อย่ามองที่มนุษย์หรือปัญหา คุณจะจมน้ำตาย

ถามว่ามนุษย์เดินบนน้ำได้ไหม ไม่มีใครเดินได้ แต่พระเยซูคนเดียวในพระคัมภีร์บันทึกไว้ว่าพระเยซูเดินได้ รู้ได้ยังไงพระเยซูเดินได้ ?

"พระเยซูเป็นพระเจ้า"

เราเห็นว่า 33 ปีกว่า แล้วก็แยกออกมาเป็น 3 ปีกว่าที่พระเยซูทำงาน พระเยซูทำการอัศจรรย์ พระเยซูทำอิทธิฤทธิ์มากมาย พระเยซูทำปาฏิหาริย์ที่หลายคนทำไม่ได้ คนที่เป็นโรค เป็นโรคเรื้อน เป็นโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ มาหาพระเยซู พระเยซูรักษาให้หายทุกคน ในพระคัมภีร์บันทึกไว้ว่าพระเยซูรักษาให้หายได้ทุกคนเลยไม่มีแม้แต่คนเดียวเลยที่ไม่หาย

แล้วพระเยซูทำการอัศจรรย์ คือ คนตายแล้วพระเยซูก็ปลุกขึ้นมาให้มีชีวิตใหม่ได้ แล้วพระเยซูทำอีกหลายอย่างและครั้งสุดท้ายวันนั้นเป็นวันที่พระเยซูหักขนมปัง 5 ก้อน พระเยซูหักออกมาเป็น 5,000-7,000 ก้อนแล้วก็แจกให้ทุกคนกิน สุดท้ายพอตกค่ำพระเยซูเดินบนน้ำ

อันนี้เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ แต่ถามว่าเราเชื่อได้ไง เราเชื่อเพราะว่าคัมภีร์บันทึกไว้ เราเชื่อ

...

พระเยซูดำเนินบนน้ำ (มัทธิว 14:22-27)

14:22 ในทันใดนั้นพระเยซูได้ตรัสให้เหล่าสาวกของพระองค์ลงเรือข้ามฟากไปก่อน ส่วนพระองค์ทรงรอส่งประชาชนกลับบ้าน

14:23 และเมื่อให้ประชาชนเหล่านั้นไปหมดแล้ว พระองค์เสด็จขึ้นไปบนภูเขาโดยลำพังเพื่อจะอธิษฐาน เวลาก็ดึกลง พระองค์ยังทรงอยู่ที่นั่นแต่ผู้เดียว

14:24 แต่ขณะนั้นเรืออยู่กลางทะเลแล้ว และถูกคลื่นโคลงเพราะทวนลมอยู่

14:25 ครั้นเวลาสามยามเศษ พระเยซูจึงทรงดำเนินบนน้ำทะเลไปยังเหล่าสาวก

14:26 เมื่อเหล่าสาวกเห็นพระองค์ทรงดำเนินมาบนทะเล เขาก็ตกใจนัก พูดกันว่า "เป็นผี" เขาจึงร้องอึงไปเพราะกลัว

14:27 ในทันใดนั้นพระเยซูตรัสกับเขาว่า "จงชื่นใจเถิด คือเราเอง อย่ากลัวเลย"

เปโตรสงสัยและจมลง (มัทธิว 14:28-33)

14:28 ฝ่ายเปโตรจึงทูลตอบพระองค์ว่า "พระองค์เจ้าข้า ถ้าเป็นพระองค์แน่แล้ว ขอทรงโปรดให้ข้าพระองค์เดินบนน้ำไปหาพระองค์"

14:29 พระองค์ตรัสว่า "มาเถิด" เมื่อเปโตรลงจากเรือแล้ว เขาก็เดินบนน้ำไปหาพระเยซู

14:30 แต่เมื่อเขาเห็นลมพัดแรงก็กลัว และเมื่อกำลังจะจมก็ร้องว่า "พระองค์เจ้าข้า ช่วยข้าพระองค์ด้วย"

14:31 ในทันใดนั้นพระเยซูทรงเอื้อมพระหัตถ์จับเขาไว้ แล้วตรัสกับเขาว่า "โอ คนมีความเชื่อน้อย เจ้าสงสัยทำไม"

14:32 เมื่อพระองค์กับเปโตรขึ้นเรือแล้ว ลมก็เงียบลง

14:33 เขาทั้งหลายที่อยู่ในเรือจึงมานมัสการพระองค์ทูลว่า "พระองค์ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้าจริงแล้ว"

...

เรื่องนี้สอนพวกเราอย่างหนึ่งคือ การเชื่อในพระเยซูต้องเชื่อให้มันสุดๆ เชื่อในพระเยซูต้องเชื่อมั่นอย่างตายใจ อย่าสงสัย อย่ากลัว พอเปโตรเชื่อว่าพระเยซูเดินบนน้ำได้และเชื่อว่าพระเยซูเรียกมาก็เดินไปแล้วก็เหยียบน้ำได้ เหยียบอยู่บนพื้นน้ำได้ แต่ความกลัว ความกังวล กระวนกระวาย ทำให้เขาจมลงน้ำ

การเชื่อในพระเยซูต้องเชื่อมั่น ต้องเชื่ออย่างตายใจ อย่าหวั่นไหว อย่าท้อ อย่ามองที่ทะเล อย่ามองที่ปัญหา อย่ามองที่มรสุมชีวิต อย่ามองที่ ที่อยู่รอบข้างเรา แต่มองไปที่พระเยซูแล้วคุณจะเดินไปถึงที่พระเยซูได้

ทุกวันนี้คริสเตียนมากมายไปไม่ถึงพระเยซูเพราะว่าเขากลัว เขาห่วง เขากังวล เขากระวนกระวาย เขากลัวมรสุมชีวิต เขามองที่อื่น เขาไม่ได้มองที่พระเยซู

เพราะฉะนั้นเราขอบคุณพระเจ้าที่เรารู้ความจริง เรารู้เคล็ดลับว่าการที่จะสำเร็จในชีวิตของเราทุกด้านทุกฝ่ายทุกสิ่ง ก็คือการวางใจที่พระเยซูและเดินไปมองที่พระเยซูอย่ามองใคร

อันนี้ไม่มีความหมายฝ่ายวิญญาณ แต่เป็นบทเรียนที่พระเยซูต้องการสอนเราเรื่องเชื่อ และวางใจในพระเยซูอย่างตายใจ เราต้องเชื่ออย่างตายใจ เราอยากเห็นการทำงานของพระเจ้าเราต้องเชื่ออย่างตายใจ เราอยากให้ชีวิตของเราประสบความสำเร็จได้ไปถึงเป้าหมายได้ เราต้องเชื่ออย่างตายใจ