ถาม.
ดูเหมือนเราสบายแต่ดูเหมือนใจร้ายจังค่ะเพราะอะไรถึงได้กล่าวแบบนี้
มีเหตุผลมั้ยค่ะหรือไม่มี ประโยชน์อะไรกับคนเหล่านี้ที่ไปๆมาๆ
ตอบ.
สำหรับผู้เชื่อที่โตแล้ว เราไม่มองที่คนครับ ใครจะทำอะไร จะว่าจะบ่นอะไร จะไม่พอใจอะไรเรา แต่เรารักและทำดีที่สุดแล้ว เราจึงไม่เดือดร้อนหรือร้อนใจต่อสิ่งใด แต่พักสงบในสะบาโตของพระเยซู
และใครจะอยู่หรือจะไป จะรับอาหารผู้ใหญ่หรือไม่รับ จะยังเป็นเด็กหรือสุกงอม เป็นหน้าที่ของพระวิญญาณกับเขา เราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดคือรักและล้างเท้าพี่น้อง เราปล่อยวางครับ
ถาม.
เอเมนค่ะก็คือ เป็นหน้าที่พระวิญญณกับเขาใช่มั้ยค่ะสำหรับบทความนี้
หน้าที่ของเราก็คือ ปล่อยวาง เพราะคนที่ทำในเราก็คือพระคริสต์ทุกเรื่อง
"ใครจะไปหรือใครจะมา
ใครจะอยู่หรือไม่อยู่
ใครจะกินหรือ ไม่กิน
ใครจะเป็นหรือไม่เป็น
ใครจะสุกหรือไม่สุก
อย่าร้อนใจไปเลย
ปล่อยวางเถอะครับ"
ตอบ.
ใช่ครับ เรารัก เราแคร์ เราล้างเท้า และเราปล่อยวาง ไม่เดือดร้อน ไม่กังวล ไม่แบกแอกของเขา
...
ถาม.
เพราะพระเจ้าเปิดตาให้เรารู้ไงคะว่าทุกคนกำลังถูกก่อขึ้นทีละเล็กทีละน้อยชำระอาการขึ้นๆลงๆสุขทุกข์ดีบาปวันละเล็กวันละน้อยค่ะอยู่คนเดียวมันสบายดีฝึกไม่หนักแต่การมาอยู่รวมกันถ้าไม่ยอมจำนนต่อพระเยซูให้พระเยซูมาอยู่ร่วมกันกับพี่น้องแทนเราเราจะอยู่กับใครไม่ได้เลยค่ะมันหนักมาก
ตอบ.
การอยู่คนเดียวฝึกคนเดียวก็ไม่ต่างไปจากเรือที่จอดอยู่ริมฝั่งที่พอจะมีคลื่นบ้าง ฝนตกบ้าง ลมพายุบ้างแต่การฝึกร่วมกับพี่น้องเป็นระดับที่สูงขึ้นและรับบำเหน็จมากกว่า และมันคือน้ำพระทัยของพระบืดา เพราะฉะนั้นการฝึกคนเดียวเราก็จะไม่ก้าวหน้าไปถึงไหนเลย
พระกาย คือหัวใจของพระเยซู และมีพระคุณ และการกระทำกิจเต็มอยู่ในพระกายดังกล่าว
เราได้รับการชำระด้วยพระโลหิตไม่ใช่เพื่อให้เราได้กลายเป็นคนชอบธรรมและรอดจากบึงไฟเท่านั้น
เราได้รับการชำระด้วยพระคำพระเจ้าไม่ใช่เพื่อให้เราถูกเปิดตาและอยู่อย่างมีความสุขปล่อยปลงวางได้เท่านั้น
เราได้รับการชำระด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ไม่ใช่เพื่อให้เราเลิกทำบาปได้เท่านั้น
แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็เพื่อให้เรามาอยู่ร่วมกันเป็นพระกายและพระกายคือสิ่งที่พระเยซูต้องการก่อขึ้นในโลกนี้เพื่อสำแดงชีวิตและนิสัยของพระองค์