พระเจ้าทำให้สิ่งหนึ่งกลายมาเป็นอีกสิ่งหนึ่งได้

ถาม.

จะถามเรื่องการกินอาหารนะคะ คืออาหารที่เรามีอยู่ แต่เรามองว่ามันไม่อร่อย เราพูดบอกว่าขอบคุณพระเจ้า เราเชื่อว่าพระเยซูนั้นอยู่ในเรา เราเชื่อว่าพระเยซูนั้นกินแทนเรา และเชื่อว่าอร่อย ก็ขอบคุณพระเจ้า แต่ปรากฏว่าอาหารที่เราดูแล้วเหมือนไม่อร่อย แต่ว่าพอกินเข้าไปมันอร่อยมาก อร่อยแบบกินแล้วกินอีก กินจุ ขอบคุณพระเจ้าเอเมน แบบนี้ถูกไหม อจ.

ตอบ.

แน่นอนครับผมเจอมาหลายครั้ง บ่อยครั้งมาก คืออาหารบางคนบอกกินแล้วมันเค็ม แล้วมันจืด กินแล้วรสชาติมันไม่น่ากินเลย แต่เรากินเนี่ยรสชาติมันดีมากๆ

สำหรับพี่น้องที่ฝึกใหม่ๆ นะครับ เรื่องการกิน ไม่ว่าจะเรื่องอะไร แล้วสมมุติว่าวันนี้เราคุยกันเรื่องการ

กิน เราบอกว่า 

1. ขอบคุณพระเยซูพระองค์กินกับข้าพระองค์ พระองค์ร่วมกินด้วยกัน ขอบคุณพระเยซูสำหรับอาหารนี้ คือเรากินด้วยการขอบพระคุณ แล้วเรากินด้วยพระเยซูกินร่วมกับเรา อาหารก็จะสะอาดบริสุทธิ์ปราศจากเชื้อโรค 

แล้วก็ 2 ก็คืออาหารก็จะอร่อยไม่เหมือนคนอื่นกิน ขอบคุณพระเจ้าเอเมน

...

ถาม.

คือว่าเรากินข้าวที่บ้านใช่ไหม แล้วก็นึกในใจว่า ขอบคุณพระเยซูที่พระองค์ทรงชำระอาหารนี้ สะอาดหมดจดแล้ว อย่างนี้เราก็กิน แล้วก็หรือว่าเราต้องขอพระเจ้าชำระตลอดเวลาค่ะที่เรากินอาหาร

ตอบ.

ทุกวันนี้ผมก่อนกินข้าว ก่อนทานข้าว ผมพูดคำเดียว “เอเมน”

“เอเมน” คืออะไรครับ “เอเมน” คือทุกสิ่ง “เอเมน” คือ everything คือทุกสิ่ง 

“เอเมน” คือขอบพระคุณ “เอเมน” คือขอชำระ “เอเมน” คือรักพระเยซู “เอเมน” คือเป็นตัวแทน เป็นคำที่แทนใช้พูดแทนทุกสิ่งได้ เพราะว่า “เอเมน” ก็คือพระเยซู

ก่อนทานข้าวผมไม่ได้พูดยาวนะครับ ผมพูด “เอเมน” เพราะว่าเราคือเราคุยกับพระเยซูทั้งวันแล้ว เราไม่ต้องมาคุยยาวตอนที่กินข้าว ใช่ไหมล่ะ

คือหลายคนไม่ได้อธิษฐานทั้งวันนะครับ แต่เวลาก่อนกินข้าว คืออธิษฐานยาวมาก คือรวมทุกสิ่งในตอนนั้นเลย เพราะว่าไม่มีเวลาอธิษฐาน คิดว่าจะไม่ได้อธิษฐานทั้งวัน ใช่ไหม. ก็เลยเอาใหญ่เลยตอนนั้น

คือจะไปไหน อยู่ที่ไหน เราจะไปทานข้าวที่ไหน ที่นอกบ้าน หรือในบ้านก็ตาม คือเรา “เอเมน” เลย เอเมนแล้วก็ยกช้อน อะไรก็ทานเลยครับ

...

ถาม.

แล้วในใจเราคิดว่าสะอาดแล้วใช่ไหมค่ะ

ตอบ.

เราเชื่อแน่นอนครับ เราเชื่อ เราเป็นลูกพระเจ้าน่ะ เราเป็นลูกของพระเจ้า เป็นบุตรพระเจ้า แล้วมีทูตสวรรค์ติดตามเรา แล้วพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็ดูแลเราอยู่ เราจะทำอะไร เราจะกินอะไร เราจะดื่มน้ำ ทุกสิ่งนะครับ เมื่อเรา “เอเมน” การชำระก็มา

เราไม่ต้องขอนะครับ บอกว่าขอพระองค์ชำระอาหารให้สะอาด คือจะขอทำไม พระองค์จัดการให้อยู่แล้วไม่ต้องห่วง

...

ถาม.

ขอถามอาจารย์อีกนิดนึงนะคะ เกี่ยวกับว่าธรรมดาเนี่ยจะทานข้าวหอมมะลิมาตลอดเลย ก็ช่วงนี้พอดีข้าวสารหมด ทีนี้บอกเพื่อนว่าช่วยซื้อข้าวสารมา แล้วเพื่อนก็ซื้อข้าวสารแบบแข็ง วันแรกก็ทานไม่ลง แต่ก็เสียดายมันตั้ง 5 กิโล เราก็บอกกับพระเจ้าว่า นี่คือข้าวสารหอมมะลิอร่อยมากเลย ขอให้ลูกกินข้าวสารนี้ได้อร่อย วันแรกก็ไม่ผ่าน แต่ว่าเสียดายข้าวสารมากเลย แต่พอมาวันที่ 2 อธิษฐานอีก พระองค์น่ารักมาก ข้าวหอมมะลินะข้าวหอมมะลิหอมมากเลย ให้ลูกทานได้นะคะ แล้วทีนี้ 2 วันแล้วทานข้าวแข็งได้อร่อยค่ะ แบบนี้ถูกหรือผิดค่ะ ที่เราบอกว่าข้าวสารไม่ดี แต่เราบอกว่านี่คือข้าวสารดี ข้าวหอมมะลิอย่างดีเลยค่ะ แต่ว่าเป็นข้าวสารราคาถูกมากเลยค่ะ

ตอบ.

คือสำหรับเราเนี่ย สำหรับเรานะครับ ปกติเพียงแต่เพียงแค่เราพูดว่า “ขอบพระคุณพระเยซู” สำหรับอาหาร สำหรับข้าวราคาถูกราคาแพงไม่เป็นไร ขอบพระคุณที่พระองค์ให้มีอาหาร มีข้าวกิน 

พระเจ้าจะเป็นคนทำให้รสชาติมันเปลี่ยน จากแข่งก็เป็นนุ่ม จากไม่หอมกลายเป็นหอม จากข้าวเก่าให้เหมือนข้าวใหม่ ให้เป็นข่าวใหม่ได้

พระเจ้าทำสิ่งหนึ่งให้กลายเป็นสิ่งหนึ่งได้ อย่าลืมนะครับในพระคัมภีร์เราเห็นบ่อยมาก พระเจ้าทำให้สิ่งหนึ่งกลายมาเป็นอีกสิ่งหนึ่งได้ 

จากยากกลายเป็นง่าย 

จากตายกลายเป็นชีวิต 

จากน้ำกลายเป็นเหล้า 

จากสิ่งที่ไม่ดีให้กลายมาเป็นสิ่งที่ดีได้

หน้าที่ของเรา ก็คือเราแค่ขอบพระคุณ เราแค่ขอบพระคุณ

หรือถ้าบางคนจะพูดก่อนก็ได้ว่า ข้าวอร่อยเอเมน พระองค์ให้ข้าวอร่อย แม้ว่ามันจะไม่อร่อย พระเจ้าก็เปลี่ยนให้ได้ครับ พระเจ้าก็มองดูเราไร้เดียงสา มองดูเราว่า เออ เรายังเป็นเด็ก เรายังเป็นอะไรอยู่ พระองค์ก็เข้าใจเรา

...

ถาม.

อจ. ค่ะ แล้วถ้าเราขอบพระคุณก่อนทานนะคะ แล้วเราทานไม่หมด อันนี้พระองค์ว่าอะไรไหมค่ะ

ตอบ.

เราก็ต้องค่อยๆ เรียนรู้นะครับว่าเราทานได้มากน้อยแค่ไหน แล้วก็ไม่ต้องตักให้มันเยอะเกินไป เกินที่เราจะทานได้

ถามว่าจะว่าเราไหม ก็คือพระเจ้าไม่ใช่พระเจ้าที่หยุมหยิมอะไร คือเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เพียงแต่ว่าเราขอให้ฝึก ขอให้ดูว่า เรากินได้เท่าไหร่ เราค่อยตักมาเท่านั้น

แต่สิ่งที่สำคัญที่พระเจ้าต้องการให้เราตระหนัก และคิดถึงมากที่สุด ก็คือเรื่องการมองไปที่ “พ่อ” เราทำตัวให้เป็นเหมือนเด็กเล็กๆ ไม่ต้องถือสาใคร ไม่ต้องใส่ใจใคร (ที่เนื้อหนัง) ไม่ต้องไปมองโลกอะไรที่มันเป็นเรื่องเลวร้ายอะไรทั้งหลาย 

เรามองไปที่ “พ่อ” ก็คือพระเยซู เราบอกรักพระเยซู สนิทในพระเยซู โฟกัสที่พระเยซู จดจ่อที่พระเยซู แล้วทุกสิ่งจะดีเอง พระวิญญาณบริสุทธิ์ก็จะสอนเรามากกว่าอาจารย์ Jay สอนเรา เอเมน

อ่านต่อ: ของที่บูชารูปเคารพ เรากินได้ไหม