3:1 แต่จงเข้าใจข้อนี้ด้วย คือว่าในวันสุดท้ายนั้น จะเกิดเหตุการณ์กลียุค
** ในวันสุดท้ายนั้น วันแรกก็คือการเสด็จมาเพื่อประกาศข่าวประเสริฐของพระเยซู และวันสุดท้าย ในที่นี้ ก็คือยุคพระคุณกำลังจะจบลง
** เหตุการณ์กลียุค ภาษากรีกใช้คำว่า χαλεποί คา-เล็บ-โพส ยาก ยุ่งยาก โหดร้าย ดุร้าย รุนแรง ร้ายแรง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ 7 ปีที่จะเกิดขึ้นตามมา
3:2 เหตุว่าคนจะเป็นคนรักตัวเอง เป็นคนเห็นแก่เงิน เป็นคนอวดตัว เป็นคนจองหอง เป็นคนพูดหมิ่นประมาท เป็นคนไม่เชื่อฟังคำบิดามารดา เป็นคนอกตัญญู เป็นคนไร้ศีลธรรม
** เมื่อถึงระยะสุดท้ายของยุคพระคุณ มนุษย์และแม้แต่ผู้เชื่อจะมีจิตใจที่เสื่อมทรามไร้ศีลธรรม หน้าซื่อใจคด ฯลฯ
3:3 เป็นคนไม่รักซึ่งกันและกัน เป็นคนไม่ทำตามสัญญา เป็นคนหาความใส่เขา เป็นคนไม่มีสติรั้งใจ เป็นคนดุร้าย เป็นคนชังคนดี
** ไม่รักซึ่งกันและกัน ในที่นี้ คือไม่มีหัวใจรักแท้ ไม่รักกันจริง ไม่จริงใจต่อกัน เมื่อไม่ได้รับผลประโยชน์ก็ไม่ทำดีกับอีกฝ่าย คนทั่วไปจะรักตัวเอง รักเงิน รักในสิ่งที่ตนเองพอใจ แต่ไม่ได้รักพระเจ้า
4:4 เป็นคนทรยศ เป็นคนมุทะลุ เป็นคนหัวสูง เป็นคนรักความสนุกสนานยิ่งกว่ารักพระเจ้า
** บุตรที่รักของพระเจ้าควรอธิษฐานขอการชำระในเรื่องเหล่านี้
3:5 เขามีสภาพทางของพระเจ้าภายนอก แต่ฤทธิ์ของทางนั้นเขาปฏิเสธเสีย คนอย่างนี้ท่านจงผินหน้าหนีจากเขาเสียด้วย
** คือการเป็นคริสเตียนแต่คำพูดและแต่งกายดูดีภายนอก แต่ไม่มีฤทธิ์เดชแห่งชีวิตพระคริสต์ที่สำแดงผ่านเขา บุตรพระเจ้าหรือมนุษย์ฝ่ายวิญญาณไม่ควรอยู่ใกล้และสนิทกับพวกเขา
3:6 เพราะในบรรดาคนเหล่านั้น มีคนที่แอบไปตามบ้าน แล้วนำหญิงที่เบาปัญญาหนาด้วยบาปไปเป็นเชลย แล้วพากันหลงใหลไปด้วยตัณหาต่างๆ
3:7 ถึงจะเรียนกันอยู่เสมอ แต่ก็ไม่อาจเรียนรู้ถึงความจริงเลย
** คริสเตียนศาสนาจะเรียนและมีความรู้อย่างมากมาย แต่ไม่มีโอกาสได้มาถึงพระคำแห่งความจริงเลย
3:8 แล้วยันเนสกับยัมเบรส์ได้ต่อต้านโมเสสฉันใด คนเหล่านี้ก็ต่อต้านความจริงฉันนั้น เขาเป็นคนใจทราม และในเรื่องความเชื่อนั้นเขาใช้ไม่ได้เลย
3:9 แต่เขาจะก้าวหน้าไปอีกไม่ได้ เพราะความโง่ของเขาจะปรากฏแก่คนทั้งปวง เช่นเดียวกับความโง่ของชายสองคนนั้น
** ยันเนสกับยัมเบรส์ เชื่อว่าเป็นหมอผี หรือผู้ใช้เวทมนตร์ของฟาโรห์ในสมัยของท่านโมเสสที่ต่อสู้ต่อต้านท่านและชนชาติอิสราเอล เช่นเดียวกัน คริสเตียนศาสนาจะไม่มาถึงความก้าวหน้าในชีวิต การรับใช้และการนมัสการพระเจ้าเลย
เราขอบพระคุณพระเยซูที่เป็นความสว่างและนำเรามาสู่ความสว่างของพระองค์
ศาสนาคริสต์มีมาตั้งแต่เริ่มแรกจนถึงสุดท้ายของยุคนี้
พระวิญญาณตรัสผ่านเปาโลเพื่อเตือนน้องชายที่รักของท่านและเพื่อเตือนเราผู้เชื่อที่ได้เข้าสู่มานาฯ แล้ว
จากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นและจิตใจมนุษย์ที่เสื่อมทราม ทั้งคริสเตียนส่วนมากก็มีนิสัยที่ท้อ หนี ตาต่อตาฟันต่อฟัน หน้าซื่อใจคด เราจงพูดได้ว่าระยะสุดท้ายมาถึงแล้วแต่ยังไม่ใช่คลียุค
มนุษย์ทั้งผู้เชื่อจะไม่รักซึ่งกันและกัน คือไม่มีหัวใจรักแท้ ไม่รักกันจริง ไม่จริงใจต่อกัน เมื่อไม่ได้รับผลประโยชน์ก็ไม่ทำดีกับอีกฝ่าย คนทั่วไปจะรักตัวเอง รักเงิน รักในสิ่งที่ตนเองพอใจ แต่ไม่ได้รักพระเจ้า
การหลีกเลี่ยงจากนิสัยของคริสเตียนศาสนาคือรับพระคำล้ำลึกนี้และฝึกเดินอย่างสม่ำเสมอ
ข้อที่ 5 คริสเตียนศาสนาเป็นคริสเตียนแต่คำพูดและแต่งกายดูดีภายนอก แต่ไม่มีฤทธิ์เดชแห่งชีวิตพระคริสต์ที่สำแดงผ่านเขา
- คริสเตียนฝ่ายวิญญาณควรออกห่างจากคริสเตียนศาสนา ซึ่งก็คือเรายังรัก ไปเยี่ยม และช่วยเหลือพี่น้องศาสนาคริสต์ แต่เราระมัดระวังที่จะรับคำสอนความรู้ต่างๆ ซึ่งจะเป็นเหตุให้เรารับเชื้อเข้ามา
คริสเตียนศาสนาจะเรียนและมีความรู้อย่างมากมาย แต่ไม่มีโอกาสได้มาถึงพระคำแห่งความจริงเลย
คริสเตียนศาสนาจะไม่มีความก้าวหน้าเรื่อง (1.) การดำเนินชีวิต (2.) การรับใช้ และ (3.) การนมัสการพระเจ้าร่วมกัน
บทความเพิ่มเติม: “เริ่มต้นก็ด้วยความรัก จบลงก็ด้วยความรัก”
3:10 แต่ท่านก็ประจักษ์ชัดแล้วซึ่งคำสอน การประพฤติ ความมุ่งหมาย ความเชื่อ ความอดทน ความรัก ความเพียร
** แต่ท่านก็ประจักษ์ชัดแล้ว ท่าน ในที่นี้คือ ทิโมธี
** ทิโมธีเข้าใจพระคำล้ำลึกอย่างมากมาย เรื่องการประพฤติ น้ำพระทัยพระบิดา ความอดทน ความรัก ความเพียร ที่เป็นผลของพระคริสต์ในท่าน ไม่ใช่ผลของท่านเอง
3:11 การถูกข่มเหง การทนทุกข์ยากลำบากของข้าพเจ้า ซึ่งได้เกิดขึ้นกับข้าพเจ้า ณ เมืองอันทิโอก เมืองอิโคนียูม และเมืองลิสตรา การกดขี่ข่มเหงที่ข้าพเจ้าได้ทนเอา ถึงกระนั้นก็ดีองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงโปรดให้ข้าพเจ้ารอดพ้นจากสิ่งเหล่านั้นทั้งหมด
** ผลแห่งความอดทนของเปาโลคือผลของพระคริสต์ในท่าน เราผู้เชื่อที่ถูกเปิดตาจะได้ผลแห่งความเชื่อ ความอดทน ความรัก และความเพียรจากพระคริสต์ในเราแน่นอนถ้าหากเราฝึกเดินอย่างสม่ำเสมอในแต่ละวัน
3:12 แท้จริงทุกคนที่ปรารถนาจะดำเนินชีวิตตามทางของพระเจ้าในพระเยซูคริสต์จะถูกกดขี่ข่มเหง
** การกดขี่ข่มเหงจะต้องเกิดขึ้นกับผู้ที่ได้รับการเปิดตาและอยากเป็นบุตรที่รักของพระบิดาแน่นอนไม่มากก็น้อย เราต้องยอมรับในสิ่งนี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อการเติบโตและถวายเกียรติแด่พระเจ้า
3:13 แต่คนชั่วและคนเจ้าเล่ห์จะชั่วร้ายมากยิ่งขึ้น ทั้งล่อลวงคนอื่น และก็ถูกคนอื่นล่อลวงด้วย
** ท่ามกลางมนุษย์และคริสเตียนศาสนา มีการล่อลวงกันไปมาทั้งแบบตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ บางคนไม่แน่ใจเสียด้วยซ้ำว่าสิ่งที่ตนเชื่ออยู่นั้นเป็นความจริงมากน้อยแค่ไหน
3:14 แต่ฝ่ายท่านจงดำเนินต่อไปในสิ่งที่ท่านเรียนรู้แล้ว และได้เชื่ออย่างมั่นคง ท่านก็รู้ว่าท่านได้เรียนมาจากผู้ใด
** ฝ่ายท่าน คือทิโมธี และผู้เชื่อที่ได้รับการเปิดตาแล้ว
** ดำเนินต่อไป คือไม่หนี ไม่เลิกเชื่อในพระคำล้ำลึกนี้ และฝึกเดินต่อไปเพื่อให้ได้เป็นคนรักที่พระเยซูรักมากที่สุด เพื่อพระเยซูจะเสด็จมาพร้อมกับรางวัลที่มีค่ามหาศาลเมื่อพระองค์จะนำอาณาจักรลงมาตั้งอยู่
3:15 และตั้งแต่เด็กมาแล้ว ที่ท่านได้รู้พระคัมภีร์อันบริสุทธิ์ ซึ่งมีฤทธิ์สอนท่านให้ได้ปัญญาถึงความรอดโดยความเชื่อในพระเยซูคริสต์
** พระคัมภีร์อันบริสุทธิ์ คือพระคัมภีร์เดิมที่กล่าวถึงพระเยซูพระผู้ช่วยให้รอดที่จะเสด็จมาเพื่อนำชาวยิวและต่างชาติให้มาถึงความรอด
3:16 พระคัมภีร์ทุกตอนได้รับการดลใจจากพระเจ้า และเป็นประโยชน์ในการสอน การตักเตือนว่ากล่าว การปรับปรุงแก้ไขคนให้ดี และการอบรมในเรื่องความชอบธรรม
** ทุกสิ่งที่พระเจ้าดลใจให้ผู้รับใช้ของพระเจ้าเขียนตั้งแต่ปฐมกาลจนถึงวิวรณ์ เป็นประโยชน์ต่อชีวิต การดำเนินชีวิตประจำวัน การอ่าน อธิษฐาน การรับใช้ การนมัสการ ในวิญญาณ เป็นสิ่งที่นำผู้เชื่อออกจากอาการตาบอดได้ และให้ชีวิตแก่เราได้
3:17 เพื่อคนของพระเจ้าจะดีรอบคอบ พรักพร้อมที่จะกระทำการดีทุกอย่าง
** ผู้เชื่อที่ได้รับการเปิดตาเท่านั้นที่จะหายจากอาการตาบอด รับพระคำเข้ามาในรูบแบบของชีวิต คือรับชีวิตพระคริสต์เพื่อการเติบโต ส่วนคริสเตียนศาสนาได้รับแต่เฉพาะความรู้เท่านั้นและก็ยังเป็นความรู้ที่ผิดๆ ถูกๆ (เชื้อยีสต์)