การงานของพระเยซู หรือบุตรมนุษย์จบลงแล้ว และการงานของพระคริสต์ได้เริ่มขึ้นแล้ว
หนังสือกิจการ พระคริสต์ทรงดำเนินชีวิต และประกาศ รับใช้ ทำทุกสิ่งผ่านผู้เชื่อ
ตอนที่เป็นมนุษย์พระเยซูมีชีวิต และนิสัยของพระบิดา หรือพระบิดาเป็นผู้ดำเนินชีวิตแทนพระองค์ และใช้ฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์
ผู้เชื่อจึงต้องมีสองสิ่งที่พระเยซูมี..
• สิ่งแรก ก็คือชีวิต และนิสัยของพระเยซู และ
• สิ่งที่สอง คือฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์
ขณะที่คริสเตียนศาสนามองว่าหนังสือกิจการ เป็นเรื่องของประวัติศาสตร์คริสตจักร/ แต่สำหรับคริสเตียนฝ่ายวิญญาณมองว่าหนังสือกิจการ คือการใช้ชีวิตของพระคริสต์ และประกาศรับใช้ผ่านผู้เชื่อทั้งหลาย
คริสเตียนศาสนาเน้นที่การประกาศเพื่อนำคนมาเชื่อ และเน้นที่การทำๆๆ เพื่อพระเจ้า/ ขณะที่คริสเตียนฝ่ายวิญญาณ เน้นที่การสำแดงชีวิตนิสัยของพระเยซูที่เอาความรักเป็นหลัก เป็นที่หนึ่ง เป็นศูนย์กลาง และเน้นที่การสร้างความผูกพันที่ดีกับพระเยซูคริสต์
การดำเนินชีวิต การประกาศรับใช้ การร่วมนมัสการพระเจ้าในสภาพของคนใหม่ที่บังเกิดใหม่แล้ว ตัวใหม่ที่ฟื้นขึ้นมาจากความตายกับพระเยซูแล้ว การเกิดผลของพระวิญญาณของพระคริสต์ในผู้เชื่อ และการใช้ฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เพื่อการงานของพระเจ้าจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อการก่อขึ้นจะกลายเป็นทองคำเงิน และเพชรพลอย
ซาตานรู้ตั้งแต่แรกว่าพระเจ้าสร้างมนุษย์เพื่อให้เป็นที่สถิตของพระองค์ และเพื่อสำแดงชีวิตและนิสัยของพระองค์ มันจึงขัดขวางและทำได้สำเร็จ และมันยังรู้อีกว่าพระเจ้าส่งพระเยซูมาเพื่อทำให้แผนการงานของพระเจ้าสำเร็จอีกครั้งหนึ่ง มันจึงพยายามขัดขวางและมันก็ทำได้สำเร็จ
สุดท้ายคริสเตียนก็กลายเป็นศาสนาคริสต์ และไม่มีโอกาสได้สำแดงชีวิตและนิสัยของพระเจ้า
ขอบพระคุณพระเจ้า ที่พระองค์ทำงานหนัก เพื่อช่วยเหลือผู้เชื่ออีกมากมายให้ได้รับการเปิดตา เพื่อเข้าสู่การดำเนินชีวิต และรับใช้ตามพระประสงค์ และตามน้ำพระทัยของพระเจ้า
.....
a. การเต็มล้นภายใน (ยอห์น 6:35-37 / 4:14 / 7:37-39 / 20:22 / 10:10)
- เพื่อสันติสุข เพื่อรับการหล่อเลี้ยง การได้ดื่มพระวิญญาณอย่างสม่ำเสมอ เพื่อทนต่อปัญหาได้ ทุกคนเกิดมาต้องกิน ดื่ม และหายใจฉันใด คริสเตียนที่บังเกิดใหม่ในพระวิญญาณก็ย่อมกินดื่ม และหายใจ เพื่อรับพระวิญญาณ เพื่อจะได้อิ่มเต็มฉันนั้น
- หนังสือยอห์นเป็นหนังสือแห่งชีวิต เราจึงพบคำตอบเรื่องรูปแนวชีวิต และฝ่ายวิญญาณมากมาย เพราะฉะนั้นผู้เชื่อควรอ่านหนังสือยอห์น และเข้าใจการแปลที่ถูกต้อง เพื่อรับการเปิดตาเรื่อง "ชีวิต" ให้มากเท่าที่จะมากได้
ขอบคุณพระเยซูที่พระวิญญาณแห่งความจริงทรงชำระเราให้เข้าสู่พระคำแห่งความจริง เราจึงมีโอกาสได้หลุดพ้นจากรูปแนวศาสนา เข้าสู่รูปแนวชีวิต เพื่อน้ำพระทัยของพระบิดาจะสำเร็จในเรา ยิ่งเราได้รับการเปิดตามากเท่าไหร่ เราจะใส่ใจเรื่องการสร้างความผูกพันกับองค์พระเยซูคริสต์เจ้าในแต่ละวัน มากกว่าการใส่ใจเรื่องทำดีเชื่อฟังรักษาพระบัญญัติ รับใช้พระเจ้าตั้งแต่เช้าจนค่ำ ซึ่งสุดท้ายทุกสิ่งก็นำเราไปสู่ความว่างเปล่า และขาดบำเหน็จ
- การปักใจในพระวิญญาณ การใส่ใจในเรื่องการสร้างความผูกพัน สนิทในพระคริสต์เป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับพระเจ้า พระเยซูจึงตรัสว่าศาสดาพยากรณ์ในสมัยก่อนยังเป็นผู้เล็กน้อยกว่าท่านยอห์นผู้ให้บัพติศมา แต่ผู้เล็กน้อยที่สุดในอาณาจักรก็ยังเป็นใหญ่กว่าท่านยอนผู้ให้บัพติศมาเสียอีก
เนื่องจากว่าผู้เล็กน้อยที่สุดในอาณาจักรมีโอกาสได้สนิทบอกรักพระเยซูในแต่ละวัน ขณะที่ยอห์นผู้ให้บัพติศมา และศาสดาพยากรณ์ในสมัยก่อน ไม่มีพระคริสต์สถิตอยู่ในเขา และไม่ได้อยู่ใกล้ชิด ก็คือพระเจ้าไม่ได้อยู่ในเขา และเขาไม่ได้อยู่ในพระเจ้า
- ขอบคุณพระเยซูสำหรับคริสเตียน เมื่อเราบังเกิดใหม่พระเจ้าทั้งสามพระภาคเข้ามาอยู่ในเรา และพระองค์นำเราเข้าไปอยู่ในพระเจ้า (1 คร 1:30) เพราะฉะนั้นผู้เชื่อที่เป็นที่ชอบพระทัยของพระบิดา ก็คือผู้ที่แสวงหาการสนิทบอกรักใกล้ชิดสร้างความผูกพันที่ดีกับพระองค์ในแต่ละวัน ส่วนเรื่องการกระทำ การเชื่อฟัง การรับใช้เป็นสิ่งที่จะต้องตามมาอย่างแน่นอน โดยการขับเคลื่อนของชีวิตพระคริสต์ที่อยู่ภายในเรา
- เพื่อชีวิต เพื่อเกิดผลของพระวิญญาณพระคริสต์
ยอห์น 6:63 พระเยซูตรัสว่า คือวิญญาณที่ให้ชีวิตได้ส่วนเนื้อหนังไม่มีประโยชน์อะไร หรือให้อะไรไม่ได้เลย พระเยซูในสภาพของเนื้อหนัง จึงต้องไปตายที่กางเขน และฟื้นขึ้นมาจากตาย เพื่อเป็นพระวิญญาณผู้ที่จะให้ชีวิตแก่ผู้เชื่อทุกคนได้
* เราขอบพระคุณพระเจ้าที่ผู้เชื่อทุกคนได้รับชีวิตของพระคริสต์เยซู และได้รับอย่างครบบริบูรณ์แล้ว (ยอห์น 10:10) และถ้าหากผู้เชื่อต้องการมีประสบการณ์ชีวิตที่ครบบริบูรณ์ของพระเยซูคริสต์ เขาต้องอยู่ในพระคริสต์ "เชื่อ" ยอมรับการตาย และเป็นขึ้นมาจากความตายร่วมกับพระเยซูคริสต์ และเชื่อว่าพระองค์เป็นผู้ดำเนินชีวิตแทนเขาทุกวัน และทุกเวลา (กท 2:20) การสนิท บอกรัก สร้างความผูกพันที่ดีกับพระองค์จะช่วยให้เราเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ภายในตลอดเวลา โลกนี้จึงเป็นสวรรค์บนดินสำหรับเขา....ขณะที่โลกนี้เป็นนรกเล็ก ๆ สำหรับผู้คนอีกมากมาย
...
b. การเต็มล้นภายนอก
- ลูกา 24:49 พระเยซูตรัสว่า “และดูเถิด เราจะส่งพระสัญญาแห่งพระบิดาของเรามาเหนือท่านทั้งหลาย แต่ท่านทั้งหลายจงคอยอยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม จนกว่าท่านทั้งหลายจะประกอบด้วยฤทธิ์เดชที่มาจากเบื้องบน”
* คำว่า “ประกอบ” ภาษากรีก คือ ἐνδύω (enduo = เอน-ดู-โอ) แปลว่า สวม สวมใส่ นุ่ง นุ่งห่ม ในลักษณะของการ...เสื้อที่ครอบคลุมร่างกายภายนอกของเราไว้ทั้งหมด
* คำว่า “ฤทธิ์เดช” ภาษากรีกคือ δύναμις, εως, ἡ (dunamis = ดู-นา-มิส / dynamis = ได-น่า-มิส) แปลว่า พลังที่ยิ่งใหญ่มาก มีกำลังมากมากมาย มีอำนาจมาก
* คำว่า “ที่มาจากเบื้องบน” คือมาจากพระเจ้า
* “ท่านทั้งหลายจะประกอบด้วยฤทธิ์เดชที่มาจากเบื้องบน” คือผู้เชื่อจะได้สวม หรือนุ่งห่ม หรือครอบคลุมด้วยพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่มากจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ เพื่อกระทำการงานของพระองค์ในโลกนี้
- ลมหายใจ หรือวิญญาณของการเต็มล้นภายใน คือเพื่อชีวิต และเพื่อหายใจเข้าออกเพื่อรับการเต็มล้นด้วยพระวิญญาณ /ส่วนลม หรือลมพายุในกิจการ 2:2 เพื่อฤทธิ์เดชของพระเจ้า
- ผู้เชื่อทุกคน คือสาวกของพระเยซู และสาวกของพระเยซูต้องได้รับสิทธิ หรืออำนาจหน้าที่ และพลังจากพระเจ้าเพื่อการประกาศข่าวประเสริฐ คนที่ได้ยินได้ฟังจึงกลับใจใหม่ และได้บังเกิดใหม่อย่างแท้จริง สาวกของพระเยซูต้องได้รับสิทธิ หรืออำนาจหน้าที่ และพลังจากพระเจ้าเพื่อการรับใช้ในหน้าที่การงานต่างๆ ในคริสตจักรเพื่อการก่อขึ้นของพระกาย
- การเป็นคริสเตียนแท้ เรายืนยันว่าเราเป็น ด้วยการสำแดงชีวิตพระคริสต์ ไม่ใช่เพียงแต่คำพูดเท่านั้น ส่วนการเป็นสาวกของพระเยซูเพื่อประกาศรับใช้ เรายืนยันว่าเราเป็นด้วยสิทธิอำนาจ และฤทธิ์เดชจากพระเจ้า ถ้าหากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้สวมใส่เครื่องแบบ และไม่มีอาวุธย่อมจะไม่มีใครเคารพยำเกรงและกลัว ในลักษณะเดียวกัน สาวกของพระเยซูย่อมจะต้องมีสิทธิอำนาจ และฤทธิ์เดชที่มาจากพระเจ้า นี่คือเหตุผลที่เราต้องรับการสวมใส่ หรือนุ่งห่ม หรือสวมทับของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เพื่อเป็นที่ยอมรับของมนุษย์ได้
- สรุป ก็คือเราขาดไม่ได้ทั้งการเต็มล้นภายใน และภายนอก
ภายใน คือเพื่อประสบการณ์ชีวิต และสันติสุข และการเติบโต
ภายนอก คือเพื่อประสบการณ์ฤทธิ์เดช เพื่อการรับใช้ และการเติบโตของคริสตจักร
.....
1. ผู้เชื่อส่วนมากไม่เข้าใจเกี่ยวกับเรื่องบัพติศมาในพระวิญญาณบริสุทธิ์ เรื่องการเต็มล้นภายนอก และภายใน เรื่องภาษาต่างๆ พวกเขาจึงสั่งให้สมาชิกโบสถ์แสวงหาการรับบัพติศมาในพระวิญญาณบริสุทธิ์ ฤทธิ์เดช การอัศจรรย์ และพูดภาษาแปลกๆ
2. พระคัมภีร์กล่าวว่า พวกเขาก็เต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ จากนั้นพวกเขาก็พูดภาษาต่างๆ แต่พระคัมภีร์ไม่ได้กล่าวว่า พวกเขาทุกคนพูดภาษาต่างๆ ความหมาย ก็คือมีเพียงแค่บางคนเท่านั้นที่พูดภาษาต่างๆ หรือภาษาเดิมของตน เพื่อการระบายความในการยกย่องสรรเสริญพระเจ้าที่มาจากความตื่นเต้นดีใจเป็นที่สุด
3. ขอย้ำอีกครั้งว่าทันทีที่เราเชื่อ เราได้บังเกิดใหม่ พระเจ้าทั้งสามพระภาคเข้ามาสถิตอยู่ภายในเรา พระคริสต์เยซูบัพติศมาเราในพระวิญญาณบริสุทธิ์ คือจุ่มเราเข้าในพระวิญญาณ เป้าหมายหลัก คือเพื่อฤทธิ์เดชภายนอก และต่อจากนั้น ก็คือเพื่อการดื่ม กิน หายใจ เพื่อให้ได้เต็มล้นภายใน เป็นการงานของพระเจ้าที่ทำกับเราอย่างต่อเนื่อง และสุดท้ายเราได้รับการสวมทับนุ่งห่มพระวิญญาณบริสุทธิ์ด้านนอก และเราได้ดื่ม กิน หายใจ รับการเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ด้านใน
4. การเต็มล้นภายใน คือการดื่ม กิน หายใจ เพื่อชีวิต หรือเต็มล้นด้วยชีวิตพระเจ้า โดยการเชื่อว่า เมื่อเราหายใจเข้าออก เมื่อเราอธิษฐาน เมื่อเราอ่านพระคัมภีร์ ก็คือการรับการเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ เพื่อการเติบโตสู่ชีวิต และนิสัยของพระเยซู ส่วนการเต็มล้นภายนอก คือการที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ใช้ร่างกายของเราเพื่อสำแดงฤทธิ์เดชของพระเจ้าเพื่อการรับใช้ และการเติบโตของพระกาย
5. เมื่อเราเชื่อพระคริสต์เยซูก็เสด็จมาเพื่อจุ่มเราเข้าไปในพระวิญญาณบริสุทธิ์ เราไม่ต้องขอไม่ต้องแสวงหา และไม่ต้องให้ผู้นำคริสตจักรบัพติศมาเรา เราได้กลายเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของพระกายของพระคริสต์ นี่คือสิ่งที่เราต้องจดจำเนื่องจากว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะวิญญาณบริสุทธิ์ทำงานอย่างมากมายท่ามกลางพระกายของพระเยซูในยุคนี้ การดื่ม กินหายใจ ในคริสตจักรร่วมกัน จะช่วยให้เราเติบโตตามกำหนดเวลาของพระเจ้า เราต้องการพระกาย และพระกายก็ต้องการเรา
6. บัพติศมาในพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นเรื่องของการฝ่ายวิญญาณ เราไม่ควรแสวงหาเรื่องหมายสำคัญ การอัศจรรย์ ฤทธิ์เดช อารมณ์ความรู้สึกใดๆ ทั้งสิ้น แต่พระวิญญาณบริสุทธิ์จะนำเราเข้าสู่ประสบการณ์แห่งการเต็มล้นภายนอกไม่มากก็น้อย
a. ก่อนที่จะพบมานาที่ซ่อนไว้ คุณมีความเข้าใจอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องบัพติศมาในพระวิญญาณบริสุทธิ์??
b. แต่ก่อนคุณรู้หรือไม่ว่า ทันทีที่คุณเชื่อ พระเยซูจะมาให้บัพติศมาคุณในพระวิญญาณบริสุทธิ์??
c. ทุกวันนี้คุณได้ดื่ม กิน หายใจ เพื่อรับการเต็มล้นด้วยพระวิณญาณบริสุทธิ์ ด้วยการอ่านอธิษฐาน และหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอหรือไม่??