3. การบังเกิดใหม่ (Regeneration)

การบังเกิดใหม่ของคริสเตียนบังเกิดใหม่เพียงครั้งเดียว เกิดแล้วก็เกิดเลย..

- ทันทีที่เราต้อนรับพระเยซูด้วยความเชื่อ และเข้าใจเต็มใจรับพระองค์ 

- พระวิญญาณจะเข้ามาบันดาลให้วิญญาณของเราบังเกิดใหม่ เราจะไม่เห็นการบังเกิดใหม่นี้แต่เราจะเห็นผลของการบังเกิดใหม่ คืออาการหิวกระหายอยากอ่านอยากรู้จักพระเยซูมากขึ้น อยากไปร่วมกับพี่น้องคริสเตียน อยากบอกคนอื่นเรื่องพระเยซู ฯลฯ)

- จากนั้นพระวิญญาณจะเข้ามาสถิตในวิญญาณของเรา และทำงานเพื่อขยายอาณาเขตมาที่จิตใจ เพื่อครอบครองทุกส่วนของชีวิตเรา

- พระวิญญาณจะไม่ออกไปจากเราเลย เมื่อเราทำบาป จิตของเราเป็นคนทำ วิญญาณที่บังเกิดใหม่ไม่ได้ทำเพราะทำไม่ได้ และพระวิญญาณสถิตอยู่ในวิญญาณไม่ใช่ในจิต

- มนุษย์วิญญาณ: ยน 3:6 กล่าว่าซึ่งบังเกิดจากเนื้อหนังก็เป็นเนื้อหนัง ซึ่งบังเกิดจากพระวิญญาณก็เป็นวิญญาณ ชีวิตที่แท้จริงของมนุษย์คือวิญญาณ วิญญาณของคริสเตียนถูกควบคุมโดยพระวิญญาณแล้ว วิญญาณควรจะเป็นนายของจิต และจิตที่ยอมจำนนต่อวิญญาณจะเชื่อฟัง และยอมอยู่ใต้บังคับบัญชาของพระวิญญาณ 

- การบังเกิดใหม่: เมื่อเราเชื่อ และต้อนรับพระเยซู เราก็ได้บังเกิดใหม่ทันที พระวิญญาณจะบันดาลให้วิญญาณของเราบังเกิดใหม่ จากนั้นก็จะเข้ามาสถิตอยู่ในวิญญาณนั้น เพื่อครอบครอง และสร้างบ้านให้เป็นวิหารของพระเจ้าทั้งสามพระภาค ขั้นตอนต่อมาพระเจ้าจะเคาะที่ประตูใจ (วว 3:20) คือเปิดตาเราให้ได้รู้ว่าการเชื่อเอาว่าทรงเป็นเจ้าของครอบครองจิตเรา เพื่อให้เราเลิกทำบาป และเชื่อฟังพระเจ้าได้

- การ ได้รู้ ว่าพระคริสต์อยู่ในเรา และสร้างบ้านอยู่ภายในจิตเราโดยการเชื่อเอา (อฟ 3:17) เรื่องนี้สำคัญมากแต่ผู้เชื่อมากมายไม่รู้ คริสเตียนได้บังเกิดใหม่โดยการเชื่อเอาฉันใด และได้เป็นผู้ชนะเลิกทำบาปได้ก็โดยการเชื่อเอาฉันนั้น เราได้บังเกิดใหม่ไม่อาจเห็นได้ด้วยตา แต่เราจะเห็นอาการที่หิวกระหาย และแสวงหาการดำเนินชีวิตฝ่ายวิญญาณ (ยน 3:3-5)

.....

เขาไม่ได้บังเกิดใหม่อย่างแท้จริง

ผู้เชื่อมากมายทุกวันนี้ไม่ได้บังเกิดใหม่จริงๆ เนื่องจากเกิดในครอบครัวคริสเตียน หรือทั้งประเทศเป็นคริสเตียน / พ่อ แม่ เพื่อนๆ นายจ้าง ชวนไปโบสถ์ เขาก็ไป ชวนรับเชื่อก็รับ ซึ่งเขาอาจเข้าใจว่าเป็นเรื่องของศาสนาคริสต์ เขาเรียนรู้ อาจมีส่วนรับใช้ บางคนเป็นถึงอาจารย์ 

แต่เขาไม่มีอาการภายในวิญญาณที่หิวกระหาย แสวงหาการสนิทและผูกพันกับพระเจ้าเป็นส่วนตัว ตลอดชีวิตเขาอาจจะไม่หนีไปจากศาสนาคริสต์ หรือหนีไปเมื่อถึงเวลา

ผู้เชื่อที่บังเกิดใหม่อย่างแท้จริง จะมีอาการหิวกระหายภายในวิญญาณ เนื่องจากเขาต้อนรับพระเยซูด้วยหัวใจ และเข้าใจ เชื่ออย่างแท้จริงว่าพระเยซูเป็นพระเจ้า และพระผู้ช่วยให้รอดของเขา เขายินดีต้อนรับ และขอพระเยซูเข้ามาสถิตในเขา เพื่อการบังเกิดใหม่ เป็นบุตรพระเจ้า และเข้าส่วนในพระกายของพระเยซู

ผู้เชื่อที่บังเกิดใหม่อย่างแท้จริง จะไม่ทิ้งพระเจ้าพระเยซู และไม่ยอมกราบไหว้พระอื่นเป็นอันขาด

ถึงแม้ว่าบ่อยครั้งเขาไม่ไปร่วมนมัสการ อธิษฐาน อ่าน รับใช้ หรือหนีจากการเดินในความเชื่อแต่ละวัน แต่ถ้าหากมีใครมาหยามดูหมิ่นพระเยซูต่อหน้าเขา เขาจะเกิดอาการเสียใจ ไม่พอใจ และโกรธ เขาได้บังเกิดใหม่แล้วอย่างแท้จริง

(ยอห์น 3:3-6) เราไม่อาจเห็นการบังเกิดใหม่ของใครได้ แต่เราดูที่อาการของเขาที่มาจากวิญญาณภายใน

ผู้รับใช้ชื่อดังท่านหนึ่ง เป็นผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยศาสนศาสตร์ชื่อดังในอเมริกา ซึ่งเป็นที่ผลิตผู้รับใช้ ศบ. ศจ. มากมายในแต่ละปี สุดท้ายท่านสารภาพว่าท่านไม่เคยได้บังเกิดใหม่แต่ใช้ชีวิตในสังคมคริสเตียนเพื่อธุรกิจเพื่อทำมาหากิน ท่านยอมต้อนรับพระเยซูอย่างแท้จริงเมื่อศิษย์คนนึงเทศนาที่มหาลัยแห่งนั้น

(พระเยซูพูดถึงเรื่องนี้ใน มธ 13:24-30 เรื่องข้าวดีและข้าวละมาน)

<<< 2. การไถ่  - 4. การชำระให้กลายเป็นคนชอบธรรม >>>