เนื่องจากพระเยซู กล่าวว่า ผู้ใดร้องเรียกเรา ขับผีในนามของเรา แต่เราไม่รู้จักเขา กับบริบทเรื่อง เจ้าสาวกับตะเกียงเพลิง หรือ งานเลี้ยงที่แขกถูกเชิญมาแต่อาจไม่ได้ถูกรับเลือก ทั้งหมดทั้งมวลความหมายคือ..
คำว่า เราไม่รู้จักเจ้าใน มธ 7:21-23 คือคำเดียวกันกับ ปฐก 4:1 (ฮิบรูแปลว่า อาดัมก็รู้จักกับเอวาภรรยาของเขานางจึงตั้งครรภ์)
รู้จัก ความหมายคือสนิทกันมากๆ รักกันอยู่ด้วยกันพูดคุยกันหลงรักกัน ไม่ใช่แค่รู้จักแบบทั่วๆ ไป)
- มธ 7:21-23 คือบทสรุปการก่อตั้งรัฐธรรมนูญใหม่ของพระเยซู
- คนเป็นอันมากทั้งผู้นำผู้เชื่อจะมาต่อว่าเพราะรู้ตัวว่าไม่ได้ถูกเลือกให้เข้าไปในอาณาจักรสวรรค์ (ยุคพันปี)
- เขาไล่ผี รักษาโรค มีผลงาน นำคนมาเชื่อได้ แต่ สองสิ่งที่ทำให้เขาพลาดโอกาส นั้นก็คือ
1. ไม่กระทำตามน้ำพระทัยพระบิดา แต่รับใช้ดำเนินชีวิตตามใจเขาเอง (ข้อ 21)
2. ไม่ดำเนินชีวิตภายใต้กฏหมายใหม่ของพระเยซูที่สั่งให้รักษาในมัทธิวบทที่ห้า หก และเจ็ด (ข้อ 23) กรีกแปลถูกว่า เจ้าผู้ไม่รักษากฏหมายจงถอยไปจากเรา
- เนื่องจากว่าคริสเตียนและผู้รับใช้ เอาแต่รับใช้ และพยายามเชื่อฟังแบบศาสนา เขามีผลงานแห่งของประทานแห่งพระวิญญาณมากมาย แต่ไม่มีของประทานแห่งพระคุณ ความสัมพันธ์ ผูกพันธ์ลึกซึ้งกับพระเยซูทุกวันทุกชั่วโมง และเกิดผลของชีวิตใหม่ที่พระเยซูทำแทน
การตัดสินเลือกผู้เชื่อในมัทธิว ไม่ใช่การตัดสินที่พระบัลังก์ใหญ่สีขาว แต่เป็นการตัดสินเพื่อให้บำเหน็จและลงโทษผู้เชื่อทั้งหลาย
จากนั้นก็นำอาณาจักรลงมาตั้งอยู่ในโลกนี้ เรียกว่าการพิพากษาพระที่นั่งของพระคริสต์ (2 คร 5:10) (The seat of Christ)
ผู้ที่ถูกเลือกคือผู้ชนะ คือ..
1. หญิงพรมจารีย์ห้าคนที่เอาน้ำมันใส่ตะเกียงมาเผื่อ กลัวเจ้าบ่าวมาช้า (ก็เป็นดั่งนั้น)
- การมีน้ำมันมาเผื่อคือการมีพระวิญญาณเต็มอยู่ในจิต เมื่อเรามีเต็ม พระคริสต์ครอบครองจิตเราได้แล้ว เราเลิกทำบาปได้
2. แขกที่ถูกเชิญมาในงาน และสวมเสื้อที่เหมาะกับงานเลี้ยงนั้น
- การสวมเสื้อที่เหมาะสมกับงานเลี้ยง คือเราสวมพระคริสต์มีพระคริสต์ทำดีแทนเราในแต่ละวัน