ถาม.
คือว่าเมื่ออาทิตย์ที่แล้วที่ดิฉันเข้าโรงพยาบาลผ่าตัดริดสีดวง แล้วทีนี้มันปวดมันทรมาน แล้วก็อยู่ที่โรงพยาบาลก็โอดโอยแบบว่าร้องไห้ด้วยบอกว่าปวดๆ แต่ว่าในใจเราก็นึกถึงพระเยซูอยู่ตลอดเวลา แล้วก็ให้พระคริสต์ปวดแทนแต่มันก็ยังไม่หายปวด แล้วทีนี้พี่สาว 2 คนนั่งอยู่ข้างๆ พี่สาวอีกคนก็บอกว่า ร้องเรียกหาพระเจ้าเธอสิ พระเจ้าเธอช่วยได้ไม่ใช่หรอ แล้วเราก็ไม่พูดอะไรมันปวดไงเราก็ร้องไห้อยู่นั่น แล้วก็พี่สาวอีกคนบอก ไม่ต้องเรียกหรอกพระเจ้าเธอน่ะ ถ้าช่วยก็ช่วยเธอตั้งแต่แรกแล้ว
แล้วที่เรามันปวด อยากรู้ว่าที่เราปวดแล้วก็ไม่หายเนี่ย เพราะว่าความเชื่อเราน้อยใช่ไหมค่ะ ที่พี่สาวของเราทั้งสองคนเขาดูถูกนะคะ
ตอบ.
ก่อนอื่นนะครับขอให้แก้คำพูดที่ว่า ให้พระเยซูปวดแทน อันนี้ไม่เอานะครับ
คือให้เราเชื่อนะครับว่า ในพระคัมภีร์ยืนยันว่า พระองค์เป็นผู้รับแบกความเจ็บไข้ของเราทั้งหลายไปแล้ว เอเมนไหม อย่าไปบอกนะครับ พระเยซูปวดแทนข้าพระองค์ พระเยซูเจ็บแทนข้าพระองค์ ไม่. คือพระองค์เจ็บแล้วปวดแล้ว รับไปแล้ว แบกไปแล้ว สองพันปีก่อนเรียบร้อยแล้ว มันเกิดขึ้นนานแล้ว เราเชื่อนะครับ เราเชื่อสิ่งนี้
และต่อมา เราขอบคุณพระเยซูที่พระองค์รักษาเราให้หายจากโรค จากความเจ็บไข้ทั้งหลาย เอเมนขอบคุณพระเยซูข้าพระองค์เชื่อ ว่าข้าพระองค์จะหายดี เพราะว่าอาการเจ็บไข้เหล่านี้เป็นความไม่จริง และอยู่ในอาดัม และมันถูกประหาร มันถูกนำไปโดยพระเยซูคริสต์ ไปไว้ที่กางเขนแล้ว เอเมนขอบคุณพระเยซู เราเชื่อ
และถ้ามีคนพูด ถ้ามีคนมาเยาะเย้ย มีคนมาพูดอะไรก็ตาม หรืออาการความเจ็บปวดมันกำเริบ เราอย่าไปมองมัน เราอย่าไปเชื่อมัน เราบอกว่าอันนี้ไม่จริง เป็นความไม่จริง
ความเจ็บปวดนะครับ คือ เงา
ความเจ็บปวดนะครับ คือ สิ่งที่ไม่จริง
ความเจ็บปวดนะครับ อยู่ในอาดัม
แต่เราอยู่ในพระคริสต์ เราอยู่ในชีวิตใหม่ ฝ่ายพระคริสต์มีแต่สิ่งดีๆ ทั้งนั้น ไม่มีความเจ็บปวด ไม่มีความทุกข์โศกเศร้า เราเชื่อในสิ่งนี้อย่างตายใจ เชื่ออย่างตายใจ เชื่อ 100% อีกไม่นานเราจะเห็นการอัศจรรย์เกิดขึ้น
นอกเสียจากว่า พระเจ้าอาจจะอนุญาตให้เราเจ็บปวด ด้วยบางสิ่งบางอย่างนะครับ เราก็เอเมนกับสิ่งนั้น
แต่ก่อนอื่นนะครับ ขอให้เราเชื่อและวางใจในฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า และวางใจในการทำกิจการทำงานของพระเจ้าในพระคริสต์เมื่อสองพันปีก่อน พระองค์แบกเอาความเจ็บไข้ของเราไปแล้ว (มธ 8:17) เอเมน
อันแรกสิ่งแรกที่เราทำนะครับ ใช่ครับ เราเชื่อเราวางใจในพระเจ้า ในฤทธิ์เดชของพระเจ้า พระเจ้ารักษาเราผ่านทางฤทธิ์อำนาจ ฤทธิ์เดชที่ยิ่งใหญ่ของพระเจ้าได้ หรือบางครั้งบางคนพระเจ้าอนุญาตให้เราหายดีผ่านการไปซื้อยามาทาน พระเจ้ารักษาเราผ่านยาก็มี ก็เป็นได้ครับ ซึ่งแล้วแต่กรณีแล้วแต่เหตุผลที่พระเจ้าให้เกิด
ผมเข้าใจนะครับ บางคนก็บอกว่ามันหายได้ อันนี้เป็นเรื่องของโลกนะครับ ของมนุษย์ ไม่เกี่ยวกับอะไรกับพระเจ้า คือริดสีดวงบางครั้งก็หายได้ บางครั้งก็ไม่หาย ไม่รู้จะเชื่อใครใช่ไหม
แต่เมื่อเรามาพบพระเยซู เรามีพระเจ้า และพระเจ้าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ และพระเจ้าสัญญาว่าจะรักษาเราให้หาย เพราะว่าความเจ็บไข้พระองค์ได้แบกเอาไปไว้ที่กางเขนแล้ว เราเชื่อนะครับ ว่าจะหาย มันก็จะหาย
สำหรับผมนะครับ ผมขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์รักษามะเร็งในปอด ที่ผมอาจจะตายตอนอายุ 30 กว่า แต่ก็ยังรอดมาได้ก็ยังอยู่ทุกวันนี้ แล้วก็ไม่มีปัญหาเรื่องปอดเรื่องมะเร็งเรื่องอะไรอีกแล้ว ก็หายขาดนะครับ ผมขอบคุณพระเจ้า
แต่ก่อนที่จะหาย ก็คือ ผมเป็นคนที่หัวดื้อนะครับ เป็นคนที่ตื้อพระเจ้า คือไม่รักษาเนี่ยไม่ยอม ผมเป็นคนแบบนี้ ก็อธิษฐานก็วุ่นวายก็คือดื้อ คือดื้อขอพระเจ้าอยู่อย่างนั้นตลอด จนสุดท้ายก็หายดี
แล้วก็ขอบคุณพระเจ้าสำหรับพระพรสิ่งหนึ่งที่พระองค์เมตตาผม เรื่องสายตานะครับ ผมไม่มีปัญหาเรื่องสายตา ก็คือมีเฉพาะที่ ตอนนี้ผมใช้แว่นตาเพื่ออ่านหนังสือ ก็คือ 1.25 อยู่ใน 1.25 ถึง 1.50 ไม่เคยไปตัดแว่นตา ไม่เคยไปซื้ออะไรที่มันขนาดเกินกว่านี้ ซึ่งผมเชื่อว่าหลายคนได้ยินนะครับว่าหลายคนมีปัญหาเรื่องสายตา ก็คือต้องทุกๆ ปีไปตรวจ แล้วก็ไปเพิ่มขนาดใช่ไหม คือจะต้องเป็น 2.3.4.ขึ้นไป
แต่ขอบคุณพระเจ้าคือตั้งแต่อายุ 30 กว่าๆ ที่ผมเริ่มใส่แว่นตา เพราะว่าต้องอ่านหนังสือ แล้วมีปัญหาเรื่องสายตานิดๆ หน่อยๆ แค่นั้นเอง มาจนถึงทุกวันนี้นะครับก็คือ 50 กว่าปีแล้ว 58 ปี ผมขอบคุณพระเจ้า สายตาก็ยังเท่าเดิม เอเมนสรรเสริญพระเยซู
แล้วขอหนุนใจพวกเรานะครับ ก็คือพระเยซูแบกเอาความเจ็บไข้ทั้งหลาย สิ่งที่ไม่ดี โรคร้าย สายตาเจ็บปวด อาการอวัยวะทั้งหลายในร่างกายของเรา เป็นเงาเป็นสิ่งชั่วคราว และเป็นสิ่งที่อยู่ในอาดัม
พระเยซูแบกเอาสิ่งเหล่านี้ไปไว้ที่กางเขนแล้ว แล้วพระองค์เป็นคนที่แบกความเจ็บไข้ พระองค์เจ็บไข้ พระองค์ถูกเฆี่ยนถูกตี ถูกเจ็บปวดทรมาน
เพื่ออะไร? เพื่อช่วยเราเรื่องปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพนี้ ขอบคุณพระเจ้า และการตายของพระเยซู ก็คือเพื่อช่วยเราให้ได้รอดจากความตายชั่วนิรันดร์
สรรเสริญพระเยซู เรามีความหวังนะครับ เมื่อพระองค์ไม่รักษาอย่าท้อ ตื้อต่อไป ขอต่อไป
...
ถาม.
เพราะว่าอย่างในกรณีที่พี่น้องที่เจ็บไข้ได้ป่วย แล้วอาการไม่ดีขึ้น คือเหมือนจะหนักมากกว่าเดิม มันจะเป็นเหมือนกับอาจารย์เปาโลไหมค่ะ คือเหมือนเข้าข่ายว่าหนามในเนื้อ จะใช่ไหมคะ
ตอบ.
สำหรับเปาโล ก็คือ พระเจ้าให้เขามีปัญหาเรื่องสายตา หนามในเนื้อก็คือเขามีปัญหาเรื่องสายตา จำกันได้ไหมอีกไม่นานต่อมาเขาต้องให้ผู้ช่วยเป็นคนเขียนหนังสือให้เขา เพราะว่าสายตาเริ่มเบลอเริ่มมองไม่เห็น สมัยก่อนไม่มีแว่นขยายนะครับ ไม่มีแว่นตาใส่ เป็นสิ่งที่พระเจ้าให้เขามันติดตัวเขาอยู่จนตายจนถึงวันตาย
พระเจ้าอนุญาตให้บางคนนะครับ คือมีปัญหาเรื่องสุขภาพบางอย่าง ซึ่งพระเจ้าไม่รักษา เพราะว่าพระคุณก็เพียงพอแล้ว ความรักก็เพียงพอแล้ว ความรอดก็เพียงพอแล้ว พระพรมากมายเรื่องอื่นๆ ก็เพียงพอแล้ว ซึ่งพระเจ้าอาจจะให้มีบางอย่างบางสิ่งนะครับ เกิดขึ้นกับเราบางเรื่อง แล้วพระเจ้าไม่ยอมรักษา เพราะว่าพระองค์มีเหตุผล
อาจจะมีเหตุผลหลายอย่างนะครับ คือบางครั้งถ้าเราไม่เจ็บปวด เราไม่มีปัญหาอะไรเลย เราก็จะทิ้งพระเจ้า หรือลืมพระเจ้าไป หรือไม่สนใจพระเจ้า เพราะฉะนั้นพระเจ้าอาจจะใช้บางสิ่งปัญหาบางอย่าง เพื่อที่จะให้เราหันความสนใจมาให้พระเจ้าบ้าง หรือใส่ใจพระเจ้า พระเจ้าต้องการเรา พระเจ้าต้องการทุกคนเพื่อหันความสนใจมาให้พระองค์
เพราะฉะนั้นบางครั้งก็จะมีการตีสอนบ้าง การทำให้เจ็บปวดบ้าง เกิดปัญหาบางอย่างเกิดขึ้นบ้าง เพื่อนำเรากลับเข้ามาหาพระองค์ เป็นสิ่งดีสำหรับพระเจ้า และเป็นสิ่งดีสำหรับเราด้วย ขอให้เข้าใจตรงนี้
แต่เรานะครับต้องการชีวิตที่จะให้มันราบรื่น แล้วคิดดูมนุษย์ เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ เมื่อมนุษย์ได้ดีมนุษย์มักจะลืมพระเจ้า ใช่ไหม. เพราะฉะนั้นนี่คือสิ่งที่เป็นสิ่งหนึ่งที่พระเจ้าทำ เพื่อให้เราหันมาหาพระเจ้า
ไม่ใช่เพียงแต่คริสเตียนศาสนา เรารู้กันดี บางครั้งเราเองก็ยังมีจุดบกพร่อง ใช่ไหม หลังจากนมัสการวันนี้ ลองดูสิ เราจะหายไปไหม มีบางคนนะอาจจะหายไปจากพระเจ้า แล้ววันอาทิตย์ก็จะกลับมาใหม่ หรืออาจจะเป็นคืนนี้ก็ได้ นึกถึงก็กลับมาสนิทใหม่ เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์นะครับ ที่แก้ไขยาก
จนกว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์จะชำระเรา ให้เราคิดถึงมองเห็นความสำคัญของการสนิท การสนิทได้มาซึ่งการกลายเป็นบุตรที่รัก ได้มาซึ่งการกลายเป็นผู้ชนะ ได้มาซึ่งการมีสันติสุขทุกวันทุกเวลา และอยู่ในการดูแลปกปักรักษาคุ้มครองของพระเจ้า
เพราะฉะนั้นอยู่ในพระคริสต์ สนิทในพระองค์ดีกว่า เอเมน
...
ถาม.
เอเมนค่ะขอบคุณพระเยซู ในเรื่องการเจ็บไข้ได้ป่วยนะคะเหมือนกับว่า พระองค์จะให้เราได้ชิมดูว่า ตอนที่พระองค์เจ็บป่วย ตอนนั้นน่ะที่ทนทุกข์ลำบากมากมาย พระองค์ให้ชิมดูโรคนึงอ่ะเป็นยังไงบ้าง คือนึกถึงตรงนี้นะคะ
ตอบ.
สำหรับเรื่องการให้เราชิมดู อันนี้ไม่จริงนะครับ อันนี้ไม่ใช่เหตุผลที่พระเจ้าต้องการให้เราเจ็บปวด ไม่ใช่ครับ
คือพระเจ้าต้องการให้เรา รับการตีสอน
1. เมื่อเราทำผิดอะไรบางอย่าง
2. ก็คือพระเจ้าต้องการให้เราหันความสนใจมาให้พระเจ้า พระเจ้าจึงใช้ปัญหาหรือความเจ็บปวด
แต่เหตุผลที่บอกว่าพระเจ้าให้เราชิมดูว่าพระองค์เจ็บแค่ไหน อันนี้ไม่จริงครับ เราทุกคนรู้กันดีว่าการเจ็บปวดมันเป็นแบบไหน ลักษณะยังไง ถ้าจะให้ชิมจริงๆ นะครับ เราต้องถูกตรึงใช่ไหม ถูกเฆี่ยนตี อันนี้เราไม่ได้ถูกถึงขนาดต้องถึงขั้นถูกเฆี่ยนตี ถูกตรึงอะไรประมาณนั้น อย่าเข้าใจผิดนะครับ
...
ถาม.
ขออนุญาตค่ะอาจารย์คือหนูสงสัยว่า ถ้าคริสเตียนเจ็บป่วย ต้องไปหาหมอไหม หรือรอเชื่อพระเจ้าอย่างเดียวให้รักษาค่ะ ขอบคุณค่ะ
ตอบ.
การรักษาของพระเจ้านะครับบางครั้งจะผ่านมือหมอ บางครั้งผ่านยา ผ่านการทานยานะครับ และบางครั้งก็จะผ่านพระหัตถ์ของพระเจ้า ฤทธิ์เดชของพระเจ้า
สิ่งสำคัญนะครับต้องอธิษฐานก่อน อธิษฐานขอคำตอบขอความชัดเจนจากพระเจ้า เมื่อพระเจ้าตอบให้รอก็รอ เมื่อพระเจ้าตอบไม่ให้รอเราก็ทานยาครับ
...
ถาม.
ขอถามเพิ่มเกี่ยวกับอาจารย์เปาโลค่ะ มีคนเคยอธิบายความว่า ทำไมพระเจ้าไม่รักษาเปาโลให้หาย อยากทราบว่าความคิดเห็นนี้ถูกต้องหรือเปล่าค่ะ
เขาบอกว่าอาจารย์เปาโลเป็นผู้ที่พระเจ้าใช้ แล้วก็มีการเจิมสูง แล้วก็เป็นคนที่มีของประทานเยอะมาก ถ้าเปรียบเทียบกับสาวกก็คือมีมากกว่าคนอื่น มีประสบการณ์กับพระเจ้ามาก พระเจ้าเลยไม่รักษาโรคเขา เพื่อเขาจะไม่ลำพองตัว เพื่อเขาจะไม่หลงตัวว่า แบบเขาเก่งทำได้หลายสิ่งหลายอย่างมากกว่าคนอื่น พระเจ้าก็เลยไม่ให้เขาหายโรคนะคะ อันนี้ใช่ไหมค่ะ
ตอบ.
ก็เชื่อว่าเป็นเหตุผลหนึ่งนะครับ เชื่อว่าเป็นเหตุผลหนึ่ง ที่พระเจ้าไม่ให้เปาโลเพอร์เฟกต์ อาจจะให้อะไรเกิดขึ้นบางอย่าง อะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับเขา เพื่อเขาจะไม่พองตัว ไม่อดตัว
แล้วสุดท้ายรู้ไหม เปาโลประกาศเป็นระยะๆ ว่าข้าพเจ้าไม่มีอะไรจะอวด เพราะว่าเขาเจ็บปวดอยู่น่ะ คือสายตาเขามีปัญหานะครับ เขาก็เลยบอกว่าข้าพเจ้าไม่มีจะอวด
แต่นึกดูสิครับถ้าหากว่าเขาเพอร์เฟกต์ ไม่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ ไม่มีปัญหาอะไรเลย ทั้งการงาน การเงิน อะไร ไม่มีปัญหา แน่นอนครับเปาโลจะเป็นคนที่ขี้อวด เพราะว่าเปาโลเป็นฟาริสี เป็นผู้รับใช้ในสภาแซนแฮดรินด้วย แล้วก็เป็นคนที่เคร่งศาสนาคนหนึ่ง เพราะฉะนั้นผู้ชายคนนี้เนี่ยเต็มด้วยหัวใจที่หยิ่งพยองพองตัว
แต่เมื่อพระเจ้าให้เขาเจ็บปวด มีปัญหาเรื่องทางสายตา ก็คือเขาเป็นคนที่ถ่อมใจมากๆ แล้วทุกครั้งที่เขาไปที่ไหนนะครับ เขาจะบอกว่าข้าพเจ้าไม่อวด ข้าพเจ้าเองไม่มีอะไรจะอวด แต่ข้าพเจ้าอวดพระคริสต์ ข้าพเจ้าประกาศสิ่งเดียวก็คือประกาศพระคริสต์ ก็คือเขาสำแดงชีวิตของพระคริสต์ต่อหน้าผู้คนมากมายครับ
แล้วไม่ใช่ว่าเปาโลจะไม่ขอพระเจ้านะครับ เปาโลขอ เปาโลอธิษฐานต่อพระเจ้าหลายครั้ง เปาโลมีความเชื่อว่าพระเจ้าจะรักษา แต่ในที่สุดนะครับพระเจ้าก็ให้คำตอบกับเขาเอง พระเจ้าพูดเองกับเขาว่า “เราให้พระคุณแก่เจ้าก็มีมากมายเพียงพอแล้ว” เขาจึงยอมรับความจริงแล้วก็ไม่ขออีกต่อไป
...
ถาม.
เอเมนครับ เรื่องนี้มีประสบการณ์มาตลอดก็คือว่า เมื่อพี่น้องท่านใดเจ็บป่วย ก็คือขอให้เราพูดง่ายๆ สั้นๆ อันนี้ไม่ได้โอ้อวดนะครับ ก็คือมีพี่น้องให้ผมอธิษฐานเผื่อเรื่องความเจ็บป่วย แล้วก็หลายคนก็หาย ก็คือผมพูดสั้นๆ ว่าเอเมนพระเยซูหายแล้ว ทีนี้พี่น้องก็เลยถามว่าทำไมพูดสั้นจังเลย แล้วพระเยซูจะรักษาเหรอพูดสั้นขนาดนี้ ผมก็บอกว่า พระองค์รักษาเรานะไม่ใช่ว่าเราพูดยาวหรือพูดสั้น แต่พระองค์ดูว่าเรามีความเชื่อหรือเปล่า แต่ว่าการที่พี่น้องอธิษฐานยาวๆ ก็ไม่ใช่เรื่องผิดนะครับ ก็อธิษฐานได้ แต่ว่าถ้าเราพูดสั้นๆ เอเมนพระเยซูหายแล้ว ก็ได้ครับก็คือพระเจ้าดูที่ความเชื่อเราเนาะ
ตอบ.
สำหรับเรื่องการอธิษฐาน ใช่ครับ เราพูดสั้นๆ อีกชั่วโมงหนึ่งต่อมาเราอยากจะพูด เราก็บอกว่า “เอเมนพระเยซูรักษาข้าพระองค์” อีก 2 ชั่วโมงต่อมา เราพูดได้ครับ ขอแต่เพียงพูดสั้นๆ ก็ได้นะครับ เราเน้นที่ความเชื่อ ความมั่นใจในฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าที่จะรักษาเรา
ยังมีอีกปัญหาหนึ่งที่ผมเคยมี ผมเคยเป็นนะครับ ก็คือนอกจากสายตามีปัญหาแล้ว แล้วก็เรื่องมะเร็งในปอด อีกเรื่องหนึ่งก็คือผมจะเป็นคนที่ปวด เจ็บปวดมากนะครับที่คอและไหล่ คือเป็นตั้งแต่ตอนสมัยเป็นวัยรุ่น จนถึงอายุ 40 กว่า ประมาณ 30 กว่า 40 ก็คือเจ็บปวดมากแล้วก็เจ็บปวดทุกวันด้วย มันเป็นอยู่ตลอดเวลา ไม่หายไปไหน ตอนเวลานอน เวลาไปทำงาน ทำอะไรก็ตามก็ยังเจ็บปวด
จนถึงช่วงที่เป็นคริสเตียน ก็ขอพระเจ้ารักษา พระองค์ก็ไม่รักษานะครับ เพียงแต่ว่าให้มันมีอาการมึนชาบางครั้ง ต่อมาก็หายดี แล้วต่อมาก็มึนชาอยู่ ต่อมาก็หายดี จนถึงเวลาที่ผมรับมานาฯ แล้วผมก็บอกว่า “ขอให้น้ำพระทัยของพระองค์สำเร็จ จะให้เจ็บปวดก็ไม่เป็นไร เพราะว่าความรักของพระเยซูให้ข้าพระองค์มีมากมาย สันติสุขมีมากมาย ไม่เป็นไรเจ็บปวดก็ได้” แล้วผมคือผมก็ทายานะครับ ก็ทายา แล้วก็ลืมมันไป ไม่สนใจ ไม่ใส่ใจ
แต่ทุกวันนี้ขอบคุณพระเจ้า หลังจากที่รับมานาฯ มันหายไปไหนไม่รู้ สรรเสริญพระเยซู
...
ถาม.
อาจารย์ค่ะขออนุญาตถามเรื่องอาการเจ็บป่วยนะคะ ที่อาจารย์แบ่งปันว่าที่หายใช่ไหมค่ะ พอดีว่าสัก 3-4 เดือนที่ผ่านมา ที่ดิฉันมีอาการปวดฟัน คือมันเป็นปัญหาเกิดจากต้องรักษารากฟัน แต่เมื่อก่อนคือจะปวดมาก แล้วก็ให้พี่น้องอธิษฐานเผื่อ บางครั้งก็คือมันปวดมากจนหงุดหงิดนะคะ เราก็ไม่มีสมาธิในการที่จะฝึกเดิน ต่อมาก็สารภาพบาป แล้วก็อาจจะเป็นพี่น้องอธิษฐานเผื่อด้วย ต่อมาก็คือจากที่เคยปวดมากๆ นะคะ อยู่ๆ คือแบบมันหายนะคะ แต่รู้ว่ามันปวดนะคะเพราะว่ามันเป็นแบบตึ๊บๆ นะคะเวลามันปวด แต่มันเป็นแบบมันตึ้บอยู่ แต่มันไม่ได้รู้สึกปวดนะคะ อันนี้มันคืออาการครอบครองของพระเยซูที่ครองครอบเราไม่ให้รู้สึก ใช่ไหมค่ะ
ตอบ.
แน่นอนครับ พระเจ้าเป็นคนที่ทำให้เราไม่ปวดไม่เจ็บ อาการมันชา หรืออาการที่แบบเราไม่รู้สึกปวด มีโดยเดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์ครับ