4:1 พี่น้องทั้งหลาย ในที่สุดนี้ เราขอวิงวอนและเตือนสติท่านในพระเยซูเจ้าว่า ท่านได้เรียนจากเราแล้วว่าควรจะประพฤติอย่างไร จึงจะเป็นที่ชอบพระทัยพระเจ้า ขอให้ท่านประพฤติอย่างนั้นยิ่งๆ ขึ้นไป
** คริสเตียนเมืองนี้ได้เรียนรู้การฝึกการดำเนินชีวิต ฝึกเดินในพระวิญญาณ เปาโลจึงหนุนใจพวกเขาให้ฝึกเดินเป็นประจำทุกวันและมากขึ้นๆ ยิ่งสนิท มีชีวิตและเดิน ในพระคริสต์มากเท่าไหร่ การเติบโตและทำแทนของพระคริสต์ก็ยิ่งจะมีมากเท่านั้น
4:2 เพราะท่านทั้งหลายทราบคำบัญชาซึ่งเราได้ให้ไว้กับท่านโดยพระเยซูเจ้าแล้ว
** คำบัญชา ก็คือ การมีชีวิตและเดินในพระวิญญาณ (ข้อที่ 3-9) การทำงานหาเลี้ยงชีพ ไม่หวังพึ่งใครเพื่อไม่ให้เป็นภาระของพี่น้องมากหรือนานจนเกินไป
4:3 เพราะนี่แหละเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า คือให้ท่านเป็นคนบริสุทธิ์ เว้นเสียจากการล่วงประเวณี
** เป็นคนบริสุทธิ์ ในที่นี้ คือการสวมเสื้อตัวที่สอง หรือการสำแดงชีวิตพระคริสต์ต่อหน้าผู้อื่นในเรื่องการล่วงประเวณี
4:4 เพื่อให้ทุกคนในพวกท่านรู้จักที่จะรักษาภาชนะของตนในทางบริสุทธิ์ และในทางที่มีเกียรติ
** เมื่อผู้เชื่อได้รับการเปิดตา เขาได้เข้ามาสู่การเปลี่ยนภาชนะดินกลายเป็นภาชนะทองคำแล้ว เขาควรจะให้ชีวิตของเขาอยู่ในทางแห่งความบริสุทธิ์ในพระคริสต์เพื่อผู้คนจะมองเห็นสง่าราศีของพระเจ้าในตัวเขา
4:5 มิใช่ด้วยราคะตัณหาเหมือนอย่างคนต่างชาติที่ไม่รู้จักพระเจ้า
4:6 เพื่อไม่ให้ผู้ใดทำล่วงเกินและลักลอบต่อพี่น้องในเรื่องใดๆ เลย เพราะว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นผู้ทรงสนองโทษต่อบรรดาคนที่กระทำอย่างนั้น เหมือนอย่างที่เราได้บอกไว้ก่อนแล้วและได้เป็นพยานแล้วด้วย
4:7 เพราะพระเจ้ามิได้ทรงเรียกเราให้เป็นคนลามก แต่ทรงเรียกเราให้เป็นคนบริสุทธิ์
4:8 เหตุฉะนั้นคนที่ปัดทิ้ง มิได้ปัดทิ้งมนุษย์ แต่ได้ปัดทิ้งพระเจ้า ผู้ทรงโปรดประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ให้แก่เราทั้งหลายด้วย
** ข้อที่ 5 จนถึงข้อที่ 8 เปาโลเน้นเรื่องการล่วงประเวณีที่เกิดมาจากตัณหาของร่างกาย หรือความใคร่ และวิธีกำจัดจิตเก่าและร่างกายแห่งความบาปเพื่อนำไปสู่ความใคร่นี้ก็คือการ "ตายต่อตัวเก่า" และเป็น "อยู่ต่อตัวใหม่" และเมื่อเรายิ่งสนิทในการนับว่าตายทุกวัน เราก็จะจำเริญขึ้นในความตายนั้น ตัวบาป จิต และร่างกายแห่งความบาปก็อ่อนกำลังและเกิดความใคร่ไม่ได้ เนื่องจากว่ากฎแห่งพระวิญญาณที่อยู่ในตัวใหม่ ที่เราจำเริญขึ้นโดยการสนิทในการเป็นขึ้นมาจากตายกับพระคริสต์เอาชนะกฎแห่งบาปแล้ว (โรม 6:4-13)
4:9 ส่วนเรื่องการรักพี่น้องทั้งหลายนั้น ไม่จำเป็นที่จะให้ข้าพเจ้าเขียนถึงท่าน เพราะว่าตัวท่านเองก็รับคำสอนจากพระเจ้าแล้วว่าให้รักซึ่งกันและกัน
4:10 ความจริงท่านได้ประพฤติต่อบรรดาพี่น้องทั่วแคว้นมาซิโดเนียเช่นนั้นอยู่ แต่พี่น้องทั้งหลาย เราขอวิงวอนท่านให้มีความรักทวีขึ้นอีก
** สำหรับบุตรที่รักของพระเจ้า พระองค์ประสงค์ให้เราทำทุกสิ่งด้วยรัก และให้ความรักนี้ทวีมากขึ้น ซึ่งความหมายก็คือให้พระคริสต์สำแดงชีวิตของพระองค์ผ่านเรามากขึ้นในทุกเรื่องโดยเฉพาะความรักที่มีต่อพี่น้องและทุกคนนั่นเอง
4:11 และจงตั้งเป้าว่าจะอยู่อย่างสงบ และทำกิจธุระส่วนของตน และทำการงานด้วยมือของตนเอง เหมือนอย่างที่เรากำชับท่านแล้ว
4:12 เพื่อท่านจะได้ประพฤติตามอย่างที่สมควรต่อหน้าคนเหล่านั้นที่อยู่ภายนอก และเพื่อท่านจะไม่ขาดสิ่งใดเลย
** ผู้เชื่อไม่ควรเกียจคร้านและหวังพึ่งพี่น้องมากจนเกินไป แต่ควรขยันหมั่นเพียร ทำงานหาเลี้ยงชีพ พระเจ้าจะเลี้ยงดูดูแลและทำให้การงานของเราเกิดผลอย่างมากมาย เราจึงไม่ยากจนและขัดสน
4:13 แต่พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่อยากให้ท่านไม่ทราบถึงเรื่องคนเหล่านั้นที่ล่วงหลับไปแล้ว เพื่อท่านจะไม่เป็นทุกข์โศกเศร้าอย่างคนอื่นๆที่ไม่มีความหวัง
** ล่วงหลับ กรีกคือ κοιμάομαι กำลังนอนหลับหรือกำลังหลับอยู่ sleep/fall asleep เป็นคำที่พระเยซูและสาวกใช้บางครั้งสำหรับผู้เชื่อที่ตายไปแล้ว (ยอห์น 11:11-14 / 1 คร 11:30)
** การหลับไปหรือการตายไป ไม่ใช่สิ่งสุดท้ายสำหรับมนุษย์ โดยเฉพาะผู้เชื่อทั้งหลาย การเป็นขึ้นมาจากตายคือการเริ่มต้นใหม่และเป็นอยู่ชั่วนิรันดร์กับพระเจ้าในยุคหน้าและแผ่นดินโลกใหม่
4:14 เพราะถ้าเราเชื่อว่าพระเยซูทรงสิ้นพระชนม์ และทรงคืนพระชนม์แล้ว เช่นเดียวกันบรรดาคนที่ล่วงหลับไปในพระเยซูนั้น พระเจ้าจะทรงนำคนเหล่านั้นมากับพระองค์ด้วย
** เมื่อพระเยซูชนะความตายได้ ทุกคนที่เชื่อในพระองค์ก็ได้รับชัยชนะเหนือความตายเหมือนพระองค์ ทุกคนที่หลับอยู่หรือตายจะถูกเรียกให้กลับมาเพื่อรับร่างกายใหม่เหมือนร่างกายแห่งสง่าราศีของพระเยซู
4:15 ในข้อนี้เราขอบอกให้ท่านทราบตามพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้าว่า เราผู้ยังเป็นอยู่และเหลืออยู่จนถึงองค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จมา จะล่วงหน้าไปก่อนคนเหล่านั้นที่ล่วงหลับไปแล้วก็หามิได้
4:16 ด้วยว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าเองจะเสด็จมาจากสวรรค์ ด้วยเสียงกู่ก้อง ด้วยสำเนียงของเทพบดี และด้วยเสียงแตรของพระเจ้า และคนทั้งปวงที่ตายแล้วในพระคริสต์จะเป็นขึ้นมาก่อน
4:17 หลังจากนั้นเราทั้งหลายซึ่งยังเป็นอยู่และเหลืออยู่ จะถูกรับขึ้นไปในเมฆพร้อมกับคนเหล่านั้น เพื่อจะได้พบองค์พระผู้เป็นเจ้าในฟ้าอากาศ อย่างนั้นแหละเราก็จะอยู่กับองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นนิตย์
** การเป็นขึ้นมาจากตายเพื่อรับอาณาจักรและรับการตีสอนที่เกเฮนา...
1. พระเยซูเสด็จกลับมาหลังจากกลียุค(เจ็ดปีแห่งความทุกข์ทรมาน)ผ่านพ้นไป
2. ผู้เชื่อที่หลับไป หรือตายแล้ว ก่อนสมัยสาวกจะถูกเรียกขึ้นมา ผู้เชื่อในสมัยสาวกก็จะเป็นขึ้น และผู้เชื่อหลังสมัยสาวกจนถึงวันสุดท้ายของกลียุคก็จะเป็นขึ้นเพื่อเข้าสู่การพิพากษาครั้งที่หนึ่งที่เรียกว่าการพิพากษา ณ พระที่นั่งของพระคริสต์
3. การพิพากษาครั้งที่หนึ่ง คือพระเยซูจะตัดสินผู้เชื่อทั้งหมดในท้องฟ้าอากาศ
4. เราก็จะอยู่กับองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นนิตย์ คือผู้ชนะทั้งหลายจะอยู่ร่วมกับพระเยซูก่อนในยุคพันปี จากนั้นก็ผู้เชื่อที่ถูกบ่ม (ตีสอน) ให้สุกงอมแล้วจึงจะได้อยู่กับพระเยซูในฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ ซึ่งก็คือรอดโดยทางความเชื่อนั่นเอง
4:18 เหตุฉะนั้นจงปลอบใจกันและกันด้วยถ้อยคำเหล่านี้เถิด
** เราขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับชีวิตพระเจ้าที่ตายอยู่เป็นนิจไม่ได้ และมีส่วนในความตายไม่ได้ แต่เพื่อเห็นแก่ความผิดบาปของมนุษย์พระองค์จึงยอมสิ้นใจเพื่อไถ่เราและเพื่อลงไปแดนคนตายเพื่อช่วยไถ่ผู้คนอีกมากมาย การเป็นขึ้นมาจากตายของพระเยซูเป็นความหวังที่ยิ่งใหญ่ของคริสเตียน เพราะว่าเรามีความหวังใจว่าจะได้อยู่กับองค์พระผู้เป็นเจ้าไปจนชั่วนิรันดร์ และถ้าหากไม่มีการเป็นขึ้นมาจากความตายของพระเยซู ความเชื่อ การดำเนินชีวิตของคริสเตียนก็ไร้ประโยชน์
วันนี้คุณพร้อมหรือยังที่จะมีส่วนในการเป็นขึ้นเพื่อผ่านพ้นจากการพิพากษาที่พระที่นั่งของพระคริสต์เพื่อรับมงกุฏที่ไม่รู้ร่วงโรย สิ่งเดียวที่พระเจ้าอยากได้จากคุณ และนั่นก็คือ ความรัก การสนิท และที่เหลือพระองค์จะเป็นคนกระทำให้ เนื่องจากว่าพระคุณของพระเจ้ามีให้คุณอย่างมากมายเพียงแค่คุณยอมจำนน ยอมรับว่าทำดีไม่ได้เลยและต้องการพึ่งพระองค์ตั้งแต่นอกจนถึงในและบนจนถึงล่าง คุณก็จะได้เห็นผลของชีวิตที่เต็มด้วยพระคุณอย่างมากมาย