"ความเชื่อที่ตายแล้ว dead faith"
2:14 มันเป็นประโยชน์อะไรเล่า พี่น้องของข้าพเจ้า ถึงแม้ว่าคนใดกล่าวว่าตนมีความเชื่อ และไม่มีการกระทำ ความเชื่อจะช่วยคนนั้นให้รอดได้หรือ
** การกระทำ ในที่นี้ ไม่ใช่การรักษาพระบัญญัติ แต่คือการอยากเติบโต อยากรู้จักพระเจ้ามากขึ้น อยากไปร่วมกับพี่น้องนมัสการพระเจ้า อยากรับใช้ อยากเลิกทำบาป อยากช่วยเหลือพี่น้องผู้เชื่อ และคนยากจนขัดสน (ดูข้อที่ 15-16) ซึ่งเหล่านี้คือการกระตุ้นของพระวิญญาณในวิญญาณของเรา
2:15 ถ้าพี่น้องชายหรือหญิงคนใดเปลือยเปล่า และขาดแคลนอาหารประจำวัน
2:16 และคนหนึ่งคนใดในพวกท่านกล่าวแก่เขาเหล่านั้นว่า “จงออกเดินทางไปโดยสันติสุขเถิด พวกท่านจงอบอุ่นและอิ่มเถิด” อย่างไรก็ตามพวกท่านไม่ได้ให้สิ่งเหล่านั้นซึ่งจำเป็นต่อร่างกายแก่พวกเขา สิ่งนั้นจะเป็นประโยชน์อะไรเล่า
2:17 เช่นนั้นแหละ ถ้าความเชื่อไม่มีการกระทำ มันก็ตายเสียแล้ว โดยอยู่เพียงลำพัง
** ความเชื่อที่ไม่มีการกระทำเหมือนดั่งในคำอธิบายในข้อที่ 14 เรียกว่าความเชื่อที่ตายแล้ว dead faith
ความหมาย คือได้เชื่อและเปลี่ยนศาสนาเป็นคริสต์ แต่ไม่สนใจอยากเรียนรู้พระคำพระเจ้า ไม่อยากเลิกทำบาป ไม่ร้องให้เสียใจที่เขาเป็นคนบาป และทราบซึ้งถึงพระคุณพระเจ้าที่ได้ช่วยเขาโดยการตาย และทนทุกข์ทรมานของพระเยซูคริสต์ ไปโบสถ์ก็ได้ ไม่ไปก็ได้ ใช้ชีวิตเหมือนชาวโลกทั่วไปเหมือนเดิมหลังเชื่อ ไม่แสวงหา ไม่สนใจใครจะเดือดร้อนหรือจะเป็นจะตาย
สรุปก็คือเขาไม่ได้บังเกิดใหม่อย่างแท้จริง
2:18 ใช่แล้ว คนหนึ่งอาจกล่าวว่า “ท่านมีความเชื่อ และข้าพเจ้ามีการกระทำ” จงแสดงความเชื่อของท่านที่ปราศจากบรรดาการกระทำของท่านให้ข้าพเจ้าเห็น และข้าพเจ้าจะแสดงให้ท่านเห็นความเชื่อของข้าพเจ้าโดยบรรดาการกระทำของข้าพเจ้า
** เมื่อเปาโลกลับใจเชื่อและต้อนรับองค์พระเยซูคริสต์เป็นพระเจ้าและพระผู้ช่วยให้รอดของท่าน ท่านยังทำบาปอีกนานหลายปี ท่านไม่ได้รักษาพระบัญญัติใหม่ของพระเยซูอย่างครบถ้วนได้ แต่ท่านมีการกระทำอยู่อย่างหนึ่ง ซึ่งก็คือท่านอยากเติบโต ท่านอยากรู้ข่าวประเสริฐทุกเรื่อง อยากรับใช้ อยากเลิกทำบาป และอยากวิ่งแข่งเพื่อเข้าอาณาจักรให้ได้ นี้คือความเชื่อที่สำแดงการกระทำออกมา
2:19 ท่านเชื่อว่ามีพระเจ้าองค์เดียว ท่านก็กระทำดีอยู่แล้ว พวกผีปีศาจก็เชื่อเช่นกัน และตัวสั่น
** สำหรับคริสเตียน เราเชื่อว่ามีพระเจ้าและยังต้อนรับพระองค์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเรา และยอมที่จะดำเนินชีวิต และรับใช้พระเจ้าตามน้ำพระทัยของพระองค์ ไม่ใช่ว่าเชื่อว่า พระเจ้ามีจริง เท่านั้น
2:20 แต่ท่านอยากทราบไหม โอ คนไร้ค่า ว่าความเชื่อที่ปราศจากบรรดาการกระทำก็ตายเสียแล้ว
** คนที่ไม่เชื่อเรียกว่าคนตาย ทุกสิ่งที่ดีที่เขากระทำเรียกว่าการกระทำดีที่ตายแล้ว และเมื่อเขานับถือศาสนาคริสต์เพราะเขาเชื่อ ก็เป็นเพียงความเชื่อที่ตายแล้ว เขาไม่ได้บังเกิดใหม่ และจะไม่รอดเป็นอันขาด
...
1. เชื่อแต่ไม่มีผลของชีวิตใหม่เลย คือความเชื่อที่ไม่ได้บังเกิดใหม่ ไม่มีอาการหิวกระหาย ไม่เรียนรู้ ไม่อ่าน ไม่อธิษฐาน ไม่ช่วยเหลือคนยากจนขัดสน (ยก 2:14-16) ไม่เกิดผลของพระวิญญาณบ้าง ความเชื่อนี้ เรียกว่าความเชื่อที่ตายแล้ว
- ยากอบไม่ได้กล่าวว่าต้องรักษาพระบัญญัติให้ครบ หรือดีรอบคอบ จึงจะได้รอด หรือต้องทำตามผู้นำสั่งให้ทำจึงรอด แต่ท่านกล่าวว่าต้องมีผลของชีวิตใหม่ ท่านยังต่อต้านพวกที่พยายามรักษาพระบัญญัติเพื่อให้ได้รอด ท่านบอกว่าถ้าจะรักษา ต้องรักษาให้ครบสิ ถ้าไม่อย่างนั้น สิ่งที่ทำได้เก้าข้อ แต่ผิดข้อเดียวก็ไม่มีความหมายอะไร เพราะพระเจ้าทรงนับว่าผิดทั้งหมด (ยก 2:10)
อีกอย่าง ยากอบเน้นถึงเรื่องการดำเนินชีวิตที่ดีพร้อมซึ่งเป็นเรื่องของการได้เข้าอาณาจักรสวรรค์ ไม่ใช่รอดในวันสุดท้าย
...
2. เมื่อไหร่ที่เราอ่านเจอ เชื่อเท่านั้นก็ได้รอด คือหลักการแห่งความรอดในวันสุดท้าย (แต่เชื่อนี้ต้องมีผลของชีวิตใหม่บ้าง) ทำบาปมากมายก็ยังจะรอด (1 คร 3:12-15 / 5:5) เพราะยุคนี้พระเจ้าทรงประทับบนพระที่นั่งแห่งพระคุณ ทรงเทความรักและพระคุณมากมายลงมายังโลกมนุษย์ (ยน 1:17)
...
3. เมื่อไหร่ที่เราอ่านเจอ เชื่อเท่านั้นไม่พอ ความชอบธรรมต้องเหนือกว่าฟาริสีและธรรมาจารย์ คือหลักการแห่งความรอดเข้าไปในอาณาจักร คือเพื่อตำแหน่งการครอบครอง
- แต่ความชอบธรรมที่เหนือกว่าฟาริสีนี้จะต้องให้พระคริสต์ในเราเป็นคนทำ ไม่ใช่เราทำเอง