ตอนที่ผมอยู่อเมริกา ผมเป็นคนที่แสวงหาพระเจ้า แต่เนื่องจากการที่ผู้นำชักชวนให้คุยให้เรียนรู้ให้หันเอนไปทางไหนผมก็มักจะไปทางนั้น
หรืออยู่ในกลุ่มไฟเขาก็ชวนให้เฝ้าเดียว ตื่นแต่เช้ามืด แสวงหาการรับการเต็มล้นด้วยพระวิญญาณ แสวงหาไฟ แสวงหาการเจิม ทุกสิ่งที่เกี่ยวกับเรื่องฤทธิ์เดช
แต่พอมาอยู่กับกลุ่มแบ๊บติสต์ ก็มีการถามตอบ ถามตอบ ถามตอบ เจอกันเมื่อไหร่ร่วมสามัคคีธรรมหรือมารวมกันเมื่อไหร่ ก็จะพูดถึงแต่เรื่องพระคัมภีร์ข้อนั้นข้อนี้ คำถามคำตอบ คือประมาณว่าอวดเรื่องความรู้
ไปอีกกลุ่มหนึ่งก็เน้นพิธีกรรม อย่าง ออร์โธด็อกซ์ เน้นพิธีกรรม เน้นเรื่องอื่นๆ เรื่องต่างๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวกับหัวใจของข่าวประเสริฐเรื่องพระเยซู เรื่องพระคำพระเจ้า
แต่ละคริสตจักรก็จะเน้นคนละเรื่องกัน เป็นสิ่งที่ทำให้ผมได้เห็นทีหลังว่าเปาโลพูดถึงพูดถูกที่ว่า การก่อชีวิตและก่อการรับใช้ขึ้น ด้วยไม้ ฟาง หญ้าแห้ง มันคืออะไร แต่การก่อขึ้นด้วยพระคริสต์ใน 1 คร 3:12-15 มันคืออะไรกันแน่ ก็คือพระคริสต์ ก็คือตัวตนของพระคริสต์ ก็คือพระเยซูคริสต์
ตอนนี้ได้มารู้ความจริงแล้วว่าขอบคุณพระเจ้าผู้ที่สำคัญที่สุดสำหรับชีวิตของเรา ไม่ใช่ฤทธิ์เดช ไม่ใช่อาหาร ไม่ใช่เสื้อผ้า ไม่ใช่พระพร ไม่ใช่ทุกสิ่ง แต่คือตัวตนคือพระเยซู ขอบคุณพระเจ้าที่พระเยซูเป็นความรัก เราจึงได้สัมผัสรักของพระองค์ รักที่แท้จริง พระเยซูคือต้นกำเนิดที่มีพระเมตตา พระเยซูคือความจริง พระเยซูคือความชอบธรรม พระเยซูคือความบริสุทธิ์ ผมก็ได้สัมผัสในทุกสิ่งจากพระองค์
และขอบคุณพระเจ้าพระเยซูเป็นผู้เลี้ยงที่ดี ขอบคุณพระเจ้าพระเยซูเป็นเจ้านาย เป็นเจ้านายแห่งความรอด เป็นกัปตันแห่งความรอด ขอบคุณพระเยซูที่พระองค์เป็นพระบิดา ขอบคุณพระเยซูที่พระองค์เป็นพระสหาย เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเราที่เข้าใจเรามากกว่าใคร ขอบคุณพระเยซูที่พระองค์เป็นพี่ชาย ขอบคุณพระเยซูที่พระองค์เป็นอาหาร เป็นน้ำดื่ม เป็นสันติสุข คือไม่มีอะไรที่จะพูดมากไปกว่าพระเยซูเป็นทุกสิ่งของพวกเรา
มาถึงจุดนี้นะครับขอบคุณพระเจ้าที่พระคำของพระเจ้าวันนี้เกิดขึ้น คริสเตียนทั้งหลายหลงไปตั้งแต่สมัยแรกเห็นเปโตรมีฤทธิ์เดชมีของประทานจากพระเจ้า แต่เขาลืมไปว่าพระเจ้าเป็นผู้เป็นคนกระทำ พระเยซูเป็นคนกระทำในเขา และเขาไปยกย่อง ไปเห่อ ไปตามมนุษย์ ตามผู้นำ
แต่ผู้ที่เขาควรแสวงหาตามหาไปหา ก็คือพระเยซู แล้วพระเยซูวันนี้อยู่ที่ไหนสำหรับเรา?