17:7 ในพวกท่านมีคนใดที่มีผู้รับใช้ไถนาหรือเลี้ยงแกะ เมื่อผู้รับใช้คนนั้นกลับมาจากทุ่งนาจะบอกเขาทีเดียวว่า ‘เชิญเอนกายลงรับประทานเถิด’
17:8 หรือจะไม่บอกเขาว่า ‘จงหาให้เรารับประทานและคาดเอวไว้ปรนนิบัติเรา จนเราจะกินและดื่มอิ่มแล้ว และภายหลังเจ้าจงค่อยกินและดื่มเถิด’
17:9 นายจะขอบใจผู้รับใช้นั้นเพราะผู้รับใช้ได้ทำสิ่งต่างๆ ตามคำสั่งหรือ เราคิดว่าไม่
** ทาส ต้องทำงานในทุ่งนา ไถนาเลี้ยงแกะ พอเสร็จจากงานก็ต้องกลับเข้าบ้านและปรนิบัตินายต่อ คือดูแลใส่เสื้อผ้าและคาดเอวให้นายทั้งหาอาหารมาวางไว้บนโต๊ะและรอให้นายกินเสร็จทาสจึงกินได้แต่ห้ามกินที่โต๊ะของนาย
17:10 ฉันใดก็ดี เมื่อท่านทั้งหลายได้กระทำสิ่งสารพัดซึ่งทรงบัญชาไว้แก่ท่านนั้น ก็จงพูดด้วยว่า ‘ข้าพเจ้าทั้งหลายเป็นผู้รับใช้ที่ไม่มีบุญคุณต่อนาย ข้าพเจ้าได้กระทำตามหน้าที่ซึ่งข้าพเจ้าควรกระทำเท่านั้น’
** คำว่า ทาส ในสมัยก่อนที่ประเทศอิสราเอลจะทำงานหนักมาก เพราะว่าถูกซื้อมาเพื่อทำงาน และปรนนิบัติเจ้าของบ้านโดยเฉพาะ เขาต้องทำงานที่ทุ่งนาทำไร่ไถนาเลี้ยงแกะเมื่อเสร็จจากงานก็ต้องเข้ามาบ้านปรนนิบัติเจ้าของบ้าน ทำอาหาร ทำงานบ้าน และสวมเสื้อให้นายทุกสิ่งเหล่านี้เขาไม่ได้เต็มใจทำและไม่ได้พอใจ ในชีวิตประจำวันของเขาเนื่องจากว่าเขาทำตามหน้าที่เพราะว่าถูกซื้อมา
แต่ขอบคุณพระเยซู คำว่า "ทาส" ถูกใช้ในพระคัมภีร์ใหม่ และเราทั้งหลายควรจะเป็นทาสของพระเยซูซึ่งพระเยซูเป็นนายที่ซื้อเราเป็นเจ้าของชีวิตเราที่รักเรามากจนตายแทนเราได้และไม่ข่มเหงใช้งานเราตั้งแต่เช้าจนค่ำและงานก็ไม่หนัก
เนื่องจากว่านายคนนี้เข้ามาอยู่ในเราและทำแทนเราทั้งหมดเราเป็นผู้รับใช้หรือเป็นทาสที่ไม่มีประโยชน์เป็นทาสที่ไม่เหมาะสมกับงานเป็นทาสที่ใช้การไม่ได้
แต่พระเยซูก็เลือกเราและให้เราทำเท่าที่เราควรกระทำหรือเท่าที่เราทำได้ เหมือนอย่างที่ พระเยซูถามเปโตรว่าเจ้า "อากาเป" เราหรือ เปโตรตอบว่า ข้าทำได้แค่รักแบบเพื่อนสหาย คือ "ฟิเลโอ" พระเยซูจึงตรัสว่า ไม่เป็นไรทำได้แค่ไหนก็ทำจงดูแลแกะของเราเถิดแล้วหลังจากนั้น พระเจ้าก็เปลี่ยนก่อสร้างแก้ไข ชีวิตของเปโตร ให้เกิดประโยชน์มากมาย
ในข้อที่ 10 คำว่าข้าพเจ้าทั้งหลายเป็นบ่าวที่ไม่มีบุญคุณต่อนาย ควรจะแปลว่า ข้าพเจ้าทั้งหลายเป็นบ่าว ที่ไม่เกิดประโยชน์ หรือ ไม่มีประโยชน์ หรือไม่มีคุณภาพ ต่อนาย ข้าพเจ้าได้กระทำตามหน้าที่ซึ่งควรกระทำเท่านั้น เราจะเห็นภาพที่ชัดเจนมากกว่า เพราะว่าพระเจ้าทรงเลือกคนที่โลกเห็นว่าไม่มีประโยชน์ ไม่มีคุณภาพ และนำเขามาก่อขึ้นและทำแทนเขาเพื่อให้เขาเป็นบ่าวที่เกิดผลมากมายเหมือนเปโตรและเปาโล
ในข้อที่ 10 คำว่าข้าพเจ้าทั้งหลายเป็นบ่าวที่ไม่มีบุญคุณต่อนาย ไม่มีบุญคุณ ภาษากรีกคือ ไม่มีประโยชน์ ไม่ดีพอ ใช้การไม่ได้
ถ้าหากเราต้องการเลิกทำบาปได้ตามเวลาของพระเจ้า ถวายตัวเป็นทาส แค่บอกพระเยซูว่าเราขอเป็นทาส แค่นี้ งานของพระเจ้าก็จะเริ่มขึ้น อิสรภาพของเราจะถูกจำกัดควบคุมโดยพระวิญญาณ
โรม 6:16 ท่านทั้งหลายไม่รู้หรือว่าท่านจะยอมตัวรับใช้เชื่อฟังคำของผู้ใด ท่านก็เป็นทาสของผู้ที่ท่านเชื่อฟังนั้นคือเป็นทาสของบาปซึ่งนำไปสู่ความตายหรือเป็นทาสของการเชื่อฟังซึ่งนำไปสู่ความชอบธรรม
- "นำไปสู่ความตาย" ก็คืออ่อนแอ ความบาปและอยู่นอกพระคริสต์
- "เป็นทาสของการเชื่อฟัง" คือพระคริสต์ทำแทนก่อให้เกิดการเชื่อฟังได้
โรม 6:17 แต่จงขอบพระคุณพระเจ้าเพราะว่าเมื่อก่อนนั้นท่านเป็นทาสของบาปแต่บัดนี้ท่านมีใจเชื่อฟังหลักคำสอนนั้นซึ่งทรงมอบไว้แก่ท่าน
โรม 6:18 เมื่อท่านพ้นจากตัวบาปแล้ว ท่านก็ได้กลายเป็นทาสของความชอบธรรม
- ผู้เชื่อที่ได้รับการเปิดตาฝ่ายวิญญาณจริงๆ เท่านั้นจึงได้พ้นจากตัวบาป และพระคริสต์ครอบครองจิตใจของเขา
โรม 6:19 ข้าพเจ้ายกเอาตัวอย่างมนุษย์มาพูด เพราะเหตุเนื้อหนังของท่านอ่อนกำลังเพราะท่านเคยให้อวัยวะของท่านเป็นทาสของการโสโครกและของความชั่วช้าซ้อนชั่วช้าฉันใดบัดนี้ท่านจงให้อวัยวะของท่านเป็นทาสของความชอบธรรมเพื่อให้ถึงความบริสุทธิ์ฉันนั้น
- "ให้อวัยวะเป็นทาสของความชอบธรรม" คือถวายตัวใหม่และยอมเป็นทาสของพระคริสต์ซึ่งเป็นการถวายต่อพระองค์ทุกวันและเวลา
- "ถึงความบริสุทธิ์" คือได้เข้าสู่กระบวนการการเปลี่ยนแปลง (sanctification) จนเติบโตได้
เมื่อเราพบมานาฯ ในด้านหนึ่งเราขอบคุณพระเยซูที่เราเริ่มอยู่ในความเชื่อ การเดิน การรับใช้ การประชุมที่เป็นที่พอพระทัย เราวิ่งแข่งอย่างคนฉลาด
แต่อีกด้านหนึ่งเราสงสารพี่น้องผู้เชื่อและผู้รับใช้มากมายที่กำลังเข้าสู่การวิ่งแข่งที่ไร้ประโยชน์