ถาม.
อยากถามเรื่องความฝันค่ะ ตอนฝันมองไปเห็นหน้าคนเป็นผี กำลังลอยมา แล้วเราก็รู้สึกตกใจกลัวทำไมเรามองเห็นหน้าผี แล้วทีนี้ในความฝันเราก็นอนอยู่ในบ้าน แล้วมันบอกมันจะเข้ามาหา แล้วมันก็วิ่งมา มาถึงหน้าประตู ปรากฏว่าเรามองไปเราเห็นผู้ชาย 2 คนกับมีหมาของเราวิ่งไปห้ามไม่ให้เข้า แล้วผีตัวนั้นไม่ได้มาตัวเดียวมีหัวหน้ามาด้วยบอกว่าจะเข้าไปหาคนในนั้น ก็มีผู้ชายดันๆ บอกว่าไม่ได้ๆ แต่เราไม่เห็นผู้ชายว่าเป็นใครเห็นแต่ขาเขา แต่รู้ว่ามีอยู่ 2 คนยืนอยู่หน้าประตู แล้วก็มีหมาตัวหนึ่งกำลังเห่าอยู่ เราก็ตกใจกลัวว่าทำไมบ้านเรามีผู้ชายมายืนอยู่หน้าบ้าน บ้านเรามีรั้วด้วยเหรอ เรามองเห็นรั้วบ้านแต่เป็นรั้วบ้านแบบบ้านๆ เป็นรั้วไม้ไผ่ธรรมดาแต่เขาไม่เข้านะ เขาไปเข้าทางประตู ซึ่งมีผู้ชาย 2 คนกำลังดันเขาอยู่กำลังต่อว่าเขาไม่ให้เข้า อยากจะถามว่าเหตุการณ์ที่ฝันมันหมายถึงอะไรคะ
ตอบ.
พระเจ้าต้องการให้เรา และหลายคนนะครับ รู้ และเข้าใจว่าผู้เชื่อ คือสมบัติ คือทรัพย์สมบัติของพระเจ้า ผู้เชื่อคือสิ่งที่พระเจ้าเป็นเจ้าของ และทุกสิ่งที่เรามีและสถานที่ที่เราอยู่เป็นประจำใช้ชีวิตประจำวัน ก็คืออาณาเขตของเราและของพระเจ้า
เพราะฉะนั้นแน่นอนที่สุดครับใครจะมารบกวน ใครจะมาก่อกวน ใครจะมาทำลายทำร้ายเรา ทูตสวรรค์จะห้ามเอาไว้โดยเฉพาะผีมารซาตานครับ
นอกเสียจากว่าพระเจ้าอนุญาตให้มันทำอะไรกับเรา เนื่องจากว่าเราทำบาปทำผิดอะไรบางอย่าง มันจึงทำได้ แต่โดยปกตินะครับทูตสวรรค์จะเป็นผู้ปกป้อง ดูแล ปกปักรักษาเราตลอดเวลา บ้านเรามีทูตสวรรค์อย่างน้อย 1 ตน และยังมากก็ 2 -3 แล้วแต่
สำหรับพี่น้องที่ไม่ฝันนะครับ ขอให้มั่นใจว่าเราไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยว เดียวดาย ผมทุกวันนี้ก็อยู่คนเดียว แต่ขอบคุณพระเจ้าแน่นอนที่สุดผมรู้ว่าฝ่ายวิญญาณพระเจ้าอยู่กับผม ทูตสวรรค์อยู่กับผม คือคริสเตียนเราไม่ควรกลัว คริสเตียนเราไม่ควรคิดนะครับว่า เหงาจัง เบื่อ โดดเดี่ยว เดียวดาย เป็นโรคซึมเศร้า อันนี้สำหรับคริสเตียนไม่ควรจะมีนะครับ เรามีพระเจ้าที่รอที่จะคุยกับเรา และหาเรื่องจะคุยกับเราเหมือนคุยกับเปโตร แล้วก็สะกิดเราตลอดเวลา เพราะฉะนั้นสังเกตดีๆ คุยกับพระองค์ให้มากกว่านี้ เราจะเห็นการตอบสนอง การตอบ การพูดคุยกับพระเจ้า การสนทนาของพระเจ้าเกิดขึ้นกับเรามากยิ่งขึ้น
ถาม.
คือถ้าเราคุยกับพระเจ้า เราคุยได้ทุกเรื่องเหรอครับ คุยเรื่องงานแล้วก็คุยเรื่องแบบประมาณสิ่งที่เราทำอยู่อะไรอย่างงี้ หรือว่าเราไปเล่นกีฬาเราคุยเรื่องกีฬาอย่างนี้ได้ไหมครับ เอเมน
ตอบ.
เราคุยกับพระเจ้าได้ทุกเรื่องครับผม ทุกเรื่องเลย
“ พระเยซูวันนี้ตอนเที่ยงจะทานอะไรดี พระองค์จะให้ทานอะไร พระองค์อยากให้ข้าพระองค์ไปที่ไหน ไปกินอะไร ..พระเยซูเผ็ด มันเผ็ดมาก ..ไม่อร่อยร้านนี้ แต่ขอบคุณพระเยซูที่ไม่ให้มันทำลายสุขภาพของข้าพระองค์ ขอบคุณพระเยซู ”
คือพูดอะไรก็พูดได้ คุยเหมือนกับเราคุยกับใครบางคนอยู่ คือพระเจ้าไม่ถือสา พระเจ้าเข้าใจเรา พระเจ้าเป็นพระเจ้าที่เข้าใจมนุษย์ที่ดีที่สุด ไม่เหมือนใคร พ่อ แม่ พี่น้อง เพื่อนฝูง คนรัก สามี ภรรยา อาจจะพูดนะครับว่า ฉันเข้าใจแก ผมเข้าใจคุณ ไม่เป็นไรหรอกเข้าใจ เข้าใจ เจ็บปวดตรงนี้เข้าใจ จริงๆ แล้วเขาไม่ได้เข้าใจจริงๆ เขาแค่รับรู้บางส่วน เข้าใจบางส่วน
แต่สำหรับพระเยซูของเรา พอเราเป็นอะไร เราเจออะไร เราอยู่ในสถานการณ์เหตุการณ์อะไร พระเยซูเข้าใจดีที่สุดและเห็นชัดเจนมากที่สุด อย่าลืมนะครับพระเยซูมีตาเจ็ดตา เจ็ดตาก็คือ เห็นทั่วเห็นทุกที่ทุกแห่งทุกหน รู้ทุกจุดของเราว่าเจ็บตรงไหน รู้สึกยังไง ขอบคุณพระเจ้าสำหรับพระเยซูของเรา
ถาม.
ถ้าเราเจอสิ่งที่เหมือนกับสิ่งเจ็บปวด หรือว่าสิ่งที่แบบว่าทำให้เราผิดหวังเสียใจแบบนี้ เราเกิดการอยากบ่นออกมา เราบ่นได้ไหมครับ
ตอบ.
บ่นกับพระเยซูได้ อย่าไปบ่นกับมนุษย์นะครับ เราควรจะบ่นกับพระเยซูครับ สำหรับผู้เชื่อในระดับที่ยังอยู่ในการก่อขึ้นก็อาจจะบ่น แต่ผู้เชื่อที่มาถึงระดับหนุ่มหรือเข้ามาถึงพ่อ อาการบ่นก็จะมีน้อยลงหรือไม่บ่นเลย “แต่ขอบพระคุณพระเจ้าแทนคำว่า บ่น”
จริงๆ แล้วเราผู้เชื่อถูกสร้างขึ้นมาใหม่เพื่อ “ขอบพระคุณแทนคำว่า บ่น” สิ่งนี้นะครับคือมันได้ผล และเป็นวิธีที่พระเจ้าให้ในพระคัมภีร์ การขอบพระคุณสำหรับทุกสิ่ง สิ่งที่ดีก็จะตามมา สิ่งที่หนักยาก ก็จะง่ายขึ้น อันนี้เราเห็นเปาโลเป็นคนเขียนโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์นะครับ 1 เธสะโลนิกา 5:18 จงขอบพระคุณในทุกสถานการณ์ ในทุกกรณี เมื่อขอบพระคุณเสร็จ สันติสุขก็เกิด การแก้ปัญหาของพระเจ้าก็เข้ามา
ถาม.
ขอถามค่ะ คือเราอยู่คนเดียวทำงานคนเดียวไม่มีใคร มีแต่เพื่อนบ้าน แล้วเราคุยคนเดียวพูดคนเดียวเราจะเป็นอะไรไหม แล้วเราก็อยู่กับพระเจ้า ก็มีความสุขมันมีความสุขมีสันติสุข สุขทุกเวลา แต่เราไม่ได้ไปคุยอะไรกับใครเนี่ยเป็นอะไรไหมคะ แต่ในใจก็มีแต่ความสุขค่ะ แต่เราอยู่คนเดียวนอนคนเดียวทำอะไรคนเดียว แต่ก็คุยกับพระองค์ตลอดเวลาก็คือขอบพระคุณขอบพระคุณขอบพระคุณ ก็ไม่รู้จะคุยอะไรค่ะอาจารย์ มันจะเป็นอะไรไหมคะ เอเมนค่ะ
ตอบ.
เป็นครับ คนที่พูดคุยอยู่คนเดียวกับพระเยซูมีอันเป็นไปครับ คือเป็นที่รัก เป็นคนสนิทชิดเชื้อใกล้ชิดพระเยซู เป็นบุตรที่รักของพระเจ้า และถ้าใครอยากเป็นเหมือนพี่น้องท่านนี้ ก็พูดคุยกับพระเยซูเหมือนที่เขาพูดอยู่ นี่คือน้ำพระทัยของพระเจ้า
มีบางคนถามผมนะครับ ถ้าพูดกับพระเยซูบ่อยๆ ถ้าเป็นแบบนี้เนี่ย มีโอกาสที่จะเป็นบ้าไหม มีคนถาม คำตอบนะครับ ก็คือทุกคนในโลกนี้ไม่ว่าจะมีศาสนาหรือไม่มีศาสนา ถ้าหากพูดคุยอยู่คนเดียวเป็นประจำมีโอกาสที่จะเป็นบ้าได้นะครับ แต่สำหรับคริสเตียนฝ่ายวิญญาณ เมื่อเราได้เรียนรู้ เข้าสู่พระคำล้ำลึกของพระเจ้า รับการเปิดตาโดยมานาที่ซ่อนไว้ และเราสนิท พูดคุย บอกรัก ซึ่งเป็นสิ่งที่พระเยซูต้องการ พระเยซูเป็นคนสั่งให้เราสนิท ให้เราบอกรัก ให้เราพูดคุย
ใน 1 เธสะโลนิกา 5:17 บอกว่า จงพูดคุยอย่างสม่ำเสมอ ก็คือตลอดเวลา พระเจ้าเป็นคนสนับสนุน พระเจ้าเป็นคนสั่ง พระเจ้าเป็นคนบอกให้เราทำ และถ้าหากเราทำเนี่ยเราจะเป็นบ้าไหม ไม่ครับ เราจะเป็นบุตรที่รักของพระเยซู
อย่ากลัวนะครับ อย่ากลัว คือพระเจ้ารับรอง พระเจ้าจะรักษาเราจากอาการโรคบ้าเป็นบ้าทั้งหลาย แต่มนุษย์นะครับที่มีศาสนาหรือไม่มีศาสนาเนี่ย เขามีโอกาสที่จะเป็นบ้าได้คือพูดคุยอยู่คนเดียวของเขา ดีไม่ดีมนุษย์ก็จะบอกว่าเป็นบ้าแล้วคนนี้อยู่ดีๆ ก็พูดคุยคนเดียว
แต่สำหรับเราขอบคุณพระเจ้า มีพระเจ้าอยู่และเราพูดคุยกับพระองค์ พระองค์ดูแลเรา ครอบคลุมจิตใจเราให้อยู่ในจิตที่มีความเฉลียวฉลาดมากขึ้นกว่าเดิม มีสติปัญญามากกว่าเดิม มีความคิดว่องไวมากกว่าเดิม คือฉลาดกว่าเก่าหลายเท่า และไม่มีโอกาสที่จะเป็นบ้าได้ เอเมนขอบคุณพระเยซู