เราไม่มีทุนเยอะ ไม่มีคนเยอะ และไม่มีชื่อเสียงท่ามกลางสังคมคริสเตียน แต่เราเป็นแหล่งที่นำผู้เชื่อเข้าสู่ชีวิตสุกงอมได้
ผมขอย้ำนะครับ ในวิวรณ์บทที่ 3 (วว 3:8) คริสตจักรเที่ยงแท้ไม่มีคนเยอะ พระเยซูบอกเองครับ พระเยซูบอกล่วงหน้าแล้วว่า คริสตจักรเที่ยงแท้จะไม่มีคนเยอะ และรัฐบาลของพระเจ้าก็มีเล็กน้อย ไม่เยอะครับ
1. เรื่องการเงินเป็นเรื่องของการไว้วางใจในพระเจ้า คริสตจักรควรเน้นเรื่องนี้อยู่เป็นประจำ
...
2. คริสตจักรจะอยู่รอดหรือไม่ เราอย่าเป็นทุกข์หรือกระวนกระวาย แต่ใส่ใจในหน้าที่ของเราจนวันสุดท้าย
...
3. เราไม่ควรให้ใครรู้ว่าใครให้มากหรือน้อย เพื่อป้องกันการดูแลบางคนดีกว่าบางคน หรือยกบางคนขึ้นสูงกว่า
คริสตจักรศาสนาส่วนมากจะเป็นแบบนี้ คือใครถวายมากถวายเยอะ คนก็จะดูแล เอาใจใส่ และยกย่อง แต่คนไหนที่ไม่ถวายเลย คริสตจักรไม่สนใจครับ แต่คริสตจักรเรากำจัดปัญหานี้ คือไม่ให้ใครรู้ว่าใครถวายเยอะถวายน้อย เราไม่สนใจ เราก็ดูแลทุกคนดีเท่ากันหมด เอเมน
...
4. อย่าสัญญากับพระเจ้าว่า จะให้คริสตจักรหรือผู้นำเดือนละเท่าไหร่ หรืออาทิตย์ละเท่าไหร่
หลายๆ คนเป็นนะครับ คือสัญญาว่าจะให้ศิษยาภิบาลเดือนละเท่าไหร่ หรือจะให้คริสตจักรเดือนละเท่าไหร่ เค้าทำสัญญากับพระเจ้า แล้วเมื่อพี่น้องคนนั้นมาพบมานา ก็ถามผมว่า “แล้วสิ่งที่หนูสัญญากับคริสตจักรล่ะ มันจะเป็นยังไง พระเจ้าจะไม่ตีสอนเหรอถ้าเปลี่ยนใจ”
ผมบอกว่า “เวลาเราทำสัญญา พระเจ้าไม่ได้ทำสัญญากับเรา เราทำเราเอง” พระเจ้าไม่รู้เรื่อง พระเจ้าไม่ได้รับรู้ เพราะฉะนั้น ยกเลิกไปเถอะครับ
อย่าทำสัญญา เราทำอะไร เราทำตามขนาดของความเชื่อ ทำได้ก็ทำ ทำไม่ได้ก็ไม่ทำครับ อย่าไปผูกมัดตัวเองให้มันลำบาก ให้มันหนักใจครับ
คริสตจักรพระเยซูเป็นคนสร้าง แล้วทำไมคริสตจักรมากมายทุกวันนี้กระวนกระวาย ห่วงมากเหลือเกินว่าคริสตจักรจะอยู่รอดมั๊ย ค่าน้ำค่าไฟ ค่านู่นนี่นั่นเยอะ ทำยังไง หารายได้จากที่ไหน
เค้าลืมไปว่า พระเยซูเป็นคนก่อตั้งคริสตจักร ถ้าพระเยซูมีปัญญาสร้างคริสตจักร พระเยซูก็มีปัญญาดูแลคริสตจักรของพระองค์ ไม่ต้องไปห่วงครับ
ถ้าสมมติว่า คริสตจักรอยู่ต่อไปไม่ได้ เงินไม่พอที่จะใช้เป็นค่าใช้จ่าย ค่าเช่าก็จ่ายไม่ไหวแล้ว เงินหมด เราก็ย้ายไปที่อื่น คริสตจักรไม่ใช่ที่นั่น คริสตจักร คือกลุ่มคนครับ
...
5. เรื่องรายได้หรือรายรับ การถวายเราไม่ถวายสิบลด แต่ร้อยลด คือเชื่อว่าทุกสิ่งทั้งชีวิต ร่างกาย จิต และวิญญาณ และทรัพย์สินทุกอย่างเป็นของพระเจ้าแล้ว
1 คร 6:19–20 เปาโลบอกว่า “ท่านทั้งหลายไม่รู้หรือว่า พระเจ้าทรงซื้อท่านแล้ว” พระเจ้าซื้อเราแล้วนะครับ เอเมน แล้วทำไมเราให้พระเจ้าแค่สิบเปอร์เซ็นต์
เราให้พระเจ้าร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เราให้ตามขนาดของความเชื่อของเรา ไม่ใช่ขนทุกสิ่งทุกอย่างที่บ้านมาให้คริสตจักร ไม่ใช่ครับ
เราเชื่อว่าบ้านเป็นชื่อของเราก็จริง แต่เจ้าของที่แท้จริงคือพระเจ้า รถเป็นชื่อของเรา แต่เจ้าของที่แท้จริงคือพระเจ้า ครอบครัวเป็นของเรา แต่เจ้าของที่แท้จริงคือพระเจ้า นี่ครับคือความเชื่อที่ถูกต้อง คือการถวายร้อยลด
ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นของพระเจ้าอยู่แล้ว แต่การควักกระเป๋าออกมาให้คริสตจักร ก็คือเราเอาส่วนหนึ่งที่เป็นของพระเจ้า เอาไปให้คริสตจักรเพื่อเป็นค่าใช้จ่าย ไม่ใช่เอามาถวายให้พระเจ้าครับ ของพระเจ้าเราจะถวายให้พระเจ้าได้ยังไง
เราถวายสิ่งเดียวให้พระเจ้าได้ พระเจ้าต้องการให้เราถวายสิ่งเดียว คือถวายตัวใหม่ให้พระเจ้า เพื่อพระเจ้าจะใช้ให้เกิดผลแห่งความชอบธรรม เอเมน (โรม 6:13)
...
6. การให้เราควรทำในที่ลับลี้ ไม่ควรให้ใครรู้เป็นอันขาด เพื่อเราจะไม่ขาดบำเหน็จจากพระบิดา
...
7. เราไม่ควรหวังผลตอบแทนจากมนุษย์ แต่เพราะเรารักพระเยซู และเพื่อการงานของพระเจ้าจะก้าวต่อไปได้
ในพระคัมภีร์ใหม่ คำว่าถวายไม่ค่อยมีอีกแล้ว และเมื่อเปาโลพูดถึงคำว่าถวาย เขาใช้คำว่าให้
เมื่อก่อนคือ “Offering” หรือ “Offer” แต่เดี๋ยวนี้พระคัมภีร์ใหม่ เปาโลบอกพี่น้องทั้งหลายว่า “จงให้ๆๆ” ก็คือ “Give”
เวลาเราให้คริสตจักร อย่าใช้คำว่าถวายอีกครับ เราถวายได้สิ่งเดียว คือตัวเรา แต่การใช้เงินให้คริสตจักรก็คือ “ให้ (Give)” Give to The Church อย่าเรียกว่าถวายอีกต่อไป
ถามว่าไมพระเจ้าจู้จี้จุกจิกเหลือเกิน อะไรเล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้รึไง ใช้คำว่าถวายก็ได้นะ
พระเจ้าบอกว่าไม่ ทำให้มันถูก ถ้าเรารู้ความจริง เราก็ใช้คำว่าให้ดีกว่าครับ เล็กๆ น้อยๆ เราก็ทำได้ครับ เปลี่ยนคำไม่ใช้คำว่าถวายอีกต่อไป แต่เราให้พระเจ้า ให้คริสตจักรครับ
...
8. คริสตจักรควรให้ในลักษณะของขวัญ ไม่ใช่ค่าจ้าง ไม่ต้องมีกำหนดแน่นอน และต้องทุกเดือน เป็นการช่วยเหลือแบบยินดีรวบรวมของพี่น้องคริสตจักร
นี่คือการให้ศิษยาภิบาล หรือให้ผู้รับใช้ ไม่จำเป็นต้องให้ศิษยาภิบาลคนเดียวครับ ใครที่รับใช้ทำงานหนัก และมีค่าน้ำมัน หรือค่าใช้จ่ายอะไร เราเห็นเค้าลำบาก ก็คุยกัน ก็ให้เค้า แต่ไม่ใช่ให้แบบทุกเดือน ให้ยังไงก็ได้ ให้ตามขนาดของความเชื่อ และให้ตามความเหมาะสม
ถาม:
แล้วเราจะบริหารจัดการกับเงินยังไงใครเป็นคนไปแกะหรือเปิดกล่องถวาย หรือใครจะเป็นคนเก็บยังไง ในคริสตจักรที่เป็นฝ่ายวิญญาณ
ตอบ:
ก็มีพี่น้องคนหนึ่งที่เป็นคนที่ไว้ใจได้มากที่สุด มากกว่าผู้อื่น เป็นคนที่ซื่อสัตย์ ไม่มีประวัติที่มีปัญหาเกี่ยวกับการขโมยเงิน
คริสตจักรบางคริสตจักรมีคนขโมยเงิน ทุกวันนี้คริสตจักรบางคริสตจักร ศิษยาภิบาลก็ขโมยเงินเหมือนกัน เราเคยได้ยินกันมั๊ยครับ ข่าวมันออกมาบ่อยๆ
ถาม:
แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าใครซื่อสัตย์
ตอบ:
ก็ดูชีวิตของเค้า ดูๆ กัน อยู่ไปด้วยกันนานๆ ก็รู้ว่าใคร จะรู้เองครับ