ถาม.
อาหารที่เขาเอาไปตักบาตร แล้วก็มีคนเอามาให้เราทาน ทานได้ไหมค่ะ
ตอบ.
เรากินไม่ได้ครับ เราทานไม่ได้ครับ เพราะว่าเป็นสิ่งที่เขาให้พระอื่นนะครับ เราเป็นบุตรพระเจ้า เราเป็นวิหารของพระเจ้า เรารับไม่ได้ครับ
มีอยู่วันหนึ่งที่ผมขายของขายอะไหล่คอมพิวเตอร์มือสอง คือเป็นฮาร์ดดิสก์นะครับ แล้วก็มีพระ มีพระติดต่อมาบอกว่าอยากจะซื้อ ผมก็เอาไปให้เขา ก็เข้าไปในวัดนะครับ แล้วก็นั่งคุยกับเขา แล้วพอพูดคุยกันก็ถูกคอนะครับ ก็เขาก็ชอบ ชอบนิสัยของผม เขาก็บอกว่ารอแป๊บนึงเดี๋ยวออกมา เขาเข้าไปในห้องเอาถุงขนมใหญ่มากขนมเต็มนะครับแล้วก็เอามาให้ผม คือผมจะปฏิเสธก็ได้ แต่ผมคิดถึงนะครับว่า เอ่อ เราเอาไปก็คือไปแจกให้คนที่ยากจนให้คนที่เดินตามถนนไปให้คนอื่น ผมก็รับนะครับเพื่อไม่ให้เสียน้ำใจเขา แล้วก็ออกมาแล้วขนมผมไม่กินนะครับ ก็อธิษฐานขอบพระคุณพระเยซู แล้วก็นำขนมนั้นไปให้หลายคนที่เขาเดินไปตามถนน
อย่าลืม ทุกสิ่งที่เราทํา พระเจ้ามองเห็น จําได้ไหมพระเจ้ามีตาเจ็ดตามองไปทั่วโลก เพราะฉะนั้นทุกสิ่งที่เราทํา และเราทำในพระคริสต์ ทำด้วยคนใหม่ตัวใหม่ และเราทําตามน้ำพระทัยของพระเจ้า มีผลตอบแทนทั้งนั้น ต่อมาเราก็จะได้กินขนมที่อร่อยกว่า แล้วก็เยอะกว่าด้วยน่ะ
...
ถาม.
คือมีพระที่เขาเป็นศาสนาพุทธครับ พอดีเขามาซื้อของที่ร้านเขาเป็นลูกค้าที่ร้าน แล้วก็เขาไปเที่ยวเชียงรายเขาก็เลยซื้อน้ำยาหม่าล่ามาฝากครับ มาฝากปึ๊บ เราก็ไม่ได้คิดอะไรเราก็รับไว้ แล้วก็กินเลย เราก็กินเลย เราไม่รู้เราไม่นึกถึงขนาดนั้นคิดว่าเป็นของฝาก ผมก็กินเข้าไปแล้ว ก็ประมานว่าเป็นแบบนี้มันจะเป็นไรไหมครับ
ตอบ.
สำหรับหม่าล่าหรือสําหรับอะไรที่เขานำมาฝาก คือไม่ได้ผ่านการทำพิธีศาสนา เรารับได้ครับผม เป็นอาหารเป็นสิ่งที่เรารับเพื่อน้ำใจของเขา เรากินได้ครับ กินด้วยการขอบพระคุณ
อันนี้เป็นสิ่งที่ไม่เหมือนขนมที่ผมรับจากจากพระใช่ไหม เพราะว่าอันนั้น (ขนม) มันผ่านพิธีทางศาสนาแล้วผมก็เลยไม่กิน ถ้าพระซื้ออะไรให้เรานะครับเรากินได้ เราเอเมน เราขอบคุณพระเจ้าแล้วเรากินได้ครับผมไม่ผิดครับ
แต่ถ้าเขาจะเอากับไปวัดแล้วก็ทำพีธี แล้วเขาก็มาบอกเราว่าผ่านการสวดการทำพีธีแล้วน่ะ เพื่อจะให้เธอได้รับพร อันนี้เรารับไว้ก็ได้นะครับเพื่อไม่ไห้เขาเสียใจ แต่เราไม่กินครับ แต่ถ้าเขาไปซื้อมาแล้วก็ให้เราเฉยๆ ก็คือรับได้กินได้ครับ เอเมน