ถาม.
การที่เรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับพระองค์ตลอดทั้งวันแล้วบอกรัก แล้วในเมื่อสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นแล้วจะทำให้เราไม่ขาดโอกาสที่เราจะรับใช้พระองค์หรือ เพราะว่าเรานั่งบอกรักติดสนิทแต่เราไม่ได้ไปบอกใครเลยว่าพระเจ้าเราน่ารักแสนดี ตรงนี้ช่วยอธิบายอีกครั้งด้วยค่ะ
ตอบ.
ขอบคุณมากที่ถาม เป็นคำถามที่ดีมากครับ สำหรับพี่น้องหลายคนที่ยังข้องใจ (เอ่อ...ถ้านั่งนอนบอกรักเนี่ยไม่ต้องทำอะไรเลย) ทำครับ
เราไปทานข้าวเมื่อเราหิวข้าว เราไปทำงานเมื่อถึงเวลาไปทำงาน เราไปคบค้าสมาคมกับเพื่อนฝูง กับครอบครัวเมื่อถึงเวลา เราก็ทำทุกสิ่งเหมือนเดิม แต่สิ่งที่เราขาดไม่ได้ ก็คือเรายังพูดคุยสนิทบอกรักกับพระเยซู อยู่ในพระวิญญาณขณะที่เราอยู่กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน อยู่ที่ไหนก็ตาม อยู่ในที่ทำงานเมื่อเราทำงานอยู่เราก็สนิทบอกรักได้ใช่ไหม
จิตของเรา จิตของมนุษย์ สมองของมนุษย์อัจฉริยะมากนะครับ เรากระทำหลายสิ่งในเวลาเดียวกันได้ เราบอกรักพระเยซูขณะที่เราทำงานได้
อย่าเข้าใจผิดนะครับว่า (เอ่อ...ไม่ต้องทำอะไรแล้ว วันนี้นั่งนอนบอกรักพระเยซูอย่างเดียว พูดคุยกับพระเยซู) อันนั้นไม่ถูกครับผม
...
ถาม.
อันนี้เข้าใจนะคะ แต่ว่าการที่เราจะออกไปรับใช้บอกเรื่องราวของพระเยซู เราเข้าใจในเรื่องการติดสนิทบอกรัก แต่ว่าเราไม่ได้เอาสิ่งที่ดีที่สุดไปบอกให้กับพี่น้องเพื่อนบ้านอะไรอย่างงี้คะ แต่ถ้าเราไม่ทำส่วนนี้ พระองค์บอกให้เราไปประกาศเรื่องราวของพระองค์ สิ่งที่ทุกคนจะต้องได้รับรู้ความจริงของพระองค์คะ
ตอบ.
อีกครั้งนะครับเมื่อกี้ผมก็ตอบไปแล้วนะครับ คือเราบอกรักพระเยซู เราสนิทในพระเยซู เราผูกพันสร้างความผูกพันกับพระเยซูตลอดเวลา ขณะที่เราก็ยังไปประกาศยังรับใช้ ยังนมัสการพระเจ้า
ขณะนี้นะครับเมื่อเราคุยกันอยู่นี่นะครับ เราสามัคคีธรรม เรามีหัวใจที่ผูกพันกับพระเยซูอยู่นะครับ เราก็บอกรักพระเยซูไป เราฟังไปเรื่อยๆ ผมก็พูดไปนะครับ แต่ขอบคุณพระเจ้าในหัวใจของเรามีความรักให้กันและกัน และมีความรักต่อพระเยซู
เมื่อเราสนิทบอกรักอยู่ในพระวิญญาณตลอดเวลา เวลาเราไปไหน เราทำอะไรสิ่งที่จะอยู่กับเรา
1. ก็คือพลังที่ยิ่งใหญ่ของพระคริสต์
2. ก็คือสันติสุขที่เต็มล้นของพระคริสต์จากครอบเราอยู่
เราจะไปเราก็ไม่เหนื่อย เราไปได้ 2 ไมล์ 3 ไมล์ ตามที่พระเยซูบอก เดินไปกี่ไมล์ไปได้นะครับ เขาตบแก้มข้างหนึ่งหันอีกข้างให้เขาตบก็ยังได้ คือมันเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่เป็นชีวิตที่เต็มด้วยสันติสุข
ถ้าหากเราไม่เน้นที่การสนิทการบอกรัก แล้วเราไป เราจะเหนื่อย เราจะท้อ เราอาจจะน้อยใจเมื่อเขาไม่ต้อนรับพระเยซู
แต่ปรากฏว่าถ้าหากเราสนิทบอกรัก และพระองค์เองนั่นแหละที่จะใช้เรา และที่จะผลักดันเรา ผลักเราให้ออกไป ไปทำ แล้วเมื่อเราทำนะครับ สำเร็จหรือไม่สำเร็จเราก็เฉยๆ เราขอบคุณพระเจ้า ผมก็เหมือนกันนะครับพอไปพูดคุยไปเยี่ยมใครเขาบอกว่าป่วย อธิษฐานเผื่อด้วยอาจารย์ ผมก็บอกว่า เอเมนพระเยซูจะรักษา เอเมนจะหายดี เอเมนขอบพระคุณพระเยซู เขาก็ขอบคุณพระเยซู
สำหรับผมนะครับพระองค์รักษาก็เอเมน ไม่รักษาเขาผมก็เอเมน ผมก็ไม่ได้คิดอะไร ไม่ได้กลัวอะไร ไม่ได้สนใจว่าจะเป็นยังไง แต่ภายในจิตใจของผม เชื่อว่าเมื่อพระองค์อยู่กับเรา
เมื่อพระองค์ไปกับเรา เมื่อเราสนิทในพระองค์ แน่นอนที่สุดพระองค์จะทำในสิ่งที่พระองค์สัญญา พระองค์ไม่เคยที่จะไม่รักษาสัญญา ผมคิดแบบนั้นอยู่เสมอ สุดท้ายหลายๆ คนก็มาบอกนะครับว่าหายดีแล้วขอบคุณอาจารย์ แค่นี้ ผมก็ขอบคุณพระเยซูที่พระเยซูเป็นคนกระทำ
เพราะฉะนั้นเราไม่กลัวนะครับ เราไม่ต้องคิดอะไร เราทำหน้าที่ของเรา เรารู้นะครับว่าพระเจ้าจะทำหน้าที่ของพระเจ้า เมื่อเราทำหน้าที่ของเรา แต่สิ่งแรกที่ขาดไม่ได้ ก็คือการสนิทการบอกรัก เพื่อที่จะนำมาซึ่งพลังที่จะผลักดันเรา ผลักเราให้ออกไปรับใช้ ประกาศข่าวประเสริฐ ทำทุกสิ่งเพื่อพระเจ้าได้
สำหรับอาการขยันของเรา อาการขยันนี้ มาจากกฎแห่งชีวิตและกฎแห่งพระวิญญาณที่อยู่ในเรา แน่นอนครับสนิทมากเท่าไหร่ 2 กฎนี้ก็จะทำงาน และทำให้เราอยู่เฉย นิ่งเฉยไม่ได้ เอเมนขอบคุณพระเยซู