ทันทีที่เรารับเชื่อ พระวิญญาณ/พระคริสต์เข้ามาสร้างบ้านอยู่ในวิญญาณของเราก่อน คือทำให้เราบังเกิดใหม่เพื่อพระวิญญาณจะย้ายเข้ามาสถิตอยู่ได้ (ยน 3:5-6/ 7:39/ 14:16/ 20:22/ 1 คร 3:16/ 6:19-20)
จากนั้นพระวิญญาณก็ยืนอยู่ที่ประตูเพื่อเคาะเพื่อให้เราเปิดรับพระองค์เข้ามาและขยายอาณาเขตภายในในจิตใจ (วว 3:20)
พระวิญญาณจะเข้ามาสร้างบ้านภายในจิตใจเราทันที่ไม่ได้เพราะว่า
1. จิตใจยังไม่ได้ถูกชำระ (โรม 12:2)
2. เรามีสิทธิเสรีภาพซึ่งพระเจ้าจะไม่แตะต้องสิ่งนี้เป็นอันขาด
3. เราต้องยอมรับและต้อนรับพระองค์เข้ามา
4. ทันทีที่เราต้องการพระวิญญาณ/พระคริสต์ เข้ามาครอบครองจิตใจเพื่อเราจะเลิกทำบาปได้ พระเจ้าจะเปิดตาเราให้พบความจริงว่า เพียงแต่เราเชื่อว่าพระคริสต์อยู่ในจิตใจเราแล้ว (อฟ 3:17) เราก็จะได้เห็นผลของชีวิตของพระคริสต์ครับ (โรม 8:9-11/ กท 2:20/ 5:22-23)
** การรับบับติศมาเป็นเรื่องของการได้เห็นและได้เข้าไปในอาณาจักรของพระเจ้า ไม่เกี่ยวเรื่องความรอดในวันสุดท้ายครับ ทันทีที่เราเชื่อต้อนรับพระเยซูเราก็รอดแล้ว แต่ไม่มีโอกาสได้เห็นและได้เข้าไปในอาณาจักรของพระเจ้า
1. เรารอดในวันสุดท้ายโดยทางพระคุณทางความเชื่อ (อฟ 2:8-9) ไม่ใช่เชื่อและต้องบับติศมา ไม่ใช่เชื่อและต้องเชื่อฟัง ไม่ใช่เชื่อและต้องไปโบสถ์ ต้องอธิษฐาน ต้องรับใช้ ต้องนั่นนี่โน่น
2. เราได้เห็นและได้เข้าในอาณาจักรโดยการรับบับติศมาในน้ำและจากนั้นก็เดินในพระวิญญาณจนกลายเป็นผู้ชนะ (ยน 3:3-5) คือบับติศมาเป็นจุดเริ่มต้นของการตายจากโลกของอาดามเข้าสู่พระกายพระเยซูในโลกวิญญาณ อาณาจักรของพระเจ้าในยอห์น 3:3-5 ไม่ใช่รอดในวันสุดท้าย แต่เป็นการรอดเข้าในยุคหน้า (ยุคอาณาจักร) และได้รับตำแหน่งครอบครองร่วมกับพระเยซูชั่วนิตย์นิรันดร์ ถ้าไม่ได้รับบับติศมาและก้าวเข้าสู่กระบวนการการเปลี่ยนแปลงผู้เชื่อจะถูกตีสอนในยุคอาณาจักรเป็นเวลาพันปีและหลังจากนั้นก็ได้รอด
ผู้เชื่อมากมายไม่รู้ว่าความรอดมีสองรอดใหญ่ๆ ด้วยกัน คือรอดในวันสุดท้ายที่เรียกว่ารอดจากบึงไฟ และรอดเข้าไปในอาณาจักรสวรรค์ที่เรียกว่ารอดจากการตีสอนของพระเจ้าในยุคหน้าครับ (มธ 7:21-27/ 25:1-13 /1 คร 3:12-15)
โรม 10:9 คือว่าถ้าท่านจะยอมรับพระเยซูเจ้าด้วยปากของท่าน และจะเชื่อในใจของท่านว่าพระเจ้าได้ทรงชุบพระองค์ให้เป็นขึ้นมาจากความตาย ท่านจะรอด