- พระเยซูเสด็จมาเพื่อทำให้พระบัญญัติสำเร็จ คืออะไร
- ทำไมพระเยซูตรัสว่า "อย่าคิดว่า"
ในมัทธิวบทที่ 5:17 พระเยซูตรัสว่า "อย่าคิดว่า" "อย่าคิดว่า" ห้ามคิดนะครับ อย่าคิดว่าเรามาเพื่อที่จะลบล้างพระบัญญัติ เราไม่ได้มาเพื่อที่จะลบล้าง แต่เพื่อทำให้สำเร็จ หมายความว่ายังไง?
เมื่อพระเยซูในฐานะของกษัตริย์ออกเดินทางประกาศข่าวประเสริฐเรื่องราชอาณาจักร สาวกทั้งหลายที่ติดตามพระเยซูอยู่ในเวลานั้นส่วนมากจะเป็นคนอิสราเอลเป็นชาวยิว ชาวยิวมีปัญหาอยู่ 2 อย่างในชีวิตของเขา
ปัญหาแรก ก็คือการทำมาหาเลี้ยงชีพ เขาต้องตากตำทำงานหนัก เป็นชาวไร่ชาวนาชาวสวนเป็นคนเลี้ยงสัตว์
ปัญหาที่สองของคนยิว ก็คือการแบกภาระที่หนักมากๆ ภาระที่ว่านี้ ก็คือพระบัญญัติ ชาวยิวต้องรักษาพระบัญญัติอย่างเคร่งครัด ถ้าไม่รักษาอย่างเคร่งครัดพระเจ้าก็จะลงโทษเขา
การรักษาพระบัญญัติของชาวยิว คริสเตียนส่วนมากไม่รู้นะครับ ถ้าหากว่าคนใดคนหนึ่งรักษาพระบัญญัติได้ครบทุกข้อ แต่ผิดข้อเดียวก็ถือว่าผิดทั้งหมด (ยากอบ 2:10) เพราะฉะนั้นเมื่อทำผิดนะครับก็ต้องไปที่พระวิหาร นำสัตว์ไปถวายเครื่องบูชาไถ่บาป แล้วกลับมาเริ่มต้นใหม่ เป็นการดำเนินชีวิตที่แบกภาระที่หนักมากที่สุด
ชาวยิวนะครับได้แต่หวังว่าเมื่อไหร่หนอ พระบัญญัติจะถูกยกเลิก เมื่อไหร่หนอเป็นไปได้ไหมหนอที่ชีวิตเราไม่ต้องดำเนินชีวิตอยู่ใต้พระบัญญัตินี้ พระเยซูทรงทราบว่าสาวกทั้งหลายของพระเยซูที่เป็นคนยิวนะครับ ต่างก็คิดว่าพระเยซูจะมาเพื่อลบล้างพระบัญญัติ แต่พระเยซูนะครับกับยืนยันว่าเราไม่ได้มาเพื่อที่จะลบล้างพระบัญญัติ พระองค์ยังตรัสอีกว่า เรามาเพื่อทำให้สำเร็จ
การเสด็จมาของพระเยซูคริสต์เพื่อทำให้พระราชบัญญัติของพระเจ้าสำเร็จคืออะไร?
พระเยซูทำ 4 สิ่งนะครับ
1. (รักษาพระบัญญัติได้ครบ) พระเยซูรักษาพระบัญญัติได้ครบทุกประการ
2. (ยอมตายเพื่อไถ่บาปมนุษย์) พระเยซูยอมตายเพื่อชาวยิวที่รักษาพระบัญญัติไม่ได้ และเพื่อคนทั้งโลกที่ดำเนินชีวิตอยู่ในความบาป
3. (ยกระดับมาตรฐานของพระบัญญัติ) เมื่อพระเยซูเป็นคนชอบธรรมรักษาพระบัญญัติได้ครบทุกประการ และเมื่อพระเยซูเป็นผู้ที่ยอมสละชีวิตของพระองค์เองเพื่อไถ่บาปของคนทั้งโลกและของคนยิว พระเยซูจึงมีสิทธิ์อำนาจ ได้รับสิทธิจากพระบิดา พระองค์สามารถเปลี่ยนพระบัญญัติได้ คือพระบัญญัติเดิมเมื่อก่อนเป็นมาตรฐานของมนุษย์ พระเจ้ารับมนุษย์แบบว่าให้พระบัญญัติแก่ชนชาติอิสราเอล แต่พระเจ้าก็ยังอะลุ่มอล่วย พระบัญญัติในสมัยก่อนเป็นมาตรฐานของมนุษย์ คือคิดก็ไม่ผิด คิดได้ไม่ผิด แต่เมื่อลงมือกระทำเนี่ยผิดแล้ว แต่ถึงขณะว่าพระบัญญัติอยู่ในมาตรฐานของมนุษย์แต่ชนชาติอิสราเอลก็ยังร้องไห้ใช่ไหม คือมันเป็นการรักษาพระบัญญัติที่ลำบากมากที่หนักมาก
เมื่อพระเยซูดำเนินชีวิตรักษาพระบัญญัติได้ครบทุกประการ พระเยซูยอมตายเพื่อไถ่บาปของคนยิวและของคนทั้งโลกที่มีชีวิตอยู่ในสภาพของคนบาป พระเยซูจึงได้รับสิทธิอำนาจจากพระบิดา ให้สามารถยกระดับพระบัญญัติจากมาตรฐานของมนุษย์ สู่มาตรฐานของพระเจ้าได้ คือทำให้ง่ายกลายเป็นยาก ทำให้เบากลายเป็นหนัก ทำให้มนุษย์รักษาพระบัญญัตินี้ไม่ได้เลยนะครับ
พระบัญญัติใหม่ของพระเยซูเน้นที่ความคิด แค่คิดก็ผิดแล้ว
เมื่อก่อนพระบัญญัติเดิมของโมเสส คิดไม่ผิดนะครับ ถ้าลงมือกระทำจึงถือว่าผิด แค่คิดเนี่ยไม่ผิดนะครับ
ส่วนพระบัญญัติใหม่ของพระเยซูนะครับ แค่คิดก็ผิดแล้ว
สาเหตุที่พระเยซูยกพระบัญญัติจากมาตรฐานของมนุษย์ สู่มาตรฐานของพระเจ้า เพื่อให้มั่นใจว่ามนุษย์กระทำไม่ได้ ไม่มีมนุษย์คนไหนสามารถรักษาพระบัญญัติใหม่ของพระเยซูได้
ทุกวันนี้คริสเตียนแบกภาระหนักมาก เนื่องจากว่าคริสเตียนส่วนมากนะครับไม่รู้และไม่เข้าใจ การมาทำให้พระบัญญัติสำเร็จของพระเยซูคืออะไรกันแน่
อีกครั้ง.. ข้อที่ 3 คือ (ยกระดับมาตรฐานของพระบัญญัติ) พระเยซูได้รับสิทธิอำนาจจากพระบิดาให้ยกระดับมาตรฐานของพระบัญญัติ จากมาตรฐานของมนุษย์สู่มาตรฐานของพระเจ้า คือให้ยากขึ้น จนไม่มีใครทำได้
และประการที่ 4. (รักษาพระบัญญัติแทนเราในเรา) พระเยซูฟื้นขึ้นมาจากตาย แล้วก็ในสภาพของพระวิญญาณนะครับพระองค์เสด็จมาอยู่กับเราทุกคน เพื่อรักษาพระบัญญัติแทนเรา
นี่คือความหมายที่แท้จริงของการเสด็จมาเพื่อทำให้พระบัญญัติของพระเจ้าสำเร็จ
คือ 1. (รักษาพระบัญญัติได้ครบ) พระเยซูรักษาพระบัญญัติได้ครบทุกประการ เป็นคนชอบธรรมบริสุทธิ์ต่อพระพักตร์พระเจ้า พระเจ้ายอมรับแล้ว พระเยซูผ่านนะครับ ในโลกนี้ไม่มีใครนะครับสามารถที่จะรักษาพระบัญญัติได้ครบทุกประการเหมือนพระเยซู
ประการที่ 2. (ยอมตายเพื่อไถ่บาปมนุษย์) ก็คือพระเยซูยอมตาย ยอมตายเพื่อชนชาติยิวที่รักษาพระบัญญัติไม่ได้ และยอมตายเพื่อคนทั้งโลกที่อยู่ในสภาพของคนบาป
และข้อที่ 3. (ยกระดับมาตรฐานของพระบัญญัติ) พระเยซูได้รับสิทธิอำนาจจากพระบิดา พระองค์จึงสามารถยกมาตรฐานของพระบัญญัติ จากมาตรฐานของมนุษย์สู่มาตรฐานของพระเจ้า คือจากง่าย ให้ยาก จากเบา ให้เป็นหนัก แล้วก็เมื่อก่อนคิดเนี่ยไม่ผิด แต่ลงมือกระทำจึงถือว่าผิดนะครับ แต่เดี๋ยวนี้นะครับแค่คิดก็ผิดแล้ว
และประการที่ 4. (รักษาพระบัญญัติแทนเราในเรา) ก็คือพระเยซูฟื้นคืนพระชนม์ เพื่อที่จะเป็นพระวิญญาณและเข้ามาอยู่ในเราอยู่กับเราทุกวันทุกเวลานาที เพื่อเป็นผู้ที่จะรักษาพระบัญญัติแทนเรา ดำเนินชีวิตในความชอบธรรมแทนเรา
เพราะฉะนั้นอาจารย์เปาโลจึงกล่าวว่า กาลาเทีย 2:20 ข้าพเจ้าถูกตรึงแล้วกับพระเยซูคริสต์ ข้าพเจ้าจึงไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไป แต่พระคริสต์ต่างหากที่มีชีวิตอยู่ในข้าพเจ้า
ฟีลิปปี 1:21 สำหรับข้าพเจ้า การมีชีวิตอยู่ก็คือพระคริสต์ ไม่ใช่ "เพื่อพระคริสต์"
ภาษาไทยและหลายๆ ภาษาแปลว่า การมีชีวิตอยู่ ก็อยู่เพื่อพระเจ้า หรืออยู่เพื่อพระคริสต์ใช่ไหม แต่แท้ที่จริงนะครับความหมายที่แท้จริงของภาษากรีก ภาษาอังกฤษแปลถูกนะครับ คือ For to me to live is christ / For to me to live is christ ก็คือสำหรับข้าพเจ้าการมีชีวิตอยู่ ก็คือพระคริสต์เป็นผู้มีชีวิตอยู่ ไม่ใช่ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่
และฟีลิปปี 1:20 ก็คือ เพื่อพระคริสต์จะขยายตัวในข้าพเจ้า Christ magnified in my body
พระคำข้อนี้ผมใช้บ่อยๆ นะครับก็คือ กาลาเทีย 5:22-23 คือผลของพระวิญญาณ ไม่ใช่ผลของเรา ผลของพระวิญญาณ ภาษาอังกฤษก็คือ fruit of the Spirit
ถามว่าทำไมพี่น้องคริสเตียนส่วนมากไม่เข้าใจและไม่รู้ เกี่ยวกับเรื่องราวของการเสด็จมาของพระเยซูคริสต์ในสภาพของพระวิญญาณ เพื่ออยู่ในเรา อยู่กับเราทุกวันทุกเวลา เนื่องจากว่าพระคริสต์อยู่ในเรา ข้อนี้นะครับพระคริสต์อยู่ในเรา เป็นข้อลึกลับที่ลึกลับที่สุดของพระเจ้า โคโลสี 1:27 เป็น Mystery of God ก็คือข้อลึกลับที่ลึกลับที่สุด The Regent of the Mystery of God คริสเตียนไม่สามารถที่จะเข้าใจได้ แสวงหาก็ไม่ได้ นอกจากว่าพระเจ้าจะเปิดให้ พระเจ้ามองดูที่จิตใจของเราว่าใครที่ถ่อมแท้ ใครที่แสวงหาอย่างแท้จริง และใครที่ยอมแพ้ต่อพระเจ้า พระเจ้าก็จะเปิดให้ เราก็จะได้พบว่า..การดำเนินชีวิตของคริสเตียนแท้ที่จริงเพื่อหลีกเลี่ยงจากการดำเนินชีวิตที่เกิดผลความชอบธรรมที่ตายแล้ว หันมาเกิดผลของความชอบธรรมที่มีชีวิตอยู่ ก็คือพระเยซูคริสต์ดำเนินชีวิตแทนเรา
อันนี้เป็นข้อลึกลับที่ลึกลับที่สุด ที่ไม่มีใครอาจจะพบค้นพบได้ แต่เนื่องจากพระเจ้ามีพระเมตตาต่อผู้เชื่อหลายคนที่ถ่อมแท้ พระเจ้ารู้จักแต่ละคนนะครับว่ามีจิตใจที่ถ่อมแท้ยังไง รักพระเจ้ามากมายแค่ไหน
สำหรับคริสเตียนนะครับทุกคนก็รักพระเจ้า แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ถ่อมใจใช่ไหม บางคนบอกว่าถ่อมๆๆ แต่พอถึงเวลาเมื่อถึงเวลาพิสูจน์แล้ว เราก็ได้รู้ว่าคนนั้นไม่ได้ถ่อมจริงๆ พระเจ้ารู้นะครับว่าใครที่ถ่อม พระเจ้าจึงเปิดให้คนนั้น และคนนั้นก็มาถึงชีวิตของผู้ชนะ และผู้ชนะมีสันติสุขได้ทุกวันเวลานาที ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพการ สถานการณ์ยังไงก็ตาม
ข้อลึกลับที่ลึกลับที่สุด คือพระคริสต์ดำเนินชีวิตอยู่ในเรา เพื่อการดำเนินชีวิตที่เกิดผลถวายแด่พระเจ้า และเราจะมีส่วนในราชอาณาจักรสวรรค์ และมีส่วนร่วมครอบครองกับพระเยซูไปจนชั่วนิรันดร์
อ่านต่อ: เรามาเพื่อให้พระบัญญัติสำเร็จ