มัทธิวบทที่ 20:1-16 อย่าติดตามพระเจ้าแบบหวังผลกำไร หรือคิดแบบการลงทุนว่าจะได้อะไรมากน้อยแค่ไหน
20:1 "ด้วยว่าอาณาจักรแห่งสวรรค์เปรียบเหมือนเจ้าของบ้านคนหนึ่งออกไปจ้างคนทำงานในสวนองุ่นของตนแต่เวลาเช้าตรู่
** เรื่องนี้เป็นเรื่องการให้รางวัลของพระเยซูในยุคหน้า (อาณาจักร)
** เป็นคำอุปมาที่พระเยซูใช้เพื่อตอบคำถามเปโตรใน มธ 19:27 ชายที่ต่อว่าเจ้าของสวนองุ่นก็คือเปโตรนี่เอง
** "เจ้าของบ้าน" คือพระเยซู
** "ทำงานในสวนองุ่น" คือการรับใช้ในราชอาณาจักรหรือใน คริสตจักร เที่ยงแท้ในยุคนี้
** "เช้าตรู่ คือหกโมงเช้า" คือช่วงเวลาที่ พระเยซูเริ่มพระราชกิจ ไปตามหาและเลือกสาวกทั้งหลายมาทำงานในอาณาจักร
20:2 ครั้นตกลงกับลูกจ้างวันละเดนาริอันแล้ว จึงใช้ให้ไปทำงานในสวนองุ่นของเขา
** "ตกลงกับลูกจ้าง" ในที่นี้ ก็คือตกลงกับสาวกสิบสองคนและสาวกอีกมากมายในสมัยแรกเริ่ม
20:3 พอเวลาประมาณสามโมงเช้า เจ้าของบ้านก็ออกไปอีก เห็นคนอื่นยืนอยู่เปล่าๆ กลางตลาด
** "สามโมงเช้า คือ 9:00 เช้า" คือช่วงที่พระเยซูส่งสาวกออกไปประกาศ ตลอดจนถึงสาวกทำงานรับใช้ในกิจการ
20:4 จึงพูดกับเขาว่า `ท่านทั้งหลายจงไปทำงานในสวนองุ่นด้วยเถิด เราจะให้ค่าจ้างแก่พวกท่านตามสมควร' แล้วเขาก็พากันไป
20:5 พอเวลาเที่ยงวันและเวลาบ่ายสามโมง เจ้าของบ้านก็ออกไปอีก ทำเหมือนก่อน
** "เที่ยงวัน" คือตอนกลางๆ ของยุคพระคุณนี้
** "บ่ายสาม" คือผ่านตอนกลางของยุคพระคุณไปแล้ว
20:6 ประมาณบ่ายห้าโมงก็ออกไปอีกครั้งหนึ่ง พบอีกพวกหนึ่งยืนอยู่เปล่าๆ จึงพูดกับเขาว่า `พวกท่านยืนอยู่ที่นี่เปล่าๆตลอดวันทำไม'
** "บ่ายห้าโมง" คือตอนท้ายๆ ของยุคพระคุณนี้ คือช่วงเจ็ดปีแห่งความทุกข์ทรมานนั่นเอง
20:7 พวกเขาตอบเจ้าของสวนว่า `เพราะไม่มีใครจ้างพวกข้าพเจ้า' เจ้าของสวนบอกพวกเขาว่า `ท่านทั้งหลายจงไปทำงานในสวนองุ่นด้วยเถิด และท่านจะได้รับค่าจ้างที่สมควร'
20:8 ครั้นถึงเวลาพลบค่ำเจ้าของสวนองุ่นจึงสั่งเจ้าพนักงานว่า `จงเรียกคนทำงานมาและให้ค่าจ้างแก่เขา
** คือการเสด็จกลับมาของพระเยซูเพื่อให้รางวัลและตีสอนผู้เชื่อแต่ละคนตามการกระทำของเขา และเริ่มต้นยุคอาณาจักร
- 6.00 (เช้า) – พระเยซูออกจากบ้านไปตามหาสาวกมากมายมาร่วมงาน
- 9.00 (เช้า) – พระเยซูเลือกสาวก 12 คน จนถึงการรับใช้ในกิจการ
- 12.00 (เที่ยง) – ตอนกลางของยุคพระคุณ
- 3.00 (บ่าย) – ผ่านตอนกลางของยุคพระคุณ คือยุคเราเดี๋ยวนี้
- 5.00 (เย็น) – ช่วง 7 ปีแห่งความทุกข์ทรมาน
- 6.00 (พลบค่ำ) – การเสด็จกลับมาของพระเยซูเพื่อให้รางวัล
20:9 คนที่มาทำงานเวลาประมาณบ่ายห้าโมงนั้น ได้ค่าจ้างคนละหนึ่งเดนาริอัน
20:10 ส่วนคนที่มาทีแรกนึกว่าเขาคงจะได้มากกว่านั้น แต่ก็ได้คนละหนึ่งเดนาริอันเหมือนกัน
20:11 เมื่อเขารับเงินไปแล้วก็บ่นต่อว่าเจ้าของสวน
20:12 ว่า `พวกที่มาสุดท้ายได้ทำงานชั่วโมงเดียว และท่านได้ให้ค่าจ้างแก่เขาเท่ากันกับพวกเราที่ทำงานตรากตรำกลางแดดตลอดวัน'
20:13 ฝ่ายเจ้าของสวนก็ตอบแก่คนหนึ่งในพวกนั้นว่า `สหายเอ๋ย เรามิได้โกงท่านเลย ท่านได้ตกลงกับเราแล้ววันละหนึ่งเดนาริอันมิใช่หรือ
20:14 รับค่าจ้างของท่านไปเถิด เราพอใจจะให้คนที่มาทำงานหลังที่สุดนั้นเท่ากันกับท่าน
20:15 เราจะปรารถนาจะทำอะไรกับสิ่งที่เป็นของเราเองนั้นไม่ถูกต้องตามพระราชบัญญัติหรือ ทำไมท่านอิจฉาเมื่อเห็นเราใจดี'
20:16 อย่างนั้นแหละคนที่เป็นคนสุดท้ายจะกลับเป็นคนต้น และคนที่เป็นคนต้นจะกลับเป็นคนสุดท้าย ด้วยว่าผู้รับเชิญก็มาก แต่ผู้ที่ทรงเลือกก็น้อย"
** การให้รางวัลของพระเยซูต่อคนงานในราชอาณาจักร
- ทรงมอบรางวัลให้คนที่อยู่ในช่วง 7 ปีก่อน แต่สาวกรุ่นแรกจะได้รับเป็นคนสุดท้าย
- ทรงให้ตามการกระทำของแต่ละคนแน่นอน ไม่ใช่ทำมากน้อยก็จะได้เท่ากัน
- บทเรียนนี้ พระเยซูสอนสาวกโดยเฉพาะเปโตรว่า อย่าคิดหวังผลกำไร หรือคิดแบบลงทุนว่าจะได้เท่าไหร่ ถ้าไม่คุ้มจะไม่ทำ แต่เราควรยอมรับงานที่พระเจ้ามอบให้เราทำ เพราะเราไม่มีค่าอะไรหรือทำอะไรได้ ผลงานทุกสิ่งตั้งแต่ภายนอกจนถึงภายใน คือผลงานของพระเจ้าทั้งนั้น
บทความเพิ่มเติม : ทำงานเหนื่อยแทบตาย ได้แค่นี้เองหรือ (มธ 20)
20:17 เมื่อพระเยซูจะเสด็จขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม ขณะอยู่ตามหนทางได้พาเหล่าสาวกสิบสองคนไปแต่ลำพัง และตรัสกับเขาว่า
20:18 ดูเถิด เราทั้งหลายจะขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม และเขาจะทรยศบุตรมนุษย์ไว้กับพวกปุโรหิตใหญ่และพวกธรรมาจารย์ และเขาเหล่านั้นจะปรับโทษท่านถึงตาย
20:19 และจะมอบท่านไว้กับคนต่างชาติให้เยาะเย้ยเฆี่ยนตี และให้ตรึงไว้ที่กางเขน และวันที่สามท่านจึงจะกลับฟื้นขึ้นมาใหม่"
20:20 ขณะนั้นมารดาของบุตรแห่งเศเบดีพาบุตรชายทั้งสองมาเฝ้าพระองค์ นมัสการทูลขอสิ่งหนึ่งจากพระองค์
20:21 พระองค์จึงทรงถามนางนั้นว่า "ท่านปรารถนาอะไร" นางทูลพระองค์ว่า "ขอทรงโปรดอนุญาตให้บุตรชายของข้าพระองค์สองคนนี้นั่งในราชอาณาจักรของพระองค์ เบื้องขวาพระหัตถ์คนหนึ่ง เบื้องซ้ายคนหนึ่ง"
20:22 แต่พระเยซูตรัสตอบว่า "ที่ท่านขอนั้นท่านไม่เข้าใจ ถ้วยซึ่งเราจะดื่มนั้นท่านจะดื่มได้หรือ และบัพติศมานั้นซึ่งเราจะรับ ท่านจะรับได้หรือ" เขาทูลพระองค์ว่า "พวกข้าพระองค์ทำได้"
20:23 พระองค์ตรัสกับเขาว่า "ท่านจะดื่มจากถ้วยของเรา และรับบัพติศมาด้วยบัพติศมาที่เราจะรับก็จริง แต่ซึ่งจะนั่งข้างขวาและข้างซ้ายของเรานั้น ไม่ใช่พนักงานของเราที่จะมอบให้ แต่พระบิดาของเราได้ทรงเตรียมไว้สำหรับผู้ใด ก็จะให้แก่ผู้นั้น"
20:24 เมื่อสาวกสิบคนนั้นได้ยินแล้ว พวกเขาก็มีความขุ่นเคืองพี่น้องสองคนนั้น
20:25 พระเยซูทรงเรียกเขาทั้งหลายมาตรัสว่า "ท่านทั้งหลายรู้อยู่ว่า ผู้ครองของคนต่างชาติย่อมเป็นเจ้าเหนือเขา และผู้ใหญ่ทั้งหลายก็ใช้อำนาจบังคับ
20:26 แต่ในพวกท่านหาเป็นอย่างนั้นไม่ ถ้าผู้ใดใคร่จะได้เป็นใหญ่ในพวกท่าน ผู้นั้นจะต้องเป็นผู้ปรนนิบัติท่านทั้งหลาย
20:27 ถ้าผู้ใดใคร่จะได้เป็นเอกเป็นต้นในพวกท่าน ผู้นั้นจะต้องเป็นผู้รับใช้ของพวกท่าน
20:28 อย่างที่บุตรมนุษย์มิได้มาเพื่อรับการปรนนิบัติ แต่มาเพื่อจะปรนนิบัติเขา และประทานชีวิตของท่านให้เป็นค่าไถ่คนเป็นอันมาก"
** คุณสมบัติของผู้ที่จะเป็นใหญ่ในราชอาณาจักรสวรรค์ จากข้อ 20-28 นี้
1. ตำแหน่งกษัตริย์ ได้มาจากการถูกฆ่าตายเพราะเห็นแก่ข่าวประเสริฐ และพระนามพระเยซูคริสต์ (ถ้วยซึ่งเราจะดื่มนั้น และบัพติศมาซึ่งเราจะรับนั้น หมายถึง ความตาย)
2. ตำแหน่งสูงหรือเป็นใหญ่กว่าผู้อื่น ได้มาจากการยอมถ่อมตัวเป็นผู้รับใช้พี่น้องและทุกคน (พระเยซูทรงเสด็จมาเพื่อรับใช้ ไม่ได้มาเพื่อให้เขารับใช้พระองค์(ข้อ28))
20:29 เมื่อพระองค์กับเหล่าสาวกออกไปจากเมืองเยรีโค ฝูงชนเป็นอันมากก็ตามพระองค์ไป
20:30 และดูเถิด มีชายตาบอดสองคนนั่งอยู่ริมหนทาง เมื่อเขาได้ยินว่าพระเยซูเสด็จผ่านมา จึงร้องว่า "โอ พระองค์ผู้เป็นบุตรดาวิดเจ้าข้า ขอทรงพระเมตตาข้าพระองค์เถิด"
20:31 ฝ่ายประชาชนก็ห้ามเขาให้นิ่งเสีย แต่เขายิ่งร้องขึ้นอีกว่า "โอ พระองค์ผู้เป็นบุตรดาวิดเจ้าข้า ขอทรงพระเมตตาข้าพระองค์เถิด"
20:32 พระเยซูจึงหยุดประทับยืนอยู่ เรียกเขามา และตรัสว่า "ท่านทั้งสองจะใคร่ให้เราทำอะไรเพื่อท่าน"
20:33 พวกเขาทูลพระองค์ว่า "พระองค์เจ้าข้า ขอให้ตาของข้าพระองค์หายบอด"
20:34 พระเยซูจึงมีพระทัยเมตตา ก็ทรงถูกต้องตาเขา ในทันใดนั้นตาของเขาก็เห็นได้และเขาทั้งสองได้ติดตามพระองค์ไป
สรุปมัทธิวบทที่ 20
- เมื่อเชื่อ พระเยซูต้องการให้เราทุกคนทำงานในสวนองุ่น (คริสตจักร) ของพระองค์
- ทุกคนได้รับของประทาน บางคนมีมากบางคนมีชิ้นเดียว
- พระเจ้าให้ทุกคนรอด แต่ตำแหน่งหรือบำเหน็จในอาณาจักรและแผ่นดินโลกใหม่ไม่เท่ากัน ซึ่งถ้าหากเราก่อชีวิตและการรับใช้ขึ้นด้วยทองคำ เงิน และเพชรพลอยเราจะได้รับมงกุฏเพื่อครอบครองร่วมกับพระเยซู
- พระเจ้าให้ทุกคนเป็นสาวก ปุโรหิตหลวง และคนต้นเรือนของพระองค์ อย่าคิดว่าเรามาเชื่อแล้วไม่ตต้องทำอะไรเพื่อพระองค์
- พระเยซูจะประทานบำเหน็จตามการกระทำมากน้อยของทุกคนอย่างแน่นอน แต่พระเยซูตอบเปโตรว่าให้เท่ากันเพื่อสั่งสอนเปโตรไม่ให้คิดว่าการติดตามพระเยซูคือการหวังผลประโชยน์ ซึ่งพระเจ้าทรงจัดเตรียมผลตอบแทนให้ทุกคนอยู่แล้ว
- พระเจ้าทรงซื้อเราแล้ว ทรงใช้ร่างกายนี้ได้มากน้อยเท่าไหร่ก็จะตอบแทนเท่านั้น
- พระเจ้าเป็นผู้กระทำกิจภายในเรา เราตายแล้ว และเราให้พระคริสต์เป็นชีวิตในเราเกิดผลของพระวิญญาณผ่านเรา อย่าห่วงเลยว่ารับใช้ ทำทุกสิ่งเพื่อพระเยซูแล้วจะไม่ได้รับผลตอบแทนหรือห่วงว่าจะได้รับน้อยนิด
...
มัทธิวบทที่ 20
6.00 เช้า – พระเยซูออกจากบ้าน ไปตามหาสาวกมากมายมาร่วมงาน (มธ 20:1-2)
..
9.00 เช้า (สามโมงเช้า) – พระเยซูเลือกสาวก 12 คน จนถึงการรับใช้ในหนังสือกิจการ (มธ 20:3-4)
..
12.00 เที่ยง – ตอนกลางของยุคพระคุณ (มธ 20:5)
..
3.00 บ่าย – ผ่านตอนกลางของยุคพระคุณ คือยุคเราเดี๋ยวนี้ (มธ 20:5)
..
5.00 เย็น – ช่วง 7 ปีแห่งความทุกข์ทรมาน (มธ 20:6)
..
6.00 เย็น (พลบค่ำ) – การเสด็จกลับมาของพระเยซูเพื่อให้รางวัลและตีสอนผู้เชื่อในยุคพันปี