.....
ทุกวันนี้มีบางกลุ่มสอนว่าการร้องว่าโอ้พระเยซู โอ้พระเยซู โอ้พระเยซู อยู่เป็นประจำก็คือการรักษาชีวิตเราให้อยู่ในฝ่ายวิญญาณอยู่เสมอพวกเขาจึงร้องว่า โอ้พระเยซู โอ้พระเยซู โอ้พระเยซู ทั้งวัน* ไม่ว่าจะไปทำธุระในห้องน้ำ หรือทำอะไรก็ตามเพื่อดับกิเลสตัณหาโลภโกรธหลง เนื่องจากพวกเขาเห็นว่ามีในพระคัมภีร์ที่เขียนเอาไว้ว่าบรรดาผู้ที่ร้องออกพระนามพระผู้เป็นเจ้าก็จะรอดและมีบางข้อยังเขียนอีกว่าพวกเขาร่วมประชุมหักขนมปังร้องออกพระนามพระผู้เป็นเจ้า พูดง่ายๆ ก็คือพวกเขาใช้ตัวเก่าเพื่อบังคับตนไม่ให้ทำบาป
แต่ความหมายที่แท้จริงไม่ใช่ว่าเราต้องร้องว่า โอ้พระเยซูๆๆๆๆๆๆๆ แบบนั้น พระเจ้าไม่ต้องการให้เราร้องออกพระนามของพระองค์แบบท่องทั้งวันเหมือนนกขุนทองหรือนกแก้ว
ความหมายที่ผู้เขียนพระคัมภีร์ต้องการสื่อ ก็คือขณะที่เราอยู่คนเดียวหรืออยู่กับพี่น้องในที่ประชุมเราขอบคุณพระเยซูอธิษฐานพูดคุยบอกรักพระเยซูอ่านพระคำของพระเจ้าในนามพระเยซูสนิทในพระเยซูอยู่เสมอ ไม่ใช่ว่าจะมาชวนกันร้องว่าโอ้พระเยซูๆๆ เรื่องการดับกิเลสตัณหาโลภโกรธหลงเป็นผลของพระวิญญาณที่เกิดผลในชีวิตของเรา
....
กลุ่มนี้ยังสอนอีกว่าถ้าหากเราชวนคนที่ไม่เชื่อให้ร้องว่า โอ้พระเยซูถึงสามครั้ง พระวิญญาณบริสุทธิ์ก็จะจับเขามาบังเกิดใหม่และจะได้รอดอย่างแน่นอน ในพระคัมภีร์ไม่เคยมีคำสอนในลักษณะนี้ เปาโลได้กล่าวว่าทุกคนที่เชื่อด้วยใจแล้วรับด้วยปากเท่านั้นจึงจะรอดได้ ขอพระวิญญาณบริสุทธิ์รักษาพี่น้องที่รักในพระเยซูให้หลุดพ้นจากคำสอนที่ผิดเพี้ยน ซึ่งมาจากมนุษย์ที่ใช้สติปัญญาของอาดัมเพื่อมาสอนเราและทำให้เราหลงทาง เอเมน
อ่านต่อ: การร้องว่า โอ้พระเยซูๆๆๆๆๆๆ