พระเจ้าก่อตั้งคริสตจักรเพื่อให้เราสำแดงชีวิตของพระคริสต์ ต่ำ ถ่อม ยอมเสียเปรียบ และไม่จดจำความผิดเหมือนเด็กเล็กๆ (มธ 18:1-6)
คำสอนของพระเยซู ตรงข้ามกับชีวิตคริสเตียนทุกวันนี้ พระเยซูสอนให้ต่ำ ถ่อม และยอมเสียเปรียบ ถ้าเขาตบแก้มข้างหนึ่ง ต้องหันแก้มอีกข้างให้เขาตบ
มีเด็กสามขวบสองคนนั่งเล่นทรายด้วยกัน เมื่อเล่นกันก็เกิดทะเลาะกัน ขว้างทรายใส่กัน ตบตีกัน และก็ร้องไห้ แต่เมื่อ 2–3 นาทีผ่านไป เด็กทั้งสองหยุดร้องไห้ คราบน้ำตาก็ยังไม่แห้งดี แต่เด็กก็ลืมความผิดของกัน จำไม่ได้และไม่สนใจว่าเมื่อกี้ทำอะไร และกลับมาเล่นด้วยกันอีก
หลังจากนั้นอีกซัก 15 นาที ทั้งสองทะเลาะกันอีก ตบตีกัน และก็ร้องไห้มากกว่าเดิม แต่อีก 3-4 นาทีผ่านไป จะมีอะไรเกิดขึ้น เด็กก็จะกลับมาเล่นด้วยกันอีก
พระเยซูบอกว่า “ถ้าหากท่านจะเข้าในอาณาจักร จะต้องเป็นเหมือนเด็ก” ไม่ใช่เด็ก 10, 12 หรือ 16 ปี แต่เป็นเด็กเล็กๆ พระเยซูบอกเอง แต่คริสเตียนเราทุกวันนี้เป็นเหมือนเด็กเล็กๆ หรือไม่
คริสเตียนทุกวันนี้เราไม่เห็นเด็กเล็กๆ ในลักษณะแบบนี้ คือตบตีกัน ถกเถียงกัน ทะเลาะกัน หรือมีปัญหาอะไรก็แล้วแต่ ทะเลาะกันไปแล้วอีก 3-4 นาทีกลับมาคุยกันได้ นี่คือผู้ชนะ นี่คือชีวิตผู้ชนะที่พระเยซูทำแทน
ถ้าอยากได้จิตใจ อยากได้ชีวิตผู้ชนะแบบนี้ต้องทำยังไง… เชื่อเอาว่าเป็นผู้ชนะแล้ว ฝึกทุกวันนับทุกวันว่าตัวเก่าตายแล้ว เดี๋ยวนี้เราเป็นคนใหม่ อยู่ในพระคริสต์ สนิทในพระเยซู บอกรักพระองค์ทุกวันตั้งแต่เช้าจนค่ำ
แต่เมื่อเด็กสามขวบเมื่อกี้โตขึ้นมา อายุซักประมาณ 50 ปี แต่ยังไม่ได้พบพระคำล้ำลึก ทั้งสองมาเจอกัน อยู่คริสตจักรเดียวกัน เมื่อคนหนึ่งรู้ว่าอีกคนหนึ่งเป็นแม่ค้า ก็ซุบซิบกับคนอื่นว่า “คนนี้เป็นแม่ค้า ไม่อยากคบด้วย ต้องคบข้าราชการ” นี่คือคริสเตียนศาสนา
เมื่อเราเป็นคริสเตียน เรายังพูดซุบซิบ นินทา แตกแยก แบ่งแยก และมีความโกรธ คือทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในคริสตจักรหมดเลย
คริสตจักรควรจะเป็นที่ที่จะสำแดงชีวิตของพระคริสต์ แต่คริสตจักรมีอะไรมากมายที่ไม่ใช่พระคริสต์ พระคัมภีร์พูดเอง ใน วว 2:9; 3:9 คริสตจักรเป็นที่อยู่ของมารซาตาน
พระประสงค์หลักที่พระเจ้าก่อตั้งคริสตจักรในแต่ละท้องถิ่น แต่ละเมือง หรือแต่ละประเทศ ก็เพื่อให้คริสเตียนสำแดงชีวิตของพระเยซูให้โลกเห็น เพราะฉะนั้น เราขอบพระคุณพระเจ้า ที่เราเป็นคริสตจักรที่จะสำแดงชีวิตของพระคริสต์ เพื่อถวายเกียรติแด่พระบิดา และเราสะสมบำเหน็จรางวัล
a. การนำมนุษย์มาสู่พระเจ้าเป็นแค่งานชิ้นแรก
b. การนำพระเจ้าเข้ามาอยู่ในมนุษย์คืองานชิ้นสุดท้าย
คริสเตียนทั่วไปนำมนุษย์มาสู่พระเจ้าได้ เรียกคนมาเชื่อพระเจ้าได้ มีคนเป็นร้อยเป็นพันมาเชื่อพระเจ้าเต็มคริสตจักร แต่คริสตจักรมากมายไม่รู้จักที่จะเอาพระเจ้าเข้าไปอยู่ในเขา
มีใครสอนว่าพระคริสต์อยู่ในเรา มีแต่น้อยมาก ส่วนมากบอกว่าพระคริสต์ไม่ได้อยู่ในเรา แต่พระคริสต์อยู่บนสวรรค์ เราเคยเป็นมไหม ก่อนนอนคิดถึงพระบิดาอยู่บนสวรรค์ แต่แท้ที่จริงพระคริสต์อยู่ในเรา คือเราเปิดตาพี่น้อง ให้พี่น้องรู้ว่าพระเจ้าอยู่ในเรา คือเอาพระเจ้าเข้ามาอยู่ในเรา อาเมน
c. จากนั้นผู้เชื่อทุกคนจะกลายเป็นหนึ่งเดียวในทุกที่ทุกหนทุกแห่ง
ถ้าหากเรารู้ว่าพระเยซูอยู่ในเรา จากนั้นเราฝึกชีวิตของเราที่เป็นมนุษย์วิญญาณ เรามีพระเยซูเป็นศูนย์กลางแห่งชีวิตของเรา และ Focus หรือจดจ่อที่พระเยซู เราก็จะเป็นหนึ่งได้ ทุกวันนี้เราจดจ่อที่ตัวเราเอง เราก็เลยเป็นหนึ่งไม่ได้ เอเมน
การจดจ่อที่พระคริสต์ จะต้องมีคุณสมบัติเหล่านี้ คือ ต่ำ ถ่อม และยอมเสียเปรียบ เอเมน
ถ้าเราต่ำตอนนี้ เราจะสูงอยู่ในอาณาจักร
ถ้าเราเล็กอยู่ที่นี่ เราจะเป็นใหญ่ในอาณาจักร
ถ้าเรายอมเสียเปรียบอยู่ที่นี่ เราจะเป็นคนได้เปรียบอยู่ในอาณาจักร
ถาม:
ถ้าสมมติว่า เราทำงานอยู่ แล้วที่ทำงานไม่อนุญาตให้เราไปร่วมกับพี่น้องในวันอาทิตย์ ถ้าเราเชื่อว่า เราร่วมสามัคคีธรรมกับพี่น้องในวิญญาณอยู่ที่นั่น คือว่าเราอยู่ในพระเยซูแล้วใช่มั๊ยครับ
ตอบ:
เปาโลบอกว่า “ข้าพเจ้าไม่ได้อยู่กับพวกท่าน แต่ข้าพเจ้าอยู่กับพวกท่านในวิญญาณ”
สมมติว่าเราต้องทำงาน นายบังคับเราให้ทำงาน ถ้าเราจะออกจากงาน เราก็ไม่มีเงินใช้จ่าย มันก็จำเป็น เราก็อยู่ที่นั่น แต่สรรเสริญพระเจ้า ยกย่องพระเจ้า อยู่ในวิญญาณกับพี่น้องที่อยู่ในคริสตจักร ได้ครับ (เปาโลพูด)
และขอด้วยครับ “พระบิดา ปลดปล่อยข้าพระองค์ด้วยออกจากงานที่นี่ อยากทำงานวันจันทร์ถึงวันเสาร์พอ อยากนมัสการพระบิดาร่วมกับพี่น้อง” แล้วพระเจ้าก็จะปลดปล่อยเรา
a. รักแท้ไม่มี อดทนนานไม่มี อภัยให้พี่น้องจริงๆ ไม่มี เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ไม่มี
b. เราเห็นแต่สิ่งตรงข้าม คือการแตกแยก แบ่งแยก ชิงดีชิงเด่น รากขมขื่น ฯลฯ
c. สมาชิกต้องแบกภาระหนักมาก
d. อาดัม เนื้อหนัง ตัวเก่าทั้งนั้นมาร่วมกันแสดงละคร หรือเป็นคริสเตียนสองหน้า
ไม่ใช่การตัดสิน ไม่ได้โจมตีใคร ไม่ได้ตัดสินใคร เราพูดถึงเราที่เป็นอยู่เมื่อก่อน อาเมน
ตอนนี้เราเห็นว่าคริสตจักรมากมายกำลังเป็นแบบนี้อยู่ เราอธิษฐานเผื่อพี่น้องเหล่านั้น เราไม่ได้ตัดสินเขา แต่เราพูดถึงเพื่อเรียนรู้ เพื่อการศึกษา เพื่อเอามาพิจารณาว่า ทำอย่างไรเราจึงจะหลุดพ้นจากสิ่งเหล่านี้ และอธิษฐานเผื่อพี่น้องที่จะหลุดพ้นเหมือนกัน
e. รากปัญหา คือผู้เชื่อเองที่ตาไม่ได้ถูกเปิด
f. เมื่อชีวิตผู้เชื่อทั้งผู้นำและพี่น้องไม่ถูกเปิดตา คริสตจักรจึงต้องตกต่ำไปด้วย
สมัยแรกๆ เปโตร มัทธิว มาระโก ยอห์น และสาวกทั้งหลายประกาศข่าวประเสริฐ นำคนมาเชื่อพระเยซู แต่เขาใช้ระบบเดิม อยู่ภายใต้กฎพระบัญญัติ เขาไม่รู้และไม่เข้าใจเกี่ยวกับเรื่องพระบัญญัติใหม่ เขาไม่รู้และไม่เข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตอยู่ใต้พระคุณ เปโตรยังนำผู้เชื่อทั้งหลายเข้าไปนมัสการที่พระวิหาร ยังไปธรรมศาลา ไปยุ่งเกี่ยวกับศาสนายิว
แต่เมื่อเปาโลมา เปาโลบอกเปโตร มัทธิว มาระโก ยอห์น และทุกคนว่า ทางเส้นใหม่ทางสายใหม่ เราอยู่ใต้พระคุณต้องอยู่แบบนี้ ต้องเป็นแบบนี้ ต้องแยกออกจากพวกยิว และปรากฏว่า มีผู้เชื่อมากมายไม่เชื่อฟังคำสอนของเปาโล เพราะว่าเขาเห็นว่าเปาโลสอนผิด เขาไม่รับ
มานาที่ซ่อนไว้ หรือพระคำล้ำลึกนี้ เริ่มจากเปาโลแล้ว เปาโลเป็นคนเอามา แล้วในสมัยนั้นก็มีปัญหาเรื่องการขัดแย้งกันอยู่แล้ว
อย่าลืมนะครับว่า ใครเป็นคนแรกที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นครูสอนเทียมเท็จ พระเยซูเป็นคนแรกที่คนยิวมากมายบอกว่าเป็นผู้สอนปลอม เมื่อเปาโลมา เปาโลไปประกาศข่าวประเสริฐกับหลายๆ เมืองและหลายๆ คริสตจักร แต่เปาโลเอาอาหารแข็งมาให้ เขากลับหาว่าเปาโลเป็นครูสอนปลอม เขาไม่เอาและไม่รับ ทั้งๆ ที่เปาโลเป็นคนประกาศให้เขาเชื่อ
มานาที่ซ่อนไว้ พระคำล้ำลึก หรืออาหารแข็งนี้ก็มีมาเรื่อยๆ กับคนกลุ่มน้อยเท่านั้นจนถึงทุกวันนี้ ไม่ใช่ผมเป็นคนแรกที่เอามานาที่ซ่อนไว้มาสอน พระเจ้าเปิดเผยมาเรื่อยๆ ตลอดประวัติศาสตร์จนถึงทุกวันนี้ ขอบพระคุณพระเจ้าที่อาหารแข็งนี้มาถึงประเทศไทย
เมื่อก่อนเราเป็นคริสเตียนที่ทุกข์มาก มีภาระหนักมาก ลำบากมาก ก่อนที่จะเชื่อพระเจ้าหน้าซื่อใจซื่อ จะทำอะไรก็ทำ จะด่าใครก็ด่า จะเป็นยังไงก็เป็นไม่สนใจใคร แต่พอมาเชื่อพระเจ้าแล้ว เกรงใจพระเจ้า ต้องเปลี่ยนแปลง ต้องแก้ไขชีวิต ภาระมันต้องแบกทวีคูณคูณสอง เพราะฉะนั้น เราต้องอาศัยมานาที่ซ่อนไว้หรือพระคำล้ำลึกนี้ครับ
การอยู่กับคริสตจักรเที่ยงแท้ ขอให้เราทำจิตของเราอยู่ในสองสิ่ง
สิ่งแรกคือ ต่ำ ถ่อม และยอมเสียเปรียบ เราถึงจะอยู่ได้ ถ้าเราเป็นคนที่หยิ่งผยองพองตัว เป็นคนที่ไม่ยอมเสียเปรียบใคร ไม่ต่ำไม่ถ่อมเราอยู่กับใครไม่ได้ ต้องต่ำ ถ่อม และยอมเสียเปรียบ
ประการที่สอง คือเราทำทุกสิ่งเพราะเห็นแก่พระเยซู ทุกวันนี้คริสเตียนมากมายทำทุกสิ่งเพื่อเราเอง เห็นแก่เราเอง “ชั้นไปที่นี่ ถ้าชั้นชอบชั้นก็อยู่ ถ้าชั้นไม่ชอบชั้นก็บ๊ายบาย” แล้วไปที่นี่อีก ไม่ชอบที่นี่อีกก็ไม่อยู่ คือตามใจเราเอง เราไม่เคยคิดนะครับว่า “เออ ชั้นจะอยู่ที่นี่ ลำบากแค่ไหนก็จะยอมอยู่ที่นี่่ เพื่อเห็นแก่พระคริสต์”
การที่จะเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันได้ ก็คือเราอย่าไปมองที่คน อย่าไปมองที่ตัวเราเอง และอย่าไปมองที่ปัญหา แต่มองที่พระคริสต์ นี่คือหลักการการดำเนินชีวิตของพระเยซูอยู่แล้ว และหลักการการดำเนินชีวิตคริสตจักรที่จะไม่แตกแยก ก็คือ Focus on พระเยซู คือปักใจที่พระเยซูเท่านั้น
ฮีบรูบทที่ 6 บอกว่า มีอาหารแข็งและอาหารน้ำนม
อาหารน้ำนม (ฮบ 6:1–2) คือ:
1. เรื่องข่าวประเสริฐ
2. เรื่องความรอด
3. เรื่องไม้กางเขน
4. เรื่องพระโลหิต
5. เรื่องการวางมือ
สิ่งเหล่านี้เราเห็นคริสตจักรมากมายกำลังเทศนาและสอนอยู่ นี่คืออาหารเด็ก หรืออาหารน้ำนม ถ้าหากเราป้อนเด็กด้วยน้ำนมทุกวันๆ ไม่ยอมเปลี่ยนอาหาร พอโตขึ้นเด็กจะไม่สมบูรณ์ ถึงเวลากินเนื้อ กินถั่ว กินผัก หรือกินข้าว ถึงเวลาเปลี่ยนอาหารก็ต้องเปลี่ยน ไม่อย่างนั้นเด็กจะโตขึ้นแบบไม่สมบูรณ์
เมื่อเราพบคริสตจักรเที่ยงแท้ และคริสตจักรของเรามีคำสอนที่ถูกต้อง มีมานาที่ซ่อนไว้ พระคำล้ำลึก เป็นคำสอนที่ไม่มีเชื้อยีสต์ปะปนหรือผสมอยู่ เราเชื่อว่าพระเจ้านำเรามาคริสตจักรแห่งนี้
พระเยซูตายเพื่อไถ่บาปเราไม่พอ แต่การตายของพระเยซูคือเพื่อไถ่บาปเรา และเพื่อนำเราเข้ามาอยู่ในคริสตจักร เพราะฉะนั้น พระเจ้าไถ่เราไม่ใช่ไถ่เราให้อยู่โดดเดี่ยวเดียวดาย แต่ไถ่เรามาและให้เราเข้าอยู่ในคริสตจักรด้วย เพื่อรับการหล่อเลี้ยงและเสริมสร้างให้เติบโต คริสตจักรก็ต้องการเรา และเราก็ต้องการคริสตจักร
คริสตจักรต้องการคุณ และคุณก็ต้องการคริสตจักร อย่าคิดว่า “ถ้าไม่มีฉันคริสตจักรก็อยู่ได้ ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้สำคัญอะไร ฉันมันคนไม่มีค่า” น้อยใจ คิดว่าตัวเองไม่สำคัญอะไร แต่สำหรับพระเจ้า ทุกคนสำคัญหมด แม้แต่ขอทานที่เข้ามาร่วมกับคริสตจักร คนๆ นั้นก็มีค่าเท่ากับเศรษฐีที่อยู่ในคริสตจักรด้วย
คริสตจักรไม่มีขอทาน ไม่มีเด็ก ไม่มีผู้ใหญ่ ไม่มีเศรษฐี ไม่มียากจน ไม่มียาจก ไม่มีราชการ ไม่มีประชาชนธรรมดา ทุกคนเท่ากันเป็นบุตรพระเจ้า เอเมน
เป้าหมายหรือพระประสงค์หลักของพระเจ้าที่ไถ่เรา คือ:
ให้เราได้รอดพ้นจากบึงไฟ
ให้เราได้มามีส่วนในพระกายของพระองค์ (สำคัญที่สุด)
คริสตจักรมีความสำคัญต่อพระเยซูมากๆ ทุกคนต้องการร่างกาย เราไม่เคยถอดหัวแล้วไปไหนมาไหนโดยไม่มีร่างกายไปด้วย เราต้องเอาทุกส่วนไปกับเรา ต้องมีร่างกายไปกับหัวด้วยทุกครั้ง พระเยซูก็เหมือนกัน พระเยซูเมื่อมาไถ่เราแล้ว ในโลกนี้พระเจ้าพระเยซูต้องการพระกายของพระองค์ อยากให้มีพระกายที่สำแดงชีวิตของพระเยซูผ่านพวกเรา