การล้างเท้าที่ผู้เชื่อมากมายไม่รู้ / มันเป็นเรื่องของ...

...

ยอห์น

13:7 พระเยซูตรัสตอบเขาว่า “สิ่งที่เรากระทำในขณะนี้ท่านยังไม่เข้าใจ แต่ภายหลังท่านจะเข้าใจ”

13:8 เปโตรทูลพระองค์ว่า “พระองค์จะทรงล้างเท้าของข้าพระองค์ไม่ได้” พระเยซูตรัสตอบเขาว่า “ถ้าเราไม่ล้างท่านแล้ว ท่านจะมีส่วนในเราไม่ได้” (คำตอบเรื่องการล้างเท้าอยู่ที่ข้อที่แปด)

...

ยอห์น 

13:1 ก่อนถึงเทศกาลเลี้ยงปัสกา เมื่อพระเยซูทรงทราบว่า ถึงเวลาแล้วที่พระองค์จะทรงจากโลกนี้ไปหาพระบิดา พระองค์ทรงรักพวกของพระองค์ซึ่งอยู่ในโลกนี้ พระองค์ทรงรักเขาจนถึงที่สุด

13:2 ขณะเมื่อรับประทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว มารได้ดลใจยูดาสอิสคาริโอท บุตรชายของซีโมน ให้ทรยศพระองค์ไว้

13:3 พระเยซูทรงทราบว่าพระบิดาได้ประทานสิ่งทั้งปวงให้อยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ และทรงทราบว่าพระองค์มาจากพระเจ้า และจะไปหาพระเจ้า

13:4 พระองค์ทรงลุกขึ้นจากการรับประทานอาหารเย็น ทรงถอดฉลองพระองค์ออกวางไว้ และทรงเอาผ้าเช็ดตัวคาดเอวพระองค์ไว้

13:5 แล้วก็ทรงเทน้ำลงในอ่าง และทรงตั้งต้นเอาน้ำล้างเท้าของพวกสาวก และเช็ดด้วยผ้าที่ทรงคาดเอวไว้นั้น

13:6 แล้วพระองค์ทรงมาถึงซีโมนเปโตร และเปโตรทูลพระองค์ว่า "พระองค์เจ้าข้า พระองค์จะทรงล้างเท้าของข้าพระองค์หรือ"

13:7 พระเยซูตรัสตอบเขาว่า "สิ่งที่เรากระทำในขณะนี้ท่านยังไม่เข้าใจ แต่ภายหลังท่านจะเข้าใจ"

13:8 เปโตรทูลพระองค์ว่า "พระองค์จะทรงล้างเท้าของข้าพระองค์ไม่ได้" พระเยซูตรัสตอบเขาว่า "ถ้าเราไม่ล้างท่านแล้ว ท่านจะมีส่วนในเราไม่ได้"

13:9 ซีโมนเปโตรทูลพระองค์ว่า "พระองค์เจ้าข้า มิใช่แต่เท้าของข้าพระองค์เท่านั้น แต่ขอทรงโปรดล้างทั้งมือและศีรษะด้วย"

13:10 พระเยซูตรัสกับเขาว่า "ผู้ที่อาบน้ำแล้วไม่จำเป็นต้องชำระกายอีก ล้างแต่เท้าเท่านั้น เพราะสะอาดหมดทั้งตัวแล้ว พวกท่านก็สะอาดแล้ว แต่ไม่ใช่ทุกคน"13:11 เพราะพระองค์ทรงทราบว่า ใครจะเป็นผู้ทรยศพระองค์ไว้ เหตุฉะนั้นพระองค์จึงตรัสว่า "ท่านทั้งหลายไม่สะอาดทุกคน"

13:12 เมื่อพระองค์ทรงล้างเท้าเขาทั้งหลายแล้ว พระองค์ก็ทรงฉลองพระองค์ และเอนพระกายลงอีกตรัสกับเขาว่า "ท่านทั้งหลายเข้าใจในสิ่งที่เราได้กระทำแก่ท่านหรือ"

"ท่านทั้งหลายเข้าใจในสิ่งที่เราได้กระทำแก่ท่านหรือ" ก่อนอื่นผมอยากขอถามพี่น้องว่าพิธีการล้างเท้าเป็นประเพณีวัฒนธรรมของคนยิวถูกไหมครับ ถ้าหากว่ามีญาติมีเพื่อนมีแขกที่มาเยี่ยมบ้านเรา เราที่เป็นคนยิวเราจะล้างเท้าแขกเพื่อนบ้านทุกคนถูกไหมครับ คนไหนที่ร่ำรวยหน่อยฐานะมั่งมีหน่อยจะให้คนใช้ล้างเท้าแทนถูกไหมครับ เรารู้กันดีใช่ไหม สาวกรู้ดีสาวกเข้าใจนะครับ ง่ายๆ เอเมน เป็นเรื่องที่ง่ายๆ เข้าใจง่ายๆ 

ในพระคัมภีร์บทนี้เราจะเห็น 2 ครั้ง ครั้งแรกพระเยซูบอกว่า “เปโตรสิ่งที่เราทำเจ้าจะไม่เข้าใจ ภายหลังเจ้าจะเข้าใจ” เข้าใจอะไร? มันก็แค่ล้างเท้า ใช่ไหมครับ 

อีกครั้งวัฒนธรรมของคนยิวประเพณีของคนยิว เมื่อเรามีแขกมาเยี่ยมบ้านเรา มีญาติมาเยี่ยมบ้านเรา ใครก็ตามที่มาเยี่ยมบ้านเรา เราจะต้องล้างเท้าเขา ง่ายไหมครับ ทุกคนรู้ดี เป็นประเพณีวัฒนธรรมของชาวยิว ใครๆ ก็รู้ ไม่มีอะไรต้องอธิบาย แต่พระเยซูบอกว่า “เปโตรสิ่งที่เราทำตอนนี้เจ้ายังไม่เข้าใจ แต่ภายหลังเจ้าจะเข้าใจ”

และเมื่อพระองค์ทำเสร็จแล้ว พระองค์นั่งเอนกายลง แล้วพระเยซูถามว่า พวกท่านเข้าใจหรือ ถามทำไม มันก็แค่พิธีล้างเท้า ผมพูดถูกไหมครับ มันก็เป็นพิธีล้างเท้าเท่านั้นเองง่ายๆ แต่ในข้อนี้ 2 ครั้งที่พระเยซูพูดถึงคำว่า “เข้าใจ ไม่เข้าใจ” ทำไม เรามาดูกันนี่คือความหมายที่แท้จริง

ในหนังสือยอห์นพูดถึงความหมายฝ่ายวิญญาณ หนังสือยอห์นเป็นหนังสือที่พูดถึงความหมายฝ่ายวิญญาณ หนังสือยอห์นเป็นความหมายฝ่ายวิญญาณ

ยอห์นบทที่ 1 จนถึงบทที่ 12 เป็นเรื่องของการบังเกิดใหม่ การบังเกิดใหม่แปลว่าอาบน้ำ อาบแล้ว สะอาดทั้งตัวแล้ว รอดแล้ว ได้รับการชำระ อาบน้ำสะอาดแล้ว เป็นการบังเกิดใหม่

แต่ยอห์นบทที่ 13 เป็นเรื่องของการล้างใจ ล้างใจ พระเยซูตรัสว่าจงล้างใจซึ่งกันและกัน ไม่ใช่ล้างเท้าครับ ถ้าหากว่าท่านไม่ทำแบบนี้ ท่านจะมีส่วนในเราไม่ได้ พระกายของพระเยซูไม่ใช่สิ่งที่เป็นสิ่งที่เป็นสกปรกสิ่งที่ผิดบาปสิ่งที่เป็นเนื้อหนังจะเข้ามามีส่วนในพระกายของพระเยซูได้ ผมพูดถูกมั้ยเอเมนมั้ย

พระกายของพระเยซูคือวิญญาณ พระกายของพระเยซูศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์และชอบธรรม เมื่อเราจะมีส่วนในพระกายของพระเยซู เราไปดูหนัง แล้วก็เราดูเกาหลีซีรี่ย์ แล้วก็จู่ๆ เราก็เข้ามาสรรเสริญพระเยซูยกย่องพระเยซู เราทำได้ไหม มันรู้สึกละอายแก่ใจใช่ไหมครับ เราจะต้องมานั่งแล้วก็สารภาพบาปก่อน แล้วก็ใช้เวลาสักครึ่งชั่วโมง ชั่วโมงหนึ่งปรับตัว แล้วก็ค่อยกลับเข้ามาสู่สภาพอยู่ในพระกายของพระเยซู 

เมื่อเราโทรศัพท์ไปหาพี่น้อง หรือหนุนใจพี่น้อง หรือชวนพี่น้องมาร่วมกันอธิษฐาน ร่วมกันอ่านพระคัมภีร์ สามัคคีธรรมร่วมกัน คือการล้างใจ คือการล้างเท้า เป็นความหมายฝ่ายวิญญาณ

ผมล้างเท้าพี่น้องเมื่อวานนี้ตั้งแต่เช้าจนค่ำ ผมล้างเท้าพี่น้อง พี่น้องไม่รู้ตัว “ล้างใจ” พี่น้องแต่ละท่านลุกขึ้นเป็นพยาน พี่น้องล้างเท้าแต่ละท่าน แต่ทุกท่านถูกล้างเท้าโดยที่ไม่รู้ตัว เป็นการล้างใจครับพระเยซูตรัส 

อีกครั้ง..ไม่ใช่ว่าการล้างเท้า เพราะว่าเราต้องทำเพื่อเราแสดงอาการถ่อม ไม่ครับ อาการถ่อมก็คือการฟังผู้อื่น การฟังผู้อื่นการฟังทุกคน ยอมรับความคิดเห็นของการแนะนำของพี่น้องแต่ละคน แล้วเรานำมาเพื่อพิจารณา อธิษฐานขอพระเจ้าเปิดตาอีกครั้งนึง นี่คือการถ่อมจริงๆ

แต่ว่าการล้างเท้า แท้ที่จริงแล้วคือการล้างใจ คือการล้างใจ หนุนใจซึ่งกันและกันให้เรากลับเข้ามาสู่พระกายของพระเยซู พระเยซูบอกว่าถ้าหากเราไม่ล้างใจซึ่งกันและกัน เราไปดูหนังซีรี่ส์เกาหลีเราไปดูหนังไทยหนังจีนหนังฝรั่งหนังต่างๆ เราไปดูสิ่งที่เป็นบันเทิงของร่างกายของเนื้อหนังของจิตใจ และเราจะกลับมาหาพระเจ้าได้ ก็ต้องรับการล้างใจก่อนล้างเท้าก่อน

ผมโทรศัพท์ไปหาพี่น้อง พี่น้องกำลังเพลินกับความคิดอยากได้บ้านหลังใหญ่ๆ รถเบนซ์ บีเอ็ม เอาอะไรดีเน้อ กำลังคิดอยู่นะครับ สกปรกแล้วใจสกปรกแล้วไม่สะอาดแล้ว แล้วผมโทรศัพท์ไป พี่น้องเรามาอธิษฐานกันหน่อย พระคัมภีร์ข้อนี้เป็นยังไง ชวนคุยนะครับ เขาก็เริ่มกลับใจ กลับใจ ผมเป็นคนล้างเท้าเขา

พระเยซูต้องการให้เราล้างเท้าซึ่งกันและกัน ไม่ใช่ล้างเพื่อแสดงอาการถ่อมใจ แต่ล้างเพื่อให้เรามีส่วนในพระกายของพระเยซู

ผมอยากให้พี่น้องทุกท่านอ่านในข้อที่ 8 อีกครั้ง นี่คือเป้าหมายของการล้างเท้า คำตอบอยู่ที่ข้อที่ 8 เปโตรทูลพระองค์ว่า "พระองค์จะทรงล้างเท้าของข้าพระองค์ไม่ได้" พระเยซูตรัสตอบเขาว่า "ถ้าเราไม่ล้างท่านแล้ว ท่านจะมีส่วนในเราไม่ได้"

"ถ้าเราไม่ล้างท่านแล้ว ท่านจะมีส่วนในเราไม่ได้" นี่คือเหตุผลที่พระเจ้าต้องการให้เราล้างเท้าซึ่งกันและกัน เพื่อจะมีส่วนในพระกายของพระเยซู เอเมน

หัวใจของเราป่วยแล้ว การป่วยของหัวใจรักษาไม่ได้ ซ่อมไม่ได้อีกแล้ว

ถาม.

ล้างใจ ใจตรงนี้เป็น heart หรือว่าเป็น soul

ตอบ.

heart กับ soul เป็นอันเดียวกันครับ

...

ถาม.

heart กับ soul เป็นอันเดียวกันเหรอครับ เพราะว่าเท่าที่ผมรู้มา ผมเข้าใจว่า เกี่ยวกับหัวใจเรา พระเจ้าไม่ได้ชำระใจของเราแต่พระเจ้าเปลี่ยนหัวใจของเราคือเปลี่ยนใหม่ หัวใจของเราคือจากใจหนึ่งเป็นอีกใจหนึ่ง แล้วพอผมมาได้ยินคำว่า ล้างใจ หรือ ชำระใจ มันเป็นประเด็นทางภาษาที่ผมก็ยังไม่คอยชัดเจนเท่าไหร่นะครับ เรื่องเกี่ยวกับการล้างใจ เพราะว่าผมเข้าใจว่าการงานของพระเจ้าที่กระทำต่อเราก็คือการเปลี่ยนหัวใจ คือการ change ไม่ใช่ clean หรือชำระ อันนี้ก็เป็นประเด็นคำศัพท์ที่ผมยังไม่ค่อยเข้าใจกระจ่างแจ้งเท่าไหร่ ก็เลยขอคำแนะนำจากอาจารย์ครับ

ตอบ.

heart & soul ก็คือ soul ครับผม คำว่า heart ในพระคัมภีร์แท้ที่จริงแล้วไม่ควรจะใช้และไม่มี ในพระคัมภีร์เดิมใช้คำว่า heart ก็คือหมายถึงคำว่า soul

soul ก็คือจิตใจ จิตเรา และจิตมีส่วนประกอบ 3 ส่วน

1. (mind) ก็คือความคิด

2. (emotion) ก็คือความรู้สึก

3. (will) ก็คือความปรารถนา

เพราะฉะนั้น heart จะแปลว่า Mind ไม่ได้ heart จะแปลว่า emotion หรือ will ไม่ได้

heart ก็คือ soul

...

ถาม.

แล้วประเด็นของเรื่องการชำระกับการเปลี่ยนหัวใจ มันยังไงกันแน่หรอ

ตอบ.

พระเจ้าจะไม่เปลี่ยนหัวใจของเรา หัวใจของเราป่วยแล้ว soul ของเรานี้ จิตใจของมนุษย์ soul เยเรมีห์ 17:9 หัวใจของเราป่วยแล้ว การป่วยของหัวใจรักษาไม่ได้ ซ่อมไม่ได้อีกแล้ว จิตใจของมนุษย์บาปเสื่อมทรามตกต่ำซ่อมไม่ได้ ต้องตาย แล้วตายอยู่ที่ไหน พระเจ้าประหารชีวิตจิตใจของเราอยู่ไหน อยู่บนกางเขนเอเมน พระเจ้าจะ Exchange ก็คือแลกเปลี่ยน เอาหัวใจของพระเยซูเข้ามาใส่ในใจของเรา และจิตใจนี้จะถูกชำระ จิตใจส่วนนี้คำว่า sanctified ก็คือรับจิตใจใหม่ sanctified หัวใจของเรา หัวใจเก่าถูกประหารชีวิต ทำลายไปแล้ว ลบล้างไปแล้ว ให้หัวใจใหม่

เอเสเคียล 36:26-27 พระเจ้าจะเปลี่ยนหรือจะซ่อมหรือจะให้ใหม่

26 เราจะให้ใจใหม่แก่เจ้าด้วย และเราจะบรรจุจิตวิญญาณใหม่ไว้ในเจ้า เราจะนำใจหินออกไปเสียจากเนื้อของเจ้า (ซ่อมไหมๆ ไม่ซ่อม เอาออกไป)

27 และจะให้ใจเนื้อแก่เจ้าด้วย และเราจะใส่วิญญาณของเราภายในเจ้า และกระทำให้เจ้าดำเนินตามกฎเกณฑ์ของเรา และเจ้าจะรักษาคำตัดสินของเราและกระทำตาม

ขอบพระคุณพระเยซูขอบพระคุณพระเจ้า พระเจ้าจะให้ใจใหม่กับเรา ให้วิญญาณใหม่แก่เรา แล้วเราจะใส่วิญญาณของเราไว้ในเจ้า เพื่อให้เจ้าดำเนินตามกฎหมายใหม่ของเรา

...

ถาม.

แล้วที่เขียนว่าล้างใจอย่างเงี้ยเขียนผิดไหมครับ ต้องเขียนว่า แบบพระเจ้าเปลี่ยนใหม่หัวใจเรา เขียนผิดหรือเปล่าครับ

ตอบ.

ไม่ใช่ครับ ล้างใจ ในที่นี้ คือเมื่อเรารับจิตใจใหม่แล้ว คำว่า ล้างใจ แท้ที่จริง ก็คือล้างตา ล้างตา

ทุกวันนี้เรามีจิตใจใหม่หรือยัง มีแล้วแต่เราไม่รู้ เราต้องถูกล้างตาให้สะอาด เพื่อเราจะรู้ว่าเรามีจิตใจใหม่และดำเนินชีวิตด้วยใจใหม่นี้ คริสเตียนทุกวันนี้ดำเนินชีวิตด้วยใจเก่าเพราะว่าเราไม่รู้ ตาเราถูกปิดอยู่

เมื่อตาเราถูกเปิด การล้างใจล้างตาแท้ที่จริงแล้ว ก็คือพี่น้องกำลังดูหนังดูละครอยู่หรือว่าคิดถึงบ้านหลังใหญ่ๆ ใช่ไหม รถบีเอ็ม เบนซ์ จะเลือกคันไหนดี ตอนนี้เนี่ยเขาออกไปจากการถูกเปิดตาแล้ว เขาไม่รับว่าเขาเป็นคนที่มีจิตใจใหม่แล้ว คนที่มีจิตใจใหม่จะไม่คิดถึงสิ่งเหล่านี้ เพราะฉะนั้นผมจะต้องนำเขากลับมา

การล้างใจนะครับความหมายที่แท้จริง ขอเข้าไปอีกลึกระดับหนึ่ง การล้างใจก็คือการเปิดตา พี่น้องฮัลโหลเปิดตาหน่อยกลับเข้ามา กลับเข้ามา นี่คือความหมายของการล้างใจก็คือการถูกเปิดตากลับเข้ามาสู่การสามัคคีธรรมในพระกายพระเยซู

...

ถาม.

งั้นถ้าจะพูดแบบเคร่งครัดเนี่ยคำว่าการล้างใจเขียนมันไม่ถูกต้องซะทีเดียวใช่ไหม ต้องเขียนว่าการเปิดตาซึ่งมีนัยยะของการล้างเท้า ถูกต้องหรือเปล่าครับ

ตอบ.

จำเป็นที่ผมจะต้องเขียนไหม หรือว่าพี่น้องเข้าใจแล้ว?

...

ถาม.

แล้วอยากถามอีกว่า พระเจ้าเราขอพระองค์ทรงชำระหัวใจเราจากความบาปกับความนึกคิดต่างๆ ขอชำระหัวใจเราจากความโกรธชัง ขอทรงชำระหัวใจเราจากความอิจฉาริษยา ขอพระเจ้าให้เราเห็นว่าพวกความบาปต่างๆ เช่นการอิจฉาความโกรธเคือง ในสิ่งเหล่านี้ถูกตรึง ไว้กับพระคริสต์ที่บนกางเขนแล้ว ขอให้เรามองเห็นอย่างชัดเจน ขอแบบนี้

ตอบ.

"พระบิดาขอให้พระองค์ จัดการจุดนี้ ขอให้พระองค์นำข้าพระองค์ ขอพระองค์ช่วยคนนั้น และขอพระองค์เปิดตาเขา ขอให้พระองค์กำจัดส่วนนั้น" คริสเตียนเรามักจะสอนพระเจ้า แนะนำพระเจ้าให้ทำแบบนี้แบบนั้น เราเคยเป็นไหม

พระเจ้าฉลาดมากพระเจ้าของเราฉลาดมากกว่าที่เราคิดนะครับ “พระเจ้าพระบิดาเปิดตาข้าด้วย” จบ

...

ถาม.

ไม่ต้องอธิษฐานให้เยอะกว่านี้หรอ???

ตอบ.

มันเป็นเรื่องของตา ตาที่เปิดแล้วจะไม่ต้องขออะไรมากมาย พระเจ้าเปิดตาด้วย เมื่อเราเห็นแล้วคบแล้ว เราเข้ามาสู่ชีวิตที่ครบบริบูรณ์ เอเมน

ใจใหม่หรือใจเก่า มันเป็นเรื่องของตา 

การที่เรายังรักโลกอยู่ เพราะว่าตาเรายังมืดสนิทอยู่ 

การที่เรายังรักอยู่ในฝ่ายเนื้อหนัง เพราะว่าตาของเรายังไม่ถูกเปิด 

เมื่อตาของเราถูกเปิดแล้ว เราจะมีประสบการณ์ในชีวิตใหม่ในพระคริสต์ 

เมื่อตาของเราถูกเปิดแล้ว เราจะเห็นทุกอย่างชัดเจนมาก 

และเมื่อตาของเราถูกเปิด เราจะอยู่เพื่อให้พระเจ้าใช้ชีวิตของเรา และเลิกกระทำในสิ่งทุกสิ่งที่เป็นฝ่ายเนื้อหนัง

เราไม่ใช่คนละฝ่ายนะครับ ขอบพระคุณพระเจ้าที่ดลบันดาลให้พี่น้องถาม เป็นคำถามที่สำคัญมากดีมากด้วย เอเมนขอบพระคุณพระเจ้า

การที่เมื่อเราถามแล้ว ถ้าหากจะเป็นคำตอบทั้งหลายจะเป็นประโยชน์สำหรับพวกเรา และขอให้เรานะครับคิดว่าเราเป็นฝ่ายเดียวกัน ห้ามพวกเราคิดว่าเป็นคนละฝ่ายหรือว่าเราจะคิดขัดแย้ง ไม่ครับผม เป็นการที่จะเปิดเผยและขยายความเสริมสร้างซึ่งกันและกัน พี่น้องถามมาเนี่ยเราได้รับประโยชน์มากมายเลย ขอบคุณพระเจ้า

...

ถาม.

อ.ค่ะยังอยู่ที่ตาใจอยู่ใช่ไหมค่ะ ก็เอเฟซัส 1:18 และขอให้ตาใจของท่านสว่างขึ้นเพื่อท่านจะได้​รู้​ว่า ในการที่​พระองค์​ทรงเรียกท่านนั้น พระองค์​ได้​ประทานความหวังอะไรแก่​ท่าน และรู้ว่ามรดกของพระองค์สำหรับวิ​สุทธิ​ชนมีสง่าราศีอั​นอ​ุดมบริบู​รณ​์​เพียงไร เป็นตาใจที่ อ.อธิบาย

ตอบ.

ตาใจตาฝ่ายวิญญาณ การถูกเปิดตา คือการถูกล้างใจของเรา ให้กลับมาอยู่ในพระกายของพระเยซู เอเมน

อีกครั้ง ชีวิตคริสเตียนมันเป็นเรื่องของตา ไม่ใช่เรื่องของการเปลี่ยนแปลงชำระใจซ่อมใจอะไรประมาณนี้ ไม่ มันเป็นเรื่องของตา ถ้าหากตาเราถูกเปิด จบ จบเลย

อาจารย์เปาโลวิ่งแข่งในหนังสือกิจการ ท่านบอกว่าเรากำลังวิ่งแข่ง ใน 1 โครินธ์อาจารย์เปาโลก็ยังย้ำว่าเรากำลังวิ่งแข่งอยู่ เพราะว่าอาจารย์เปาโลยังไม่ถูกเปิดตา แต่เมื่อถึงเวลาที่อาจารย์เปาโลเขียนหนังสือทิโมธี อาจารย์เปาโลบอกว่า 2 ทิโมธี 4:7 ข้าพเจ้าถึงแล้ว ข้าพเจ้าสำเร็จแล้ว พระเยซูตรัสว่าใครที่เป็นผู้ชนะ ก็คือบุตรพระเจ้าทั้งหลายผู้ที่เชื่อในพระเยซูคริสต์

เราเป็นบุตรพระเจ้าที่เชื่อในพระเยซูคริสต์ เราเป็นผู้ชนะแล้ว เอเมนไหมครับ เพียงแต่เราทุกวันนี้ เป็นผู้ชนะได้ไงห๊ะ!! ยังทำบาป กิเลส ตัณหากับตัณหา โลภ โกรธ หลง อุ๊ยมันรอบตัวเราเลยเราจะชนะได้ไง เพราะว่าตาเราถูกปิด “เมื่อตาเราถูกเปิด” เราเป็นคนชอบธรรมในพระคริสต์ เราเป็นบุตรพระเจ้าที่ถูกสร้างขึ้นมา เราเป็นมนุษย์วิญญาณ ลองเดินแบบนี้ทุกวันสิครับเราจะเห็นอะไร “ชีวิตใหม่” มันเป็นเรื่องของตา

...

ถาม.

หมายความว่า เป็นการค่อยๆ เปิดตาทีละส่วนให้เราเข้าใจเพิ่มมากขึ้น อย่างนั้นหรือเปล่าคะ

ตอบ.

เปิดทีเดียวเราตาบอด เราจะรับความจริงไม่ได้ เปิดทีเดียวรับไม่ได้นะ พระเจ้าต้องค่อยๆ เปิด ค่อยๆ เปิด ค่อยๆ เปิดออก เพราะว่าพระเจ้าให้ทุกสิ่งพร้อมกันเลยทีเดียวเราจะรับไม่ได้ เราจะบอกว่าโอ้นี่เทียมเท็จ โอ้นี่ปลอมไม่จริงแล้วไม่จริงแล้วไม่ใช่แล้ว เทียมเท็จแล้ว

...

ถาม.

แล้วจะคล้ายๆ กับว่า สมมุติว่าพระเจ้าให้ใจใหม่เราก็จริง แต่เมื่อบางทีเราอาจจะไปทำอะไรบางที่ทำให้ตาเรามืดไป เราก็ต้องล้างบ้างใช่ไหมคะ เหมือนกับเราได้หนังสือเล่มใหม่มา แล้วบางครั้งมันก็เจอฝุ่นละออง เราก็ต้องล้างบ้าง

ตอบ.

ใช่ครับ การล้างตาล้างใจจะเป็นอยู่ในช่วงระยะๆ เพราะว่ามนุษย์สำหรับฝ่ายกายฝ่ายมนุษย์เราชอบกลับไปอยู่ในฝ่ายเนื้อหนัง เราชอบกลับไปอยู่ในความมืด เราไม่ชอบความสว่าง มนุษย์ตามธรรมชาติของเนื้อหนังเราชอบมากที่อยู่ในความมืด

อย่าลืมนะครับหนังสือยอห์นเป็นหนังสือที่เกี่ยวกับเรื่องความหมายฝ่ายวิญญาณ อีกครั้งหนังสือยอห์นเป็นเรื่องเกี่ยวกับฝ่ายวิญญาณ เราจะตีความหมายตามตัวอักษรไม่ได้ เป็นความหมายฝ่ายวิญญาณ

เมื่อพระเยซูรักษาคนตาบอด พระเยซูว่ายังไง เรามาเพื่อที่จะให้ท่านได้เห็นความสว่าง เราเป็นความสว่างของโลก มันเกี่ยวอะไรกับคนตาบอด เกี่ยวอะไรครับ เป็นความหมายฝ่ายวิญญาณ

เมื่อพระเยซูเลี้ยงดูผู้คน 5,000 คน ยอห์นบทที่ 6 พระเยซูตรัสว่าเราเป็นอาหารแห่งชีวิต แล้วมันเกี่ยวอะไร เลี้ยงอาหารก็เลี้ยงสิ ทำไมพระเยซูต้องตรัสถึงเรื่องฝ่ายวิญญาณด้วยใช่ไหมครับ

และเมื่อพระเยซูนำลาซารัสออกมาจากความตาย พระเยซูบอกว่าเราเป็นเหตุให้คนฟื้นขึ้นมาจากความตายได้ มันเกี่ยวอะไร ทุกครั้งเมื่อพระเยซูทำอะไรในยอห์นบทที่ 2 บทที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 ที่ 6 ที่ 7 ที่ 8 ที่ 9 ที่ 10 ที่ 11 ที่ 12 คือพระเยซูจะย้ำความหมายฝ่ายวิญญาณ

และยอห์นบทที่ 13 เป็นเรื่องของฝ่ายวิญญาณเหมือนกัน อีกครั้งยอห์นตั้งแต่บทที่ 1 จนถึงบทที่ 12 เป็นเรื่องของการบังเกิดใหม่ พระเยซูเป็นคำตอบของชีวิตของเรา พระเยซูเป็นทางออกของทุกสิ่ง เป็นเรื่องของฝ่ายวิญญาณ และเมื่อถึงบทที่ 13 พระเยซูบอกว่าไม่ต้องอาบน้ำอีกแล้ว เวลาของการอาบน้ำหมดแล้วพวกท่านอาบน้ำครั้งเดียวก็พอ ก็คือตั้งแต่ยอห์นบทที่ 1 ถึงบทที่ 12 

เมื่อถึงบทที่ 13 ก็คือไม่ต้องอาบน้ำแต่ล้างใจ นานๆ ทีนึงใช่ไหม เราบังเกิดใหม่ทุกคนแล้วใช่ไหมครับ เรามีพระคริสต์อยู่ในเรา เราเป็นคนใหม่แล้ว เป็นผู้ชอบธรรมแล้ว แต่บางครั้งเรากลับไปอยู่ในเนื้อหนัง เราชอบดูทีวี ดูหนัง ฟังเพลง ละคร อะไรประมาณนั้น คือเรากลับไปอยู่ในสภาพเดิม เราต้องรับการล้างใจ คือดึงกลับมา เปิดตา เปิดตาหน่อย กลับเข้ามาอยู่ในฝ่ายวิญญาณในมนุษย์วิญญาณเหมือนเดิมสิ กลับมา คือการล้างใจ

ขอย้ำหนังสือยอห์นไม่เหมือนหนังสือมัทธิว หนังสือมัทธิวเป็นข่าวประเสริฐเรื่องอาณาจักรของพระเจ้า แต่หนังสือยอห์นเป็นความหมายฝ่ายวิญญาณ พระเยซูเป็นคำตอบของทุกคำถาม พระเยซูเป็นคำตอบเป็นทางออกของทุกปัญหา

ยอห์นบทที่ 2 พระเยซูเป็นเหตุ พระเยซูสามารถเปลี่ยนชีวิตเก่าให้เป็นชีวิตใหม่ได้ เปลี่ยนจากน้ำองุ่นที่หมดไปแล้ว ให้เป็นน้ำองุ่นใหม่ได้ เป็นความหมายฝ่ายวิญญาณ ไม่ใช่พระเยซูจะมาเอ้าไปกินเหล้าไปดื่มเหล้ากันเลย อ่ะไปเมากันหน่อย ไม่ใช่ไม่นะ เป็นความหมายฝ่ายวิญญาณ เหล้าองุ่นแปลว่าอะไร เหล้าองุ่นคือชีวิตใหม่ พระเจ้าให้ชีวิตเก่าของเราจบแล้ว และทุกวันนี้เรามีชีวิตใหม่

และยอห์นบทที่ 3 พระเยซูตรัสถึงอะไร ความหมายฝ่ายวิญญาณใช่ไหม ต้องบังเกิดใหม่ บังเกิดใหม่เนี่ยเนื้อหนังหรือวิญญาณ เราบังเกิดใหม่ในเนื้อหนังในอดัมหรือว่าบังเกิดใหม่ในวิญญาณ เราต้องเข้าไปท้องแม่หรือว่าออกมาอีกไหม ฝ่ายเนื้อหนังหรือฝ่ายวิญญาณ “ฝ่ายวิญญาณ”

ยอห์นจะเป็นหนังสือที่อธิบายเกี่ยวกับเรื่องความหมายฝ่ายวิญญาณ และบทที่ 13 ก็คือการล้างใจ ล้างเท้า เปิดตา กลับเข้ามาสู่พระกายของพระเยซู

ถ้าคุณไม่คิดว่าคุณตาบอด ก็ไม่เป็นไร แต่ฉันมาหาคนที่ตาบอด

ถาม.

ขอถามเรื่องที่ฟาริสีพูดเราไม่ได้ตาบอดค่ะ

ยน 9:39 พระเยซูตรัสว่า "เราเข้ามาในโลกเพื่อแก่การพิพากษา เพื่อให้คนทั้งหลายที่มองไม่เห็นกลับมองเห็น และคนที่มองเห็นกลับตาบอด"

9:40 เมื่อพวกฟาริสีบางคนที่อยู่กับพระองค์ได้ยินอย่างนั้น จึงกล่าวแก่พระองค์ว่า "เราตาบอดด้วยหรือ"

9:41 พระเยซูตรัสกับเขาว่า "ถ้าพวกท่านตาบอด พวกท่านก็จะไม่มีความผิดบาป แต่บัดนี้ท่านพูดว่า `เรามองเห็น' เหตุฉะนั้นความผิดบาปของท่านจึงยังมีอยู่"

ตอบ.

ทุกวันนี้ฟาริสี หรือ คริสเตียนฟาริสี ที่เต็มในคริสตจักรมักจะคิดว่าเขาไม่ได้ตาบอด

ความหมายที่พระเยซูพูด ก็คือ ถ้าคุณไม่คิดว่าคุณตาบอด ก็ไม่เป็นไร แต่ฉันมาหาคนที่ตาบอด

คนที่ตาบอด ก็คือคนที่ยอมรับว่าเขาไม่เห็น และขอการเปิดตาจากพระเจ้า แต่คนที่ไม่ตาบอดเขาคิดว่าเขาก็ฉลาดแล้วเขารู้หมดแล้ว คนเหล่านี้พระเจ้าจะไม่เปิดให้เขา แต่แท้ที่จริงเขานั่นเองที่เป็นคนตาบอด เขานั่นแหละที่เป็นคนตาบอด 

บางคนที่บอกว่าเป็นคนชอบธรรมแล้ว พระเยซูบอกว่า เราไม่ได้มาหาคนที่ดี แต่เรามาหาคนที่ป่วย (มาระโก 2:17) แต่แท้ที่จริงคนที่ป่วย ก็คือเขาเองที่เขาคิดว่าเขาไม่ป่วยแต่เขาดี เป็นความหมายที่ตรงข้าม คุณไม่ป่วยไม่เป็นไร แต่ฉันจะรักษาคนที่ป่วย แต่แท้ที่จริงคุณนั่นแหละป่วย

อ่านต่อ:

• ความหมายของการล้างเท้า 

• การล้างเท้าในพระคัมภีร์เดิม 

• ความหมายที่ซ่อนไว้ อยู่เบื้องหลังของคำว่าล้างเท้า 

• ความหมายที่แท้จริงของการล้างเท้า (ที่ผู้เชื่อมากมายไม่รู้)