นนักเลงเหมือนเขา อยู่ใกล้คนที่ชอบเล่นไพ่วงไพ่ เราไปหาเขาบ่อยๆๆ สุดท้ายเราก็ติดไพ่ติดการพนัน
อยู่ใกล้พระเยซูแล้วได้อะไร ได้ชีวิตพระเยซู เอเมน