ถาม.
อีกข้อหนึ่งครับอยากถามว่า แล้วเรารับมานาเกี่ยวกับเรื่องฝ่ายเนื้อหนังไม่ว่าจะงานแต่ง หรืองานศพนี้เราจะต้องทำยังไงบ้างครับ อันนี้สงสัยมานานครับ เพราะว่าเรารับมานาอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรหรือเปล่าครับ
ตอบ.
เรื่องการเปลี่ยนแปลงมีนะครับ สำหรับการไปงานศพ ไปงานแต่งงาน ไปงานอะไรก็ตาม ถ้าเป็นญาติที่สนิทหรือจำเป็นต้องไป คือเราไปได้แต่ขอให้อยู่บริเวณนอกให้มากเท่าที่สามารถได้
สองนะครับอย่าร่วมกับพิธีที่เกี่ยวข้องกับศาสนาอื่นเป็นอันขาด เพราะว่านี่คือการนอกใจพระเจ้าครับ
...
ถาม.
แล้วคนที่รับมานาล่ะครับ งานแต่งนี้ต้องจัดแบบไหน หรือว่างานศพอย่างนี้ครับ
ตอบ.
สำหรับการแต่งงานที่ถูกต้องตามน้ำพระทัยพระเจ้า เราจำกันได้ใช่ไหมผมเคยพูด งานแต่งในโลกนี้มีกี่แบบ และสำหรับพระเจ้า พระเจ้ายอมรับแบบไหน คือเราเป็นครอบครัวของพระเจ้า เอเมนไหมครับ พระเจ้าอยู่ในครอบครัวของพระองค์นะครับ พระเจ้าไม่ได้ไปอยู่ที่งานแต่งที่โบสถ์ศาสนาคริสต์ หรือที่มีการสวมแหวนมีพิธี หรือมีการทำหนังสือแต่งอย่างดี อันนั้นพระเจ้าไม่เกี่ยวกับรัฐบาลไม่เกี่ยวกับอะไรทั้งนั้น
พระเจ้าเกี่ยวข้องและรับรู้ยอมรับการแต่งงานที่ถูกต้องตามน้ำพระทัย ถูกต้องตามกฎหมายของพระเจ้า ก็คือในครอบครัวของพระเจ้า ก็คือในคริสตจักร และในคริสตจักรมีใครบ้าง มีเถ้าแก่ มีผู้ปกครอง มีผู้นำ แล้วก็มีพี่ๆ น้องๆ ของพวกเราที่เป็นพยาน เราให้ทุกคนทราบ รับทราบ ยอมรับ รับรู้ ว่าเราจะแต่งงานกับคนนี้ เรารักชอบคนนี้ แล้วพี่น้องนะครับก็เต็มใจก็รับรู้ แล้วผู้นำก็อธิษฐานวางมือให้เรา แล้วก็บอกว่าจากนี้ไป สองคนนี้เป็นสามีภรรยากันและเป็นกายเดียวกันต่อหน้าพระบิดา ในพระนามพระบิดาพระบุตรและพระวิญญาณบริสุทธิ์ แค่นี้ครับ ก็คือการแต่งงานที่ถูกต้องตาม "กฎหมายของพระเจ้า" อย่าลืมนะครับ "ของพระเจ้า"
...
ถาม.
แล้วอธิบายเรื่องงานศพด้วยครับ ต้องจัดแบบไหน
ตอบ.
สำหรับเมื่อมีพี่น้องที่เสียชีวิต เราอธิษฐานเผื่อ เราขอบคุณพระเจ้า เราร้องเพลง นมัสการพระเจ้า สามัคคีธรรมแบบที่เราเคยทำ แต่ระลึกถึงคนนั้น เราขอบคุณพระเจ้าที่พระเจ้ารับเขาไปแล้ว
เราไม่ต้องบอกนะครับว่าขอพระองค์รับผู้ชายคนนี้ รับญาติคนนี้ สามีคนนี้ ไปอยู่กับพระองค์ ไม่นะครับ เพราะว่าพระองค์รับไปแล้ว เราแค่ขอบพระคุณ เรามาอยู่ร่วมกันเพื่อปลอบใจคนที่ยังมีชีวิตอยู่ ร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าเพื่อให้คนที่มีชีวิตอยู่คิดถึงว่าพระเจ้าแสนดี พระเจ้ารับวิญญาณของเขาไปแล้ว และหนุนใจกันและกันด้วยพระคำของพระเจ้า ไม่มีพิธีรีตองอะไรที่ให้มันยากเย็น โดยต้องมีพิธีมากอะไร
...
ถาม.
อยากจะถามหน่อยค่ะ คือว่ามีเพื่อนชาวโลกอยู่หน้าบ้าน เวลาเราออกไปข้างนอกเขาชอบใช้ให้เราไปซื้อผลไม้มาไหว้เจ้า ซื้ออะไรมาไหว้เจ้าของเขา แล้วเราจะไปซื้อให้เขาได้ไหมคะ
ตอบ.
ถ้าหากเรารู้นะครับว่าเขาจะทำแบบนั้น เราปฏิเสธนะครับ การปฏิเสธมี 2 แบบ
แบบแรกก็คือ พูดตรงๆ ถ้าเราพูดได้ ถ้าไม่เกรงใจกันเป็นเพื่อนสนิทกันนะครับ เราบอกว่าตอนนี้เชื่อพระเยซูแล้ว ต้องขอโทษนะคะทำไม่ได้ ขอโทษนะคะทำไม่ได้ค่ะ
แล้ววิธีที่สองก็คือ หลีกเลี่ยงทางอ้อม แต่ไม่ใช่โกหกนะ ไม่ใช่เชิงโกหก แต่เป็นการพูดแบบทางอ้อม ขอพระวิญญาณบริสุทธิ์นำนะครับ ว่าเราจะทางอ้อมแบบไหน คือหาวิธีเอาเองนะครับ แต่ถ้าพูดตรงได้ก็พูด
คือสำหรับผม ผมเป็นคนที่ตรง แล้วก็ผมเป็นคนที่ คือเพื่อน มิตรสหาย ญาติเข้าใจดี สำหรับผม ผมมีความรักให้เขา มีความรัก ความดี แล้วการพูดของเรา เราพูดด้วยความรัก พูดแบบตรงๆ เลยว่าขอโทษนะครับผมทำไม่ได้ ผมเชื่อพระเจ้าแล้ว พระเจ้าไม่ให้ผมทำสิ่งนี้ ถ้าผมทำแล้วผมจะมีอันเป็นไปหรือมันจะมีอะไรเกิดขึ้นกับผม ขอโทษนะผมทำไม่ได้ ทำไม่ได้จริงๆ ถ้าทำได้ทำแล้ว อยากทำให้อยู่ เราก็พูดแบบนี้
...
ถาม.
แล้วถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้ เราจะผิดบาปไหมคะ
ตอบ.
ถ้าเราไปซื้อให้เขา ผิดครับ
...
ถาม.
แล้วที่แล้วๆ มาที่เรายังไม่รู้นั้น ไม่รู้ความจริงว่าเราปฏิเสธได้ แต่ตอนนี้เรารู้แล้ว แล้วที่ผ่านมาเราไม่ได้ปฏิเสธเขา เราซื้อผลไม้ให้เขานั้น พระเจ้าจะตีสอนเราไหมคะ
ตอบ.
ถ้าเรารู้แล้วนะครับพระเจ้าตีสอนแน่นอนครับ ความผิดของคนที่ไม่รู้ ก็คือมีโทษนิดๆหน่อยๆ
แต่เมื่อเรารู้ความจริง แล้วเรายังไปทำอยู่ คือมันเป็นการตีสอนที่เป็น.....
แต่อย่าให้คนที่เป็นญาติเรา เป็นเพื่อนเรา เป็นพี่น้องเราเสียใจ คือหาวิธีหลีกเลี่ยงนะครับ พระเยซูสอนให้ฉลาดเหมือนงู คือไม่ได้พูดตามตรงแบบว่า "ซื้อไม่ได้นะ ไปกราบไหว้ผีเธอ บรรพบุรุษของเธอ ญาติเธอ ผีเธอ ศาสนาเธอ เราทำไม่ได้ เราคนละศาสนา" เราพูดแบบนี้ไม่ได้ครับ คือต้องอ่อนน้อมด้วยความรัก คือพูดให้รักษาความผูกพันความสัมพันธ์ยังมีต่อกันเหมือนเดิม
สำหรับผมนะครับ มีเพื่อนสนิทหลายคนที่ชวนไปทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และบางคนก็ชวนไปทำเข้าพิธีศาสนา ผมก็บอกเลยนะ เออ จริงๆแล้วก็อยากนะ แต่มันทำไม่ได้ ทำไม่ได้ขอโทษนะ
...
ถาม.
แล้วอย่างคุณแม่เราเล่นหวยจะซื้อหวย แต่แม่ขับรถไม่เป็น เวลาจะไปซื้อก็จะให้เราขับรถให้ แม่บอกว่าเราไม่ต้องซื้อแต่ว่าขับรถพาแม่ไปหน่อย อะไรแบบเนี่ยค่ะ
ตอบ.
อันนี้เป็นกรณีอื่นนะครับ เป็นคนละเรื่องกับการไปซื้อผลไม้มากราบไหว้บรรพบุรุษ ไหว้คนที่เสียชีวิตหรือกราบไหว้พระ
กรณีนี้ซื้อหวย ขอโทษนะครับผมขอพูดตามตรงนะครับ ขอพูดตามตรง ถ้าคนที่เป็นแม่เป็นพ่อใช้เราแล้วเขาไม่สะดวก ถ้าไม่อยากขัดเคืองใจกันและกันก็ไปซื้อให้เขาได้ แล้วสารภาพนะครับ "พระเยซูขอพระองค์ยกโทษให้ข้าพระองค์ที่ไปซื้อให้พ่อแม่" แล้วอันนี้ไม่ใช่การนอกใจพระเจ้าครับ เรียกว่าการไม่เชื่อฟังพระเจ้า แต่เราไม่เชื่อฟังโดยที่มีเหตุผล เราสารภาพนะครับ พระเจ้าอาจจะตีสอนนิดๆหน่อยๆ หรือตำหนิเรานิดๆหน่อยๆ
...
ถาม.
อาจารย์ค่ะอย่างเวลาเราเนี่ยกลับบ้านต่างจังหวัด แล้วญาติพี่น้องของเราที่เขาไม่ได้เชื่อพระเจ้า เขามาขอตังค์ซื้อเหล้าซื้อเบียร์ ถ้าเราให้ผิดไหมคะ
ตอบ.
ผิดแน่นอนครับ แต่เวลาที่เราให้นะครับ เราบอกว่าไม่ได้ให้เพื่อซื้อเหล้าซื้อเบียร์ หรือเราจะให้ในเวลาอื่นดีกว่าครับ แล้วจุดประสงค์ของเราคือเพื่อให้เขาซื้อผลไม้ซื้อน้ำซื้ออะไรก็ได้หรือซื้ออาหาร ถ้าเขาจะเอาไปซื้อเหล้าซื้อเบียร์ ก็อันนั้นเป็นเรื่องของเขาไม่ได้อยู่ในมือของเราแล้วครับ
กรณีนี้นะครับ ญาติของเราคือมันเป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อน ถึงแม้ว่าเราจะให้เขาเอาไปซื้ออาหารซื้อน้ำดื่ม แต่แน่นอนที่สุดเขาจะไปซื้อเหล้าซื้อเบียร์ ถ้าเขาต้องการซื้อเหล้าซื้อเบียร์
แต่การหลีกเลี่ยงความผิดที่เรามีต่อพระเจ้า การพูดของเราในนามพระเยซูนะครับ เราพูดในใจ เราให้เขาเพื่อให้เขาเอาไปซื้ออาหารไปซื้อน้ำดื่มเพื่อไปซื้ออย่างอื่น แต่เขาจะเอาไปซื้อเหล้าซื้อเบียร์อันนี้ไม่เกี่ยวกับเราครับ
...
ถาม.
แล้วในกรณีลูกเราบวช เราทำอะไรได้บ้างคะ
ตอบ.
เราเป็นคริสเตียน ถ้าลูกเราจะบวช อันนี้ผมขอพูดตามตรงนะครับ ถ้าคริสเตียนที่ทำตามน้ำพระทัยพระเจ้าได้ คือเราไม่ร่วมด้วย เราไม่เกี่ยวข้องกับพิธีบวชของลูกครับ
สมมุติว่าเราห้ามลูกไม่ได้แล้ว แล้วญาติคนอื่นต้องการให้เขาบวช แล้วเขาก็ไม่ฟังเรา แล้วเราเป็นคริสเตียน คือเราจำยอมเราจำเป็นต้องปล่อยให้เขาทำ แต่เราไม่มีส่วนร่วมอะไรกับพิธีบวชงานบวชของเขาครับ แต่ก็ต้องอธิบายด้วยนะว่า ขอโทษนะแม่ทำไม่ได้ แม่ร่วมไม่ได้ แม่มีส่วนอะไรไม่ได้เพราะว่าแม่เป็นคริสเตียนแม่เชื่อพระเยซู