คำอธิษฐานที่พระเยซูสอนพวกเราให้อธิษฐานในแต่ละวัน คือขอให้ราชอาณาจักรของพระองค์ลงมาตั้งอยู่ พี่น้องส่วนมากไม่เข้าใจ พี่น้องหลายท่านบอกว่า อาณาจักรของพระเจ้าก็อยู่ที่นี่แล้วไง คือพระเยซูคริสต์ หรือการครอบครองของพระองค์
ใช่ครับ สำหรับยุคนี้ อาณาจักรของพระเจ้า หรืออาณาจักรสวรรค์ ก็คือคริสตจักร แต่การครอบครองของพระเยซูอยู่ในฝ่ายวิญญาณ
สมัยที่พระเยซูเดินไปมาบนโลกนี้ พระเยซูตรัสว่า “จงอธิษฐานขอให้อาณาจักรของพระองค์ลงมาตั้งอยู่” และพระเยซูประกาศว่า “จงกลับใจเสียใหม่ เพราะว่าอาณาจักรสวรรค์มาใกล้แล้ว” (ยังไม่มา)
พระเยซูก็อยู่ตรงนั้น แล้วทำไมพระเยซูบอกว่า “อาณาจักรสวรรค์มาใกล้แล้ว” แสดงว่าพระเยซูเป็นอาณาจักรของพระเจ้าที่ลงมายังโลกนี้ แต่อาณาจักรสวรรค์ยังไม่มาครับ อาณาจักรที่จะมาปรากฏต่อหน้ามนุษย์ทั้งหลายทั่วโลกยังไม่มา เพราะฉะนั้น พระเยซูจึงตรัสว่า “จงกลับใจเสียใหม่ เพราะว่าอาณาจักรสวรรค์มาใกล้แล้ว”
พระเยซูสอนเราว่า จงอธิษฐานขอให้อาณาจักรลงมาตั้งอยู่ และพระเยซูตรัสอีกว่า จงแสวงหาอาณาจักรของพระเจ้า ใช่ครับ ตอนนั้นพระเยซูเป็นอาณาจักรของพระเจ้า แต่ไม่ใช่ส่วนที่จะมา ไม่ใช่อาณาจักรสวรรค์ที่เป็นส่วนที่สำคัญของอาณาจักรของพระเจ้า ซึ่งเป็นยุคพันปี
การที่จะรักษาชีวิตของเราให้ต่ำถ่อมอยู่เสมอ จากกฎหมายใหม่ของพระเยซูในมัทธิวบทที่ 6 คือเราทำทุกสิ่งเพื่อไม่ให้พี่น้องในคริสตจักรยกย่อง สรรเสริญ หรือยกยอเรา ไม่ว่าจะเป็นการอธิษฐานยาว เด่นดัง คำพูดดีไพเราะ หรือบางคนกระโดดโลดเต้น เน้นที่ไฟ ฤทธิ์เดช หรืออะไรก็แล้วแต่
การใช้ฤทธิ์เดช หรือการเน้นที่ผลของอำนาจแห่งพระวิญญาณ สิ่งเหล่านี้พี่น้องคริสเตียนส่วนมากใช้กัน เพราะว่ามันสามารถช่วยให้เราดังภายในข้ามคืนได้
ใครที่เน้นเรื่องความรู้สติปัญญา ก็ไม่ค่อยมีคนสนใจเราเท่าไหร่ แต่ถ้าเรายืนขึ้น และใช้ฤทธิ์เดชอำนาจแห่งพระวิญญาณ โอการที่จะเด่น ดัง หรือดีได้ก็มีมากครับ
แต่พระเยซูกลับสอนเราให้ทำในสิ่งที่ตรงข้าม คืออธิษฐานในที่ลี้ลับ ไม่ให้ใครยกยอปอปั้นเรา อธิษฐานในวิญญาณ หรือในที่ลี้ลับครับ สรรเสริญพระเจ้า ยกย่องพระเจ้า พูดกับพระเจ้าเท่านั้น
และการกระทำทุกสิ่งในคริสตจักร เราอยู่ในสภาพของคนที่เรียบง่าย อ่อนโยน และสุภาพ เพราะว่าพระลักษณะของพระเจ้าจะอยู่กับเราทุกที่ทุกหนทุกแห่ง ไม่ใช่อยู่ในคริสตจักรเรากระโดดโลดเต้น ทำเป็นคนที่เข้มแข็ง แต่เมื่อเราออกจากคริสตจักรแล้ว เราก็เป็นอีกคนหนึ่ง
เราเป็นคนเดิม เป็นคนที่รัก อ่อนน้อม สุภาพ อ่อนโยน อดทนนาน กระทำคุณให้ มีอะกาเป ไปทุกที่ทุกหนทุกแห่งในลักษณะเดียวกันเป็นคนๆ เดียว ไม่แสดงละคร ตอนนี้เป็นแบบนั้น ตอนนั้นเป็นแบบนี้ อยู่ที่โบสถ์กระโดดโลดเต้น และอธิษฐานใหญ่เลย แต่พอออกมาจากคริสตจักรแล้วก็เป็นอีกแบบหนึ่ง
พี่น้องคริสเตียนส่วนมากยังมาไม่ถึงจุดนี้ คือการไว้วางใจในพระเจ้า และการฝากความหวังไว้ที่พระหัตถ์ของพระเจ้า
เราพูดกันบ่อยๆ ว่า พระเจ้ายิ่งใหญ่ๆ พระเจ้ารักเรา สงสารเรา ดูแลคุ้มครองเรา ครอบครองเรา แต่ชีวิตของเรากลับไม่กระทำเหมือนที่เราพูด เพราะว่าเรากระวนกระวาย
เราเป็นห่วงและกังวลมาก เมื่อเราไม่มีจะกิน ไม่มีงานทำ มีปัญหาชีวิต มีปัญหาครอบครัว หรือมีปัญหาในคริสตจักร เราหนี หนี หนี แล้วก็หนีลูกเดียว
สิ่งที่สำคัญที่เราควรจะจดจำ คือใน มธ. 6:19–34 พระเยซูตรัสถึงสามครั้งว่า “อย่ากระวนกระวายๆๆ” สำหรับคนยิว ถ้าหากเขาพูดสามครั้ง นั่นคือเป็นสิ่งที่เขาเน้น และเขาต้องการให้เรามั่นใจว่า ถ้าเขาพูดถึงสามครั้ง เขาจะเอาจริง
พระเยซูตรัสว่า “อย่ากระวนกระวาย” ถึงสามครั้ง ใน มธ. 6:19–34 คือพระองค์ต้องการบอกเราว่า “นี่ลูก ฟังเรา เมื่อเรารักเจ้า เมื่อเจ้าเป็นบุตรของเรา เจ้าอยู่ในการคุ้มครอง ครอบครอง ควบคุม และดูแลของเรา”
แม้แต่นกพระเจ้าก็ดูแล และทุกสิ่งพระเจ้าก็ดูแลได้ และถ้าหากเรากระวนกระวายจะช่วยอะไรได้ ยิ่งจะทำให้เรากลุ้มใจไปใหญ่ หรืออาจจะมีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นมากกว่านี้อีก แต่พระเจ้าตรัสว่าให้อยู่นิ่ง และอยู่ในการสรรเสริญ สนิท และบอกรักพระเจ้า
ถ้าเรารักๆๆ ปัญหาก็จะหมดๆๆ และเมื่อเรารักๆๆ และสนิทกับพระเจ้ามากขึ้น สันติสุขก็จะครอบครองจิตใจของเรา และพระเจ้าจะนำการแก้ปัญหาเข้ามาไม่ช้าก็เร็ว หรือถ้าหากว่าพระเจ้าให้มีปัญหา พระเจ้าก็อยู่ด้วย และพระเจ้าให้ปัญหาเหล่านั้นไม่นานเกินรอ และกำหนดมันไว้ไม่ให้หนักเกินความอดทนของเราได้
เพราะฉะนั้นแล้ว ถึงแม้ว่าเราจะพบกับปัญหามากมาย ขอให้เรามองว่ามีพี่น้องที่ดูแลเรา และอธิษฐานเผื่อเรา แต่ถ้าหากพี่น้องไม่เห็นใคร มองที่ผมได้ และมีทีมงานของพวกเราอยู่นะครับ พวกเราอธิษฐานเผื่อพี่น้องอยู่เสมอ เราอธิษฐานเผื่อท่านในเรื่องความเชื่อ เรื่องชีวิตความเป็นอยู่ และเรื่องปัญหาต่างๆ ที่พี่น้องมีอยู่ คุยกับพวกเราได้ พวกเราจะอธิษฐานเผื่อ
และสิ่งหนึ่งที่สำคัญ ขอให้ไว้วางใจในพระเจ้า พระเยซูตรัสสามครั้งว่า “อย่ากระวนกระวายๆๆ” เราก็บอกว่า “เอเมน”
เมื่อมีปัญหาที่เข้ามามาหาเรา เราก็บอกว่า “เอเมน” และปัญหาที่ใหญ่ขึ้นเข้ามาหาเรา เราก็บอกว่า “เอเมน ข้าพระองค์จะไม่กระวนกระวาย เพราะว่าพระเยซูเป็นพระเจ้า เป็นกษัตริย์ของข้าพระองค์ เป็นผู้ยิ่งใหญ่เหนือปัญหานั้น” เราก็จะเห็นว่าปัญหานั้้นน้อยลงๆ ทุกที
หรือถึงแม้ว่า ปัญหาที่เข้ามาในแต่ละวันมันไม่หมดซักที แต่ขอให้เราจดจำในสิ่งนี้ว่า พระเจ้าอยู่กับเรา และพระเจ้าให้สันติสุขที่เต็มล้นอยู่ภายในจิตใจของเรา และทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ถ้าพระเจ้าไม่อนุญาต มันจะมาไม่ถึงเรา
เพราะฉะนั้น อย่ากระวนกระวาย ขอให้เราฝึกความเชื่อนี้ ฝึกในการไว้วางใจในพระเจ้า และขอให้เราเชื่อว่าพระเจ้าอยู่กับเรา พระเจ้ามองเห็นทุกสิ่ง และพระเจ้าอนุญาตให้ปัญหาเข้ามา แม้แต่ปัญหาเท่าเส้นผม ถ้าพระเจ้าไม่อนุญาต มันก็จะเข้ามาไม่ได้ครับ
เราเป็นบุตรพระเจ้า เราเชื่อในพระเยซูคริสต์ เรามีพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ ใหญ่กว่าเหนือกว่าปัญหาเหล่านั้น ขอให้เราวางใจ และไม่ช้าไม่นานเราจะเห็นว่า การไว้วางใจของเรามีคุณค่าต่อชีวิตของเรามาก เพราะว่าพระเจ้าจะทำงานผ่านการไว้วางใจของเรา
เมื่อเราเชื่อ เราเห็นการอัศจรรย์ เมื่อเราวางใจ เราเห็นความยิ่งใหญ่ และการตอบสนองความเชื่อนั้น
ขอพระเจ้านำเรานะครับให้มาถึงการเป็นบุตรพระเจ้า การเป็นประชากรของอาณาจักรที่แท้จริง และการไว้วางใจในพระคริสต์ที่อยู่ในเรา ที่ทำแทนเราทุกครั้งทุกเวลาให้เราอยู่ในสภาพใหม่ และมีพระคริสต์อยู่แทนทำแทน อยู่เพื่อเราทำเพื่อเรา
เราไม่กระวนกระวาย และเราขอพระเจ้าเป็นผู้กระทำกิจในเราทั้งความปรารถนาและการกระทำ เมื่อเราทำได้ทุกครั้งทุกเวลา เราอยู่ในการสนิทบอกรักๆๆๆ พระเจ้า พระเจ้าก็จะทำๆๆ ให้เรา
และในที่สุด มัทธิวบทที่ 5 มีไว้เพื่อกำจัดความโกรธและความใคร่ (ตัณหาของร่างกาย, เพศสัมพันธ์) มัทธิวบทที่ 6 มีไว้กำจัดการหยิ่งผยองพองตัว อวดดี อวดรู้ อวดฉลาด อวดเก่ง และตัณหาของเนื้อหนัง คือความต้องการสิ่งของในโลกนี้ ความรักโลก ทุกสิ่งเหล่านี้ก็จะหมดไป
เราจะเป็นคนที่ต่ำ ถ่อม และยอมเสียเปรียบ เราจะยอมต่อภรรยา สามี ลูกๆ เพื่อนในที่ทำงาน เจ้านาย ศัตรู ยอมทุกคน และต่ำถ่อมต่อทุกคน เมื่อเราทำได้ พระเจ้าก็จะได้รับสง่าราศี ได้รับเกียรติผ่านชีวิตของเรา และเราก็จะได้รับบำเหน็จรางวัล