ผอบน้ำหอมราคาแพง ในมัทธิว 26:6-13
"การซึ่งหญิงนี้ได้กระทำ" คือการให้ความรัก การยอมสละชีวิตทรัพย์สมบัติเพื่อพระเยซู ไม่ใช่ชื่อเสียงของหญิงคนนี้
ในพระคัมภีร์ตอนนี้ พระเยซูบอกว่าข่าวประเสริฐเรื่องความรอดเรื่องพระเยซูไปถึงที่ไหนเรื่องของผู้หญิงคนนี้ก็จะไปถึงที่นั่นด้วย คืออะไร ก็คือเรื่องของผู้หญิงคนนี้ถูกบันทึกเอาไว้ในพระคัมภีร์เมื่อเราอ่านข่าวประเสริฐอ่านเรื่องพระเยซู มัทธิว มาระโก ลูกา ยอห์น เราจะพบหญิงคนนี้ในมัทธิวบทที่ 26 และอีกอย่างหนึ่งเรื่องหญิงคนนี้จะไปทั่วไปพร้อมกับข่าวประเสริฐคือสิ่งที่ผู้หญิงคนนี้ทำคืออะไร...เขายอมสูญเสียสิ่งที่มีค่าเพื่องานของพระเจ้ายอมสูญเสียสิ่งที่มีค่าเพื่อปรนนิบัติพระเจ้า การมาหาพระเจ้าไม่ได้หมายความว่าไม่ต้องเอาอะไรมาคือเรามีบางอย่างเล็กๆน้อยๆเรามีบางอย่างที่เอาให้พระเจ้าโดยที่ไม่ฝืนใจไม่บังคับใจเราให้นี่คือสิ่งที่ดีที่สุด คือ ผอบน้ำหอมของเรา
สมมุติว่าเรามีฐานะพอประมาณปานกลางไม่รวยไม่จนแล้วเราให้พระเยซูได้เท่าไหร่เราก็ให้เท่านั้น อันนี้เรียกว่าผอบน้ำหอมของเราที่มีราคามากที่สุดแล้ว
ถ้าสมมุติว่าคุณเป็นเศรษฐีแล้วคุณให้สิ่งที่ดีที่สุดที่มากที่สุดมากกว่าเราด้วยแต่คือให้เท่าที่คุณให้ได้มันก็เป็นผอบน้ำหอมที่มีราคามากที่สุดสำหรับคุณ
คือการรับใช้จะมีการยอมเสียสละตามมาด้วย " เสียสละ"
ขอบคุณพระเยซู ที่หลายคนมีรถเก๋งก็ไปรับพี่น้องมาร่วมแล้วหลายคนไม่สะดวกไม่มีรถพี่น้องก็เอื้ออำนวยช่วยกัน บางคนสะดวกเรื่องไหนก็ช่วยเรื่องนั้น
นี่คือการรับใช้พระเจ้าการมาหาพระเจ้ามีการเสียสละเหมือนกับผู้หญิงคนนี้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเรา "ต้อง" ห้ามใช้คำว่า "ต้อง" ต้องจ่าย ต้องช่วย ต้องมารับ ต้องให้ต้องนี่ต้องนั่น ไม่ใช้คำว่าต้อง คือให้ด้วยความพอใจเต็มใจ
พระเจ้าต้องการให้เรามีการเสียสละบ้างตามขนาดของความเชื่อเรามีขนาดของความเชื่อเราให้ได้เท่าไหร่ไม่ฝืนใจไม่บังคับใจเราให้เท่านั้น
นี่คือผอบน้ำหอมที่มีราคาที่สุดของเราแล้ว
ในพระคัมภีร์ ลูกา 21:1-4 กล่าวว่า พระองค์เงยพระพักตร์ทอดพระเนตรเห็นคนมั่งมีทั้งหลายนำเงินมาใส่ในตู้เก็บเงินถวาย พระองค์ทอดพระเนตรเห็นหญิงม่ายคนหนึ่งเป็นคนจนนำเหรียญทองแดงสองอันมาใส่ด้วย พระองค์ตรัสว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า หญิงม่ายจนคนนี้ได้ใส่ไว้มากกว่าคนทั้งปวงนี้ เพราะว่าคนทั้งปวงนี้ได้เอาเงินเหลือใช้ของเขามาใส่ถวายแด่พระเจ้า แต่ผู้หญิงนี้ขัดสนที่สุด ยังได้เอาเงินที่มีอยู่สำหรับเลี้ยงชีวิตของตนมาใส่จนหมด”
พระเจ้าไม่เคยสนใจเงินที่เรานำมาถวายจะมากมายแค่ไหนแต่พระเจ้ามองที่ใจภายในเราให้ด้วยใจรักด้วยใจเมตตาอยากช่วยเหลือผู้อื่นนี่คือการรักเพื่อนบ้านเท่ากับรักตนเองผู้หญิงคนนี้ไม่มีอันจะกินแต่ก็ยังเสียสละเป็นห่วงสงสารคนยากจนเหมือนกับเธอซึ่งตรงข้ามกับเศรษฐีเหล่านั้นที่นำแค่เศษของเงินที่มีมาทำทานถึงแม้ว่าจะดูเหมือนเยอะแต่สำหรับพระเจ้าก็ยังน้อยกว่าเงินเหรียญสองอันของหญิงม่ายคนนั้น
พระเยซูยกย่องใคร นี่คือหลักการการให้ของพวกเราผอบน้ำหอมที่มีราคาที่สุดเราให้ได้เท่าไหร่เราทำได้เท่าไหร่เราช่วยได้เท่าไหร่เราทำเท่านั้นแล้ว เราเข้าใจกันไม่มีใครว่าใครต่อว่าใครไม่มีใครตัดสินใครขอบคุณพระเยซู