เราเริ่มต้น ก็คือ เราได้ยินข่าวประเสริฐ เราได้ยินข่าวดีเรื่องพระเยซูไถ่บาปเรา และเราต้องการที่จะหลุดพ้นจากความบาปจากการพิพากษาจากบึงไฟ เราต้องทำอะไร? "เชื่อ" คือสิ่งแรกน่ะครับ
และในพระคำพระเจ้าบอกว่าเมื่อเราเชื่อเราจะได้บังเกิดใหม่ เราเห็นไหมครับการบังเกิดใหม่? ไม่เห็นน่ะครับ แต่เมื่อเรา "เชื่อ" เราก็ได้บังเกิดใหม่และเราได้สัมผัสชีวิตที่บังเกิดใหม่นั้น
เราเห็นไหมครับการยกโทษบาปของพระเจ้า? เราไม่เห็นน่ะครับ แต่เรา "เชื่อ" เราก็ได้รับการยกโทษบาปจากพระเจ้า เราได้รับการสัมผัส รับการเลี้ยงดู รับอะไรต่อมิอะไรมากมาย รับพระสัญญาของพระเจ้า
พระพรเราทำยังไงครับ ขอพระพรไหม? ไม่ขอนะ เพราะว่าพระเจ้าประทานให้เราแล้ว เราแค่ "เชื่อ" เราก็ได้เข้าสู่พระพรนั้น
แล้วเราอยากเป็นคนดีเราอยากเลิกทำบาปได้ เราทำยังไงครับ? เรา "เชื่อ" ว่าพระคริสต์อยู่ในเราและเป็นผู้ชนะในเราแล้ว และพระคริสต์เลิกทำบาปแทนเราแล้ว เราก็ได้เห็นประสบการณ์น่ะครับว่าเราเอาชนะความบาปได้แบบง่ายๆ
เราอยากประสบความสำเร็จในธุรกิจการค้าขายเรา "เชื่อ" ว่าพระเยซูเป็นผู้ดูแลกิจการของเรา เราก็จะเห็นว่าพระพรของพระเจ้าการอวยพรเข้ามาเต็ม โดยที่ไม่ต้องพยายามโฆษณาไม่ต้องยิงโฆษณาไม่ต้องจ้างใครมาโฆษณาไม่ต้องพยายามทำ คือให้มันเจริญขึ้น แต่ "เชื่อ"
พระเจ้าก็ช่วย สิ่งที่เราอยากได้เกิดขึ้น เมื่อเราเป็นทุกข์อยู่เราไม่ต้องสรรหา เราไม่ต้องไปกินข้าวร้านแพงๆ ไปกินอะไรอร่อยๆ ไปเที่ยวที่มีวิวที่มีธรรมชาติที่มันสวยงามเพื่อเรามีความสุข แต่เรา "เชื่อ" ว่าเรามีสันติสุขที่เป็นแม่น้ำแห่งชีวิตพุ่งขึ้นถึงชีวิตนิรันดร์เต็มในเรา
เมื่อเราอ่อนแอ เราทำยังไงครับ? เราเหนื่อย เราเหงา ง่วงเหงา เราอ่อนแอ เรา "เชื่อ" ว่าเรามีพลังยิ่งใหญ่ พลังนั้นก็เกิดขึ้นในเราโดยพระวิญญาณเป็นผู้บันดาลเป็นผู้ดลบันดาลให้เกิดขึ้น
ทำอะไรน่ะครับก็เชื่อ เชื่อ เชื่อ เชื่อเอาๆๆ ทั้งวัน เราอยากได้อะไร อยากทำอะไร อยากเป็นอะไร อยากมีอะไรเราเชื่อเอาทั้งหมด เราเจ็บป่วยเราป่วยไข้เราพูดยังไงครับ? เรา "เชื่อ" ว่าพระเยซูรักษาเราแล้ว เราขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์รักษาพระองค์แตะเราแล้ว เราก็จะหายดีเพราะ "เชื่อ"
ชีวิตคริสเตียนเราทำทุกสิ่งก็คือเชื่อเอาทั้งหมด และเรารักษาการสนิทบอกรักกับพระเยซูไว้เพื่อชีวิตของเราจะอยู่ในพระคริสต์ และการเชื่อเอาของเรามันจะเกิดผลได้ เพราะว่าพระเจ้าทำงานทำกิจในคนที่อยู่ในพระคริสต์ ในบริเวณพิกัดของคนที่อยู่ในพระคริสต์เท่านั้น คนที่อยู่ในอาดัมพระองค์แตะยาก แต่คนที่อยู่ในพระคริสต์พระองค์แตะได้สบายมากและการเชื่อเอาก็จะเกิดผล
โรมบทที่ 1 ข้อ 17 คริสเตียนมนุษย์วิญญาณ บุตรพระเจ้า เราเริ่มต้นก็ด้วยความเชื่อและจบลงก็ด้วยความเชื่อ (เพราะว่าในข่าวประเสริฐนั้นความชอบธรรมของพระเจ้าก็ได้แสดงออก โดยเริ่มต้นก็ความเชื่อ สุดท้ายก็ความเชื่อ ตามที่มีเขียนไว้แล้วว่า ‘คนชอบธรรมจะมีชีวิตดำรงอยู่โดยความเชื่อ’)
สำหรับเรื่องชีวิตที่เชื่อเอาพระเจ้าเป็นคนทำ เรารู้น่ะครับในฟิลิปปีบทที่ 2 ข้อที่ 13 (เพราะว่าพระเจ้าเป็นผู้ทรงกระทำกิจอยู่ภายในท่าน ทั้งให้ท่านมีใจปรารถนาและให้ประพฤติตามชอบพระทัยของพระองค์) ก็คือพระเจ้าเป็นคนกระทำกิจในเราทั้งความปรารถนาและการกระทำ
ถาม.
อาจารย์คะสมมุติว่าเราทำธุรกิจแล้วเราเชื่อเอา เราไม่ต้องทำโฆษณาไม่ต้องยิงแอดอะไรพวกนี้ ให้เราเชื่อเอาโดยที่เราไม่ต้องแสวงหาที่จะทำให้ธุรกิจการงานของเราเข้าสู่เป้าหมายที่เราต้องการ ขออธิบายนิดนึงคะ ที่อาจารย์บอกว่าเชื่อเอาอย่างเดียวไม่ต้องยิงแอดไม่ต้องทำโฆษณาสำหรับธุรกิจของเรา
ตอบ.
สำหรับผู้ที่เรียนรู้ในการวางใจพระเจ้าที่ถูกต้อง ผู้เชื่อที่เข้าใจความหมายของคำว่า วางใจในพระเจ้าจริงๆ เราจะมั่นใจในการช่วยเหลือของพระเจ้า
ขอให้เรานึกถึงน่ะครับว่าเราเป็นผู้เชื่อ เราเป็นคริสเตียน เราเป็นบุตรพระเจ้า พระเจ้าจะดูแลเหล่าบุตรของพระองค์แน่นอน เพียงแต่เราวางใจในพระองค์
เรามีไหมครับคุณสมบัตินี้? วางใจในพระเจ้า
ถ้าหากเรากล้าและเราวางใจในพระเจ้าได้จริงๆ พระเจ้าก็จะกล้าทำในส่วนของพระองค์ได้ แต่คริสเตียนทุกวันนี้ส่วนมากบอกว่าวางใจในพระเจ้า วางใจในพระเจ้า แต่ก็ยังวิตกกังวล ยังเป็นห่วง ยังกระวนกระวายใช่ไหมครับ
นี่คือประเด็น คือปัญหาที่ยิ่งใหญ่สำหรับคริสเตียน เราที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือจากพระเจ้า เราทำธุรกิจ เราบอกว่าข้าพระองค์วางใจในพระองค์ ข้าพระองค์ขอให้พระองค์เป็นผู้นำ เป็นผู้ทำ เป็นผู้ทำให้กิจการเจริญขึ้น แต่เราเป็นห่วงนะ โอ๊ยเป็นห่วงเหลือเกิน โอ๊ยกลุ้มใจเหลือเกินวันนี้ขายไม่ได้ โอ๊ยทำยังไง โอ๊ยๆๆๆ มีแต่โอ๊ยน่ะครับ
นี่ไม่ใช่การวางใจในพระเจ้าที่แท้จริง คนที่วางใจในพระเจ้าจริงๆ ก็คือถ้าหากว่าเราไม่เห็นผล เราไม่เห็นการช่วยเหลือจากพระเจ้า มันยังไม่มีอะไรที่ดีที่เข้ามา เราขาดทุนบ้างเราไม่ได้กำไรบ้าง เราเจออุปสรรคมากมายบ้าง เราไม่ท้อน่ะครับ "เราบอกว่าพระเยซูข้าพระองค์วางใจแล้ว ข้าพระองค์จะไม่ถอนคำพูดและข้าพระองค์จะไม่กระวนกระวาย ข้าพระองค์เชื่อ ข้าพระองค์มั่นใจในการดูแลการช่วยเหลือของพระองค์ ข้าพระองค์เป็นบุตรของพระองค์อยู่ในการครอบคลุมอยู่ในแผนการงานของพระองค์แน่นอนเอเมนพระเยซู ข้าพระองค์ปักใจในสิ่งนี้มั่นใจในสิ่งนี้" คุณกล้าไหม? กล้า.... พระเจ้าก็กล้าทำ
นี่คือสิ่งที่ผมเห็นมาตลอดชีวิตน่ะครับในท่ามกลางสังคมคริสเตียน หลายคนแม้แต่อยู่ในคริสเตียนศาสนาถ้าหากเขาวางใจในพระเจ้าถึงระดับนี้พระเจ้าก็จะช่วยเขาแน่นอน
พระเจ้าเป็นความจริงไหม? เป็นความจริงน่ะครับ
พระเจ้ารักษาสัญญาของพระองค์ไหม? รักษาแน่นอนครับ
ในพระคำพระเจ้ามีหลายที่น่ะครับบอกว่าพระเจ้าดูแล พระเจ้ารักษา พระเจ้าปกป้อง พระเจ้าช่วยเหลือเรา พระเจ้าเป็นพระผู้ช่วย และในยอห์นบทที่ 10 ขอให้มั่นใจพระเจ้าเป็นผู้เลี้ยงที่ดี ผู้เลี้ยงที่ดี ผู้เลี้ยงที่ดีจะปล่อยให้แกะมันผอมไหม? จะปล่อยให้แกะไม่มีกินไหม? คือผู้เลี้ยงจะปล่อยให้มันเป็นแบบนั้นไหม? ไม่นะ. คือจะป้อนในสิ่งที่อร่อย จะป้อนในสิ่งที่เป็นประโยชน์ที่ดีสำหรับแกะของตนให้เติบโต ใช่ไหม? ขอบคุณพระเจ้า
ถาม.
แล้วในฐานะที่เราเป็นผู้เชื่อในเมื่อธุรกิจการงานของเราอยู่ในนี้เราจำเป็นต้องพัฒนาตัวเองหรือว่าต่อเติมปรับปรุง มันอยู่ในข่ายที่ไม่วางใจพระเจ้าหรือเปล่าคะ ในเมื่อเศรษฐกิจตอนนี้มันไม่โอเค แล้วก็ต้องจำเป็นต้องทำนู่นทำนี่เพื่อที่จะดึงดูดให้ธุรกิจมันดีขึ้นต่อยอดขึ้น แล้วก็ให้ทุกคนได้เห็นในธุรกิจของเราโดยเราต้องพัฒนาหรือทำอะไรสักอย่างเพื่อจะสู่เป้าหมาย คือเราเชื่อและวางใจแล้ว ก็คือเราขออย่างเดียวอย่างนั้นใช่ไหมคะอาจารย์
ตอบ.
สำหรับพี่น้องที่ทำธุรกิจทำการค้า
ข้อแรก ก็คือ เราอธิษฐานทุกวัน อธิษฐานทุกวัน ขอให้พระเยซูเป็นคนทำ เป็นคนนำ เป็นเจ้าของกิจการนี้
ข้อที่สอง ก็คือ ส่วนไหนที่เราทำอยู่ ขอให้เราเชื่อว่าพระเยซูเป็นคนทำอยู่ เข้าใจน่ะครับ พระเยซูเป็นคนทำอยู่ไม่ใช่เรา พระเยซูเป็นคนตัดสินใจไม่ใช่เรา พระเยซูเป็นคนยิงโฆษณาไม่ใช่เรา พระเยซูทำทุกสิ่งไม่ใช่เรา ถึงแม้ว่าเราจะเป็นคนที่กำลังทำอยู่ แต่ขอให้เราเชื่อว่าพระองค์เป็นคนทำ แล้วก็บอกว่ากิจการนี้เป็นของพระเยซู พระเยซูเป็นเจ้าของไม่ใช่ข้าพระองค์ ข้าพระองค์เป็นอวัยวะ ข้าพระองค์เป็นผู้ที่พระองค์ใช้ให้ทำงาน
ไม่นานน่ะครับอีกไม่นานเราจะเห็นผล เห็นการทำกิจการทำงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ทำ เราจะเห็นแน่นอนครับ และช่วงแรกๆ เราอาจจะพบว่ามันมีปัญหามีอุปสรรคหรือไม่เห็นผลไม่เห็นอะไร
ไม่ต้องท้อ พระเจ้ารอดูว่าเราจะท้อไหม พระเจ้าดูน่ะครับว่าเราจะคิดยังไง จะกระวนกระวายจะห่วง จะคิดในแง่ลบไหม จะวางใจในพระเจ้าไหม พระวิญญาณบริสุทธิ์จะพิสูจน์น่ะครับ จะรอดูจะทดลองใจเรา แต่ขอให้เราไม่ท้อ
ข้าพระองค์วางใจในพระองค์เอเมนๆๆๆๆ ขอให้มั่นใจน่ะครับ แล้วไม่นานต่อมาเราจะเห็นผลของการทำกิจของพระเจ้าผ่านสิ่งที่เราทำอยู่
อย่าลืมน่ะครับขอให้คิดน่ะครับว่าขอให้ธุรกิจนี้เป็นของพระเจ้า อันที่สองก็คือสิ่งไหนที่เราทำอยู่ก็เชื่อว่าพระองค์เป็นคนทำไม่ใช่เราทำ เป็นฝีพระหัตถ์ของพระเยซูที่ทำผ่านมือของเรา
ถาม.
ผมอยากรู้ว่าผมตอบกับคนที่มาบอกผมมาแนะนำผม.. คืองานของผมต้องได้โฆษณาทางโซเชียล ต้องได้โฆษณาทาง tiktok จึงจะได้ลูกค้าเข้ามา และผมตอบเขาไปว่าไม่เป็นไรคือแค่นี้ก็โอเคแล้ว คือผมตอบไปแบบนี้โดยที่ว่าในใจของผมคือแบบว่าเชื่อในการจัดเตรียมของพระเจ้าแต่ว่าไม่ได้บอกกับคนนั้นไป (ว่าผมเชื่อในพระเจ้าผมวางใจในพระเจ้าในธุรกิจของผมมอบไว้กับพระเจ้า) ผมไม่ตอบแบบนี้นะ คือพระเจ้าจะพอพระทัยไหม
ตอบ.
เป็นการตอบที่ถูกต้องน่ะครับ เป็นการตอบที่ดี เราจะพบว่ามีคริสเตียนหลายคนซึ่งคนที่ไม่เชื่อก็ตาม หรือแม้แต่คริสเตียนพี่น้องคริสเตียนด้วยกัน เวลามาคุยกัน ก็บอกว่าคุณทำแบบนี้นะ คุณทำแบบนั้นนะ เราปรากฏว่าเราพูดว่าพระเยซูจะช่วยฉัน คืออาจจะไม่ใช่การอวดโดยตรง แต่เป็นการพูดที่ค่อนข้างอยู่ในลักษณะของการอวด เราไม่ต้องพูดน่ะครับ ว่าฉันมีพระเจ้า พระเจ้าช่วยฉันอยู่ เราไม่ต้องพูดก็ได้ เราถ่อมใจน่ะครับ "ขอบคุณครับที่แนะนำ" ก็ดูๆ ไปก็แค่นั้น
แต่บางคนไม่ได้ตอบแบบนั้น คือฉันมีพระเจ้าแล้วไม่ต้องห่วงไม่เป็นไรฉันโอเค ก็คือปิดประตู ก็คือเราแสดงอาการแบบคือหยิ่งผยอง เขาจะเห็นว่าเราเป็นคนที่แบบทำไมคริสเตียนเย่อหยิ่งจัง
การเป็นคริสเตียนที่แท้จริง เป็นคริสเตียนที่ดี ก็คือเราเรียนแบบพระเยซู ก็คือถ่อมใจ ขอบคุณครับที่แนะนำ ขอบคุณครับที่สั่งสอน ขอบคุณครับที่หนุนใจ ขอบคุณมากๆ น่ะครับ เป็นคำพูดที่ดีนะเป็นคำหนุนใจที่ดีมาก เดี๋ยวขอคิดดูก่อนนะจะทำไหมจะทำยังไงขอคิดดูก่อน
แล้วหลังจากนั้นเราอธิษฐาน เราอธิษฐานพระเยซูนี่คือมาจากพระองค์ไหมหรือมาจากใคร แล้วพระองค์จะให้มีการกระตุ้นจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ การเร้าใจน่ะครับ
ถาม.
ถ้าหากเราไม่ลงมือทำ เรามัวแต่รอพระเยซูทำ แล้วเมื่อไหร่จะได้เห็นพระองค์ทำล่ะ
ตอบ.
พระคริสต์ทำแทน คืออะไรกันแน่
1. ในส่วนที่เราทำได้ - เราทำในส่วนที่ทำได้และเชื่อว่าพระเยซูทำอยู่
2. ในส่วนที่เรายังทำไม่ได้ - เราไม่ต้องขอให้ทำแทน แต่เชื่อว่าทรงทำแทนอยู่ เห็นหรือไม่เห็นก็ไม่เป็นไร ขอให้เชื่อเอาไว้ก่อน เพราะว่า ความเชื่อคือความหวังใจในสิ่งที่ยังไม่เห็นว่าได้รับแล้ว (ฮบ 11:1)