1. การเชื่อเท่านั้น ทำให้เราได้รับความรอด
2. การเชื่อเท่านั้น ทำให้เราได้รับพระวิญญาณ
3. การเชื่อ… ทำให้เราได้กลายเป็นบุตรพระเจ้า
4. การเชื่อ… ทำให้เราได้รับการก่อร่างขึ้นของพระคริสต์ในเรา เพื่อเราจะมีจิตใจใหม่ และทำได้ทุกสิ่ง (มีผลของพระวิญญาณ)
.....
A. ข่าวประเสริฐของพระคริสต์ คือเชื่อเท่านั้นก็ได้รอด
B. ข่าวประเสริฐอื่น คือการสอนผิดว่า เชื่อเท่านั้นไม่พอ ต้องรักษาพระบัญญัติ และเชื่อฟังทำดีจึงจะได้รอด
C. ใครสอนว่า รอดโดยการเชื่อและต้องเชื่อฟัง จะถูกสาปแช่ง
D. เปาโลยืนยันว่า พระเจ้าแต่งตั้งท่าน และคำสอนของท่านมาจากพระวิญญาณจริงๆ เนื่องจากว่า คริสเตียนหลายคนกล่าวหาว่า ท่านไม่ได้มาจากพระเจ้า เหมือนผู้เชื่อมากมายทุกวันนี้ ที่ไม่ยอมรับคำสอนในจดหมายฝากของเปาโล
.....
A. พี่น้องจอมปลอม คือคริสเตียนที่เชื่อ แต่สอนว่า เชื่อเท่านั้นไม่พอ ต้องเลิกทำบาปจึงจะได้รอด
B. อย่ายกชาวยิวขึ้น คริสเตียนทุกคนสำคัญมากกว่าพวกยิว
C. พระเจ้าใช้เปโตรเพื่อประกาศกับยิว และเปาโลกับต่างชาติ
D. การทำดีไม่ได้ช่วยให้เราเป็นคนดีต่อหน้าพระเจ้าได้ แต่การเชื่อว่า พระเยซูตายเพื่อไถ่บาปเรา เราจึงเป็นคนดี และชอบธรรมต่อพระเจ้า
E. ยิวพยายามรักษาเพื่อให้ได้เป็นคนชอบธรรม แต่เขาก็ยังเป็นคนบาปสำหรับพระเจ้า
F. เราตายต่อพระบัญญัติแล้ว พระเจ้าประหารเราที่กางเขนร่วมกับพระเยซูเมื่อสองพันปีก่อน และเรามีชีวิตอยู่ต่อพระเจ้าร่วมกับพระเยซู
G. หลักการดำเนินชีวิตของคริสเตียน คือเราตัวเก่าตายแล้ว กับพระคริสต์คนเก่า และเราคนใหม่มีชีวิตอยู่กับพระคริสต์ ที่เป็นวิญญาณที่อยู่ในเรา แต่พระคริสต์เป็นผู้มีชีวิต และทำทุกสิ่งแทนเรา
H. ถ้าหากเราต้องทำดีเพื่อกลายเป็นคนชอบธรรม พระเยซูก็ไม่มีประโยชน์อะไร
.....
A. คริสเตียนในแคว้นกาลาเทียไม่เข้าใจว่า พระโลหิตจ่ายหนี้บาปของเราครบแล้ว ความรอดของเราได้มาจากการถูกตรึงกางเขนของพระเยซู
B. ทันทีที่เชื่อ ผู้เชื่อทุกคนได้รับพระวิญญาณ ไม่ต้องขอ ไม่ต้องทำดีเชื่อฟัง หรือรักษาพระบัญญัติเพื่อให้ได้รับพระวิญญาณ
C. การเริ่มด้วยพระวิญญาณ และจบลงด้วยเนื้อหนัง คือเมื่อเราเชื่อ เรากลับพยายามทำดี รักษาพระบัญญัติด้วยเนื้อหนัง และไม่ให้พระคริสต์ทำดีแทนเราในเรา
D. เมื่อเรา “เชื่อ” พระเจ้านับความเชื่อนั้นๆ ว่า เป็นความชอบธรรม ขณะที่ทุกศาสนาในโลกต้องทำดีเพื่อให้ได้เป็นคนชอบธรรม
E. พระบัญญัติเดิมมีไว้เพื่อยิวเท่านั้น เราเป็นลูกแห่งพระสัญญาผ่านอับราฮัม เรารับพระพรทุกประการได้โดยการเชื่อในพระเยซูคริสต์ พระบัญญัติจบแล้ว และสัญญาก็ได้เริ่มขึ้นแล้ว
F. โมเสสนำพระบัญญัติมาสู่ยิว ยิวรักษาเพื่อรับพระพรและรอด อับราฮัมนำพระสัญญามาสู่เรา เราเชื่อเราได้รับพระพร และได้รอด พระสัญญานี้สำเร็จแล้ว ในพระเยซูคริสต์ เราเป็นคนชอบธรรมได้โดยไม่ต้องทำดี แต่โดยการเชื่อในการทำดีของพระเยซู
G. บุคคลผู้ใดพยายามทำดีเชื่อฟัง และรักษาพระบัญญัติด้วยตัวเก่าเพื่อให้ได้รอด ก็ถูกสาปแช่ง
H. อันที่จริงพระบัญญัติเป็นสิ่งที่ดี แต่มนุษย์รักษาไม่ได้
I. สำหรับพระเจ้าเราไม่มีชาติ เราเป็นพระกายของพระคริสต์ และอีกแง่หนึ่งเราเป็นยิวแท้ เป็นลูกหลานอับราฮัมฝ่ายวิญญาณ
J. ทันทีที่เราเชื่อ เราได้สวม (นุ่งห่ม-สวมใส่) พระคริสต์ พระเจ้ามองไม่เห็นเรา แต่เห็นพระคริสต์ จึงนับว่า เราชอบธรรมแล้ว
.....
A. การได้กลายเป็นบุตร ทางความเชื่อในพระเยซูคริสต์
B. การก่อชีวิตขึ้นในเรา เป็นความจำเป็นเพื่อการรับมรดกที่ครบถ้วน ตามพระสัญญาที่ทรงประทานแก่อับราฮัม
C. บุตรพระเจ้าทางการบังเกิดในพระวิญญาณ และประชากรของพระเจ้าทางการบังเกิดในเนื้อหนัง
.....
A. การรักษาพระบัญญัติเพื่อกลายเป็นคนชอบธรรมเรียกว่า “ทาส” การเชื่อในพระเยซูเพื่อกลายเป็นคนชอบธรรมเรียกว่า “ไท (อิสระ)”
B. คริสเตียนไม่ต้องเข้าพิธีสุหนัต มันคือการอยู่ใต้พระบัญญัติ
C. เชื่อในพระเยซู คือทางเดียวที่พระเจ้าได้เตรียมไว้ เพื่อมนุษย์จะได้กลายเป็นคนชอบธรรม
D. เมื่อเราเชื่อ เรารอคอยชีวิตพระคริสต์ที่เข้ามาในเราเพื่อมีชีวิตอยู่ และทำทุกสิ่งด้วย “รัก”
E. ผู้เชื่อทุกคนวิ่งแข่ง แต่น้อยคนที่มาถึงการวิ่งแข่งเข้าอาณาจักร
F. คำพูดเกลี้ยกล่อมทำให้คนหลงเชื่อ และหลงทางได้
G. เชื้อ (ยีสต์) ในข้อที่ 9 คือคำสอนเรื่อง เชื่อเท่านั้นไม่พอ ต้องรักษาพระบัญญัติ และเข้าสุหนัตจึงจะรอด ทุกวันนี้มันแพร่ขยายไปท่ามกลางสังคมคริสเตียน สร้างความเสียหายต่อพระกายอย่างมาก
H. คริสเตียนที่สอนว่า เชื่อไม่พอ ต้องรักษาพระบัญญัติจึงจะรอด จะได้รับโทษ และโทษของพวกเขา คือในชีวิตนี้และในยุคพันปี แต่พวกเขาจะรอดในฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่
I. เมื่อพี่น้องจอมปลอมไม่กลับใจ เราจำต้องตัดเขาออก หรือออกมาจากพวกเขา
J. ชีวิตคริสเตียนมีสองข้อใหญ่ที่เราแสวงหา คือ
“เชื่อ” เพื่อให้ได้กลายเป็นคนชอบธรรม
ให้พระเยซูในเรา “รัก” ในแต่ละวัน
.....
เราช่วยพี่น้องคริสเตียนที่ผิดบาปด้วยความรักอ่อนสุภาพ ไม่ใช่ไปตัดสินเขา
เราบุตรพระเจ้าไม่ควรถือตัวว่าสำคัญ ถึงแม้ว่า พระเจ้าจะยกเราบางคนขึ้นเป็นคนสำคัญก็ตาม
เรามนุษย์วิญญาณ ใส่ใจในการสำรวจตนเอง ว่าเดินไปกับพระเยซูในแต่ละวัน และไม่เปรียบกับผู้อื่น
ภาระของเราในแต่ละวัน คือสนิทบอกรัก และพูดคุยกับพระเยซู เพื่อที่จะเลิกทำบาปได้
การหว่านในย่านเนื้อหนัง และหว่านในย่านพระวิญญาณ
เราบุตรพระเจ้าไม่ควรเมื่อยล้า ท้อแท้ และถดถอยในการทำดีรับใช้พระบิดา เพราะว่าพระองค์ทรงเฝ้าดูอยู่ และเห็นทุกสิ่งที่เรากระทำ อย่ามองที่ปัญหาหรือมนุษย์ มันอาจทำให้เราหวั่นไหว และท้อแท้ได้
การทำดีช่วยเหลือ เราควรทำกับพี่น้องผู้เชื่อก่อน จากนั้นก็คนที่ไม่เชื่อ