เปาโลกล่าวโดยพระวิญญาณ คือท่านติดตามโลก ท่านอยู่กับโลก และท่านยังบอกอีกในวิญญาณว่า เราไม่ได้หนีไปจากโลก เรายังอยู่ในโลกนี้ ซึ่งการที่จะดูข่าว หรือดูความเป็นไปความคืบหน้าของโลกนี้ ของประเทศ ของอะไรก็แล้วแต่ คือเราดูได้ไม่ผิดนะครับ เพียงแต่ว่าเราดูในพระคริสต์ร่วมกับพระคริสต์ เราดูอะไรก็ได้ถ้าหากเราไม่รู้สึกฟ้องผิดโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นคนสะกิดเรา และเรายังมีสันติสุขอยู่ เรายังเชื่อมั่นว่าพิกัดของเรา ตำแหน่ง โลเคชั่นของเรายังอยู่ในพระคริสต์อยู่ เข้าใจตรงกันนะครับ
คือเนื้อหนังมันมี 2 แบบ เนื้อหนังซึ่งเป็นร่างกายฝ่ายร่างกายต้องกินต้องอยู่ต้องใช้ต้องตามให้ทันโลก แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องติดตามตลอดเวลาทุกข่าวทุกกระบวนการทุกอย่างทุกสิ่ง คือมีบางคนก็มาพูด แม้แต่เป็นคริสเตียนน่ะ คือยังพูดถึงเรื่องการเมือง ก็พูดบ่อยๆ พูดทุกวันทุกชั่วโมง บางคนก็ยังพูดเรื่องอะไรที่มีข่าวออกมาใหม่ๆ ใช่ไหม เรื่องเชื่อมจิต แล้วก็มีอะไรอีก มีเยอะมากใช่ไหม เราก็ไปติดตามมันจนคือสันติสุขหายไป จนการมั่นใจในการอยู่ในพระคริสต์ของเราไม่มี และการสัมผัสกับพระเจ้าในพระวิญญาณก็ไม่มี ทุกสิ่งมันหายไปหมด อันนี้เรียกว่า “ไม่ใช่แล้ว”
การอยู่ในพระวิญญาณ ปักใจในพระวิญญาณ ก็คือสันติสุขและชีวิต เพราะฉะนั้นเราติดตามข่าวได้ เราอ่านข่าวได้ เราฟังอะไรก็ได้นะครับ เพียงแต่ว่าเรา “เอเมนพระเยซู” ไปด้วย และพระองค์สะกิดเราบอกว่าให้กลับมาดูเท่านี้พอ ฟังแค่นี้โอเคแล้ว จากนั้นเราก็อยู่ในพระคริสต์ต่อไป เอเมน
เราอยู่ในขนาดของความเชื่อเท่าไหนเท่าไหร่ เราดูเราอยากจะดูหรือบางคนก็ติดนะครับ ก็ดู เพียงแต่ว่าขอให้สารภาพบาปและขอพระเยซูชำระ
“พระเยซูข้าพระองค์ปรารถนา ข้าพระองค์ต้องการที่จะอยู่ในพระองค์ อยู่ในน้ำพระทัยของพระองค์ อยากมีชีวิตที่พระองค์พอพระทัย เป็นที่ชอบพระทัยของพระองค์ แต่ตอนนี้ข้าพระองค์ยังอ่อนแอ ข้าพระองค์ยังติด ติดเฟสบุ๊ค ยังติดอะไรหลายอย่าง ขอพระองค์ชำระข้าพระองค์”
แล้วก็รอนะครับ รอด้วยความหวังใจ ความเชื่อคือการยอมรับในสิ่งที่ตามองไม่เห็นว่าได้รับแล้ว (ฮีบรู 11:1) เรารอว่าเวลาของพระเจ้ามาถึงเมื่อไร เราก็จะไม่ติด เราก็จะไม่ดู และมีคนชวนดู เราก็ไม่อยากดู เอเมนพระเยซู
เราเข้าใจตรงกันนะครับว่าคริสเตียนมีอยู่ 3 ระดับ ถ้าหากยังเป็นเด็กฝ่ายวิญญาณ ก็คือมาเชื่อใหม่ๆ หรือแม้แต่รับมานาใหม่ๆ เราก็ต้องยังใช้ชีวิตที่สุข ทุกข์ ดี บาป สุข ทุกข์ ดี บาป ไปเรื่อยๆ จนกว่าวันหนึ่งเราฝึกมากเท่าไหร่ เราสนิท บอกรัก อยู่ในพระวิญญาณมากเท่าไหร่ เราจะเห็นผลของพระวิญญาณมากเท่านั้น
“จงสนิทในเรา จงสนิทในเรา จงสนิทในเรา และเราจะสนิทในเจ้าและเจ้าจะเกิดผลมาก เอเมน”
กลับมาย้อนดูคลิปแรกๆ ที่เราเคยดูมานาฯ หน้าที่ของคริสเตียน คืออะไร
- เราไม่ได้อยู่เพื่อทำ ทำๆๆ พระเจ้าไม่ได้ต้องการแบบนี้
- เราอยู่เพื่อรัก รักๆๆ พระเจ้าต้องการความรักจากเรามากกว่าการกระทำที่เราจะทำเพื่อพระองค์
มารีย์และมารธา เป็นตัวอย่างที่ดีมากสำหรับทางเลือกของคริสเตียน 2 ทาง เราจะเป็นมารีย์หรือเป็นมารธา
ถ้าเป็นมารีย์ เขาไม่ได้กังวล เขาไม่ได้ห่วงเรื่องอะไรทั้งนั้น ก็คือเขาสนิทเขาอยู่ใกล้พระเยซู เขาฟังพระเยซู เขาแหงนหน้ามองที่พระเยซูเท่านั้น และทุกสิ่งพระเจ้าจะจัดการเอง
ชีวิตของมารธา ไม่มีปรากฏไม่มีบันทึกในพระคัมภีร์และหนังสือประวัติศาสตร์ของคริสเตียน
แต่รู้ไหมครับชีวิตของนางมารีย์ผู้ที่นั่งฟังพระเยซู เขาไม่ได้ทำงานอะไร ไม่ได้ทำกับข้าว แต่หนังสือประวัติศาสตร์คริสเตียนบันทึกว่านางมารีย์รับใช้พระเจ้าอย่างซื่อสัตย์ไปจนตาย
เราไม่จำเป็นนะครับที่บอกว่า อยากอยู่ในพระคริสต์ อยากอยู่ในพระสิริ อยากสัมผัสตลอดเวลา อยากอยู่ในสันติสุขตลอดเวลา เราไม่ควรพูดนะครับแทนที่จะพูดคำนี้เราใช้คำว่า..
“เอเมนข้าพระองค์อยู่ในพระคริสต์แล้ว สำเร็จแล้ว ข้าพระองค์อยู่ในพระสิริแล้ว ข้าพระองค์ถูกสร้างขึ้นมาใหม่เพื่อให้อยู่ในพระองค์ อยู่ในพระวิญญาณ อยู่ในสันติสุข อยู่ในชีวิตที่มีพลังเต็มล้น ทุกสิ่งสำเร็จแล้ว พระพรฝ่ายวิญญาณทุกประการข้าพระองค์รับแล้ว”
อันนี้นะครับเป็นการเชื่อในความจริงของพระเจ้า ความจริงของพระเจ้าสำเร็จแล้วน่ะ “อยู่ในพระคริสต์” อยากเห็นความจริงของพระเจ้าปรากฏในชีวิตของเรา ก็คือเข้าไปอยู่ในพระคริสต์
เข้าไปได้ยังไง.. ก็คือเชื่อเอา เพราะว่า 1 คร 1:30 บอกว่าเพราะว่าพระเจ้าเป็นคนกระทำท่านทั้งหลายจึงได้อยู่ในพระคริสต์แล้ว เป็นอดีตกาลนะครับ เอเมนพระเยซู
ยอห์น 15:5 พระเยซูตรัสว่า จงเข้าสนิทในเรา แล้วเราจะสนิทในเจ้า พระองค์รักษาสัญญา และจะกระทำเมื่อเราเริ่มสนิท
จากนั้นการสัมผัส สันติสุข พลัง ก็จะเคลื่อนไหวภายในเรา เปลี่ยนจากอ่อนแอ ทุกข์ เหนื่อยเมื่อยล้า กลายเป็นทุกสิ่งที่ตรงข้าม
ขณะที่เราฝึก เรานับ แต่จิตเรายังไม่อยู่ในพระคริสต์ เรายังคิดห่วงและกังวล เรากำลังใช้สายตามอง หูได้ยิน และอารมณ์ความรู้สึก เพื่อตัดสินทุกสิ่ง
การนับ เชื่อเอา ต้องอยู่บนพื้นฐานของการเชื่อเอา นับ และยอมรับความจริงของพระเจ้า เราจึงไม่ห่วง กังวล
ถ้าหากในมือเรายกถังน้ำที่หนัก และเราบอกว่า ข้าสนิท ข้าเชื่อ ข้าอยู่ในพระคริสต์ แต่เรายังถือมันอยู่ นี่คือการฝึกที่ไม่ถูกต้อง เพราะเรายังอยู่บนพื้นฐานที่ ถือถังน้ำอยู่
แต่หากเรายื่นถังน้ำให้พระเยซู และไม่ยอมคิด ห่วง กังวล มือแขนก็ไม่หนักอีก นี่คือการฝึกที่ถูกต้อง ตั้งจิตอยู่บนพื้นฐานของการวางใจ ไม่กังวล เชื่อ นับ
อ่านเพิ่มเติม: ในพระคริสต์