ถาม:
อาจารย์ครับ ผมสงสัยเรื่องสารภาพบาป ว่าทำไมทำบาปเรื่อยๆ บาปร้ายแรง บาปหนัก ยังได้รับความรอด ผมอาจเข้าใจผิด ทำบาปเรื่อยๆ กลัวพระเจ้าไม่พอพระทัย
ตอบ:
เมื่อเราทำบาป แท้ที่จริงใครเป็นคนทำครับ เราหรือว่าตัวบาปที่อยู่ในเราเป็นคนทำ
...
ถาม:
ตัวบาปครับ
ตอบ:
ใช่ครับ คำตอบอยู่ในโรม 7:14–24
17 ฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงมิใช่ผู้กระทำ แต่ว่าบาปซึ่งอยู่ในตัวข้าพเจ้านั่นเองเป็นผู้ทำ
20 ถ้าแม้ข้าพเจ้ายังทำสิ่งซึ่งข้าพเจ้าไม่ปรารถนาจะทำ ก็ไม่ใช่ตัวข้าพเจ้าเป็นผู้กระทำ แต่บาปซึ่งอยู่ในตัวข้าพเจ้านั่นเองเป็นผู้กระทำ
เพราะฉะนั้น เราไม่ใช่ปัญหา ปัญหาอยู่ที่ตัวบาป พระเจ้าทรงเข้าใจ จึงตั้งพระโลหิตไว้เพื่อการยกโทษบาปเรา พระโลหิตของพระเยซูมีค่ามากพอสำหรับพระเจ้า ไม่มีบาปไหนที่ใหญ่กว่าพระโลหิต
(ทำไมพระเยซูบอกว่า 70x7)
...
ถาม:
ไม่ใช่ว่าคิดทำ แล้วมาสารภาพเรื่อยๆ
ตอบ:
การทำบาปทุกครั้ง จะมีผลตอบแทน
การสารภาพที่แท้จริง เมื่อสารภาพเสร็จ ต้องขอการชำระ หรือเปลี่ยนแปลงจิตใจใหม่ด้วย แต่ก็ยังต้องใช้เวลา จนกว่าเราจะเลิกทำบาปนั้นได้ พระเจ้าทรงทราบและเข้าใจเรา
...
ถาม:
คือต้องเสียใจจริงๆ ใช่ไหมครับ
ตอบ:
ต้องเสียใจแน่นอนครับ
...
ถาม:
ไม่เกี่ยวกับรอดในวันสุดท้ายเหรอครับ
ตอบ:
การทำบาป ถ้าเกี่ยวข้องกับความรอดในวันสุดท้าย ก็จะไม่มีใครรอดเลยสักคนเดียว เพราะว่าเราทุกคนยังทำบาปจนกว่าเราจะสุกงอม ไม่สมเหตุสมผลที่ผู้ชนะเท่านั้นจะรอด แสดงว่าคนที่ไม่รอดจะมีมากมายก่ายกอง และคนที่จะรอดมีไม่มาก
...
ถาม:
โทษครับอาจารย์ การดับพระวิญญาณเราต้องกลับใจใหม่อีกใช่ไหมครับ
ตอบ:
การดับพระวิญญาณ คืออะไรครับ
...
ถาม:
ทำให้พระเจ้าเสียพระทัยหรือเปล่าครับ
ตอบ:
ผิดครับผม แต่คือการขี้เกียจ ไม่ขยัน ไม่อยากทำอะไร เรียกว่าดับไฟที่เผาไหม้ในวิญญาณเรา (โรม 12:11)
...
ถาม:
ไม่ร้อนรน
ตอบ:
การกระตือรือร้น ร้อนรน ขยัน อ่าน อธิษฐาน หรือออกไปรับใช้ คือเผาไหม้ในวิญญาณ และไม่เป็นอุ่นๆ ซึ่งร้อนรนเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับการดับพระวิญญาณครับ ดับไฟ จุดไฟ รับการเผาไหม้ในวิญญาณ เผาไหม้โดยพระวิญญาณ
ทำให้พระวิญญาณเสียพระทัยคืออะไรครับ
...
ถาม:
ทำบาป
ตอบ:
หมิ่นพระวิญญาณคืออะไรครับ
...
ถาม:
อาจารย์ครับ ผมสงสัยว่า เชื่อพระเยซูคริสต์เหมือนกัน ทำไมคำสอนแตกต่างกัน คล้ายๆ มีเหมือนบ้างบางคำสอน ผมไม่ได้ว่าใครนะครับ แต่ผมสงสัยข้องใจครับ
ดูถูก ไม่เคารพนับถือ
ตอบ:
มธ 13:11, 13, 15, 17 เป็นเรื่องของตาฝ่ายวิญญาณ ผู้เชื่อมากมายไม่ได้รับการเปิดเผย จึงเกิดมีการขัดแย้งและแปลผิดๆ ครับ
เรื่องการทำบาป
1. ไม่ใช่เราเป็นคนทำ แต่ตัวบาปใช้ร่างกายนี้ทำ
2. พระเจ้ามองเราเป็นเด็ก ที่ต้องรับการเปลี่ยนใหม่ ด้วยการรอพระวิญญาณเปลี่ยนเรา
3. ขณะที่รอนี้ ตัวบาปยังจะใช้ร่างกายนี้ทำบาปมากมาย
4. ทุกครั้งที่ทำบาป เราต้องจ่ายราคาในฝ่ายเนื้อหนัง
5. พระเจ้ายกโทษฝ่ายจิตใจและวิญญาณ เพื่อเราจะรับสุขและกล้าเข้ามาหาพระเจ้าได้ ถ้าไม่ยกโทษเราจะเข้าหาพระเจ้าไม่ได้
...
ถาม:
การทำบาปทุกครั้ง จะมีผลตอบแทน… 4. ทุกครั้งที่ทำบาป เราต้องจ่ายราคาในฝ่ายเนื้อหนัง… หมายความว่ายังไงคะ
ตอบ:
สมมุติว่าผมขับรถไปชนคนอื่น และทำให้เขาบาดเจ็บ ผมสารภาพบาป พระเจ้าก็จะยกโทษให้ทันที แต่ผมต้องจ่ายค่าเสียหายให้คนนั้น อาจจะถูกปรับหรือถูกจับ แล้วแต่จะหนักเบา
...
ถาม:
แต่ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่พระเจ้าจะดูแลเรา… หรือทำให้เราขัดสนใช่มั๊ยคะ
ตอบ:
คือการขอการเลี้ยงดูและดูแลจะยากกว่าเดิมครับ ถ้าทำบ่อยๆ และไม่แสวงหาการทำแทนและการชำระของพระเจ้า
ถ้าเราทำผิด และทำเป็นประจำ เรื่องการยกโทษก็ยกอยู่แล้ว แต่เรื่องจ่ายราคาของเราพระเจ้าก็ช่วยเราจากหนักเป็นเบาได้ ถ้าเราขอพระเมตตา หรือขอพระเมตตาให้การไม่ตอบของพระบิดาเป็นตอบมากขึ้นได้ด้วยการอดอาหาร หรือวิงวอน (ง้อ) พระเจ้า
สิ่งสำคัญ ขอให้เรามองเราเหมือนพระเจ้ามองนะครับ ว่าคริสเตียนเรายังเป็นเด็กๆ กันอยู่ ต้องทำบาปไปจนกว่าการชำระจะมาถึง