เราขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับพระคำของพระเจ้าที่มาถึงวันนี้ก็คือกิจการบทที่ 22 พี่น้องคริสเตียนทุกวันนี้มีคนมากมายที่ไม่เข้าใจ เรียนรู้ไม่ถึงความจริงมาไม่ถึงความจริงของพระเจ้า เราขอบพระคุณพระเยซูที่พระองค์ให้พระวิญญาณแห่งความจริงนำพระคำแห่งความจริงมาเปิดเผย พวกเราจึงไม่ได้ถูกปิดหูปิดตาโดยซาตาน เราเข้าสู่ความจริงชีวิตเบาสบาย ภาระเบา กางเขนเบา แอกเบา อยู่ในความสงบในการพักผ่อนกับพระเยซูในพระเยซู เอเมนสรรเสริญพระเจ้าพวกเรารักพระองค์ต่อสิ่งนี้
ผมจะพาพี่น้องย้อนกลับไปดูเกี่ยวกับเรื่องชนชาติอิสราเอลหรือชาวยิวสักนิดนึงอาจจะสั้นๆ นะครับ ยิวที่ภาษาอังกฤษเขาเรียกกันว่า Jewish เป็นลูกหลานของอับราฮัม อับราฮัมมีบุตรชายชื่ออิสอัค อิสอัคก็มีบุตรชาย 2 คนชื่อยาโคบและเอซาว ยาโคบนะครับต่อมาพระเจ้าให้ชื่อใหม่กับเขาเรียกว่าอิสราเอล ซึ่งเป็นบิดาของบุตรชาย 12 คน สรุปก็คืออิสราเอลมีบุตรชาย 12 คน ต่อมาลูกหลานก็เต็มบ้านเต็มเมือง แต่พวกเขาตกเป็นทาสในอียิปต์เป็นเวลาประมาณ 400 กว่าปี 400 กว่าปีที่ลูกหลานของอิสราเอลคือยาโคบ เป็นทาสในประเทศอียิปต์
คนพวกนี้ถูกเรียกเหมือนกันนะครับว่าเป็นชาวฮีบรู ชนชาติอิสราเอลถูกเรียกว่าชาวฮีบรู และยิวคือคนที่คนทั่วไปทุกวันนี้เรียกชนชาติอิสราเอลหรือชาวฮีบรู ซึ่งคำว่ายิวก็คือมาจากตระกูลยูดาห์ 1 ในชนชาติอิสราเอล 12 ตระกูล เราพอจะเห็นภาพหรือยังครับ สรุปก็คือ ยิว คำว่ายิวเป็น 1 ใน 12 ตระกูลของชนชาติอิสราเอล
ต่อมานะครับเมื่อเป็นทาสในประเทศอียิปต์ประมาณ 400 กว่าปี ก็คือพระเจ้าเห็นว่าอับราฮัมและลูกหลานทำไม่สำเร็จก็คือไม่เดินทางมาตั้งถิ่นฐานที่พักอาศัยอยู่ที่ดินแดนคานาอันที่พระเจ้าทรงประทานให้ พระเจ้าจึงเรียกโมเสส คือชายที่พระเจ้าให้นำอิสราเอลออกจากการเป็นทาสในอียิปต์ เพื่อเดินทางไปอาศัยที่ดินแดนคานาอัน ดินแดนนี้เรียกว่าดินแดนแห่งพระสัญญา หรือดินแดนแห่งพันธสัญญา พระเจ้าประทานพระสัญญาและพระบัญญัติชั่วคราวให้ชนชาติอิสราเอลรักษา เพื่อพระพรเพื่อรับพระพรจากพระองค์ จนกว่าพระคริสต์จะเสด็จมา และประทานพระสัญญาใหม่แก่ชนชาติอิสราเอลและคนต่างชาติทั่วโลกโดยทางความเชื่อ
พระเจ้ายืนยันนะครับว่าจะประทานพระสัญญาใหม่ ซึ่งพระองค์เรียกพระสัญญาที่ให้กับโมเสสและชนชาติอิสราเอลขณะเดินทางเนี่ย เรียกว่าพระสัญญาเดิม ขอให้เข้าใจตรงนี้
พระองค์เรียกว่าพระสัญญาใหม่ อยู่ที่ไหน ในพระคัมภีร์เดิมมีนะครับ คือเยเรมีย์บทที่ 31:31:34 และสำเร็จในหนังสือลูกาบทที่ 22:20
ผมจะพาพี่น้องไปอ่าน เราจะอ่านในเยเรมีย์บทที่ 31:31-34
31 พระเยโฮวาห์ตรัสว่า “ดูเถิด วันเวลาจะมาถึง ซึ่งเราจะทำพันธสัญญาใหม่กับวงศ์วานอิสราเอลและวงศ์วานยูดาห์
32 ไม่เหมือนกับพันธสัญญาซึ่งเราได้กระทำกับบรรพบุรุษของเขาทั้งหลาย (ก็คือชาวอิสราเอลตอนขณะที่เดินทางอยู่) ในวันที่เราจูงมือเขาเพื่อนำเขาออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ เป็นพันธสัญญาของเราซึ่งเขาผิด ถึงแม้ว่าเราได้เป็นสามีของเขา” พระเยโฮวาห์ตรัสดังนี้แหละ
33 “แต่นี่จะเป็นพันธสัญญาซึ่งเราจะกระทำกับวงศ์วานอิสราเอล ภายหลังสมัยนั้น” พระเยโฮวาห์ตรัสดังนี้แหละ “เราจะบรรจุราชบัญญัติของเราไว้ภายในเขาทั้งหลาย และเราจะจารึกมันไว้ที่ในดวงใจของเขาทั้งหลาย และเราจะเป็นพระเจ้าของเขา และเขาจะเป็นประชาชนของเรา
34 และทุกคนจะไม่สอนเพื่อนบ้านของตนและพี่น้องของตนแต่ละคนอีกว่า ‘จงรู้จักพระเยโฮวาห์’ เพราะเขาทั้งหลายจะรู้จักเราหมด ตั้งแต่คนเล็กน้อยที่สุดถึงคนใหญ่โตที่สุด” พระเยโฮวาห์ตรัสดังนี้แหละ “เพราะเราจะให้อภัยความชั่วช้าของเขา และจะไม่จดจำบาปของเขาทั้งหลายอีกต่อไป”
ขอบคุณพระเจ้านี่คือสัญญาของพระเจ้าที่พระองค์จะประทานพระสัญญาใหม่ ก็คือ Covenant หรือ New Covenant ที่พระเจ้าจะประทานให้ใหม่แก่ลูกหลานของอับราฮัม
แต่เราจะมาดูว่าลูกหลานของอับราฮัมต่อไปก็คือใคร จะเป็นใคร คำทำนายนี้คำพยากรณ์นี้นะครับโดยเยเรมีย์สำเร็จในลูกาบทที่ 22:20 ในทำนองเดียวกัน ทรงหยิบถ้วยเหมือนกันหลังจากอาหารเย็น โดยตรัสว่า “ถ้วยนี้เป็นพันธสัญญาใหม่ (ถ้วยนี้เป็นพันธสัญญาใหม่ New Covenant) ในโลหิตของเรา ซึ่งหลั่งออกมาเพื่อท่านทั้งหลาย
เอเมนขอบคุณพระเจ้าพันธสัญญาที่พระเจ้าสัญญาจะประทานให้แก่เราทั้งหลายที่เป็นผู้เชื่อ ก็คือพระสัญญานิรันดร์ ซึ่งพระองค์สัญญากับอับราฮัมและลูกหลาน และพระองค์ให้พระสัญญาชั่วคราวต่อโมเสสกับชนชาติอิสราเอลขณะเดินทางออกจากอียิปต์
และเมื่อพระเยซูเสด็จมาขอบคุณพระเจ้าพระเยซูตรัสว่า “ถ้วยนี้เป็นพันธสัญญาใหม่ ในโลหิตของเรา” ขอบคุณพระเจ้าทุกวันนี้เราคริสเตียน เราผู้เชื่อทั้งหลาย อยู่ภายใต้พระสัญญาใหม่ของพระเยซูซึ่งมาจากพระสัญญานิรันดร์ของอับราฮัม
ในฮีบรูบทที่ 8:8-12 ข้อที่ 8 กล่าวว่า ด้วยว่าโดยทรงพบข้อผิดพลาดกับพวกเขา พระเจ้าจึงตรัสว่า “ดูเถิด วันเวลาจะมาถึง” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เมื่อเราจะทำพันธสัญญาใหม่กับวงศ์วานแห่งอิสราเอล และกับวงศ์วานของยูดาห์
ข้อที่ 9 ไม่ใช่ตามพันธสัญญาซึ่งเราได้กระทำกับบรรพบุรุษของพวกเขา ในวันที่เราจูงมือของพวกเขาเพื่อนำพวกเขาออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ เพราะว่าเขาเหล่านั้นไม่ได้ดำเนินต่อไปในพันธสัญญาของเรา และเราไม่ใส่ใจพวกเขาแล้ว” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้แหละ
ขอบคุณพระเจ้า คือสำหรับชาวยิว ชาวฮีบรู หรือชนชาติอิสราเอล กบฏต่อพระเจ้าบ่อยครั้งมาก ครั้งแล้วครั้งเล่า และสุดท้ายพวกเขาปฏิเสธพระเยซูซึ่งเป็นพระเจ้าที่เสด็จลงมาจากสวรรค์เพื่อช่วยไถ่พวกเขา และนำพันธสัญญาของอับราฮัมมาให้พวกเขา แต่ในที่สุดก็คือพวกเขาปฏิเสธ เขาไม่รับ จนสุดท้ายพระสัญญาใหม่นี้ก็ตกมาถึงพวกเราที่เป็นคนต่างชาติ และยิวบางคนที่เชื่อในพระเยซู
และเมื่อพระเยซูเสด็จมาพระองค์นำพระสัญญาของอับราฮัม คือพระสัญญานิรันดร์สำหรับพระเจ้า ยิวเก่าและคนต่างชาติทั่วโลกเมื่อเชื่อก็จะกลายเป็นยิวใหม่ จะถูกเรียกว่าเป็นยิวใหม่ ยิวฝ่ายวิญญาณหรือลูกหลานของอับราฮัมฝ่ายวิญญาณนั่นเอง ขอบคุณพระเจ้าที่พวกเราทุกวันนี้เป็นยิวใหม่เป็นยิวฝ่ายวิญญาณเป็นลูกหลานของอับราฮัมฝ่ายวิญญาณ เอเมน
พันธสัญญาของอับราฮัมนะครับ พระเยซูเรียกว่า “พันธสัญญาใหม่” ในลูกาบทที่ 22:20
ส่วนพระบัญญัติเดิมพระองค์ทรงเรียกว่า “พระบัญญัติใหม่” ในยอห์นบทที่ 13:34-35
หรือพระองค์เรียกอีกนะครับว่าเป็นพระบัญญัติของเรา My Commandment ในยอห์นบทที่ 15:10-12
ผมจะอ่านอีกครั้งในลูกาบทที่ 22 ข้อที่ 20 ในทำนองเดียวกัน ทรงหยิบถ้วยเหมือนกันหลังจากอาหารเย็น โดยพระเยซูนะครับตรัสว่า “ถ้วยนี้เป็นพันธสัญญาใหม่ ในโลหิตของเรา ซึ่งหลั่งไหลออกมาเพื่อท่านทั้งหลาย
ยอห์นบทที่ 13 ข้อที่ 34 เราให้บัญญัติใหม่ไว้แก่ท่านทั้งหลาย (เราให้บัญญัติใหม่ไว้แก่ท่านทั้งหลาย เราให้บัญญัติใหม่นะครับ l give you new commandment ไม่มีบัญญัติเดิมไม่มีบัญญัติเก่าอีกแล้ว แต่เป็นใหม่) คือ ให้ท่านทั้งหลายรักซึ่งกันและกัน เรารักท่านทั้งหลายมาแล้วอย่างไร ท่านทั้งหลายจงรักซึ่งกันและกันด้วยอย่างนั้น
ยอห์นบทที่ 15 ข้อที่ 10 ถ้าท่านทั้งหลายรักษาบรรดาบัญญัติของเรา (เราเห็นนะครับพระเยซูตรัสว่า ถ้าท่านทั้งหลายรักษาบัญญัติของเรา ไม่ใช่บัญญัติของโมเสสอีกต่อไปแล้ว ขอบคุณพระเจ้า) ท่านทั้งหลายก็จะเข้าสนิทอยู่ในความรักของเรา เหมือนที่เรารักษาบรรดาพระบัญญัติของพระบิดาของเราแล้ว และเข้าสนิทอยู่ในความรักของพระองค์
และยอห์นบทที่ 13 ข้อที่ 34 เราให้บัญญัติใหม่ไว้แก่ท่านทั้งหลาย l give you new commandment ขอบคุณพระเยซูตอนนี้เราอยู่ภายใต้พระสัญญาใหม่ และเราอยู่ภายใต้พระบัญญัติใหม่ของพระเยซูแล้ว สรรเสริญพระเยซู
อย่าลืมนะครับว่าพระบัญญัติใหม่ของพระเยซูคือหนักมากยากกว่าเดิมร้อยเท่าพันเท่า พระองค์ยกระดับมาตรฐานจากมาตรฐานของมนุษย์สู่มาตรฐานของพระเจ้า ก็คือเมื่อก่อนทำจึงผิด เมื่อก่อนลงมือกระทำไปทำบาปกิเลสตัณหาโลภโกรธหลงแสดงออกมากระทำไปแล้วก็เรียกว่าผิด ถ้าคิดเนี่ยก็ไม่ผิดนะครับ
แต่เดี๋ยวนี้พระบัญญัติใหม่ของพระเยซู แค่คิดก็ผิดแล้ว แค่คิดนะครับก็ผิด แต่ขอบคุณพระเจ้าเมื่อพระเยซูประทานพระบัญญัติใหม่ และคนที่รักษาพระบัญญัติใหม่นั้นกลับไม่ใช่เราแต่เป็นพระเยซูเองที่เข้ามาอยู่ในเราเพื่อช่วยเราเพราะว่าเราทำไม่ได้ สรรเสริญพระเจ้าชีวิตจึงเบาสบายกางเขนก็เบาแอกก็เบา อยู่ในการพักผ่อนกับพระเยซูอยู่ในสันติสุขของพระเยซูตลอดเวลา หน้าที่ของเราทำสิ่งเดียวก็คือสนิท บอกรัก รัก สนิท รัก เท่านั้นเอง เอเมน
ทีนี้นะครับเรากลับมาดูยิว ยิวเขาจะมาถึงพระเจ้าก่อน พระสัญญาของพระเจ้า ข่าวประเสริฐของพระเจ้า พระองค์ให้เกียรติยิวนะครับพระองค์ให้ยิวก่อนเพราะว่ายิวเป็นชนชาติเป็นประชากรของพระเจ้าตั้งแต่แรกเริ่ม ขณะที่ชนชาติทั้งหลายทั่วโลกคนต่างชาติกราบไหว้พระอื่น แต่อับราฮัมและลูกหลานเชื่อพระเจ้านมัสการพระเจ้ากราบไหว้พระเจ้า สิ่งนี้นะครับทำให้พระเจ้าสัญญากับพวกเขาว่าความรอดจะมาถึงพวกเขาก่อน และจากนั้นจะไปถึงคนต่างชาติด้วย
และเมื่อยิวปฏิเสธพระเยซู ก็มียิวบางคนนะครับที่ต้อนรับพระเยซูเชื่อพระเยซูพวกเขาก็ได้รอด และจากนั้นไม่นานต่อมาพระเจ้าก็เลือกเปาโล และให้เปาโลไปประกาศกับคนต่างชาติ เพื่อให้ยิวเก่าและคนต่างชาติกลายมาเป็นยิวใหม่ เป็นคนใหม่คนเดียวสำหรับพระเจ้า เอเมน
แล้วถามว่ายิวที่ไม่เชื่อหลังจากพระเยซูจนถึงทุกวันนี้จะมีอะไรเกิดขึ้นกับพวกเขา พวกเขาต้องชดใช้หนี้ที่ปฏิเสธพระเยซูมาจนถึงทุกวันนี้ อีกครั้งพวกเขาชดใช้หนี้ที่ปฏิเสธพระเยซู จนถึงทุกวันนี้ เราพบว่าชาวยิวโดนหนักมากตั้งแต่สมัย ค.ศ. 70 จนถึงทุกวันนี้นะครับ เจอปัญหามรสุมชีวิตเจอปัญหาหนักมาก โดน คือสงครามเนี่ยเกิดขึ้นเป็นประจำอยู่เสมอในแถบตะวันออกกลาง ซึ่งยิวมีส่วนเกือบแทบจะทุกเรื่องทุกครั้งทุกเวลา พวกเขานะครับต่อไปก็คือพระเจ้าเรียกเขาว่าไม่ใช่ยิวแล้ว และไม่ได้อยู่ภายใต้การดูแลของพระองค์อีกต่อไป
และคริสเตียนนะครับจะทำยังไง คริสเตียนไม่ควรให้ความสำคัญต่อพวกเขามากกว่าชาติอื่น แต่มองพวกเขานะครับว่าเป็นคนที่ไม่เชื่อ สำหรับพวกเราเราห่วงใยเราใส่ใจเราอธิษฐานเผื่อพี่น้องคริสเตียนด้วยกันทั่วโลก ซึ่งไม่ว่าจะเป็นชาติไหนก็ตาม แล้วเรานับผู้เชื่อทุกคนคริสเตียนทุกคนเป็นยิวแท้ฝ่ายวิญญาณแล้ว ไม่ใช่พวกเขาอีกต่อไป เอเมน
และสำหรับพระวิหารและธรรมศาลาของยิวทุกวันนี้ พระเจ้ามองว่าเป็นที่สถิตอยู่เป็นที่สิงอยู่ของมารซาตาน พระเจ้าไม่สถิตอยู่อีกต่อไปแล้วนะครับ แต่มันเป็นที่อยู่ของมารซาตาน ในวิวรณ์บทที่ 2:9 วิวรณ์บทที่ 3:9 และมัทธิวบทที่ 13:31-32
วิวรณ์บทที่ 2:9 กล่าวว่า เรารู้จักบรรดาการกระทำของเจ้า และความทุกข์ลำบาก และความยากจน (แต่เจ้าก็มั่งมี) และเรารู้เรื่องการหมิ่นประมาทของคนเหล่านั้น (คนเหล่านั้นคือชาวยิวนะครับ) ที่กล่าวว่าพวกเขาเป็นพวกยิวและเขาไม่ได้เป็น แต่เป็นธรรมศาลาของซาตาน
นี่คือการตัดสินของพระเจ้านะครับว่ายิวตั้งแต่นี้ต่อไปก็คือไม่ใช่ยิวสำหรับสายพระเนตรของพระเจ้าอีกต่อไป
และวิวรณ์บทที่ 3:9 ดูเถิด เราจะทำให้พวกเขาที่เป็นของธรรมศาลาของซาตาน ซึ่งบอกว่าพวกเขาเป็นพวกยิว และไม่ได้เป็น แต่พูดมุสาจริงๆ นั้น ดูเถิด เราจะทำให้พวกเขามาและนมัสการแทบเท้าของเจ้า และให้ทราบว่า เราได้รักเจ้า
ก็คือธรรมศาลาและพระวิหาร พระวิหารตอนนี้ก็ถูกทำลายแล้ว ยังเหลือแค่ซินนะกอก (Synagogue) ที่เรียกว่าธรรมศาลา ทุกที่ทุกแห่งทุกหนในโลกนี้ที่ยิวนมัสการพระเจ้าอยู่ เป็นที่อยู่ของซาตานแล้ว แต่พวกเขาไม่เชื่อนะครับ สำหรับพวกเขาเขาก็ยังเชื่อว่าพระเจ้าสถิตอยู่กับพวกเขา แต่แท้ที่จริงแล้วพระเจ้าไม่ได้อยู่แล้ว แต่มาอยู่กับพวกเรา อยู่ในวิญญาณของพวกเรา และอยู่ท่ามกลางพวกเราทุกครั้งที่เรานมัสการพระเจ้าในวิญญาณและในความจริง เอเมน
เราขอบคุณพระเจ้าตอนนี้ก็คือเราเป็นยิวแท้และเราอยู่ภายใต้พระสัญญาใหม่ ขอบคุณพระเจ้าคริสเตียนถูกเรียกว่าคนใหม่คนเดียว โรมบทที่ 9 จนถึงบทที่ 11 เอเฟซัสบทที่ 2:14-16 เอเฟซัสบทที่ 4:4 และ 1 โครินธ์บทที่ 12:13
ขอบคุณพระเจ้าคริสเตียนคือลูกหลานอับราฮัมสำหรับพระเจ้า กาลาเทียบทที่ 3:7,29 โรมบทที่ 9:7-8
ขอบคุณพระเจ้าคริสเตียนเข้าสุหนัตฝ่ายวิญญาณ โคโลสีบทที่ 2:11-12
ขอบคุณพระเจ้าคริสเตียนได้รับมรดกทุกประการที่พระเจ้าสัญญาแก่อับราฮัมแล้ว เอเมน กาลาเทียบทที่ 3:14
และขอบคุณพระเจ้าคริสเตียนอยู่ภายใต้พระสัญญาใหม่และพระบัญญัติใหม่ของพระเยซู ซึ่งเรานะครับไม่ต้องทำอะไร เมื่อก่อนตัวบาปเป็นคนทำบาปในเรา แต่เดี๋ยวนี้ตัวชอบธรรมก็คือพระเยซูคริสต์เป็นคนทำความดีสำแดงความชอบธรรมผ่านเราในเรา สรรเสริญพระเยซู
สำหรับเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เข้าใจยากนะครับและเป็นเรื่องที่ซับซ้อน ขอพระวิญญาณเปิดตาพี่น้องผู้เชื่อทั้งหลายเพื่อที่จะไม่มีการขัดแย้งไม่มีการเข้าใจผิดและถกเถียงกันมาจนถึงทุกวันนี้ เรื่องยิว ยิวเก่ายิวใหม่ พระสัญญาเดิมพระสัญญาใหม่ และพระบัญญัติเดิมกับพระบัญญัติใหม่
ขอพระองค์เปิดตาพวกเขาและเปิดตาพวกเรามากยิ่งขึ้น เพื่อเราจะไม่ตกขอบหล่นจากพระคุณและดำเนินชีวิตอยู่ภายใต้พระสัญญาใหม่ของพระเยซู รับพระพรอย่างเต็มล้นอย่างเต็มที่ เพราะว่าทุกวันนี้พระเจ้าประทานพระพรทุกประการให้พวกเราแล้วในพระคริสต์ อยากกินดื่มอยากมีพลังอยากมีสันติสุขอยากมีอะไรก็ตาม เรามีอยู่แล้วในพระคริสต์ พระองค์ให้เราอย่างเต็มล้นครบบริบูรณ์ เพียงแค่เราขอบพระคุณพระองค์และเชื่อว่าได้รับแล้ว เอเมน
ถาม.
เอเมนค่ะ ถ้าเราจะเชื่อแบบนี้ได้ไหมค่ะ คือพระบัญญัติเดิมเป็นเพียงแค่เงา พอพระเยซูมาแล้วก็เป็นจุดจบของพระบัญญัติเดิม พระบัญญัติเดิมก็คือไม่มีความหมายอีกต่อไปแล้ว อันนี้ใช่ไหมค่ะ
ตอบ.
หนังสือโรมบทที่ 10:4 พระเยซูเป็นจุดจบของพระบัญญัติ เอเมน และหนังสือกาลาเทีย พระบัญญัตินะครับเปรียบเสมือนครู เป็นครูที่ควบคุมชาวยิวชั่วคราวเท่านั้น อย่าลืมนะครับพระบัญญัติเป็นครูเพื่อควบคุมชาวยิวชั่วคราว และเมื่อพระเยซูเสด็จมา พระบัญญัติก็จะส่งผู้เชื่อทั้งหลายมาหาพระเยซูมาสู่พระเยซูมาต้อนรับพระเยซู และอยู่ภายใต้การดูแลปกปักรักษา เป็นบุตรเป็นแกะของพระเยซูแล้ว เอเมน
ถาม.
แล้วชาวยิว 144,000 คนที่เขาจะรอดเนี่ย คือเขาไม่ต้องกลับใจเป็นคริสเตียน เพียงแต่เขาเชื่อและก็รักษาพระบัญญัติอย่างเคร่งครัด เขาจึงได้รับความรอดแล้วก็เป็นผู้ชนะ อันนี้เข้าใจถูกไหมค่ะ
ตอบ.
สำหรับชาวยิวในช่วงกลียุคนะครับ ในช่วงกลียุค 7 ปีแห่งความทุกข์ทรมาน ก็จะมีชาวยิว 144,000 คนที่กลับใจต้อนรับพระเยซู อย่าลืมนะครับความรอดไม่มีในโลกนี้นอกจากมาทางพระเยซูเท่านั้น คำว่ารักษาพระบัญญัติในช่วงกลียุคก็คือพระบัญญัติใหม่ของพระเยซู
สรุปจะไม่มีการกลับมารักษาพระบัญญัติเดิมเพราะว่าพระบัญญัติเดิมจบแล้ว เอเมน
ชาวยิว 144,000 คนนะครับจะถูกเลือกให้กลับใจต้อนรับพระเยซูและอยู่ภายใต้การรักษาพระบัญญัติใหม่ของพระเยซู แต่แน่นอนครับก็จะมีพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็จะมีพระวิญญาณของพระเยซูที่จะดำเนินชีวิตแทนเขาและรักษาพระบัญญัติใหม่ให้เขา ช่วยเขานะครับเป็นผู้ชนะให้ได้
ถาม.
พูดถึงชาวยิวในกลียุค 144,000 คน ก็คือเป็นชาวยิวที่เขากลับใจเชื่อพระเยซู แล้วเขาก็ถูกฆ่าตายในช่วงกลียุคใช่มั้ยครับ แล้วก็เกิดกลายเป็นผู้ชนะใช่มั้ยครับ
ตอบ.
ถูกแล้วครับ อย่าลืมนะครับสำหรับผู้เชื่อทั้งหลายไม่ว่าจะยิวหรือต่างชาติ ถ้าหากเราเป็นคริสเตียนและชีวิตเรายังมาไม่ถึงการสุกงอมยังไม่มาถึงผู้ชนะ แต่ถูกประหารชีวิตถูกฆ่าตายถูกข่มเหงและเสียชีวิตเพื่อข่าวประเสริฐและเห็นแก่พระนามของพระเยซู เขาก็จะได้รับอาณาจักรเป็นรางวัล
อันนี้จะอยู่ในมัทธิวบทที่ 5:10 นะครับ บรรดาผู้ที่ถูกข่มเหงเพราะเห็นแก่ความชอบธรรมย่อมได้รับพร ด้วยว่าอาณาจักรแห่งสวรรค์เป็นของพวกเขา
คนทั้งหลายจะด่าว่าท่านและข่มเหงพวกท่านและกล่าวความชั่วร้ายทุกอย่างต่อพวกท่านเป็นความเท็จเพราะเห็นแก่เรา เห็นแก่เรานะครับ (เห็นแก่พระนามพระเยซู) พวกท่านย่อมได้รับพร ตรงนี้นะครับจะเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าคนที่ถูกข่มเหงถูกฆ่าตายก็คือจะได้เป็นกษัตริย์เป็นใหญ่ในอาณาจักร เป็นผู้ชนะ
สิ่งที่สำคัญบทเรียนสำหรับวันนี้ ก็คือยิวเก่ายิวใหม่ พระบัญญัติเดิมพระบัญญัติใหม่ และพระสัญญาเดิมและพระสัญญาใหม่
สมัยที่ผมอยู่อเมริกาก็จะมีคริสเตียนมากมายฝรั่งนะครับอธิษฐานเผื่อยิวเป็นประจำเป็นงานหนึ่งของเขานะครับ คือเขาต้องรับผิดชอบก็คืออธิษฐานเผื่อชนชาติอิสราเอล เผื่อประเทศอิสราเอล เผื่อชาวยิว แล้วก็มีคนคลั่งไคล้กันมากมีทัวร์นะครับที่จะเดินทางไปประเทศอิสราเอลเพื่อไปดูหลุมฝังศพอุโมงค์ของพระเยซู สวนที่พระเยซูอยู่กับสาวกทั้งหลาย แล้วก็เชื่อว่าเป็นที่ที่เขาประหารชีวิตพระเยซูที่กางเขน ก็คือมีหลายที่ที่เขาจะไป แล้วก็เขาเชื่อว่ามีจำได้ว่ามีจุดที่ยอห์นให้บัพติศมาอยู่ตรงไหน ก็ไปทัวร์ก็ไปทุกที่ทุกแห่ง บางคนก็ร้องไห้ บางคนก็บอกว่ามีพระวิญญาณบริสุทธิ์สวมทับ อะไรทั้งหลาย
สำหรับพวกเรา เรามาถึงจุดนี้ก็คือเราได้เข้าใจแล้วว่า พระเจ้าไม่ได้ให้ความสำคัญกับชนชาติอิสราเอลอีกต่อไป เพราะว่าเขาเป็นชนชาติที่กบฏต่อพระเจ้าเป็นประจำ แล้วสุดท้ายก็คือปฏิเสธพระเยซูฆ่าพระเยซูฆ่าพระเจ้าเอง ซึ่งเป็นความผิดที่ใหญ่หลวงมาก แต่ด้วยพระเมตตาของพระองค์ก็ยังให้ยิวบางคนยิวจำนวนหนึ่งที่ได้รอด แต่เรานะครับไม่ต้องให้ความสำคัญกับพวกเขา เขาไม่ได้เป็นชนชาติที่พิเศษอีกต่อไปแล้ว แต่ชนชาติที่พิเศษสำหรับพระเจ้าก็คือคริสเตียนผู้เชื่อทั้งหลาย เอเมน
มีบางคนนะครับก็เอาก้อนหินจากประเทศอิสราเอลมาก็คลั่งไคล้ ก็เอามาที่โบสถ์ก็บอกว่าเนี่ยนะที่ที่พระเยซูเดิน ก้อนหินคือพระเยซูอาจจะเหยียบ แล้วก็มีน้ำน้ำจากแม่น้ำจอร์แดน หรือน้ำจากน้ำทะเลกาลิลี ก็คือเขาเห็นความสำคัญของดินแดนอิสราเอลชนชาติอิสราเอล อะไรก็อิสราเอลทั้งนั้นนะครับมองเห็นว่าเขาเป็นคนที่พิเศษสำคัญมาก
แต่ขอบคุณพระเยซูสำหรับวันนี้เราเข้าใจแล้ว ว่าเขาเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง และพระเจ้าไม่ได้โปรดปรานพวกเขาอีกต่อไป ซึ่งปัญหาก็คือพวกเขาเองเป็นคนทำเองก็คือกบฏต่อพระเจ้าและปฏิเสธพระเยซูที่เป็นพระผู้ช่วยให้รอดเป็นพระเมสสิยาห์ที่จะมาหาพวกเขามาไถ่พวกเขา ขอบคุณพระเยซูเอเมน
ถาม.
ก็คือธรรมศาลาของชาวยิวทุกวันนี้เป็นที่อยู่ของซาตานใช่ไหมครับ แล้วโบสถ์ในเมืองไทยโบสถ์ในเมืองนอก ทุกวันนี้ของคริสเตียนศาสนา แล้วได้เป็นที่อยู่ของซาตานไหมครับ
ตอบ.
แน่นอนครับอันนี้ ขอบคุณครับที่ถาม สำหรับยิวนะครับที่นมัสการพระเจ้าเขาจะไม่ไปโบสถ์นะครับเพราะว่าเขาไม่เชื่อพระเยซู เขาจะนมัสการพระเจ้าที่ธรรมศาลา ที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า ซินนะกอก (Synagogue) ก็คือมีอยู่ทั่วโลกครับที่ไหนที่ยิวอยู่อาศัยอยู่ที่นั่นก็จะมีซินนะกอก Synagogue มีธรรมศาลาเพื่อใช้เป็นสถานที่นมัสการพระเจ้า และพระคัมภีร์บอกว่าที่ทุกที่ที่ยิวอยู่และนมัสการพระเจ้าเนี่ย เป็นที่อยู่ของซาตาน (วว 2:9 / วว 3:9)
แล้วโบสถ์ล่ะ โบสถ์คริสเตียนนะครับทุกวันนี้เรียกว่าเป็นโบสถ์ศาสนาคริสต์ คริสเตียนถามว่าทำไมซาตานเข้าไปสถิตอยู่สิงอยู่ได้และเป็นผู้ครอบครองเป็นเจ้าของได้ ในมัทธิวบทที่ 13:31-32 นก เล็งถึงซาตาน และแตกกิ่งก้าน ก็คือการแตกแยกของคริสตจักรทั้งหลาย ทุกวันนี้คริสเตียนมากมายแตกแยกเป็นหลายคณะนิกาย ซึ่งไม่ถูกกันเป็นศัตรูกันก็มี เกลียดชังกันก็มี
เกลียดชังตรงไหน ก็คือยกตนข่มท่าน ก็คือคุณสอนผิด ผมสอนถูก พวกคุณเทียมเท็จ พวกผมของจริงของแท้ เราเห็นกันใช่ไหมอันนี้ มีการแตกแยกแบ่งแยก ในคณะนิกายเดียวกันก็คือรักช่วยเหลือกัน แต่ถ้าคุณมาจากคณะอื่นผมจะไม่สนใจ นี่คือปัญหาของคริสเตียนศาสนาซึ่งพวกเขานมัสการพระเจ้ารับใช้พระเจ้าในเนื้อหนัง ไม่ใช่ในวิญญาณและในความจริง
ในเนื้อหนัง ก็คือความบาป ตัวบาป อาดัม ชีวิตเก่า ซึ่งทุกสิ่งที่เขาทำจะเป็นไม้ฟางหญ้าแห้ง
ส่วนสำหรับในความไม่จริงทุกวันนี้ เพราะว่าคริสเตียนแปลพระคัมภีร์ผิดเข้าใจพระคัมภีร์ผิด ไม่เข้าใจความจริงไม่ได้รับการเปิดเผยไม่เข้าถึงมานาที่ซ่อนไว้
และเขานมัสการไม่ได้อยู่ในความจริงคืออะไร ก็คือเขาแสดงละคร ตัวตนที่เขาไปโบสถ์ทุกวันอาทิตย์เป็นตัวตนที่ปลอมที่เขาสร้างขึ้นมาในระยะตอนเช้าวันอาทิตย์ เป็นตัวที่ดีมากชอบธรรมมากเข้มแข็งมากร้อนรนมาก เราเห็นกันใช่ไหม แล้วเราเมื่อก่อนเราก็เป็นนะครับ
แล้วตัวจริงของเราล่ะคือใคร คือตัวตนที่อยู่บ้านอยู่ที่ทำงานอยู่ที่อื่นที่ไม่ใช่โบสถ์ เราจะเป็นตัวตนที่เป็นคนที่ทำบาปอยู่เป็นประจำ คือหน้าซื่อใจคด
นี่คือเหตุผลที่พระเจ้าไม่ได้อยู่กับพวกเขากับคริสเตียนทั้งหลายทุกวันนี้ เพราะว่าโบสถ์กลายเป็นที่อยู่ของซาตานแล้ว พระเจ้าอยู่ด้วยไม่ได้ แต่ถามว่าพระเจ้าทำงานไหม พระเจ้าทำ
ทำไมพระเจ้าทำงาน เพราะว่าวิญญาณของพวกเขาเป็นที่อยู่ของพระเจ้า และเมื่อเขานมัสการพระเจ้าเขาร้องเรียกหาพระเจ้า เมื่อเขาร้องเรียกหาพระเจ้า พระเจ้าก็จะเสด็จมาเพื่อช่วยและต่อสู้กับผีมารซาตานทั้งหลายที่เป็นเจ้าของครอบครองพวกเขาอยู่
ชัดเจนหรือยังครับ
สรุปก็คือหนังสือวิวรณ์บทที่ 2:9 และวิวรณ์บทที่ 3:9 บ่งบอกถึงชาวยิวที่มีซินนะกอก Synagogue ที่มีธรรมศาลา แต่ธรรมศาลาเป็นที่อยู่ของซาตาน
ส่วนในหนังสือมัทธิวบทที่ 13:32 อุปมาเรื่องนกที่มาสร้างรังสร้างที่อยู่อาศัยอยู่ในต้นไม้ นั่นคือคริสตจักรทั้งหลายที่ตกต่ำ เป็นคริสตจักรศาสนา เป็นเนื้อหนัง นมัสการพระเจ้าในความไม่จริงและในเนื้อหนังไม่ใช่ในวิญญาณ เอเมน
ถาม.
และเกิดเหตุการณ์ที่เป็นข่าวเมื่อเร็วๆ นี้ที่เกาหลีใต้อ่ะค่ะ ที่โบสถ์เขามีเพลิงเกิดไฟไหม้ลุกที่หลังคาก็น่ากลัวอยู่แต่ว่าผู้เชื่อไม่เป็นไรคริสเตียนไม่เป็นไรค่ะ แล้วทีนี้เป็นเหตุการณ์อุบัติเหตุนี้ หรือว่าเป็นพระประสงค์ของพระเจ้าที่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ค่ะ
ตอบ.
คือพระเจ้าเตือนพระเจ้าทำงานในคริสตจักรทั้งหลายที่ตกต่ำอยู่ พระเจ้าไม่ได้ทอดทิ้งเขานะครับ เพราะว่าเขาทั้งหลายเป็นบุตรพระเจ้า พระเจ้าจึงพยายามช่วยเขา อาจจะทำให้เกิดนู่นนี่นั่นบ้างเพื่อเตือนเขาและให้เขากลับใจแสวงหาความจริงแสวงหาอาณาจักรของพระเจ้าและความชอบธรรมของพระองค์
เอาง่ายๆ นะครับทุกวันนี้โบสถ์ทั้งหลาย คริสเตียนที่เป็นบุตรเหล่าบุตรพระเจ้า ไม่แสวงหาอาณาจักรและความชอบธรรมของพระเจ้า แต่แสวงหาทรัพย์สินเงินทอง แสวงหาชีวิตที่ดีการงานที่ดี ครอบครัวที่ดีทุกอย่างดีหมด แต่ไม่แสวงหาอาณาจักรและความชอบธรรมของพระเจ้า ผมพูดถูกไหม
เพราะฉะนั้นพระเจ้าจึงให้เกิดเหตุการณ์ทั้งหลายเกิดขึ้นทุกวันนี้ เกิดมีการข่มเหงบ้าง เกิดอุทกภัยบ้าง เกิดเจอมรสุมชีวิตบ้าง อะไรทั้งหลายเพื่อเตือนเขาเพื่อนำเขาให้ออกมาจากการใช้ชีวิตที่เป็นที่ไม่พอพระทัยของพระเจ้า
ทุกคนปลอดภัย ใช่ครับเพราะว่าพระเจ้ารักเขา พระเจ้าก็ยังทำงานอยู่ อย่าลืมนะครับคริสตจักรทั้งหลายทุกวันนี้ที่พระเจ้าไม่พอพระทัยเนี่ย พระเจ้าก็ยังทำงานอยู่พยายามช่วยเขาอยู่ คิดดูดีๆ นะครับถ้าหากเราที่มาพบมานาฯ แล้ว และออกมาจากพวกเขา ถ้าพระเจ้าไม่ทำงาน เราจะออกมาถึงวันนี้ได้ยังไงใช่ไหม
สรุปง่ายๆ ถ้าพระเจ้าทอดทิ้งคริสเตียนทั้งหลาย เราก็ไม่อาจจะมาถึงพระคำล้ำลึกและมาสู่ชีวิตที่ครบบริบูรณ์ได้ และสันติสุขทุกวันเวลาก็อาจจะไม่เคยได้ชิมนะครับ เอเมน
ถาม.
เอเมนครับอาจารย์ขอถามเยเรมีย์ 31 ข้อที่ 34 ที่อาจารย์อ่านเมื่อกี้ครับข้อที่ 34 พระเยโฮวาห์ตรัสดังนี้แหละ “เพราะเราจะให้อภัยความชั่วช้าของเขา และจะไม่จดจำบาปของเขาทั้งหลายอีกต่อไป“
ก็คือเมื่อก่อนเราเคยกลัว แล้วก็พี่น้องคริสเตียนทุกวันนี้ก็ยังกลัวเรื่องบาป พยายามสอนว่าอย่าทำบาปๆ ก็คือมันเกิดความกลัวเพราะว่าไม่เข้าใจพระคำข้อนี้ใช่ไหมครับ เพราะว่าพระเจ้าบอกว่าพระเจ้าจะไม่จดจำความผิดความบาปเรา แล้วแน่นอนก็คือผ่านทางพระโลหิต ก็คือเป็นพันธสัญญาใหม่ใช่ไหมครับ ที่พระเจ้าจะอภัยความชั่วช้าแล้วก็ไม่จดจำความผิดความบาปของเรา ผ่านทางพระโลหิตใช่ไหมครับ
ตอบ.
เราเห็นกันใช่ไหมครับในลูกาบทที่ 20:22 นี่คือถ้วยแห่งพระสัญญาใหม่ของเรา โดยโลหิตในโลหิตของเรา ฮาเลลูยาสรรเสริญพระเจ้าสำหรับข้อนี้สำหรับการเปิดเผยของพระเยซูในตอนนี้ ก็คือโดยพระโลหิตของพระเจ้าที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพระสัญญาใหม่
ทุกครั้งที่คุณรู้สึกฟ้องผิด ที่คุณได้กระทำผิด หรือคิดผิด คุณสารภาพบาปปุ๊บการยกโทษก็อยู่ที่นั่น แล้วเมื่อเรารู้ความจริงเรารู้ว่าพระเจ้าจะยกโทษให้เรา ความจริงนี้มันปรากฏชัดกับพวกเราแล้ว เราได้เรียนรู้เรื่องพระโลหิตจัดการกับปัญหา 4 อย่างของพวกเรา เราอ่านแล้วใช่ไหม เมื่อเราเข้าใจชัดเจนนะครับความกลัวจะไม่มีอีก ขอบคุณพระเยซู
และหนังสือเยเรมีย์บทที่ 31:34 ก็จะสำเร็จในชีวิตของพวกเราแต่ละคน เยเรมีย์บทที่ 31:31-34 คือพระเจ้าจะลบล้างความบาปชั่วทั้งหลายทั้งหมดทั้งมวลที่อยู่ภายในหัวใจในจิตใจของเรา บาปในอดีต บาปในปัจจุบัน และบาปในอนาคต โดยพระโลหิตของพระเยซูเป็นสิ่งที่ค้ำประกันเป็นสิ่งที่พระเจ้าพอพระทัยชอบพระทัยและให้อภัยเราด้วยเหตุพระโลหิตนี่แหละ เอเมน
มีน้องชายคนหนึ่งนะครับตอนเมื่อเช้านี้ รู้สึกจะเป็นเวลาที่เช้ามากๆ แล้วผมยังไม่ตื่น พอดีเขาก็โทรมาเขาบอกว่าเขารู้สึกผิดมากๆ ผิดมากอย่างมหันต์เลยเพราะว่าเขาได้กระทำผิดบางอย่าง แล้วก็ถามผมว่าอาจารย์ผมจะทำยังไงแล้วผมก็เป็นผู้เชื่อใหม่ด้วย ผมก็เลยบอกเขาไปว่าเดี๋ยวจะส่งคลิปให้เรื่องเกี่ยวกับการยกโทษบาป
แล้วผมก็ชวนเขาแล้วก็อธิบายเหตุผลจะต้องทำยังไงแก้ไขยังไง ก็คือไปแก้ไขกับคนที่เราทำผิด ไปเคลียร์กันก่อน ไปเคลียร์กับมนุษย์ แล้วเราก็สารภาพกับพระเจ้าก่อนก็ได้นะครับ อันไหนก่อนไม่สำคัญ เราสารภาพบาปกับพระเจ้าและเชื่อนะครับว่าพระโลหิตของพระเยซูเป็นสิ่งที่พระเจ้าพอพระทัยแล้วพระเจ้าไม่ได้เห็นแต่เราเป็นคนดีเป็นคนชั่วเป็นคนยังไงบาปของเราบาปมากบาปน้อยบาปใหญ่บาปตั้งใจไม่ได้ตั้งใจ บาปอะไรก็ตามนะครับ ทุกบาปบาปทุกชนิด พระเจ้ายกโทษให้เพราะเห็นแก่พระโลหิต ซึ่งหลังจากนั้นเขาก็บอกว่ารู้สึกเบาสบาย
เมื่อเขาโทรมาหาเนี่ยก็คือพระวิญญาณบริสุทธิ์ดลใจเขาให้โทร เพราะว่าเขาไม่รู้จักปรึกษาใคร เขาเป็นคริสเตียนใหม่ แล้วหลังจากที่เขาอธิษฐานสารภาพบาป ก็คือผ่านไปเขาก็บอกว่ารู้สึกดีขึ้นมากสบายใจมาก แล้วจะไปเคลียร์กับคนที่เขากระทำกับคนนั้น
เราขอบคุณพระเยซูนะครับที่เราได้เข้าใจเรื่องเกี่ยวกับพระโลหิตจัดการกับปัญหา 4 อย่างของพวกเรา ไม่ว่าจะเป็นบาปชนิดไหน บาปในอดีต บาปในอนาคต บาปในวันนี้ที่เรากระทำ บาปใหญ่ บาปน้อย บาปเล็ก บาปมาก บาปอะไร บาปทุกชนิดพูดง่ายๆ บาปทุกชนิด พระเจ้าจะยกโทษแล้วยังไม่พอ เมื่อยกโทษแล้วพระเจ้าก็จะชำระ ล้างมันออกไป จดจำไม่ได้จำไม่ได้ว่าทำอะไรผิด
ในฮาร์ดดิสก์ของพระเจ้าในความจำในเมมโมรี่ในแรมทั้งหลายของพระเจ้าที่มีอยู่ ก็คือไม่จดจำไม่มีอีกแล้ว delete ไปหมดแล้ว delete แล้วก็กู้ขึ้นมาไม่ได้อีก สำหรับคอมพิวเตอร์ทั้งหลายของมนุษย์ อาจจะกู้คืนมาได้ใช่ไหม แต่สำหรับพระเจ้าคำว่ายกโทษและชำระ ก็คือลบล้างและจำไม่ได้อีกเลย
ถาม.
การที่พระเจ้าจะยกโทษบาปให้เรา เราจะรู้ได้ยังไง รู้จากความเชื่อ ใช่หรือไม่ค่ะ
ตอบ.
เมื่อเราบังเกิดใหม่ เราไม่เห็น
เมื่อเราได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์ เราก็ไม่เห็น
เมื่อพระคริสต์สถิตอยู่ในเราพระบิดาสถิตอยู่ในเราพระวิญญาณบริสุทธิ์สถิตอยู่ในเรา เราก็ไม่เห็น แต่เราสังเกตได้ จะมีผลบางอย่างที่เกิดขึ้นภายในเราเป็นระยะๆ
ทีนี้พอมาถึงเรื่องการยกโทษบาป เราจะรู้ได้ยังไงว่าพระเจ้ายกโทษให้เรา เราต้องไปอ่านใน 1 ยอห์นบทที่ 1:9 คือพระเจ้าสัญญาเองไม่ใช่คนอื่นนะครับพระเจ้าสัญญาเองผ่านหนังสือ 1 ยอห์น ก็คือถ้าหากท่านสารภาพความผิดบาปของท่านพระเจ้าผู้ทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรมพระองค์จะทรงยกโทษบาปทั้งหลายและชำระบาปทุกชนิดของท่าน นี่คือสัญญาของพระเจ้า
ถ้าพระเจ้าสัญญา พระเจ้าจะรักษาสัญญาไหม พระเจ้าสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรมไหม พระเจ้าไม่เคยมุสานะครับ เอเมนขอบคุณพระเยซู
เมื่อพระองค์ตรัสพระองค์ก็ทำ แล้วพระองค์บอกว่า ถ้าท่านทั้งหลายสารภาพบาปของท่าน พระเจ้าผู้ทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรม จะยกโทษบาปและชำระความผิดบาปทั้งหมดของท่าน เอเมนเราขอบคุณพระเจ้านี่คือหลักฐานอันแรกที่เรารู้ว่าพระเจ้าจะยกโทษให้เรา และทันทีที่เราสารภาพการสารภาพอยู่ที่ไหนการยกโทษบาปก็จะอยู่ที่นั่นด้วย
คือพระเจ้าโปรแกรมไว้นะครับว่าเมื่อมีคริสเตียนอยู่ที่ไหน สารภาพปุ๊บ การยกโทษบาปก็จะตามมาก็จะอยู่ที่นั่น ไม่ต้องรอนะครับพระเจ้าจะไม่มองไปที่โลกนี้ว่ามีใครสารภาพแล้วจะวิ่งลงไปหาเขา แล้วบอกว่าโอเคพิจารณาดูก่อน โอเคอ่ะยกโทษให้แล้ว ไม่นะ ก็คือการสารภาพอยู่ที่ไหนการยกโทษก็จะเกิดขึ้นอัตโนมัติ ฮาเลลูยาขอบคุณพระเยซู
ทีนี้ทำยังไงถึงจะเห็นผลของการยกโทษบาปของพระเจ้า ไม่ยากครับ ก็คือเมื่อเราสารภาพ แล้วหลังจากนั้นปุ๊บก็คือขอบคุณพระเยซูที่พระองค์ทรงยกโทษให้ข้าพระองค์แล้ว จากนั้นเราก็ไม่ต้องคิดอะไรอีก ไม่ต้องจดจำความผิดนั้นอีก แล้วเรายิ้มสบายใจกับพระเจ้า สนิทในพระเจ้า ทำเหมือนกับจำอะไรไม่ได้ทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกแล้ว นี่คือสิ่งที่พระเจ้าต้องการให้เราทำ ไม่ต้องไปคิดไม่ต้องไปกลัวไม่ต้องไปฟ้องผิดอีกต่อไป เพราะว่าเมื่อพระเจ้าลบ ลบก็คือลบ ก็คือจำอะไรไม่ได้ ก็คือไม่มีความผิดอีกแล้ว เอเมนสรรเสริญพระเยซู
แล้วต่อมาไม่นานเราจะเห็นสันติสุขเกิดขึ้น สันติสุข จิตใจที่เบาสบาย ความสงบนิ่งก็จะเกิดขึ้นก็จะขึ้นไหวอยู่ภายในเรา นี่คือหลักฐานที่บ่งบอกว่าเราจะรู้ได้ยังไงว่าพระเจ้ายกโทษให้เราแล้ว เอเมน
"1 ยอห์น 1:9 ถ้าเราสารภาพบาปของเรา พระองค์ทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรม ก็จะทรงโปรดยกบาปของเรา และจะทรงชำระเราให้พ้นจากการอธรรมทั้งสิ้น"
ถาม.
แล้วแบบนี้ถ้าสมมุติว่าเรารู้ว่าวันนี้เราทำ รู้สึกว่าทำบาป แล้วเราก็อธิษฐานสารภาพบาปตอนนั้นเลยได้ไหมค่ะ
ตอบ.
ทันทีที่เราทำเราควรสารภาพทันที ถ้าหากเราทำได้นะครับ แต่ผู้เชื่อส่วนมากเนี่ยจะรู้สึกฟ้องผิด จะรอ รอสักนิดนึงก่อน แต่คริสเตียนที่ฉลาดและได้เรียนรู้มานาฯ คือโกรธปุ๊บโมโหปั๊บเนี่ยก็คือทะเลาะกับใครบางคนหรือเกิดมีจิตใจที่โกรธแค้นมาก ตอนนั้นนะครับสารภาพเลย ถ้าคุณทำได้นะ แต่ถ้าทำไม่ได้ก็รออีกสักครู่นึงก็ได้ไม่เป็นอะไร
แต่ถ้าเราเป็นบุตรพระเจ้าที่ฉลาดเหมือนงู ก็คือเราโกรธอยู่ เราก็บอกเลยว่าพระเยซู "ตอนนี้ข้าพระองค์โกรธ ไม่พอใจ โมโหร้ายอยู่ แต่ข้าพระองค์รู้ว่าถ้าหากทำต่อไปไม่สารภาพ ซาตานก็จะเข้ามาแล้วจะดึงข้าพระองค์ออกไปไกลพระเจ้า อาจจะเสียเวลาเป็นหลายชั่วโมง หรือเป็นหลายวัน หรืออาจจะเป็นเดือนเป็นปีต่อไปเลยก็คือหนีออกจากพระเจ้าไป ข้าพระองค์ขอพระองค์ยกโทษให้ข้าพระองค์ ขอเมตตาข้าพระองค์ด้วย และขอบคุณพระเยซูที่ยกโทษแล้ว"
หลังจากนั้นก็นั่งสงบสติอารมณ์ ก็รอการเร้าใจ รอสันติสุขที่จะเคลื่อนไหวในเรา อันนี้การอัศจรรย์จะเกิดขึ้นครับ เอเมน
คือมีเหตุการณ์นึงนะครับที่ผมเคยได้คุยกับบางคนที่เป็นคริสเตียน เขายังเป็นหนุ่มอยู่น่าจะอายุ 20 กว่า แล้วเขาทะเลาะกับภรรยา หลังจากนั้นก็คือไม่มีใครยอมใคร สุดท้ายก็แยกกันไป เขาก็เข้าไปนั่งอยู่ในห้องคนเดียวแล้วก็บอกว่า "พระเยซูตอนนี้ข้าพระองค์โมโหมาก โกรธมากจะทำยังไงดี แต่สิ่งที่ข้าพระองค์กลัวก็คือซาตานจะนำข้าพระองค์ชักนำให้ออกไปจากความเชื่อ จากการอยู่ในการสนิทกับพระองค์ ขอพระองค์เมตตายกโทษให้ข้าพระองค์ด้วย"
แล้วเขาก็ยิ้มนะครับ ยิ้ม ดีใจ ที่มีพระโลหิตที่เป็นสิ่งที่พระเจ้าชอบพระทัยเพื่อการยกโทษบาปทั้งหลายของมนุษย์ จากนั้นเขาก็เริ่มสนิทกับพระเจ้าใหม่ มีอะไรเกิดขึ้นครับ เขาก็เดินออกไปข้างนอกแล้วก็ไปขอโทษภรรยาเขา แล้วเขาก็สงบนิ่ง ก็นมัสการพระเจ้าต่อไปได้ เอเมน
ถาม.
ในวิวรณ์บทที่ 11:19 และพระวิหารของพระเจ้าได้ถูกเปิดออกในสวรรค์และได้เห็นในพระวิหารของพระองค์นั้นมีหีบแห่งพันธสัญญาของพระองค์และมีบรรดาฟ้าแลบและเสียงต่างๆ และฟ้าร้องทั้งหลายและแผ่นดินไหวและลูกเห็บห่าใหญ่
ดิฉันก็ได้ทราบว่าในหีบแห่งพันธสัญญานั้นก็จะมีไม้เท้าของอาโรน มีโถทองคำใส่มานา และแผ่นพันธสัญญาที่พระองค์เอาเก็บไว้ที่แท่นบูชานั้นเพื่อเป็นเหมือนกับว่าพระองค์เคยประทานให้กับคนยิวยิวใช่มั้ยค่ะ
ตอบ.
“และพระวิหารของพระเจ้าได้ถูกเปิดออกในสวรรค์ และได้เห็นในพระวิหารของพระองค์นั้นมีหีบแห่งพันธสัญญาของพระองค์ และมีบรรดาฟ้าแลบ และเสียงต่างๆ และฟ้าร้องทั้งหลาย และแผ่นดินไหว และลูกเห็บห่าใหญ่”
ผมอยากจะบอกพวกเรานะครับถ้าหากพี่น้องที่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับหนังสือวิวรณ์ เราจะเข้าใจแล้ว แต่มีอีกพี่น้องหลายท่านนะครับที่ยังไม่เข้าใจ
ในสวรรค์มีพระวิหารของแท้ ซึ่งพระวิหารจำลองก็คืออยู่ที่กรุงเยรูซาเล็ม เข้าใจกันนะครับ ในสวรรค์มีพระวิหารของแท้ที่มีอยู่มานานแล้ว แล้วพระเจ้าสถิตอยู่ในนั้น ส่วนพระวิหารที่อยู่ที่กรุงเยรูซาเล็มก็คือพระวิหารจำลองหรือพระวิหารที่ทำเพื่อชั่วคราว ที่พระเจ้าเสด็จลงมาอยู่กับชนชาติอิสราเอลบางครั้งบางคราว
ทีนี้หีบพันธสัญญาในข้อนี้นะครับไม่ได้บอกว่า มีไม้เท้าของอาโรน และไม่มีพระบัญญัติ 10 ประการอยู่ เราเห็นอะไรไหม เราเห็นหรือยัง ไม่มีพระบัญญัติ 10 ประการอยู่ในนั้นและไม่มีไม้เท้าของอาโรน แต่เป็นหีบพันธสัญญาของแท้ที่อยู่บนสวรรค์ที่มีมานานแล้วตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วนะครับ
ไม่ใช่ว่าพระเจ้าจะเอามาจากโลกนี้หีบพันธสัญญาและไม้เท้าของอาโรนและพระบัญญัติ 10 ประการ เป็นหินนะครับ 2 ท่อน พระเจ้าจะนำขึ้นไปบนสวรรค์ไม่ใช่นะครับไม่ใช่
หีบพันธสัญญาก็คือหีบพันธสัญญาของแท้ ไม่ใช่ของจำลอง และพระบัญญัติอยู่ในหีบพันธสัญญานั้นก็คือ พระบัญญัตินิรันดร์ พระบัญญัติของพระเยซู พระบัญญัติของพระเจ้า ที่มีมาตรฐานสูงลิบเป็นมาตรฐานของพระเจ้า ไม่ใช่พระบัญญัติ 10 ประการ เข้าใจหรือยังครับ
ถาม.
งั้นก็เป็นคนละหีบกันใช่มั้ยค่ะ
ตอบ.
คนละหีบเลยครับ อย่าลืมนะครับคริสเตียนมากมายไม่รู้ว่าพระวิหารของแท้เนี่ยจริงๆ แล้วอยู่บนสวรรค์ พระวิหารที่อยู่กรุงเยรูซาเล็มก็คือของชั่วคราวของมนุษย์สร้างขึ้นด้วยมือของมนุษย์
คืออย่าลืมเรามีหลักฐานเต็มไปหมดในพระคัมภีร์ เรื่องพันธสัญญาใหม่ และโดยเฉพาะถ้าหากใครไม่เชื่อในพระคัมภีร์ใหม่ หรือคำพูดของเปาโลที่กล่าวโดยพระวิญญาณ ให้เขาไปอ่านในเยเรมีย์บทที่ 31:31-34 พระองค์ตรัสนะครับว่า เราจะประทานพันธสัญญาใหม่ เห็นไหมครับ
และเมื่อพระเยซูเสด็จมาในลูกาบทที่ 22:20 พระเยซูตรัสว่า เราให้พระบัญญัติใหม่แก่ท่านทั้งหลายในพระโลหิต ถ้วยแห่งพันธสัญญาก็คือ ถ้วยที่มีเหล้าองุ่น แล้วพระองค์ให้สาวกทั้งหลายดื่ม นี่เล็งถึงพระโลหิตของพระเยซูที่จะหลั่งไหลเพื่อยืนยันว่าพระเจ้าได้ประทาน พันธสัญญานิรันดร์แก่ผู้เชื่อทุกคนไม่ว่าจะเป็นยิวหรือคนต่างชาติ ใครก็ตามที่เชื่อวางใจในพระเยซู ต้อนรับพระเยซูว่าพระองค์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเขา ก็จะเข้าสู่ถ้วยแห่งพันธสัญญาใหม่ เอเมน
ขนาดพระเยซูพูดว่าเราให้พันธสัญญาใหม่ ถ้าเขาไม่รับก็คือมันจำเป็น ช่วยไม่ได้นะครับ
แล้วก็ในยอห์นบทที่ 13 และบทที่ 15 ที่พระเยซูตรัสว่า เราให้พระบัญญัติใหม่แก่ท่านทั้งหลาย ท่านทั้งหลายที่รักษาพระบัญญัติของเรา พระบัญญัติของเรา ไม่ใช่ของโมเสสอีกแล้ว (ยน 13:34-35 หรือ “พระบัญญัติของเรา” ยน 15:10-12)
เราเห็นใช่ไหมว่าในหนังสือมัทธิวบทที่ 5 บทที่ 6 ท่านทั้งหลายได้ยินว่าอย่าฆ่าคน แต่ฝ่ายเราเราขอบอกท่านว่าแค่คิด แค่โกรธ ก็คือได้ฆ่าคนคนนั้นแล้ว ซึ่งพระบัญญัตินี้มาจากไหน มาจากพระบัญญัติที่มี 2 ข้ออยู่ในหีบพันธสัญญาสัญญาในสวรรค์ เข้าใจกันหรือยัง
พระบัญญัติที่พระเยซูกล่าวในมัทธิวบทที่ 5 บทที่ 6 ก็คือ เป็นพระบัญญัติที่อยู่ในหีบพันธสัญญาของพระเจ้าอยู่ในสวรรค์ครับผม
ถาม.
ในฮีบรู 9:23 เหตุฉะนั้นจึงจำเป็นต้องชำระแบบจำลองของสวรรค์ โดยใช้เครื่องบูชาอย่างนี้ แต่ว่าของจริงในสวรรค์นั้น ต้องชำระด้วยเครื่องบูชาอันประเสริฐกว่าเครื่องบูชาเหล่านั้น
เข้าใจแล้วค่ะ
ตอบ.
เอเมนขอบคุณพระเยซู สิ่งจำลองนะครับในโลกนี้ก็คืออยู่ที่เยรูซาเล็ม
มาถึงตอนนี้เราเห็นภาพชัดเจนหรือยัง ยิวนะครับเป็นยิวจำลองเป็นยิวชั่วคราว เป็นเงานะครับอยู่ชั่วคราว ยิวแท้ก็คือผู้เชื่อทุกคน แล้วเราเองทุกวันนี้ก็เป็นยิวแท้ ลูกหลานอับราฮัม ไม่ใช่ลูกหลานของอิสราเอล 12 คน และไม่ใช่ชนชาติอิสราเอล
ลูกหลานอับราฮัมที่แท้จริงลูกสวรรค์ลูกหลานสวรรค์ ก็คือพวกเราทั้งหลายที่เชื่อในพระเยซู และพระวิหารของแท้ที่พวกเราจะมีส่วนในการนมัสการร่วมกันและมีพระบิดาประทับอยู่ ก็คือพระวิหารในสวรรค์ แล้วนครเยรูซาเล็มใหม่จะนำพระวิหารนั้นลงมาอยู่ในโลกนี้ในช่วงยุคพันปีและฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ เอเมน
ถาม.
ถามในเยเรมีย์บทที่ 17:1 “บาปของยูดาห์นั้นบันทึกไว้ด้วยปากกาเหล็ก ด้วยปลายเพชรจารึกไว้บนแผ่นแห่งจิตใจของเขา และบนเชิงงอนที่แท่นบูชาของเขาทั้งหลาย
อยากถามเกี่ยวกับว่าที่บนเชิงงอนนะคะ มันเป็นแท่นบูชาใช่ไหมค่ะแล้วมันจะมีเชิงงอน เขาบอกว่าที่พระเยซูเสด็จขึ้นไปหาพระบิดา แล้วที่ถวายพระโลหิตของพระองค์ก็คือ ใช่ได้ไปถวายที่เชิงงอนหรือเปล่าค่ะ แล้วก็สอดคล้องกับที่อาจารย์ได้อธิบายเมื่อกี้ว่าวิหารจริงๆ ก็คืออยู่ที่สวรรค์อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นหีบพันธสัญญา งั้นแท่นบูชาก็คือทุกอย่างที่เป็นพระวิหารในโลกนี้ที่เคยเกิดขึ้นที่เยรูซาเล็มด้วย อันนั้นเป็นภาพจำลองเฉยๆ แล้วบนเชิงงอนก็คือพระเยซูได้นำพระโลหิตของพระองค์ไปถวายให้พระบิดา ณ ตรงจุดนั้นใช่ไหมค่ะ
ตอบ.
เมื่อพระเยซูสิ้นพระชนม์พระองค์ได้นำพระโลหิตของพระองค์ขึ้นไปยังสวรรค์นะครับ เข้าไปในพระวิหารที่พระบิดาทรงประทับอยู่ แล้วพระองค์ก็ประทานพระโลหิตของพระองค์ให้เป็นค่าไถ่บาปของมนุษย์ทุกคน ทุกยุค ทุกสมัย ไม่ว่าจะเป็นยิวและคนต่างชาติด้วย โดยพระนามของพระเยซูจะทำให้มนุษย์ทุกคนได้รับการยกโทษความผิดบาปทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นความผิดบาปที่ถูกบันทึกอยู่บนเชิงงอน หรืออยู่ที่ไหนก็ตาม จะถูกลบล้างทิ้งทั้งหมด เอเมนขอบคุณพระเยซู
ใช่ครับคือการทำพิธีทั้งหลายที่ทำจำลองในโลกนี้ ซึ่งปุโรหิตเป็นคนทำและพระเจ้าเป็นคนสอน ก็มีการกระทำอยู่ในสวรรค์ครับ
ถาม.
หีบพันธสัญญาที่เคยอยู่ที่พระวิหารที่กรุงเยรูซาเล็มบนโลกนี้ หายสาบสูญแล้วใช่ไหมครับ พระเจ้าให้ทำลายแล้วหรือว่ายังไงครับ
ตอบ.
คือทุกวันนี้ไม่มีใครทราบนะครับว่าหีบพันธสัญญาอยู่ที่ไหน ไม่มีใครทราบ แล้วก็พระบัญญัติ 10 ประการเนี่ยอยู่ที่ไหน ไม่มีใครรู้ครับผม แล้วพระคัมภีร์ก็ไม่ได้บันทึกว่าอยู่ที่ไหน แล้วทุกวันนี้ก็คือนักวิทยาศาสตร์นักศาสนศาสตร์อะไรทั้งหลายก็คือเขาไปค้นหาพยายามค้นหาว่าอยู่ประเทศไหน ใครเป็นคนซ่อนเป็นคนเก็บเอาไว้ ปรากฏว่าไม่มีใครทราบจริงๆ ครับผม
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ใช่ว่าพระเจ้าจะนำหีบพันธสัญญาและพระบัญญัติ 10 ประการและไม้เท้าของอาโรนขึ้นไปไว้บนสวรรค์ไม่ครับผม อีกครั้งในฮีบรูบทที่ 9:23 ทุกสิ่งที่อยู่ในโลกนี้ไม่ว่าจะเป็นหีบพันธสัญญา ไม้เท้าของอาโรน และพระบัญญัติ 10 ประการ หรืออะไรทั้งหลายทั้งหมดทั้งมวล เป็นสิ่งจำลองที่พระเจ้าให้สร้างในโลกนี้ แต่ของแท้ทั้งหมดก็คืออยู่บนสวรรค์ครับ
ถาม.
เอเมนค่ะ ก็คือทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ พระเจ้าให้ผู้รับใช้ทำหรือว่าอะไรก็ตาม แต่พอพระเยซูมาแล้วทุกสิ่งก็จบแล้ว เราเชื่ออย่างนี้ก็ถูกต้องแล้วไหมค่ะ เราไม่ต้องไปสนใจอะไรเลย เราก็สนใจแต่เรื่องพระเยซูจะทำอะไรอันนี้ก็ถูกต้องใช่ไหมหรือว่าเราควรจะไปสนใจสิ่งที่เราไม่เคยรู้มาก่อน ส่วนตัวก็คือไม่รู้เรื่องเลยค่ะเพราะว่าพระคัมภีร์รู้น้อยมากเลยค่ะ รู้แต่มานาที่ซ่อนไว้ที่อ่านเยอะมากเลย พอพี่น้องเอามาถามก็งงๆ ไม่เข้าใจค่ะ
ตอบ.
สำหรับพระบัญญัตินะครับพระคัมภีร์เรียกว่า พระเจ้าเรียกว่าเป็นเงาเป็นสิ่งชั่วคราว ในฮีบรูบทที่ 10:1 เพราะพระบัญญัตินั้นซึ่งมีเพียงเงาของบรรดาสิ่งดีที่จะมา สิ่งดีที่จะมาคืออะไรครับ คือพระเยซู เอเมน