หนังสือวิวรณ์ (บทที่ห้า ฉากในสวรรค์ต่อจากบทที่ 4)
I. หนังสือม้วน คืออะไร?
II. เปิดหนังสือม้วน เพื่ออะไร?
III. ผู้ที่เปิดได้ คือไคร?
IV. ตราประทับทั้งเจ็ด คืออะไร?
....
I. หนังสือม้วน คือพันธสัญญาฉบับใหม่ล่าสุดของพระเจ้า เรื่องการบริหาร การครอบครอง สวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่
....
II. เปิดหนังสือม้วน คือการริเริ่มสิ่งใหม่ๆ เข้ามาแทนที่สิ่งเก่าที่เสื่อมสลายและไม่ได้เดินตามแผนงานการบริหารของพระเจ้า โลกและสวรรค์เก่าจะถูกทำลาย และฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่จะเข้ามาแทนที่
....
III. บนสวรรค์และในโลกนี้ ไม่มีไครที่สามารถเปิดหนังสือม้วนนี้ได้นอกจากพระเยซูในฐานะบุตรมนุษย์ เพราะเหตุว่าพระองค์ทรงรับการตายเพื่อไถ่โลก และทรงเป็นผู้เดียวที่ทำให้น้ำพระทัยของพระเจ้าสำเร็จ
....
IV. ตราประทับทั้งเจ็ดคือ
1. "ผู้ขี่ม้าสีขาว ถือธนู" (แต่ไม่มีลูกธนู) ได้รับมงกุฎ ออกไปเพื่อชัยชนะ ม้าตัวนี้ยังคงวิ่งอยู่
2. "ผู้ขี่ม้าสีแดงสด" นำสันติสุขไปจากแผ่นดินโลก ให้คนทั้งปวงรบราฆ่าฟันกัน ม้าตัวนี้ยังคงวิ่งอยู่
3. "ผู้ขี่ม้าสีดำ" ถือตราชู นำความอดอยากกันดารอาหารมายังโลก ม้าตัวนี้ยังคงวิ่งอยู่
4. "ผู้ขี่ม้าสีกำมะเลียว" (เขียวอมเทา) ชื่อว่าความตาย และแดนมรณาก็ติดตามเขามาด้วย 1 ส่วน 4 ของมนุษย์ต้องตายเพราะสงครามและกันดารอาหาร ม้าตัวนี้ยังคงวิ่งอยู่
(ม้าสีขาวคือข่าวประเสริฐ, ม้าสีแดงคือสงคราม, ม้าสีดำคือการกันดารอาหาร, และม้าสีกำมะเลียวคือ 1 ส่วน 4 ของมนุษย์ต้องตายเพราะสงคราม และการกันดารอาหาร)
5. ตราประทับที่ 5 นี้ยังไม่เปิด และเมื่อไหร่ที่พระเมษโปดกทรงเปิดตรานี้ ผู้รับใช้ที่ถูกฆ่าตั้งแต่พระเยซูเสด็จขึ้นนจนถึงทุกวันนี้จะร้องเรียกขอความยุติธรรมจากพระเจ้าที่พวกเขาถูกมนุษย์ฆ่าตาย
6. ตราประทับที่ 6 นี้จะเปิดเมื่อช่วงเจ็ดปีแห่งความทุกข์ทรมานเริ่มขึ้น ทั่วโลกจะได้รับการตอบแทนซึ่งเป็นผลที่ได้รับจากการตอบสนองของผู้รับใช้ที่ถูกฆ่าตายทั้งหมด
7. เมื่อเจ็ดปีแห่งความทุกข์ทรมานผ่านพ้นไป พระเมษโปดกจะเปิดตราที่เจ็ด เป็นเหตุการณ์ร้ายแรงสุดท้ายเพื่อทำลาย และฟื้นฟูโลกขื้นใหม่ เพื่อนำราชอาณาจักรสวรรค์ลงมาตั้งบนแผ่นดินโลกเป็นเวลาพันปี (มธ 6:10) ต่อจากนั้น การพิพากษาครั้งใหญ่ และฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ชั่วนิจนิรันดร์จะเริ่มขึ้นและไม่มีวันจบสิ้นตลอดกาล อาเมน
หนังสือแห่งภัยพิบัติทั้งเจ็ดที่ได้ประทับตราไว้
5:1 และในพระหัตถ์เบื้องขวาของพระองค์ผู้ทรงประทับบนพระที่นั่งนั้นข้าพเจ้าได้เห็นหนังสือม้วนหนึ่งเขียนไว้ทั้งข้างในและข้างนอกมีตราประทับอยู่เจ็ดดวง
** หนังสือม้วนที่ท่านยอห์นเห็น คือแผนการบริหารงานของพระเจ้าเรื่องฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ และพระเยซูผู้เดียวเท่านั้นที่ได้รับสิทธิอำนาจให้แกะตราทั้งเจ็ดได้
** หนังสือม้วนเขียนไว้ทั้งข้างในและข้างนอก มีความกลมเกลียวกับตราประทับเจ็ดดวง ซึ่งก็คือเหตุการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นตั้งแต่อัครสาวกเริ่มออกไปประกาศ จนถึงพระเจ้าจะริเริ่มการบริหารฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ของพระองค์
** หนังสือม้วนนี้ คือเรื่องราวที่ท่านยอห์นเขียนตั้งแต่บทที่หนึ่งจนถึงบทที่สิบเอ็ด ความหมายก็คือหนังสือวิวรณ์ตอนแรกมีความยาวแค่สิบเอ็ดบทเท่านั้น แต่พระเยซูประทานหนังสือม้วนเล็กอีกม้วนหนึ่งให้แก่ท่าน และนั่นก็คือบทที่สิบสองจนถึงบทที่ยี่สองสองนั่นเอง
- ถ้าหากเราเข้าใจว่าหนังสือวิวรณ์แบ่งออกเป็นสองหมวดหมู่ เราจะเข้าใจเรื่องราวและเหตุการณ์ทุกอย่างได้อย่างชัดเจน หมวดหมู่แรกคือบทที่ 1 จนถึง 11 และหมวดหมู่ที่สองก็คือบทที่ 12 จนถึง 22
- บทที่ 1 - 11 คือเรื่องราวเหตุการณ์ตั้งแต่อัครสาวกออกไปประกาศ (ในกิจการ) จนถึงฟ้าสวรรค์ใหม่ (เรื่องยุคพันปีและฟ้าสวรรค์ใหม่ท่านยอห์นไม่ได้อธิบายเพียงแต่ท่านเอ่ยถึงเท่านั้น)
- บทที่ 12-22 คือเรื่องราวตั้งแต่สามปีครึ่งสุดท้ายของกลียุคไปจนถึงฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่
5:2 และข้าพเจ้าได้เห็นทูตสวรรค์ที่มีฤทธิ์องค์หนึ่ง ประกาศด้วยเสียงอันดังว่า “ผู้ใดสมควรที่จะคลี่หนังสือนั้นออกและแกะบรรดาตราของหนังสือนั้นได้”
5:3 และไม่มีผู้ใดในสวรรค์ หรือในแผ่นดินโลก หรือใต้แผ่นดินโลก ที่สามารถคลี่หนังสือนั้นออก หรือดูหนังสือนั้นได้
5:4 และข้าพเจ้าก็ร้องไห้มากมาย เพราะว่าไม่ได้พบผู้ใดที่สมควรที่จะคลี่หนังสือนั้นออก และอ่านหนังสือนั้น หรือดูหนังสือนั้นได้
พระคริสต์ผู้ได้ทรงถูกตรึงเพื่อเป็นค่าไถ่
5:5 และมีผู้หนึ่งในพวกผู้อาวุโสนั้น กล่าวแก่ข้าพเจ้าว่า “อย่าร้องไห้เลย ดูเถิด สิงโตแห่งเผ่ายูดาห์ รากของดาวิด ทรงมีชัยแล้วที่จะคลี่หนังสือนั้นออก และที่จะแกะตราทั้งเจ็ดดวงของหนังสือนั้นได้”
5:6 และในท่ามกลางพระที่นั่งกับสัตว์ทั้งสี่นั้นและท่ามกลางพวกผู้อาวุโส ดูเถิดข้าพเจ้าแลเห็นพระเมษโปดกประทับยืนอยู่ประหนึ่งทรงถูกปลงพระชนม์ทรงมีเขาเจ็ดเขาและมีตาเจ็ดดวง ซึ่งเป็นพระวิญญาณทั้งเจ็ดของพระเจ้าที่ทรงส่งออกไปทั่วแผ่นดินโลก
** ข้อ 6 "มีเขาเจ็ดเขา" เล็งถึงอำนาจอันครอบบริบูรณ์ของพระเยซูคริสต์ มีตาเจ็ดดวง คือทุกสิ่งในโลกล้วนแต่อยู่ภายใต้การเฝ้าดูดูแลของพระองค์ทั้งสิ้น ถึงแม่ว่าซาตานจะครอบครองและเป็นเจ้าแห่งโลกนี้ แต่มันก็ยังต้องอยู่ภายใต้การครอบครองของพระเจ้า
5:7 และพระเมษโปดกนั้นได้มาและเอาหนังสือม้วนนั้นออกไปจากพระหัตถ์ขวาของพระองค์ ผู้ประทับบนพระที่นั่งนั้น
5:8 และเมื่อพระองค์ได้ทรงเอาหนังสือนั้นไปแล้ว สัตว์ทั้งสี่และผู้อาวุโสยี่สิบสี่คนนั้นก็ทรุดตัวลงต่อพระพักตร์พระเมษโปดก ทุกคนถือพิณเขาคู่และถือขันทองคำบรรจุเครื่องหอม ซึ่งเป็นบรรดาคำอธิษฐานของพวกวิสุทธิชน
5:9 และเขาทั้งหลายก็ร้องเพลงใหม่ว่าดังนี้ “พระองค์ทรงเป็นผู้ที่สมควรจะทรงรับม้วนหนังสือและแกะตราม้วนหนังสือนั้นออก เพราะว่าพระองค์ทรงถูกปลงพระชนม์แล้วและด้วยพระโลหิตของพระองค์นั้น พระองค์ได้ทรงไถ่เราทั้งหลายซึ่งมาจากทุกตระกูลทุกภาษาทุกชาติและทุกประเทศ ให้ไปถึงพระเจ้า
** ข้อ 9 นี่คือเหตุผลที่พระเยซูได้รับสิทธิอำนาจให้แกะตราทั้งเจ็ดได้ คือพระองค์ยอมตายเพื่อไถ่บาปมนุษย์โลกให้มาถึงพระเจ้าได้
5:10 พระองค์ได้ทรงโปรดให้เราทั้งหลายเป็นกษัตริย์และเป็นปุโรหิตของพระเจ้าของเราและเราทั้งหลายจะได้ครอบครองแผ่นดินโลก”
** ข้อ 10 คือพระสัญญาของพระเจ้าต่อเราผู้ชนะทุกคน ซึ่งในด้านการปรนิบัติพระเจ้าในพระวิหารในยุคพันปีเราผู้ชนะเป็นปุโลหิต ส่วนในด้านการบริหารบ้านเมือง ผู้ชนะได้เป็นกษัตริย์ครอบครองร่วมกับพระองค์
5:11 แล้วข้าพเจ้าก็มองดูและข้าพเจ้าได้ยินเสียงทูตสวรรค์เป็นอันมากนับเป็นโกฏิๆเป็นแสนๆซึ่งอยู่ล้อมรอบพระที่นั่งรอบสัตว์และผู้อาวุโสทั้งหลายนั้น
** ข้อ 11 บนสวรรค์ในอดีต ในปัจจุบันและอนาคต จะมีทูตสวรรค์นับล้านๆ นับแสนๆ ไปมาเพื่อรับใช้และนมัสการพระเจ้า
5:12 ร้องเสียงดังว่า “พระเมษโปดกผู้ทรงถูกปลงพระชนม์แล้วนั้นเป็นผู้ที่สมควรได้รับฤทธิ์เดช ทรัพย์สมบัติ ปัญญา อานุภาพ เกียรติ สง่าราศีและคำสดุดี”
5:13 และข้าพเจ้าได้ยินเสียงสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ทั้งในสวรรค์ในแผ่นดินโลก ใต้แผ่นดินโลก ในมหาสมุทร และบรรดาที่อยู่ในที่เหล่านั้น ร้องว่า “ขอให้คำสดุดีและเกียรติ และสง่าราศีและฤทธิ์เดชจงมีแด่พระองค์ผู้ประทับบนพระที่นั่ง และแด่พระเมษโปดกตลอดไปเป็นนิตย์”
5:14 และสัตว์ทั้งสี่นั้นก็ร้องว่า “เอเมน” และผู้อาวุโสทั้งยี่สิบสี่ก็ทรุดตัวลงนมัสการพระองค์ผู้ทรงพระชนม์อยู่ตลอดไปเป็นนิตย์
บทความเพิ่มเติม : เราอยู่ในช่วงตราที่ห้าและหก