เราขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับวันนี้ เราพบว่าเป็นข้อความที่ไม่ยาว ตั้งแต่ข้อที่ 44 จนถึง 52 นะครับ 12 ข้อ แต่คำอธิบายจะค่อนข้างจะยาว เพราะว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์ต้องการจะให้เราได้เรียนรู้ และเข้าใจเรื่องเกี่ยวกับการประกาศ ที่เปาโลประกาศกับคนต่างชาติ มีทั้งคนที่รับ เชื่อฟังและต้อนรับข่าวประเสริฐ และต้อนรับพวกเขา
แต่ก็ยังมีอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่ต้อนรับ แล้วก็ทำให้เกิดมีการข่มเหงด้วย เป็นเรื่องของการประกาศ เรื่องที่ 1
เรื่องที่ 1 การประกาศข่าวประเสริฐ อาจจะมีการข่มเหงจากคนคนจำนวนนึงที่ไม่รับ
เรื่องที่ 2 ก็คือท่าทีของเรา ต่อการประกาศ งานการประกาศข่าวประเสริฐ
เรื่องที่ 3 ก็คือการสะบัดผงคลีดิน
เรื่องที่ 4 ก็คือการเต็มล้นด้วยพระวิญญาณภายใน
เพราะฉะนั้นวันนี้เราพูดกันถึง 4 เรื่องด้วยกัน
เราขอบพระคุณพระเจ้าที่การประกาศข่าวประเสริฐต้องใช้ของประทาน เอเมน
การประกาศข่าวประเสริฐเราต้องฝึก เราต้องฝึก ในเรื่องการใช้คำพูดที่ไม่ยาวน้ำท่วมทุ่ง เรื่องที่จะพูด หรือเรื่องที่ไม่ควรพูด แล้วก็ไม่ตัดสินดูถูกศาสนา และความเชื่อของใคร
สำหรับเรื่องการประกาศข่าวประเสริฐ เราพอจะเข้าใจกันแล้วนะ และถ้าพี่น้องต้องการที่จะเรียนรู้มากขึ้น ก็คือการฝึกใช้ของประทานในการประกาศ ก็อ่านบทความในเว็บมานาฯ ของพวกเรา มีเต็มเลยนะ
แต่เรื่องที่อยากจะย้ำเป็นเรื่องสุดท้ายที่สำคัญมากๆ เกี่ยวกับเรื่องการเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ภายใน สำหรับเรื่องการเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ภายใน เราจะไม่พูดถึงเรื่องการเต็มล้นด้วยภายนอกหรือฤทธิ์เดชหรืออำนาจของพระเจ้าในการรับใช้ แต่เป็นเรื่องของชีวิตเป็นเรื่องของการดำเนินชีวิต เป็นเรื่องของการมีประสบการณ์การสัมผัสชีวิต เพื่อเราจะดำเนินชีวิตคริสเตียนแบบที่ปกติ แบบที่พระเยซูมีพระประสงค์ที่จะให้เรามีชีวิตและเดินในพระวิญญาณอยู่ตลอดเวลา
ซึ่งการเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์อันนี้เราต้องมีทุกวัน เนื่องจากว่าพระเจ้าจะส่งปัญหามาเป็นระยะๆ และเมื่อเราเอาชนะปัญหาหนึ่งในระดับหนึ่ง พระเจ้าก็จะส่งปัญหาอีกระดับหนึ่งที่สูงกว่ามาให้เรา
เพราะฉะนั้นการที่จะรับมือกับปัญหาเหล่านี้ การที่จะเข้าสู่กระบวนการการเปลี่ยนแปลงเพื่อการเติบโตสู่ชีวิตของพระคริสต์ ได้เต็มรูปแบบ คือการ transformed คือการที่เราจะเป็นคนที่ถูกเปลี่ยนแปลงใหม่ได้ทั้งหมด เป็นผู้ชนะได้ เป็นบุตรที่รักของพระเจ้าได้ เป็นหนุ่มและเป็นผู้ใหญ่ในฝ่ายวิญญาณได้ สิ่งนั้นก็คือการเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ภายในอย่างสม่ำเสมอ เอเมน
และเราจะทำยังไง ก็คือการสนิท บอกรัก สร้างความผูกพัน และอยู่ในพระคริสต์ เดินในพระคริสต์ตลอดเวลา เป็นเรื่องที่ง่ายไม่ได้ยากอะไร เพียงแต่ให้เราเปลี่ยนมุมมองเปลี่ยน mindset (ความคิด) ของเรา ก็คืออยู่ในความผูกพัน เริ่มพูดคุย สนทนา บอกรักกับพระเยซูไปเป็นระยะๆ ในแต่ละวัน ถ้าเราพูดไม่เก่งพูดไม่ได้ ก็เอเมน เอเมน
“พระเยซูสอนข้าพระองค์ พระเยซูนำพาข้าพระองค์ พระเยซูพูดแทนข้าพระองค์” และสุดท้ายนะเราจะพูดได้เก่ง เราจะพูดได้มาก เราจะพูดได้หลายๆ เรื่องในแต่ละวัน เพราะฉะนั้นมันมีเรื่องมากมายเยอะแยะที่ให้เราคุยพูดคุยสนทนากับพระเยซู
เพราะฉะนั้นสำหรับเรื่องการเต็มล้นภายในจึงสำคัญมากสำหรับชีวิตคริสเตียน ถามว่าทุกวันนี้เราเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ภายในมากน้อยแค่ไหนในแต่ละวัน ไม่ต้องตอบก็ได้ เรานึกๆ ดูนะ แต่อยากหนุนใจพวกเราโดยพระวิญญาณ พระองค์ต้องการให้คริสเตียนทุกคน ที่เป็นบุตรพระเจ้า เต็มล้นด้วยพระวิญญาณภายใน เพราะว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่เหมือนกับลมหายใจของพวกเรา เอเมน
และขอพูดอีกครั้ง การเต็มล้นภายใน ไม่ใช่เรื่องของฤทธิ์เดช อำนาจ เรื่องการรับใช้ แต่เป็นเรื่องของประสบการณ์การดำเนินชีวิตคริสเตียน เพื่อที่เราจะรับกับทุกสถานการณ์ที่เข้ามาได้ ด้วยจิตใจที่ชื่นชมยินดี เปาโลพูดโดยพระวิญญาณใช่ไหม จงชื่นชมยินดี จงชื่นชมยินดีไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม จงชื่นชมยินดี
และเราจะรับการชื่นชมยินดีมาได้จากทางไหน? ก็คือทางเต็มล้นด้วยพระวิญญาณ จะเต็มล้นด้วยพระวิญญาณภายใน จากทางไหน? ก็คือ การสนิทบอกรักพระเยซู เอเมน
เราเคยเป็นกันน่ะ แล้วก็ทุกวันนี้ผู้เชื่อมากมายที่บังเกิดใหม่ เขามีพระวิญญาณสถิตอยู่ภายในแต่เขาไม่รู้ เขามีพระคริสต์ที่พร้อมที่จะสร้างบ้านภายในจิตใจของเขา เขาก็ไม่รู้ ไม่เคยมีชีวิตและเดินในพระวิญญาณ ไม่เคยเต็มล้นภายใน เขาเต็มล้นภายนอกตอนที่อยู่คริสตจักร และตอนที่ออกไปรับใช้ พระเจ้าก็ใช้เขา ไปประกาศ ไปรักษาโรค ไปไล่ผี ซึ่งเหล่านี้เป็นการเต็มล้นภายนอก
ส่วนการเต็มล้นภายใน คือประสบการณ์ชีวิตภายใน ที่มีแต่สันติสุข ความชื่นชมยินดี ความดีใจ และการก่อขึ้นของพระเยซูนั้นไม่มี
เพราะฉะนั้นเราขอบพระคุณพระเจ้าที่พระองค์เปิดตาเรา นำเรามาสู่พระคำแห่งความจริง และเราได้รู้จักได้เข้าถึงความรู้ฝ่ายวิญญาณ อันนี้มานาที่ซ่อนไว้ หรือพระคำล้ำลึก เรียกว่าความรู้ฝ่ายวิญญาณ หรือความรู้ในวิญญาณ หรือความรู้ที่ล้ำลึกก็ได้ ภาษาอังกฤษเรียกว่า spiritual knowledge หรือ inward knowledge ก็คือความรู้ภายใน
เพราะฉะนั้นเมื่อเราได้รับการเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ภายใน ในแต่ละวัน ขณะที่อธิษฐานเมื่อเราเผชิญปัญหา สันติสุขที่เกินความเข้าใจก็จะครอบครองจิตใจของเราไว้ ทุกสิ่งมันจะไม่สะเทือน ไม่สะเทือนเราไม่กระทบกระเทือนอะไรทั้งนั้น เราจะไม่เกิดอาการกังวล กลัว หรือห่วง หรือเป็นอะไรก็แล้วแต่ แต่เราจะชื่นชมยินดีในพระองค์
ขอบพระคุณพระเจ้าที่เมื่อเราเต็มล้นด้วยพระวิญญาณภายใน เราจะเข้าสู่กระบวนการการทำงานของพระวิญญาณ คือเมื่อเราได้พบข้อลึกลับ ที่สมบูรณ์ที่สุดครบถ้วนที่สุด ก็คือพระคริสต์สถิตอยู่ในเรา เรารู้พระคำพระเจ้าที่เป็นความจริง เรารู้ความหมายภายใน หรือความหมายฝ่ายวิญญาณ เรื่องพระเจ้า เรื่องอาณาจักร เรื่องการยกโทษบาป เรื่องความรอด เรื่องยุคเก่ายุคใหม่ เรื่องพระบัญญัติเดิมและพระบัญญัติใหม่ เรื่องวิธีการเอาชนะบาปได้อย่างแท้จริง เรื่องความหมายที่แท้จริงของพระคัมภีร์แต่ละเล่ม
และเมื่อเราสนิทบอกรัก อยู่ในพระวิญญาณ และกินดื่มในพระองค์อย่างสม่ำเสมอ แน่นอน ประสบการณ์ชีวิต 6 ประการ จะเกิดขึ้นกับเรา ซึ่งก็คือ
ประการแรก - พระคริสต์เริ่มสัมผัสและปรากฏพระองค์ต่อเรามากขึ้น (กาลาเทียบทที่ 1 ข้อที่ 16)
ประการที่สอง - ก็คือพระคริสต์เริ่มดำเนินชีวิตในเราผ่านเราแทนเราและเพื่อเรามากขึ้น (กาลาเทียบทที่ 2 ข้อที่ 20)
ประการที่สาม - ก็คือพระคริสต์เริ่มก่อร่างขึ้นในเรา เอเมน (ในกาลาเทียบทที่ 4 ข้อที่ 19)
ประการที่สี่ - ปรากฏการณ์ที่สี่ ก็คือพระคริสต์ขยายใหญ่ขึ้นภายในเรา (ฟิลิปปีบทที่ 1 ข้อที่ 20 จนถึงข้อที่ 21)
ประการที่ห้า - ก็คือพระคริสต์ทำให้เราเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณได้มากขึ้น (เอเฟซัสบทที่ 4 ข้อที่ 13)
และสุดท้ายประการที่หก - ก็คือการเปลี่ยนสภาพ ก็คือการ transformed จากคนเก่าสู่คนใหม่ได้อย่างมั่นคง เราจะเป็นผู้ชนะตั้งแต่เช้าจนค่ำ นานๆ ทีอาจจะเผลอ แต่เราเข้าสู่การ transformed ของพระเจ้าแล้ว เป็นผู้ใหญ่อย่างมั่นคงแล้ว ขอบคุณพระเยซู (ใน 2 โครินธ์บทที่ 3 ข้อที่ 18) เอเมน
ถาม.
ขออนุญาตถามเรื่องการเต็มล้นภายในพระวิญญาณนะคะ ในช่วงที่เราฝึกรับสุขกับพระเจ้า ในช่วงเรารู้แล้วแหละว่าเราต้องเชื่อเอาในความจริงของพระเจ้า เราถึงจะได้รับสันติสุขที่เต็มล้นภายใน แต่ในช่วงที่เราฝึก พระเจ้าก็จะอนุญาตให้ปัญหาเข้ามา มันมีบางครั้งปัญหาที่พระเจ้าอนุญาตให้เข้ามาเนี่ย มันเกินกำลังของเรามันเกินกับความเชื่อของเรา แต่ว่าในช่วงนั้นเราก็มีเหมือนกับปัญหามันใหญ่มากมันใหญ่คือเหมือนกับมันใหญ่กว่าความคาดคิดของเราอ่ะ แต่มันก็ยังมีทุกข์อยู่พอเล็กน้อยอย่างนี้ค่ะ
ก็เลยอยากถามอาจารย์ว่าอันนี้มันเป็นการทำงานของพระเจ้า การชำระของพระเจ้า เข้ามาในชีวิตของเราในระดับที่เราพอที่จะปลงปล่อยวาง ได้ในระดับหนึ่งหรือยังค่ะ เอเมนค่ะ
ตอบ.
ถูกแล้วครับเมื่อเราเผชิญกับสิ่งเหล่านี้ เรียกว่าการเริ่มเข้าสู่จุดที่เราจะมาถึงการเป็นบุตรนะครับ การเป็นบุตรก็คือการเป็นคนหนุ่ม อยู่ในระดับหนุ่มของผู้ชนะของชีวิตคริสเตียนผู้ชนะ
อย่าลืมนะครับการฝึกของเรา แน่นอนที่สุดพระเจ้า จะไม่เอาปัญหาออกไปจากชีวิตของเรา แน่นอนที่สุดครับ พระองค์จะให้ปัญหาเข้ามาเป็นระยะๆ และปัญหานั้นนะครับเราจะนึกไม่ถึง ว่ามาจากใคร มาจากพระเจ้าหรือมาจากไหน คือมันปุ๊บปั๊บมันเกิดขึ้นทันที แล้วถ้าเราไม่สังเกต ไม่ระมัดระวัง คือตื่นอยู่เสมอนะครับ เราก็จะคิดว่ามาจากสิ่งที่เราไม่คาดคิด ไม่ได้มาจากพระเจ้า เราก็จะโวยวายวุ่นวาย บ่น ท้อ เบื่อ
แต่ให้เราตั้งสตินะครับ ตั้งสติก็คือให้รู้ รู้เท่าถึงการ รู้ทันว่า ปัญหามาแล้ว วิตามินมาแล้ว การข่มเหงมาแล้ว สิ่งที่พระเจ้านำมาเพื่อให้เราเติบโต
มีพี่น้องบางคนมาคุยกับผมเมื่อเจอปัญหา ผมก็อธิบายนะครับว่า นี่คือปัญหาที่พระเจ้าส่งมา เราอยู่ในยุคที่ต้องเติบโต ต้องเจอกับปัญหาเพื่อการเติบโต เพื่อการฝึก หลังจากนั้นเขาก็เอเมน แล้วเขาก็กลับมาพูดเหมือนเดิมนะครับ ว่าโอ๊ยน้อยใจจังเลยทำไม คนนี้เป็นแบบนี้ ทำไมคนนั้นเป็นแบบนั้น ทำไมคนนี้แม้แต่เป็นคริสเตียนที่รับมานาฯ ด้วยกัน ยังมาพูดแบบนี้คือมันเสียใจมาก
ในลักษณะนี้นะครับ เรารู้นะครับว่าการรับรู้ของเขา ยังไม่มาถึงภายใน ความรู้ภายในยังเข้าไม่ถึง เพราะฉะนั้นคนที่มีความรู้ภายใน เข้าถึงแล้ว ก็คือเมื่อผมพูดโดยพระวิญญาณเขาจะเข้าใจ แล้วก็เอเมนแล้วก็ปล่อยวาง เราจะไม่เสียใจ เราจะไม่น้อยใจ เราจะไม่เบื่อบ่นท้อ หรืออะไรทั้งนั้น เมื่อเราเข้าสู่การได้รู้ภายใน คือ inward knowledge
เราขอบพระคุณพระเจ้า ที่ปัญหามาถึงพวกเรา และทุกวันนี้เรารู้แล้วว่า เอเมนพระเจ้าจะไม่ยกปัญหาไปจากเรา แต่จะมีปัญหาให้เกิดขึ้นเป็นระยะๆ เมื่อเราผ่านได้โดยพระคริสต์ในเราทำแทนช่วยเรา ให้พลังแก่เราและสันติสุขด้วยกับเรา ปัญหาที่สูงขึ้นอีกระดับหนึ่งก็จะมานะครับ ก็จะมีมาเรื่อยๆ แต่พระเจ้าจะให้สิ่งหนึ่งเพื่ออยู่กับเราตลอดไป ก็คือพระบุตร และพระบุตรนั่นแหละคือสันติสุข พระบุตรนั่นแหละคือพลังที่เราจะชนะปัญหาในแต่ละครั้งได้ เอเมน
อีกครั้งนะครับ เราจะล้มเหลว ถ้าหากเราไม่คิดว่าปัญหาที่เข้ามา มาจากพระเจ้า พระเจ้าอนุญาต เราจะล้มเหลว และคริสเตียนส่วนมากทุกวันนี้ก็คิดนะครับว่ามันไม่ได้มาจากพระเจ้าไม่น่าจะมาจากพระเจ้า แต่อย่าลืมนะครับสิ่งที่เราไม่คาดคิดเนี่ย พระเจ้าทำให้มันเป็น
ถาม.
ในระดับความเชื่อของดิฉัน ดิฉันก็เชื่อว่าก็เดินมาในระดับหนึ่งกับพระเจ้า ในการฝึกเดินในวิญญาณ เพราะดิฉันก็อยู่ในกลุ่มนี้ประมาณ 7 ถึง 8 ปีแล้ว แต่เวลาปัญหามา ทั้งๆ ที่เราก็อธิษฐานอย่างเงี้ยค่ะ เราก็รู้แหละว่ามันมาจากพระเจ้าแล้วพระเจ้าเป็นคนอนุญาต แล้วคำถามที่จะถามต่อไปก็คือ พระเจ้าอนุญาตเพื่ออะไรค่ะ เพื่อเราจะสุกงอม เพื่อเราจะเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เพื่อเราจะมีลักษณะนิสัยของพระเจ้ามากขึ้น หรือเพื่ออะไรค่ะ เอเมนค่ะ
ตอบ.
ผมไปขอต้นไม้ชนิดหนึ่งเขาเรียกว่าว่านหางจระเข้ แล้วก็อยากจะเอามาปลูกเพราะว่ารู้สึกชอบมันยังไงก็ไม่รู้นะครับ ก็เลยไปขอมา แล้วปรากฏว่าผมเอาไปไว้ในที่ร่มแล้วก็รดน้ำทุกวัน แต่มีบางคนเขาเห็นเขาก็บอกว่า มันต้องถูกแสงแดดน่ะ ต้องให้โดนแดด มันจึงจะเติบโตแล้วก็สมบูรณ์ได้ จะรดน้ำอย่างเดียวไม่ได้ไม่พอ
คือทำไม พระเจ้าให้เกิดปัญหากับคริสเตียน อีกครั้งนะครับ ปัญหาหรือแสงแดด คือวิตามินสำหรับผู้เชื่อ เราจะได้รับการรดน้ำ รับแต่สิ่งดีๆ ที่มาจากพระเจ้า ไม่ได้นะครับ เราต้องโดนแสงแดด เพราะฉะนั้นถามว่าทำไม ก็คือนี่คือเหตุผลครับ มัทธิวบทที่ 13 ข้อที่ 6 พระเจ้าต้องอนุญาตให้เราพบเจอกับปัญหา มรสุมชีวิต เป็นระยะๆ แต่อย่าลืมนะครับมันจะไม่หนักเกินไป ไม่นานเกินไป และพระเยซูอยู่กับเราเพื่อปลอบประโลมเราเอเมน
หลังจากที่ผมรดน้ำแล้วก็ย้ายออกจากที่ร่ม แล้วก็เอาไปไว้ที่มีแสงแดด ก็ปรากฏว่าทุกวันนี้มันก็สวย ก็ดูสวยขึ้น แล้วก็ดูมีสีสัน แล้วก็มันโตนะครับ
ถาม.
อาจารย์กำลังจะบอกว่าหลังจากที่เราพบเจอปัญหา ชีวิตที่จะตามมาก็คือเรามีชีวิตใหม่คือมีจิตใหม่ของ พระเจ้าเกิดขึ้นในชีวิตของเราใช่ไหมค่ะ
ตอบ.
เมื่อเรารู้ความจริงว่าปัญหา คือวิตามิน เรายอมรับมัน เบื้องหลังของชีวิตคริสเตียนนะครับ คือคริสเตียนส่วนมากไม่รู้จักเบื้องหลัง ก็คือเขาขอพระพรขอแต่ชีวิตราบรื่น แต่ตอนนี้เรารู้แล้วนะครับว่าปัญหาก็คือวิตามิน แสงแดดก็คือวิตามิน
เพราะฉะนั้นนี่คือหนึ่งในหลายๆ สิ่งที่พระเจ้าใช้เพื่อให้เราเติบโต
- การที่จะมีพระคริสต์สัมผัสและปรากฏพระองค์มากขึ้นในชีวิตของเรา
- การที่จะมีพระคริสต์เริ่มดำเนินชีวิตผ่านเราแทนเราในเรา
- และการที่จะให้พระคริสต์เริ่มก่อร่างขึ้นในเรา
- และการที่จะให้พระคริสต์ขยายขึ้นมากยิ่งขึ้นในเรา คนจะเห็นพระเยซูไม่ใช่เห็นเราอีกแล้ว ต่อไปนะครับ
- และการที่พระคริสต์จะทำให้เราเป็นผู้ใหญ่ในฝ่ายวิญญาณ
- การที่จะเปลี่ยนสภาพ transformed สู่มนุษย์วิญญาณอย่างแท้จริงอย่างครบถ้วนให้มั่นคงในแต่ละวัน
ก็คือการเผชิญกับปัญหาและยอมรับปัญหา และขอบพระคุณแทนที่จะบ่น สุดท้าย 6 สิ่งนี้ก็จะเกิดขึ้นกับเรา
อีกครั้งนะครับโลกนี้เป็นทุ่งนาสำหรับพระเจ้า เราคือชาวนา ชาวนาต้องเจอแสงแดด ชาวนาต้องเจอการทุกข์ยากลำบาก ไม่ได้อยู่กินสบายไม่ได้สบายนะครับ ก็คือเราทำนาเพื่อพระเจ้า
แต่ยุคหน้ายุคพันปี อาณาจักรนะครับ แล้วก็ฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ จะเป็นยุคที่สุขสบายที่สุด ไม่มีอีกแล้วนะครับการทำนา
พูดง่ายๆ สรุปง่ายๆ ก็คือยุคนี้ทำนาเพื่อพระเจ้า ยุคหน้านั่งร่วมรับประทานอาหารร่วมโต๊ะกับพระเยซู และการร่วมงานของพระเยซู ก็คือเป็นงานที่สบายมากๆ เป็นผู้ครอบครองสิบเมือง สามสิบเมือง หกสิบเมือง ร้อยเมือง โดยนั่งที่โต๊ะนะครับ คือเป็นการงานที่มีเกียรติ เป็นตำแหน่งที่สูงส่ง และมีความสุขมากอยู่ใกล้พระเยซูตลอดเวลา
เราจำกันได้ไหมเปาโลพูดโดยพระวิญญาณ คือความทุกข์ยากลำบากในยุคนี้จะเปรียบอะไรกับชีวิตในยุคหน้า เป็นไปไม่ได้มันไกลกันมาก ยุคนี้ลำบาก ยุคหน้าเต็มด้วยความสุข
“โรม 8:18 เพราะข้าพเจ้าเห็นว่า ความทุกข์ลำบากแห่งสมัยปัจจุบันนี้ ไม่สมควรที่จะเอาไปเปรียบกับสง่าราศีซึ่งจะเผยในเราทั้งหลาย”
ถาม.
คือบางคนพี่น้องเรามีความเจ็บป่วย และมีอาการเจ็บป่วยที่ไม่หายสักที ก็คือเป็นอยู่แบบนั้นน่ะ คือพระเจ้าจะให้บำเหน็จรางวัลมากใช่ไหม เขาได้รับการทดสอบทดลองแบบว่าไม่ขาดอ่ะ ก็จะมีความเจ็บป่วยอยู่ตลอด พี่น้องบางคนก็เป็นแบบนั้น เขามีบำเหน็จรางวัลมากมายใช่ไหมอาจารย์
ตอบ.
เราพบว่าสำหรับความทุกข์ยากลำบาก พระเจ้าให้ผู้เชื่อส่วนมากนะครับ โดยส่วนมากเนี่ยก็คือไม่นานเกินไป ไม่หนักเกินไป แล้วก็มีพระเยซูเป็นผู้ปลอบประโลม แล้วให้สันติสุขแก่เขาความชื่นชมยินดีแก่เขา
แต่มีกรณีของผู้เชื่อบางคนนะครับ ผู้เชื่อบางคน ผู้รับใช้บางคน ที่พระเจ้าให้เขาเป็นอาจจะนานหลายปี หรือบางคนนะครับตลอดชีวิตเลยก็มี โดยเฉพาะเปาโลนะครับ เขาเป็นคนที่ได้รับพระคุณอย่างล้นเหลือ แต่สิ่งหนึ่งก็คือเขามีปัญหาเรื่องสายตา และสมัยก่อนไม่มีแว่นขยายใช่ไหม เป็นการยากมากสำหรับการใช้สายตา การมองและการอ่านหนังสือเขียนหนังสือ จึงเป็นเสี้ยนหนามใหญ่สำหรับเขา แล้วเป็นความทุกข์ยากใหญ่สำหรับเขานะครับ
แล้วเขาขอพระเจ้ารักษาพระเจ้าก็ไม่รักษา พระเจ้าบอกว่าพระคุณที่เราให้ก็เพียงพอแล้วใช่ไหม แต่ขอบพระคุณพระเจ้านะครับเปาโลสุกงอมในที่สุด ก็เป็นผู้ชนะ แล้วเขาก็จะมีส่วนเป็นใหญ่ในอาณาจักร และฟ้าสวรรค์ใหม่แผ่นดินโลกใหม่
สำหรับเราทั้งหลายนะครับ อย่าน้อยใจ และไม่ต้องห่วงนะครับ บางคนพระเจ้าอาจจะรักษา อาจจะเดือนหน้า 2-3 เดือน หรือปี 1 ปีข้างหน้า หรือพระเจ้าบางคนอาจจะไม่รักษา แต่อย่างน้อยเราก็เต็มล้นด้วยพระคุณพระเจ้า เต็มล้นได้สันติสุขที่พระเจ้าประทานให้เรา เต็มล้นด้วยพระพรฝ่ายวิญญาณทุกประการแล้ว พระคุณล้นเหลือนี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับเรา เราพูดแค่นี้ได้ครับ
อีกครั้งนะครับ ผมเคยมีปัญหาเรื่องปวดที่บ่าไหล่และคอปวดทุกวัน จะไปทำงานจะทำอะไรก็แล้วแต่ ก็จะปวดตั้งแต่สมัยเป็นวัยรุ่นนะครับ ตอนที่จำได้ก็คืออายุ 17-18 ก็เริ่มมีปัญหาแล้ว แล้วจนถึงอายุ 30 กว่า ก็ยังเป็นอยู่เป็นทุกวันนะครับ จนรู้สึกรำคาญแล้วก็ต้องใช้น้ำมันบีบนวดตลอดเวลา ใช้ยานะครับ
แต่พอมาถึงยุคที่ผมได้รับการเปิดตา แล้วก็เรียนรู้พระคำพระเจ้า พระคำแห่งความจริง ขอบพระคุณพระเยซูอาการมันก็ยังอยู่ มันไม่หายนะครับ แต่มันมีการมึนชาแล้วก็มีอาการแบบลักษณะที่ คือพระเจ้าให้เราใส่ใจ เรื่องการสนิทในพระองค์ การพูดคุยกับพระองค์ การทำสิ่งอื่นแทนที่ แล้วเราจะไม่รู้สึกนะครับไม่รู้สึกว่ามันอยู่ตรงนั้น คือเราอาจจะได้สัมผัสเล็กน้อยนะครับแต่มันไม่รบกวนเราไม่สร้างความรำคาญให้เรา
อันนี้ขอบคุณพระเจ้าเป็นประสบการณ์ที่ผมได้รับ แล้วจากนั้นไม่นานต่อมาหลายปีต่อมาก็คือ อาการนั้นก็หายไป ก็สรรเสริญพระเยซูครับ แต่ถ้าสมมุติว่าจะไม่หายนะครับ ผมก็เอเมนก็ขอบคุณพระเจ้าเพราะว่าพระคุณที่พระเจ้าให้เนี่ยมันก็ล้นเหลืออยู่พอแล้วครับ
สิ่งสำคัญนะครับเราไม่รู้ว่าพระเจ้าจะให้ใครเป็นในลักษณะแบบไหน กี่เดือนกี่ปีหรือตลอดชีวิตหรือไม่ เราไม่รู้นะครับ เพราะฉะนั้นหน้าที่ของเราก็คืออธิษฐานต่อไป อธิษฐานเผื่อเขา และขอพระเจ้ารักษาเขา ไม่ท้อนะครับ
สำหรับเรื่องโรคภัยไข้เจ็บนะครับ เราขอบพระคุณพระเยซูที่พระองค์เสด็จมา แล้วก็ตายไถ่บาปเพื่อเราทั้งหลาย และได้ทรงรับแบกเอาความเจ็บไข้ของเราไปไว้ที่ความตายของพระองค์และที่กางเขนแล้ว เราสรรเสริญพระเยซูสำหรับความจริงนี้ เพราะฉะนั้นนี่คือความหวังของผู้เชื่อทุกคนนะครับ ที่จะได้รับการรักษาโรคให้หาย เราสรรเสริญพระเยซูในข้อนี้
สำหรับพี่น้องที่พระองค์อาจจะรักษาช้า หรืออาจจะไม่รักษาเลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อเห็นแก่การฝึกเดินของเรา และเพื่อเห็นแก่พระคุณอันล้นพ้นที่พระองค์ประทานแก่เรา เราขอบพระคุณพระเจ้าในทุกกรณีนะครับ และก็เราอธิษฐานเผื่อกันและกันอยู่เสมอ ซึ่งการหายโรคจะมาเมื่อไหร่เราไม่ทราบนะครับ เราขอบพระคุณพระเจ้าล่วงหน้า เอเมน
ถาม.
ขอถามนิดนึงนะคะ อย่างแม่เราป่วย แต่ทีนี้แม่ยังไม่ได้รับเชื่อ แต่เราสามารถอธิษฐานให้คุณแม่ได้ไหมค่ะ
ตอบ.
เราอธิษฐานเผื่อคนที่ไม่เชื่อได้ครับ สำหรับพระเจ้านะครับเพื่อเห็นแก่เรา พระเจ้าจะให้ความเมตตาของพระองค์ไปสู่ลูกหลานพ่อแม่สามีภรรยาที่ไม่เชื่อได้ครับ เอเมน
ที่สำคัญสำหรับพระคำพระเจ้าในวันนี้ก็คือ
1. การประกาศ
2. การเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ภายใน
เราตั้งคำถามตั้งแต่เช้านะครับ ตื่นนอนว่าวันนี้ เราจะเต็มล้นด้วยพระวิญญาณภายในได้อย่างไร เราจะทำยังไง จะสนิทในพระเยซูแบบไหน จะบอกรักตอนไหน เราจะทำเอาอะไรเป็นสิ่งที่ช่วยเราในการที่จะเตือนเราเสมอ เพื่อการที่เราจะมีชีวิตในพระคริสต์ และเดินในพระคริสต์ตลอดเวลา เพื่อการเต็มล้นด้วยพระวิญญาณภายในจะเกิดขึ้นเป็นระยะๆ เพื่อเราจะผ่านชีวิตที่มีแต่มรสุมหรือปัญหาที่เข้ามาในแต่ละวันได้
เพราะว่าเรื่องการเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ภายในเป็นสิ่งที่สำคัญ เป็นสิ่งที่จำเป็น สำหรับชีวิตคริสเตียนนะครับ เป็นเหมือนลมหายใจที่เราต้องหายใจเข้าออกตลอดเวลา
เราขอบพระคุณพระเจ้าที่เมื่อเราได้รับพระคำแห่งความจริง ทุกครั้งที่เรานำไปฝึก มีอะไรเกิดขึ้นครับ ก็คือพระวิญญาณบริสุทธิ์จะเป็นคนทำงาน เป็นคนทำกิจภายในเรา
ขอบพระคุณพระเยซูสำหรับความเข้าใจเรื่องการประกาศข่าวประเสริฐ การประกาศเรื่องอาณาจักร
และขอบพระคุณพระเยซูสำหรับสิ่งที่สำคัญที่พระองค์ย้ำเพื่อให้เราฝึกในการที่จะเดินในพระองค์ มีชีวิตอยู่ในพระองค์ สนิทในพระองค์ เพื่อเราจะขาดการเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และเต็มล้นด้วยความชื่นชมยินดีอาการดีใจไม่ได้
เพราะฉะนั้นขอบคุณพระเยซู เราจะใส่ใจในเรื่องการประกาศ และการฝึก และการเดินในพระวิญญาณเพื่อการเต็มล้นอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเราจะรับกับสภาพสภาวะสถานการณ์ทุกสิ่งที่ไม่ดีหรือปัญหาที่เกิดขึ้น ทุกสิ่งก็จะเป็นสิ่งที่เบาง่าย และอยู่ในการดูแลของพระองค์ ในการปลอบประโลมของพระองค์เสมอ พระเยซูพวกเรารักพระองค์ เอเมน