ถาม:
คนป่วยที่เปิดใจต้อนพระคริสต์แล้ว แต่เสียชีวิตไปโดยย้งไม่ได้รับบัพติศมา จะได้รับความรอดในสถานะเดียวกันกับผู้ได้ผ่านการบัพติศมาไหม?
ตอบ:
ไม่เท่ากันครับ ผู้เชื่อที่ต้อนรับพระเยซู และเสียชีวิตก่อนรับบัพติศมา เขาได้รอด แต่ไม่ได้รับบำเหน็จรางวัล และตำแหน่งครอบครองอะไร — พระคัมภีร์เรียกความรอดนี้ว่า “ได้เข้าไปอาณาจักรสวรรค์” — แต่เขาจะได้รอดเข้าไปในฟ้าสวรรค์ใหม่ และโลกใหม่เท่านั้น
“ความรอด” (จากบึงไฟ — รอดเข้าสู่ฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่) เราได้มาโดยพระคุณ คือการไถ่ด้วยพระโลหิตของพระเยซู การไถ่บาปนี้สำเร็จครบถ้วน พระเยซูจ่ายราคาครบแล้ว
ความรอดนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับการรับบัพติศมา การเชื่อฟัง กระทำดี การถวาย หรือการรับใช้ แต่โดยอาศัยความเชื่อของเราเท่านั้น (อฟ 2:8–9/โรม 11:6)
ในยอห์น 3:3–5 พระเยซูตรัสว่า “ถ้าไม่ได้บังเกิดใหม่ในน้ำและในพระวิญญาณ จะไม่ได้เห็น และไม่ได้เข้าไปในอาณาจักรของพระเจ้า” อาณาจักรของพระเจ้าในที่นี้ คือการครอบครองของพระเจ้าภายในคริสตจักร และการครอบครองของพระเจ้าในยุคหน้า (ยุคพันปี)
ในยุคนี้ อาณาจักรของพระเจ้าคือคริสตจักร คือเมื่อเราบัพติศมาในน้ำและในพระวิญญาณ เราจะถูกนับเข้าให้มีส่วนในพระกายของพระเยซู และได้รับประสบการณ์อย่างครบของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ที่ทำงานผ่านคริสตจักรของพระองค์ และเมื่อถึงยุคหน้า (ยุคอาณาจักร) ถ้าหากชีวิตเราเปลี่ยนทันเวลา เราจะได้เข้าไปในอาณาจักร และครอบครองร่วมกับพระองค์ชั่วนิรันดร์ ขณะที่ผู้เชื่อมากมายไม่มีโอกาสได้เข้าไป
“รอดในวันสุดท้าย” และ “เข้าไปในอาณาจักร”
“Saved in the last day” vs “Enter into the Kingdom”
“ความรอด” ในพระคัมภีร์มีหลายรอด แต่มีสองรอดใหญ่ๆ ด้วยกัน คือรอดจากบึงไฟ และได้เข้าไปในอาณาจักร
พี่น้องผู้เชื่อเรามากมายเข้าใจผิดคิดว่า มีความรอดเดียว คือรอดจากบึงไฟ คือเมื่อเราตายไป หรือเมื่อพระเยซูเสด็จกลับมา เราก็จะได้รอดขึ้นไปอยู่บนสวรรค์กับพระเจ้าชั่วนิรันดร์ แต่แท้ที่จริงแล้ว เรื่องความรอด ในพระคัมภีร์มีคำสองคำที่น่าสนใจที่พระเยซูใช้ คือ “ความรอด” และ “ได้เข้าไปในอาณาจักร” เพราะว่าสองคำนี้ พระเยซูและสาวกใช้ เพื่อสื่อถึงความรอดสองแบบที่ไม่เหมือนกันเลย
A. รอด (ในวันสุดท้าย) — “Saved in the last day”
B. เข้าไปในอาณาจักร — “Enter into the kingdom…”
คำที่ใช้:
1. “จะรอด (แล้ว) — Shall be saved” (โรม 10:9–10)
2. “ได้รอดแล้ว — Saved” (โรม 10:9–10)
3. “รอดในวันสุดท้าย — Saved in the last day” (1 คร 5:5)
4. “รอดเหมือนรอดผ่านพ้นไฟ” (1 คร 3:15)
5. “รอดจากการพิพากษาที่พระบัลลังก์ใหญ่สีขาว (วว 20:11–15)
- คือการได้รอดจากบึงไฟ — (Saved from the lake of fire) (วว 20:14–15)
หลักการแห่งความรอด และการพิพากษา คือเชื่อเท่านั้นก็ได้กลายเป็นคนชอบธรรม และได้รับความรอดแล้ว (โรม 4:22–25 / อฟ 2:8–9 / โรม 11:6)
- เรารอดในวันสุดท้ายนี้โดยพระคุณของพระเจ้า ทางความเชื่อด้วยปาก และรับด้วยใจของเรา (โรม 10.9–10)
- จะต้องมีผลของชีวิตใหม่ไม่มากก็น้อย เพื่อพิสูจน์ว่า เขาได้เชื่อ และบังเกิดใหม่อย่างแท้จริง (ยก 2:14–26 )
- ความรอดนี้เป็นของขวัญจากพระเจ้า (อฟ 2:8–9)
- ไม่เกี่ยวข้องข้องเกี่ยวอะไรกับการทำดี เชื่อฟัง รักษาพระบัญญัติ เพื่อจะไม่มีใครอวดได้ (อฟ 2:8–9)
- ถ้าหากความรอด (จากบึงไฟ) มีการเชื่อฟังมาเกี่ยวข้อง พระคุณก็จะไม่ใช่พระคุณอีกต่อไป (โรม 11:6)
- เราได้รับความรอดนี้ เพราะเหตุการยอมตายของพระคริสต์ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการทำดีของเรา (กท 2:14–21)
- ถ้าหากผู้เชื่อได้บังเกิดใหม่แล้ว แต่ไม่โตสู่พระลักษณะของพระคริสต์ เขาจะได้รอด แต่รอดเหมือนผ่านพ้นไฟ (ไม่มีบำเหน็จอะไรเลย — เป็นประชากรแห่งฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่เท่านั้น (1 คร 3:12–15)
- ถ้าไม่เลิกทำบาปก็ได้รอด แต่จะต้องถูกลงโทษในชีวิตนี้ (1 คร 5:1–5) และในยุคอาณาจักรเป็นเวลาพันปี (มธ 5:13–16 / 25:1–13 / 2 คร 5:10) พระเยซูจะปฏิเสธ และไม่ให้เข้าไปในอาณาจักร ถึงแม้จะมีผลงานมากมาย ใช้ของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ก็ตาม แต่ไม่มีจิตใจใหม่ (มธ 7:21–27)
- ในยุคพระคุณนี้ พระเจ้าทรงประทับที่พระที่นั่งแห่งพระคุณซ้อนพระคุณ (ยน 1:16 / อฟ. 2:8–9 / โรม 11:6) มนุษย์ทั้งยิวและต่างชาติ จึงมีโอกาสได้รับความรอดอย่างง่ายดาย คือเพียงแต่เชื่อเท่านั้น พระเจ้าจะนับว่า ความเชื่อนี้เป็นความชอบธรรมของเรา (โรม 4:22–25 / 10:8–9)
- ทันทีที่ผู้เชื่อต้อนรับพระเยซูด้วยปากและด้วยใจ เขาก็ได้กลายเป็นคนชอบธรรมต่อพระพักตร์พระเจ้า และได้รับความรอด (โรม 5:1, 19–21; 10:8–9) เขาได้สวมเสื้อที่ดีที่สุด คือสวมพระคริสต์ (ลก 15:22 / กท 3:27 เมื่อพระบิดามองมาที่เราจะเห็นพระเยซู ไม่ได้เห็นเราอีกต่อไป เราจะมีสภาพใหม่หมดจดสำหรับพระเจ้า (2 คร 5:16–17)
คำที่ใช้:
1. “เข้าไปในอาณาจักรสวรรค์ — “Shall enter into the kingdom of heaven” (มธ 5:20 / 7.21 / 18:3 / 19:23)
2. “ได้เข้าไปในอาณาจักรของพระเจ้า — “Shall enter into the kingdom of God” (มธ 19:24 / มก 9:47 / 10:23–25 / ลก 18:24–25 / ยน 3:5 / กจ 14:22)
3. ได้ร่วมครอบครองกับพระเยซู (2 ทธ 2:12 / วว 20:4–6)
4. ได้เข้าไปในงานเลี้ยงแต่งงาน (มธ 25:1–13)
- การได้เข้าไปในอาณาจักร ไม่ใช่เรื่องการได้รอดในวันสุดท้าย พระเยซูจะใช้สองคำที่ไม่เหมือนกัน คือ “รอด” และ “ได้เข้าไปใน”
- การเข้าไปในอาณาจักร คือการได้มีส่วนร่วมครอบครองกับพระเยซูในยุคอาณาจักร ยุคพันปี หรือยุคสุดท้ายนั่นเอง
- ยุคอาณาจักรดังกล่าวเรียกว่า “งานเลี้ยงแต่งงาน” (มธ 25:1–13), “ยุคที่กำลังจะมา” (มก 10:30), “ช่วงเวลาแห่งการฟื้นฟูโลก” (มธ 19:28 / กจ 3:21)
- ขณะที่ผู้เชื่อต้อนรับพระเยซูด้วยปากและด้วยใจ เขาก็ได้กลายเป็นคนชอบธรรมต่อพระพักตร์พระเจ้า และได้รอดจากบึงไฟ แต่ถ้าหากชีวิตเขาไม่สุกงอม หรือไม่มีผลของชีวิตพระคริสต์ปรากฏ เขาจะพลาดโอกาส และไม่ได้เข้าไปในอาณาจักรในยุคพันปี หรือยุคหน้า
- การได้รอดจากบึงไฟ คือได้สวมเสื้อที่ดีที่สุด แต่การได้เข้าไปในอาณาจักร หรืองานเลี้ยงพันปี จะต้องสวมเสื้อที่เหมาะสำหรับงานเลี้ยงแต่งงาน (จิตใจได้รับการเปลี่ยนใหม่แล้ว) (มธ 22:1–14)
- เกลือที่หมดรสเค็ม / ตะเกียงที่เอากระบุงครอบไว้ / หญิงพรมจารีโง่ห้าคน / คนใช้ที่ฝังของประทาน / คนที่ไม่มีความชอบธรรมที่เหนือกว่าฟาริสีและธรรมาจารย์ คือคริสเตียนผู้ไม่ชนะ ที่จะไม่ได้เข้าไปในอาณาจักร แต่จะถูกลงโทษในยุคพันปี
สรุป
1. พระคัมภีร์ทุกข้อที่กล่าวถึงเชื่อไม่พอ ต้องเชื่อฟัง และเกิดผลของพระวิญญาณอย่างสม่ำเสมอในแต่ละวัน คือการได้เข้าไปในอาณาจักรสวรรค์ และอาณาจักรของพระเจ้าในยุคพันปี
2. พระคัมภีร์ทุกข้อที่กล่าวถึงเชื่อเท่านั้นก็ได้รอด ไม่เกี่ยวอะไรกับการรักษาพระบัญญัติเชื่อฟัง ถึงจะทำบาปมากมาย แต่ไม่ทิ้งความเชื่อ และไม่ทิ้งพระเยซู คือการได้รอดในวันสุดท้าย หรือรอดจากบึงไฟนี่เอง
3. เรื่องการได้เข้าไปในอาณาจักรในยุคหน้าเป็นข้อลึกลับ (มธ 13:11) ถ้าพระเจ้าไม่เปิดเราจะหาไม่พบ (มธ 13:13, 16–17)
มธ 13:11 พระองค์ตรัสตอบเขาว่า “เพราะว่าข้อความลึกลับของอาณาจักรแห่งสวรรค์ทรงโปรดให้ท่านทั้งหลายรู้ได้ แต่คนเหล่านั้นไม่โปรดให้รู้
16 แต่ตาของท่านทั้งหลายก็เป็นสุขเพราะได้เห็น และหูของท่านก็เป็นสุขเพราะได้ยิน
17 เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ผู้พยากรณ์และผู้ชอบธรรมเป็นอันมาก ได้ปรารถนาจะเห็นซึ่งท่านทั้งหลายเห็นอยู่นี้ แต่เขามิเคยได้เห็น และอยากจะได้ยินซึ่งท่านทั้งหลายได้ยิน แต่เขาก็มิเคยได้ยิน
บทความเพิ่มเติม: ความรอด มีสองรอด