ถาม.
ขอให้อาจารย์ช่วยอธิบายขยายความเกี่ยวกับเรื่องประเพณีสงกรานต์หน่อยค่ะ เพราะว่ามีพี่น้องมารับมานามใหม่ๆ หลายคนในห้องนี้นะคะ เพราะว่าบางคนอาจจะไม่ได้ไปเพราะประกาศข่าวประเสริฐ แต่จำเป็นต้องไปเพราะว่ามีญาติพี่น้องที่ยังไม่เชื่อ จำเป็นที่ต้องเข้าร่วมเพราะว่าเห็นแก่พ่อแม่พี่น้องเห็นแก่ความสัมพันธ์ในครอบครัว เราทำอะไรได้บ้างมากน้อยแค่ไหน เพื่อไม่ผิดต่อน้ำพระทัยของพระเจ้า อาจารย์ช่วยอธิบายด้วยค่ะเอเมน
ตอบ.
คำตอบสำหรับเด็กในฝ่ายวิญญาณ
ข้อแรกคำตอบข้อแรก ก็คือ เราดูที่ความเชื่อของพี่น้องว่ายังเด็กอยู่ ยังอยู่ในการฝึกเดิน ยังไม่มาถึงระดับหนุ่ม ซึ่งถ้าหากเพื่อนญาติมิตรสหาย ครอบครัวชวนไปเล่นสงกรานต์ไปร่วมกับพวกเขา เราไปได้เราเล่นได้นะครับ แต่ขออยู่อย่างเดียว ก็คืออย่าได้มีส่วนในการทำพิธีทางศาสนา การกราบไหว้อะไรก็แล้วแต่ การพนมมือการกราบไหว้การทำพิธีทางศาสนา อย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยว เพราะว่านี่คือการเล่นชู้กับพระเจ้า การนอกใจพระเจ้า
เรามีพระเจ้าเดียว และเรากราบไหว้นมัสการพระองค์เดียวเท่านั้นเอเมน
สมมุติอยากไปร่วมเราไป อยากไปสนุกกับเขา ไปนะครับ อันนี้คือคำตอบสำหรับเด็กในฝ่ายวิญญาณ หรือเราเพิ่งรับมานาฯ ใหม่ๆ หรือคนที่รับมานามาฯ นานแล้วแต่ยังไม่มาถึงการก่อขึ้นสู่ระดับบุตรระดับหนุ่ม ไปร่วมนะครับ แต่สิ่งที่สำคัญ ก็อธิษฐานไปด้วย แล้วก็สารภาพไปด้วยถ้าหากว่าเราเห็นว่าสิ่งไหนที่เป็นด้านเนื้อหนัง ไปเล่นสงกรานต์ไปรดน้ำไปสนุกกัน ก็คือเราสารภาพแล้วเราขอพระเจ้า ขอเมตตาเรา ซึ่งอันนี้พระเจ้าเข้าใจ
คำตอบสำหรับคริสเตียนระดับหนุ่มและพ่อ
แต่สำหรับคริสเตียนระดับหนุ่มและพ่อ ก็จะไม่สนใจเรื่องนี้เท่าไหร่ เป็นเรื่องที่ไร้สาระ สำหรับผมนะครับไร้สาระ แต่เห็นแก่ญาติ เขาชวนเราไป เราไป เขาให้เราใส่เสื้อใส่เสื้อผ้าเหมือนเขา อ่ะ เพื่อครอบครัวเพื่อการถ่ายรูปเพื่ออะไร ก็โอเคก็อลุ่มอร่วยกันได้
สำหรับคริสเตียนในยุคพระคุณ พระเจ้าไม่ได้เคร่งกับพวกเรา พระเจ้าอลุ่มอร่วย พระเจ้าเข้าใจ ซึ่งบางครั้งอาจจะมีการตีสอนบ้างเล็กน้อยก็ไม่ว่ากัน แต่สิ่งสำคัญก็คือพระเจ้าเข้าใจเราทุกๆ คน อันนี้เป็นสิ่งที่เราควรรู้ เอเมน
ไปร่วมได้ ไปเล่นได้ ไปกับเขาได้ ไปสนุกได้ แต่ขออย่ายุ่งเกี่ยวกับพิธีทางศาสนา การกราบไหว้พระอื่นเท่านั้นก็พอ เพราะว่าสงกรานต์เรารู้กันดีใช่ไหมว่าเป็นเรื่องของศาสนาพุทธ เป็นงานหลักของศาสนาทุกๆ ปีเขาต้องทำกัน อาจจะเพื่อสะสางชำระล้างความผิดความบาป สิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายโชคร้ายอะไรทั้งหลายให้มันหายไป ก็เลยไปทำพิธีอะไรเยอะแยะใช่ไหม แล้วก็มีการรดน้ำเพื่อล้างมลทินล้างความไม่สะอาดอะไร ออกไปให้หมดจากชีวิต
แต่สำหรับเราเรารู้ดีว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เขาทำกันมาตั้งนาน แต่เป็นสิ่งที่ไม่ได้ถูกต้องตามน้ำพระทัยของพระเจ้า
มีสิ่งเดียวเท่านั้นที่จะลบล้างมลทินชีวิตเก่า ความผิดบาปทั้งหลาย ก็คือพระโลหิตของพระเยซู
ถาม.
อยากให้อาจารย์ขยายเรื่องการรดน้ำดำหัวขอขมาผู้ใหญ่ด้วยค่ะ เพราะว่ามีพี่น้องหลายคนถามมาว่า เราเป็นคริสเตียนเราสามารถรดน้ำดำหัวพ่อแม่ ปู่ย่าตายายได้ไหม เพราะว่ามันอยู่ในเทศกาลสงกรานต์ด้วยค่ะ
แล้วเราเป็นคริสเตียน ถ้าเราไม่ร่วม เราจะมีคำพูดแบบไหนดีที่จะไม่ทำร้ายจิตใจของผู้ใหญ่ที่เราเคารพมานานค่ะ เอเมน
ตอบ.
คำตอบก็เหมือนเดิมนะครับ คริสเตียนที่ยังเด็กอยู่ เราทำนะครับเพื่อเห็นแก่ครอบครัว แล้วก็เพื่อความเคารพพ่อแม่
แต่สำหรับผม ผมเองนะครับ สำหรับผมคือผมก็ถ่ายรูปให้ญาติให้ครอบครัว ซึ่งทุกๆ ปีที่ผ่านมาผมก็ทำ เป็นคนถ่ายรูปให้ ตอนแรกๆ แม่และน้องๆ ก็อยากให้ทำ แต่ผมก็อธิบายนะครับ อธิบายเหมือนที่ผมเคยพูดกับพวกเรา อธิบายด้วยเหตุผลด้วยความรักด้วยความจริงใจ ก็อยากทำนะแต่ทำไม่ได้อยากทำใจจะขาด อยากทำเพราะว่าเพื่อแสดงความเคารพ
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมจะทำมากกว่าการแสดงความเคารพปีละครั้ง ก็คือผมทำทุกสิ่งให้คุณแม่และทุกคนพอใจมีความสุข ไม่สร้างความเดือดร้อน แล้วก็ให้ประโยชน์ทำดีกับทุกๆ คนช่วยเหลือทุกๆ คน คือไม่ทิ้งใครดูแลทุกๆ คน
ก็อธิบายนะครับ หลังจากนั้นปีต่อมาและทุกๆ ปีผ่านไป เขาไม่ได้บอกให้ผมทำ ผมก็แค่เป็นคนถ่ายรูปให้ เพื่อแสดงความรักบ้างหรือให้เขาเห็นว่าเราไม่ได้ทิ้งเขาไม่ได้ตัดเขาไป ก็ไปอยู่ไปร่วมกับเขาไปอยู่บ้านหลังนั้น อันนี้เป็นสิ่งที่ผมทำนะครับ
แต่ถ้าหากเราเห็นว่ายังมาถึงจุดนี้ยังไม่ได้ เดี๋ยวกลัวเขาจะเกลียดเราเขาจะไม่พอใจ ก็ทำครับก็ทำ ก็แสดงความเคารพกับพ่อกับแม่ แต่เราไม่ถือว่าเป็นพิธีทางศาสนาอื่น แต่เราถือว่าเราทำเพื่อเคารพพ่อแม่ ก็ล้างเท้าให้ท่าน หรืออวยพรให้ท่าน แต่อย่าเอ่ยถึงชื่อพระอื่นก็พอ บอกว่า เออ ขอให้พระองค์นี้พระองค์นั้นมาอวยพร ขอให้ชีวิตอยู่ภายใต้การดูแลของผีพ่อผีแม่ พระนู่นนี่นั่น อันนี้เราไม่พูด
เราพูดว่า..ถ้ากล้านะครับ เราพูดว่า ขอพระเจ้าอวยพรท่านให้อายุยืน อวยพรท่านให้มีสุขภาพแข็งแรง อะไรประมาณนี้ เราทำได้ครับผม
อันนี้คือคำตอบสำหรับคริสเตียนที่ยังอยู่ในระดับเด็ก
แต่มาถึงจุดที่เป็นพ่อหรือเป็นหนุ่ม เราหาวิธีหลีกเลี่ยงนะครับ เพราะว่าสิ่งสำคัญเมื่อผมอธิบายคำสรุปเมื่อกี้ ข้อที่ 5 คืออะไรครับ เปาโลบอกว่าถ้าเป็นที่ชอบพระทัยพระเจ้า สิ่งนี้สำคัญมากสำหรับคริสเตียนพวกเรา เราทำในสิ่งที่เป็นที่ชอบพระทัยของพระเจ้า
ถ้าไม่อยากร่วมจริงๆ นะครับถ้าเป็นคริสเตียนที่ยังเด็กอยู่และกลัวว่าพ่อแม่ญาติเราจะเสียใจจะไม่ชอบเราจะเกลียดเรา เราอธิษฐานนะครับ เราอธิษฐานขอทางออกจากพระเจ้า สำหรับพระเจ้าในพระเจ้าไม่มีทางตัน พระเจ้าจะเปิดทางจะแก้ไขจะหาวิธีทางเพื่อไม่ให้ใครเกลียดเราและเพื่อให้พระเจ้าชอบพระทัยด้วย เป็นไปได้ เอเมน
“คือพระองค์เจ้าข้า ข้าพระองค์ไม่อยากร่วม” แต่ในใจนะครับ ถ้าเราคิดอยากร่วมเพราะมันสนุก หรือมันเป็นสิ่งที่เราเคยทำมา ก็ทำไปนะครับ แล้วสารภาพต่อพระเจ้า
แต่ถ้าหากเราไม่อยากร่วมจริงๆ เราบอกว่า เออ นี่มันน่าจะไม่ใช่สิ่งที่พระเจ้าพอพระทัย เราก็บอกว่า..
“พระบิดา ขอพระองค์เปิดทาง ขอพระองค์หาวิธี ที่จะไม่ให้ข้าพระองค์ได้ร่วม ได้มีส่วนกับสิ่งนี้”
พระเจ้าก็จะช่วยเรา เพราะว่าพระเจ้าก็รออยู่ที่จะช่วย เมื่อเราขอการช่วยเหลือจากพระองค์ เอเมน
ถาม.
ขอถามอาจารย์ค่ะ เมื่อวานเขามีเล่นสงกรานต์แล้วหน้าบ้านเขาจะแห่มีรถแห่ แต่ว่าดิฉันเองก็ถ่ายรูปนะแต่ว่าไม่ได้เข้าไปร่วมกับเขา แต่ถ่ายรูปเพื่อน้องสาวอยากให้ถ่ายให้เขาอะไรประมาณนั้น แต่ก็ถ่ายแต่ไม่ได้เข้าไปร่วมกับเขาเลยเพราะว่าใจไม่ได้อยากเข้าไปร่วมกับเขาแต่ว่าถ่ายรูปได้ ก็ขอบคุณพระเจ้า
แต่ว่าอยากถามอาจารย์อีกเรื่องหนึ่ง คื เป็นรถแห่มันมีรถพระ พระพุทธรูปแล้วก็พระแบบเป็นคนด้วยนะคะอยู่ในรถน่ะ แล้วพระเขาฉีดน้ำใส่ดิฉัน แต่ว่าดิฉันก็ไม่ได้ยกมือไหว้อะไรนะ แต่ดิฉันก็ถ่ายรูปอะไรประมาณนั้น มันผิดไหมค่ะอาจารย์
ตอบ.
สำหรับเราที่เป็นคริสเตียนที่เป็นมนุษย์วิญญาณ อันนี้พูดตามตรงนะครับ เรามองว่าพระก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง เป็นคนๆ หนึ่ง เราไม่ได้มองเขาว่าเป็นพระ แล้วสิ่งที่เขารดน้ำใส่เราหรืออวยพรเรา เราก็แค่ยกมือแค่นั้นเองแล้วก็ยิ้ม ไม่ต้องขอบคุณหรือไม่ต้องอะไร ก็แค่นั้น
มันก็จะไม่มีผล ไม่มีผลสำหรับเรานะครับ พอน้ำมันโดนเราเนี่ยหลายคนคิดว่าจะเป็นอะไรไหม ซาตานจะเข้าสิงเราไหม หรือแตะเราได้ไหม ไม่นะครับ เพราะว่าเขาทำแล้วเราเองก็ไม่ได้ตั้งใจให้ทำ มันโดนเรา แล้วเขาอยากทำให้เรา เราก็แค่ยิ้มนะครับ แสดงความเป็นมิตรกับเขา แค่นั้นเอง
แต่เราไม่ถือไม่มองว่าเขาเป็นพระและไม่มองว่าน้ำที่เขาสาดใส่เรา อาจจะเป็นน้ำอะไรก็แล้วแต่เขาเรียกน้ำมนต์ใช่ไหม เราถือว่าเป็นน้ำธรรมดาเป็นสิ่งธรรมดา ไม่ได้มีผลอะไรกับชีวิตของเรา แค่นั้นครับ
การได้อยู่ใกล้ชิดกับพระหรือคนที่เขาเรียกว่าคนผู้ศักดิ์สิทธิ์หรือสิ่งไหนที่เขาถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สำหรับเราที่เป็นมนุษย์วิญญาณเราเป็นบุตรพระเจ้า เราถือว่ามันเป็นสิ่งของเป็นวัตถุ เป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง ถ้าเป็นคนนะครับถ้าเป็นพระ แต่ส่วนเรื่องพระเรื่องอะไรสิ่งของเนี่ย ก็คือเราถือว่ามันเป็นวัตถุสิ่งของ ไม่ได้มีผลไม่ได้ศักดิ์สิทธิ์สำหรับเรา เอเมน
ถาม.
อาจารย์ค่ะขออนุญาตถามค่ะเรื่องการรดน้ำดำหัวผู้หลักผู้ใหญ่ อย่างเช่นดิฉันก็เกิดความรู้สึกแบบ คือโดยที่ไม่เข้าใจนะคะ เมื่อก่อนก็รู้สึกฟ้องผิดนะคะ แต่ว่าในใจในการกระทำของดิฉันก็คือเหมือนกับว่าทุกๆ ปีญาติพี่น้องก็ต้องรดน้ำให้พ่อแม่ให้คนเฒ่าคนแก่คือญาติๆ ของเรา แล้วทีนี้ในใจดิฉันก็เหมือนอย่างที่อาจารย์แบ่งปันนะคะว่า เราไม่ได้คิดว่าเป็นพิธี เราคิดว่าน้ำก็คือน้ำ แต่ว่าก็เอาไปรดพ่อกับแม่ค่ะ แล้วก็ทางครอบครัวก็เข้าใจว่าดิฉันเชื่อพระเจ้า แต่ดิฉันก็มีการเอ่ยบอกเขาว่า ขอพระเจ้าอวยพระพรนะคะพ่อแม่ตายายพี่สาวพี่เขย ก็พูดไปแบบเนี้ยค่ะ แต่ในใจเราไม่ได้แบบคิดว่ากราบไหว้รูปเคารพหรืออะไร ทำพิธีอะไร มันไม่ผิดใช่ไหมค่ะ แต่มันจำเป็นนะคะทุกปีค่ะ
ตอบ.
เมื่อเราใช้คำว่า ขอพระเจ้าอวยพระพร เป็นสิ่งที่ดีมากๆ เป็นสิ่งที่เราควรทำ และเราอย่าถือว่าเราไปร่วมเป็นพิธีทางศาสนาหรือเป็นกฎเกณฑ์หรือเป็นข้อบังคับ แต่เราทำด้วยความพอใจ เพื่อแสดงความเคารพพ่อแม่ของเรา และใช้คำว่า พระเจ้าอวยพร อันนี้ดีครับ ได้ครับ
เปาโลยอมทำทุกสิ่ง เข้าร่วมประเพณีวัฒนธรรมของยิว เพื่อเห็นแก่การประกาศข่าวประเสริฐ และเรานะครับทำทุกสิ่งได้กับคนที่ไม่ได้เชื่อ อย่างที่ผมพูดนะครับขอแค่อย่าแตะคำว่าการกราบไหว้พระอื่น การมีส่วนในพิธีทางศาสนา แค่นั้นก็พอครับ
ถาม.
ใช่ค่ะแล้วเขาก็อวยพรเรากลับอ่ะค่ะ แต่การอวยพรของเขาของญาติพี่น้องของพ่อแม่ของพี่สาวพี่เขยเขาก็อวยพรเรากลับเหมือนกัน เขาบอกว่า หนูเชื่อพระเจ้าก็ขอพระเจ้าปกปักรักษาปกป้องคุ้มครองหนูนะอะไรแบบเนี้ยค่ะ เขาก็ไม่ได้อวยพรแบบพระของเขา แต่เขาแบบอวยพรเรากลับคือเอ่ยถึงพระเยซูของเราอ่ะค่ะ เอเมน
ตอบ.
เรายิ้มรับแล้วเราขอบคุณเขานะครับ ก็แค่นั้น
สำหรับเราภายในจิตใจของเรา เราทำเนี่ยเราบอกว่าอันนี้ไม่ได้ทำเป็นพิธีทางศาสนา และไม่ได้ทำในลักษณะของประเพณีวัฒนธรรมของชาติหรือศาสนาอื่น
แต่เราทำเพื่อเห็นแก่พ่อแม่ของเรา ครอบครัวคนในครอบครัวของเรา แค่นั้นได้ครับผมไม่เป็นไร
คนที่จะอวยพรเรา หรือจะอวยพรให้พระอื่นมาอวยพรเราโดยเอ่ยถึงนามพระอื่น เราแค่ยิ้มนะครับ เรารู้ว่ามันไม่ได้มีผลอะไรกับชีวิตของเรา พระจะอวยพรเรา หรือพ่อแม่จะอวยพรเราโดยใช้นามของพระอื่น มันไม่มีผลอะไรแล้ว
พระเจ้าเป็นคนดูแลเป็นคนทำให้เราอยู่ในแผนการงานของพระองค์ จะดีจะร้ายจะได้รับพรจะได้รับบำเหน็จหรือไม่ หรืออาจจะเจอมรสุมยังไงก็แล้วแต่ อยู่ที่แผนการงานของพระเจ้าทั้งหมด
คำอวยพรของมนุษย์นะครับไม่มีผล แต่ถ้าเขาจะพูดว่าขอพระเจ้าอวยพรคุณ ก็ยิ้มนะครับก็ยิ้มรับก็ขอบคุณเขาแค่นั้นเอง เอเมน
ถาม.
อยากให้อาจารย์เสริมอีกนิดนึงค่ะพอดีมีพี่น้องคริสเตียนที่รับมานาแล้วแต่ยังไปคริสตจักรเดิมอยู่ค่ะ ก็ช่วงนี้เป็นช่วงที่ในคริสตจักรเขาจะทำพิธีรดน้ำดำหัวอย่างเนี้ยค่ะ เราซึ่งได้รับการเปิดตาในฝ่ายวิญญาณแล้ว ก็สามารถทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหน อาจารย์ช่วยอธิบายด้วยค่ะ
ตอบ.
อย่างที่ผมพูดนะครับ ถ้าหากว่าเราเพิ่งรับมานาฯ และเราเห็นว่าเป็นสิ่งที่เราควรจะทำกับคริสตจักร ก็ทำ ขอเพียงแต่ว่าเราอย่าถือว่าเป็นกฎเกณฑ์ที่เราต้องทำหรือเป็นข้อบังคับที่เราจะต้องทำ เราถือว่าเราทำเพื่อการสนิทสนม เพื่อการสร้างความผูกพันกับพี่น้องในคริสตจักร
ซึ่งการรดน้ำดำหัวนะครับ ไม่มีผลอะไรต่อเรื่องฝ่ายวิญญาณ แต่เป็นเรื่องของการแสดงความเคารพต่อกันและกัน
ถ้าทำในคริสตจักร ถ้าไม่มีพ่อแม่เรานะครับ ถ้าหากเราหลีกได้หลีกเลี่ยงได้ ก็อธิษฐานขอพระเจ้าให้มีทางออก ให้หลีกเลี่ยงไม่ไปร่วมไม่ทำ
การรดน้ำดำหัวนะครับ ถ้าจะทำ ก็คือทำกับพ่อแม่ หรือผู้ใหญ่ที่เราอาจเห็นว่าสำคัญ เป็นบุคคลที่สำคัญสำหรับเรา
ส่วนการทำในคริสตจักรนะครับ ถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็หลีกเลี่ยงครับ ก็ขอพระเจ้านำเรา เอเมน
“คือสิ่งที่คุณแม่และน้องๆ ผม ถ้าเขาพูดผมรู้ดีนะครับ เขาจะพอใจในชีวิตเรามากกว่าการแสดงความเคารพปีละครั้ง อันนี้เป็นสิ่งที่เรามนุษย์รู้กันดีใช่ไหม แต่มนุษย์เนี่ยก็คือเขาชอบเป็นพิธีชอบในลักษณะของเป็นประเพณีที่ควรจะทำ ก็คือทำให้เขาดีใจใช่ไหม
แต่ความเป็นจริงนะครับ คือผมใช้คำอธิบายและใช้คำพูดที่เหมาะสม ก็ขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์นำให้ได้พูดและเขาเองก็เข้าใจ
เพราะฉะนั้นทุกคนรู้ดีเข้าใจดีว่า เออ เห็นผลที่เราทำกับเขา เห็นความดี เห็นสิ่งที่เราทำกับเขาอยู่ มันเป็นสิ่งที่เขาได้รับผลดีจากเรา เขาพอใจในชีวิตของเรา คำพูด ความรัก การทำดีกับเขา มันมาแทนการรดน้ำดำหัวปีละครั้งตั้งหลายเท่า เอเมน”
เพราะฉะนั้นเราอธิบาย เราพูดนะครับว่า สิ่งนี้เราไม่ทำแล้ว เราขอหลีกเลี่ยง แต่ว่าความรักความผูกพันการเคารพพ่อแม่ญาติพี่น้องผู้ใหญ่ เรายังทำเหมือนเดิมและทำมากกว่าเก่า
แต่ถ้าสมมุติว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ หรือเราเห็นว่าควรจะทำ ก็ทำนะครับ แต่ขอให้สารภาพ สารภาพกับพระเจ้า
คริสตจักรทุกวันนี้อย่างที่ผมพูด ก็คือศาสนาคริสต์แล้ว เป็นศาสนาไปแล้ว ซึ่งจะนำประเพณีวัฒนธรรม ความรู้คำสอนมากมายจากชาวโลกเอาเข้ามาในคริสตจักร เราไม่แปลกใจว่าทำไมทุกวันนี้ซาตานครอบครองคริสตจักรได้ เพราะว่าเรานำสิ่งที่เป็นของเก่า นำสิ่งที่เป็นของศาสนาอื่น นำสิ่งที่เป็นของโลกเข้ามาในคริสตจักร จึงเรียกว่าคริสตจักรชาวโลก เพราะฉะนั้นคริสตจักรชาวโลก ก็คือ เป็นอยู่ภายใต้การดูแลการปกครองของซาตาน
ถ้าหลีกได้จริงๆ นะครับถ้าหลีกได้จริงๆ ก็หลีกเลี่ยง