เมื่อเราได้กลายเป็นลูกของพระเจ้า เราได้รับการชำระแล้วโดยเลือดพระเยซู เพราะฉะนั้นทุกคนหลุดพ้นจากความผิดความบาปทั้งหลาย เมื่อเราได้เป็นลูกของพระเจ้า เราได้รับการชำระ เราได้รอดจากบึงไฟ นรกบึงไฟไม่ใช่ของเราไม่ต้องไป อยากไปก็ไม่ได้ไปเพราะว่าพระเจ้าซื้อแล้วไถ่แล้วให้เป็นลูกและชำระบาปโดยเลือดของพระเยซูแล้ว แต่คริสเตียนหลายคนทุกวันนี้กลัวไม่ได้ไป เพราะว่าอะไร? เพราะว่าพระเจ้าไม่เอาไป มันเป็นที่อยู่ของคนที่ไม่เชื่อพระองค์ ไม่รับเอาพระองค์ และไม่ได้เป็นลูกของพระองค์และไม่ได้รับการชำระโดยพระโลหิต ฉะนั้นขอบคุณพระเจ้าในขั้นตอนต่อมา
คืออยู่ในการก่อขึ้น เมื่อท่านเป็นคริสเตียน เมื่อท่านเชื่อพระเยซู แน่นอนที่สุดพระเจ้าไม่ได้ปล่อยท่านผ่านไปเฉยๆ พระเจ้าเตรียมงานต่อไป ก็คือก่อท่านขึ้น อันนี้พระเจ้าเป็นผู้ทำเอง และทุกสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในชีวิตเราตั้งแต่เราเชื่อจนถึงปัจจุบันนี้ และต่อไปในอนาคต คือการงานของพระเจ้าคือแผนการของพระเจ้าที่กำลังก่อท่านขึ้น
มีสิ่งใดที่เกิดกับเรา อย่าท้อ อย่าหวั่นไหว อย่าหนี ให้เราอยู่ในทางของพระเจ้า ให้เราอธิษฐานนมัสการพระองค์อยู่เสมอ เพราะว่าพระองค์กำลังก่อเราขึ้น ทุกสิ่งที่เข้ามา ปัญหาใหญ่ ปัญหาน้อย ปัญหาอะไรก็ตามเกิดขึ้นกับเรา พระองค์ก่อเราขึ้นอยู่
ในชีวิตประจำวันของคริสเตียนที่กำลังถูกก่อขึ้นนี้
1. จะมีการเตือนของพระเจ้า พระเจ้าเตือนทางคน ทางรถ ทางนี้ ทางนั้น ทางทุกทางที่พระเจ้าเตือนได้ พระองค์จะเตือนอยู่เสมอ
2.พระองค์จะตีสอน
3. พระองค์จะทดลอง มีการทดลองบ้างในชีวิตคริสเตียน ทดลองว่าเราจะทิ้งพระองค์ไหม ทดลองว่าเราจะดูถูกพระองค์ไหม ทดลองว่าเราจะต่อว่าพระองค์ไหม ที่ผ่านมาเคยสังเกตไหมคนที่เชื่อพระเยซูโดยเฉพาะตัวเราเองอาจจะเคยเป็น หลายครั้งที่เราเจอปัญหา เราเจอมรสุมกับชีวิตเราต่อว่าพระเจ้า
"คือเราต้องเข้าใจว่า โลกนี้เราอยู่เพื่อการก่อขึ้นของพระเยซูอยู่ในเรา"
ต้องมีการเตือน พระเจ้าต้องตีสอนเราเวลาเราทำผิดทำบาป แต่ไม่หนัก แล้วก็พระเจ้าทดลองเราเวลาเราดำเนินชีวิตอยู่ในโลกนี้ อาจจะเจอปัญหาอะไร พระเจ้าเอาปัญหามาให้เรา ให้เราเดือดร้อน ให้เรามีปัญหาเพื่อทดลองเราเพื่อทดสอบเรา
"สำคัญที่สุดคือเรากำลังอยู่ในการก่อขึ้นแล้วจำเชื่อไว้สิ่งนี้ เราอยู่ในการก่อขึ้น"
...
สำหรับผมมาอยู่ที่นี่ ผมเห็นว่าการจราจรที่นี่แบบน่ากลัวมากแล้วก็ใช้ไม่ได้ การจราจรที่นี่ใช้ไม่ได้ แล้วผมมาอยู่ที่นี่อยู่มาถึงปีที่ 4 ผมก็เริ่มเป็นคนที่ใช้ไม่ได้ในการขี่รถ เมื่อก่อนติดไฟแดงผมจอดไม่ไป แต่ว่าเดี๋ยวนี้เห็นว่า เอ่อ ใครก็ไปหมด ผมก็อ่ะไปกับเขาเลย ที่นี้เวลาคนขี่รถ ขี่รถมาตัดหน้าผู้นั้น ขี่รถมาตัดหน้าคนนี้และเวลาไปเจอกันอยู่ไฟแดง ผมมักจะพูดว่าน้องชายเจ้าขี่รถ ถ้าขี่แบบนี้มีโอกาสจะชนคนและมีโอกาสเจ้าเองจะเกิดอุบัติเหตุ ส่วนมากผมจะถูกทำแบบนี้ใส่ หันหน้ามามองแล้วมองแรง แทนที่จะว่าขอบใจขอบใจ จะระวัง ไม่มี!
อยู่ประเทศอเมริกา ถ้าสมมุติใครขี่รถไม่ดี หรือว่าทำอะไรไม่ถูก เราไปเตือนเขาน่ะ เขาบอกว่า โอ้ ขอบใจ ขอบใจ จะเปลี่ยนแปลง
...
คนฉลาด คือคนที่ชอบรับเอาคำแนะนำของคนอื่นมาฟัง เอาของคนอื่นมาดีหรือไม่ดีก็ตามถูกไม่ถูกก็ตาม เรารู้มากกว่าเขาก็ตาม แต่ว่าเราฟังแล้วเราบอกขอบใจ และเอามาพิจารณา เอามาปรับปรุงแก้ไข ถ้าเราทำได้แล้วก็ไม่เป็นไร
มันเป็นเรื่องของการที่พระเจ้าเตือนเรา โดยผ่านทางคน ผ่านทางทุกสิ่งทุกอย่างพระเจ้าสามารถเตือนได้ เพราะฉะนั้นให้ฟังคำของคน ฟังว่าพระเจ้ากำลังเตือนเรา เราถ่อมตัว เราฟังคนอื่น เราได้ประโยชน์ เราได้ดี
...
เมื่อเช้าผมได้ขี่รถมาจอดอยู่ไฟแดง พอตอนไปก็ขี่ไป พอดีไปเจอรถใหญ่ใกล้ๆรถใหญ่ เห็นไฟหน้ารถตัวเองเปิดอยู่ ก็อ๋อ ลืมปิดไฟ ถ้าไม่ส่องเห็นเงาตัวเองกระจกเงาตัวเอง เราก็จะไม่เห็นว่าเราเป็นแบบไหน เราลืมอะไร เราผิดพลาดอะไร
ฉะนั้นทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในโลกนี้พระเจ้าใช้หมดเพื่อเตือนเรา ให้เราอยู่ในการก่อขึ้นของพระองค์ เวลาเราทำผิดทำพลาดพระเจ้าก็ตีสอนเรา เรายอมรับ เราขอบคุณพระเจ้า เราสารภาพผิด
ถ้าว่าพระเจ้าทดลองเรา เราก็สู้เพราะว่าพระเจ้าก็อยู่ในเรา พระเจ้าก็ปลอบใจเรา พระเจ้าก็นำเราให้กำลังเราในการเอาชนะการทดลองได้