เมื่อเช้ามีพี่น้องบางคนถามว่าเมื่อไหร่จะสุกงอม
ผมก็นั่งฟังและไม่ตอบ ต่อมาเขาก็คุยกัน เขาก็คุยกัน (วันนี้ก็เป็นวันอาทิตย์ใช่ไหมเป็นวันขององค์พระผู้เป็นเจ้า) และเขาก็คุยกันเรื่องผู้นำ เรื่องคริสตจักร เรื่องพี่น้องทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องเดียว คือเรื่องสรรเสริญพระเยซู หรือชวนกันอธิษฐานขอบพระคุณพระเยซู หรือพูดถึงเรื่องการสนิทบอกรักพระเยซู ไม่มีการหนุนใจ ไม่มีการเข้าไปฝ่ายวิญญาณในฝ่ายวิญญาณ ผมก็ไม่ได้พูดอะไร แล้วพอดีเมื่อเช้าก็มีโอกาสได้คุยกับพี่น้อง ผมก็ตอบเขาไปว่า
เราเองนะครับ อยากสุกงอม อยากสุกงอม แต่การกระทำของเรามันไม่ได้นำเรามาถึงจุดที่จะสุกงอมได้ เข้าใจกันนะครับ
คนที่จะสุกงอม ก็คือคนที่สนิทในพระเยซู คนที่บอกรักพระเยซู คนที่รับการเปิดตา สะสมมานาที่เป็นอาหารผู้ใหญ่ เพื่อเข้าสู่การชำระด้วยพระคำและชำระด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ สุดท้ายก็สุกงอม
เพราะฉะนั้นถ้าหากเราต้องการที่จะสุกงอม ไม่ต้องถามว่าเมื่อไหร่จะสุกงอม คำตอบไม่มี แต่การที่จะมาถึงชีวิตผู้ชนะได้ เราสนิท เราบอกรัก เรารับการเปิดตาโดยพระวิญญาณมากขึ้น พระเจ้าก็จะชำระเราเข้าสู่การชำระด้วยพระคำและการชำระด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์
นี่คือเหตุผลที่ทำไมพระเยซูให้ผู้เชื่อในสมัยก่อนและผู้เชื่อในทุกยุคทุกสมัยเข้าสู่มหาสนิท ทำมหาสนิทเพื่ออะไร ภาษาอังกฤษ Do this to remember me พระเยซูให้ทำหักขนมปังแล้วก็ยื่นน้ำองุ่นให้ แล้วพระเยซูตรัสว่า Do this to remember me ถ้าจะแปลเป็นภาษาไทยให้ถูกต้องให้เหมาะสมที่สุดเพื่อผู้ฟังจะเข้าใจได้ง่าย ผู้อ่านจะเข้าใจได้ง่าย ก็คือ จงทำสิ่งนี้เพื่อจำเรา เพื่อไม่ต้องลืมเรา to remember me (remember ก็คือจำ)
แต่ถ้าจะแปลแบบเดิม ก็คือจงทำสิ่งนี้เพื่อระลึกถึงเรา อันนี้เราก็จะคิดว่านานๆ ทีหนึ่งระลึกถึงพระเยซูใช่ไหม มันเป็นคนละความหมายกับที่พระเยซูต้องการสื่อ ก็คือเพื่อจดจำเรา นั่งรถตอนเช้าอยู่กับใคร ไปกับใครทำอะไร เราก็ต้องจำว่าพระเยซูอยู่ในเราอยู่กับเรา
และสิ่งต่อมาก็ต้องทำ ก็คือพูดคุยกับพระเยซู บอกรักพระเยซู จุดอ่อนของผู้เชื่อมากมายทุกวันนี้ไม่ได้มาถึงการสนิทการบอกรัก และจุดอ่อนของผู้เชื่อที่รับพระคำล้ำลึกรับมานา ก็คือ "ลืม"
จุดอ่อน คือ "ลืม"