Justified เราชอบธรรม//พระเจ้าพอใจเราแล้ว
Sanctified เข้าสู่กระบวนการการเปลี่ยนแปลง
Glorified สง่าราศีของร่างกาย
Selected การทรงเลือก
Called การทรงเรียก
Transformed การเปลี่ยนใหม่
For เพื่อ…
The Body of Christ = พระกายของพระเยซู
ภาษาอังกฤษแปดคำ แต่ว่ามันสำคัญมาก เราต้องเรียนรู้
1. Justified ก็คือพระเจ้าทำให้เรากลายเป็นคนชอบธรรม
2. Sanctified ก็คือพระเจ้านำเราเข้ามาสู่กระบวนการการเปลี่ยนแปลง ให้เราเลิกทำบาปได้ แต่ว่าเรายังอยู่ในกระบวนการอยู่ ยังเลิกไม่ได้ คือมีการเปลี่ยนแปลงมาแล้ว เริ่มแล้ว
3. Glorified ก็คือร่างกายที่มีสง่าราศี ก็คือร่างกาย เป็นกายทิพย์ที่เราจะได้รับในอนาคต
4. Selected ก็คือการทรงเลือก
5. Called ก็คือการทรงเรียก
6. Transformed ก็คือการเปลี่ยนใหม่ เปลี่ยนชีวิตเราใหม่ ให้กลายเป็นคนชอบธรรมแบบผู้ชนะได้ เลิกทำบาปได้แล้ว (นานๆ ทำบาปที่หนึ่ง) อันนี้เป็นชีวิตประจำวันของผู้ชนะ
...
แต่.. อะไรคือเป้าหมาย อะไรคือน้ำพระทัยของพระเจ้าสำหรับผู้เชื่อทั้งหลาย อะไร?
โลกนี้สำหรับพระเจ้ามีกี่คน? (คำตอบคือสองคน)
ถ้าคุณไม่เชื่อพระเยซูคุณก็อยู่ในอาดัม คุณก็เป็นอาดัม มีส่วนในชีวิตของอาดัม
แต่ถ้าคุณเชื่อ คุณก็ได้มีส่วนในพระกายของพระเยซู
โลกนี้มีแต่สองคนสำหรับพระเจ้า
เป้าหมายสูงสุดของพระเจ้า ก็คือ ทิ้งชีวิตเก่า ทิ้งชีวิตอาดัม มนุษย์เผ่าพันธุ์เก่า แล้วสร้างมนุษย์เผ่าพันธุ์ใหม่ ก็คือพระกายของพระเยซู ยังเรียกได้อีกชื่อหนึ่งว่า "คริสตจักร"
...
- การรับการชำระให้เป็นคนชอบธรรม ไม่ใช่เพื่อเป็นคนชอบธรรม หรือเพื่อให้ได้รอด (Justification is not for justification)
- การเปลี่ยนแปลงจิตใจใหม่ ไม่ใช่เพื่อให้เราเลิกทำบาป (Sanctification is not for sanctification)
- สง่าราศีไม่ใช่เพื่อให้เราคิดถึงสง่าราศี (Glory is not for glory)
- ชีวิตของเราไม่ใช่เพื่อชีวิตของเรา แต่เพื่อพระคริสต์ และพระกายของพระองค์
- อย่าหวังว่าพระกายเที่ยงแท้ที่มีแต่ผู้ที่ถูกเปลี่ยนมากจะมีมาก ผู้ครอบครองร่วมกับพระเยซู และเข้าในอาณาจักรแท้ที่จริงแล้วมีน้อยมาก (Life is not for life but for Christ and for His body — the church)
- โรมตั้งแต่บทที่ 1 จนถึงบทที่ 8 เป็นเรื่องของคนบาปได้กลายเป็นบุตรพระเจ้า (Romans 1 to 8: from sinners to the sons of God)
- ส่วนเรื่องการเปลี่ยนใหม่ในหนังสือโรมมี 5 บท คือบทที่ 12 จนถึงบทที่ 16 (Transformation has 5 chapters; from 12 to 16)
...
เราเห็นน่ะ การชำระให้เป็นคนชอบธรรม ไม่ใช่เพื่อการชำระให้เป็นคนชอบธรรม ไม่ใช่เพื่อให้เราได้รอด
คริสเตียนมากมายทุกวันนี้แสวงหาความรอด จบ ไม่ต้องการอะไรมากหรอก ขอให้ได้รอดก็พอ
แต่สำหรับพระเจ้า พระเจ้าไม่หยุดแค่เพียงเท่านั้น พระเจ้าไม่พอใจ การได้กลายเป็นคนชอบธรรมเพื่อรอด ไม่ใช่เพื่อให้ได้รับความรอด การเข้าสู่กระบวนการ การเปลี่ยนใหม่ ไม่ใช่เพื่อให้เราเลิกทำบาปได้
การมีสง่าราศีของพระกายของร่างกายของเรา ไม่ใช่หยุดอยู่แค่นั้น
การที่พระเจ้าทรงเลือก ทรงเรียกเรา ทรงเปลี่ยนเราให้เป็นชีวิตใหม่ ไม่ใช่เพื่อให้เราดำเนินชีวิตใหม่เท่านั้น แต่เป้าหมายสูงสุดของพระเจ้าก็คือ พระเจ้าต้องการพระกายใหม่ของพระเยซู พระเยซูเป็นศีรษะ แล้วเราทุกคนพระองค์นับว่าเป็นพระกายเป็นร่างกายเป็นอวัยวะของพระองค์
แล้วใครในโลกนี้ พระเจ้าท้าน่ะ ใคร คริสตจักรใดในโลกนี้ ก่อตัวขึ้นเป็นพระกายเที่ยงแท้ได้ กลุ่มนั้นจะมีส่วนในการครอบครองเป็นรัฐบาลชุดเดียวของพระเยซูในยุคใหม่ เอเมน เราทำได้ไหม ถ้าเราทำได้คุณจะเป็นรัฐบาลของพระเยซู แล้วรัฐบาลชุดนี้จะไม่มีการเปลี่ยนไม่มีการเลือกตั้งใหม่จะเป็นไปตลอดชั่วนิรันดร์ แค่นี้จบ นี่คือที่มาของหนังสือโรม
โรมตั้งแต่บทที่ 1 จนถึงบทที่ 8 เป็นเรื่องของคนบาปได้กลายเป็นบุตรพระเจ้า
ส่วนเรื่องการเปลี่ยนใหม่ในหนังสือโรม มี 5 บท คือบทที่ 12 จนถึงบทที่ 16
เป็นการพูดถึงเรื่องการเปลี่ยนใหม่ ทีนี้บทที่ 12 จนถึงบทที่ 16 เป็นเรื่องการเปลี่ยนใหม่ที่คริสตจักรจะต้องช่วยกัน
"คุณจะเปลี่ยนใหม่ คนเดียวไม่ได้" คุณต้องพึ่งคริสตจักรและคริสตจักรก็ต้องพึ่งคุณ
ถ้าหากคุณเดินมาที่คริสตจักร คุณมานมัสการทุกๆ อาทิตย์ วันอาทิตย์ พระเจ้าเป็นคนนำคุณมา พระเจ้าเป็นคนเลือกคุณให้มาที่นั่นและพระเจ้าแต่งตั้งคุณให้เป็นปุโรหิตเพื่อปรนนิบัติพระเจ้าที่นั่น ถ้าคุณคิดว่า
"ผมไม่มีส่วน ผมไม่มีหน้าที่อะไร ผมคือแค่มาร่วมด้วยแค่นั้นเอง" แสดงว่าเราคิดผิด
คริสตจักรที่นั่นเป็นของคุณ และคุณเป็นของคริสตจักรที่นั่น จังหวัดไหนถ้าฟอร์มตัวขึ้นมาได้ และชวนพี่น้องเข้ามาและรับมานาฯ ด้วยกัน นมัสการพระเจ้าในวิญญาณและในความจริง นมัสการด้วยสายตาที่มองใหม่หมดทุกอย่าง ด้วยตัวใหม่คนใหม่ พระกายของพระเยซูที่นั่นก็เกิดขึ้นแล้ว
และพระเจ้าเป็นคนเลือก เราไม่ได้เลือก ไม่ใช่บังเอิญ เพราะฉะนั้น "เราต้องรับผิดชอบ"
ถ้าหากพระเจ้านำคุณมาที่คริสตจักร คุณหนีไม่ได้ คุณจะต้องรับผิดชอบต่อหน้าที่ของคุณที่อยู่ที่นั่น ถ้าคุณหนีน่ะครับ คุณก็ต้องถูกตีสอน แล้วพระเจ้าก็จะดึงคุณกลับมาอีก แล้วพระเจ้าดึงคุณมาไม่ได้ คุณดื้อ คุณก็ต้องถูกตี ผมไม่ได้ขู่น่ะครับ อันนี้คือความจริง
เราคิดแบบคิดเล่นๆ ใช่ไหม แบบทำเล่นๆ คือไป พอใจก็ไป ไม่พอใจก็ไม่ไป พอใจก็อยู่ ไม่พอใจก็ไม่อยู่
เราจะคิดแบบคริสเตียนศาสนาในสมัยก่อนไม่ได้แล้วนะ
อันนี้พระเจ้าเอาจริงแล้วนะ เป็นเรื่องจริงแล้ว เอเมนไหม
เพราะฉะนั้นโรมบทที่ 12 จนถึงบทที่ 16 เป็นเรื่องการเปลี่ยนใหม่ที่ต้องพึ่งคริสตจักร คริสตจักรก็ต้องพึ่งเราเหมือนกัน ทุกคนมีส่วนในการเสริมสร้างกันและกันให้เติบโตขึ้น
เพราะฉะนั้นเมื่อคุณเดินก้าวขาเข้ามาในคริสตจักร คุณจะต้องสัมผัสความอบอุ่น ไม่ใช่ความอบอ้าว และเมื่อคุณก้าวขามาในคริสตจักร คุณจะต้องสัมผัสสายตาที่มองคุณด้วยความรัก แบบรัก (ไม่ใช่สายตาที่แบบ.. :(
คริสตจักรแท้ที่จริง เป็นที่สำแดงความรักของพระเจ้า สำแดงนิสัยของพระเจ้า สำแดงชีวิตของพระเจ้า
แต่คริสตจักรทุกวันนี้ล้มเหลวใช่ไหม แล้วเราล่ะจะล้มเหลวไหม?
เราถูกตั้งไว้ให้เป็นพระกายของพระเยซูเที่ยงแท้ เพื่อเราจะมีส่วนในการครอบครองกับพระเยซู และร่างกายของอาดัมในอนาคตฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ร่างกายของอาดัม จบ ไม่มีแล้ว
ในอนาคตจะมีแต่ร่างกายของพระเยซู ในโลกนี้จักรวาลนี้จะมีผู้ชายคนเดียว ก็คือพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่เดินไปมา (เราเห็นภาพกันหรือยัง) ใครมองกัน ใครมองใคร ก็เห็นแต่พระเยซู มองกันก็เห็นแต่พระเจ้า
นี่แหละคือเป้าหมายที่พระเจ้าสร้างเรา นี่แหละคือเป้าหมายของพระเจ้าในการวางแผนทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้
และพี่น้องทราบไหมครับว่าใครถูกหลอกใช้มากที่สุด (ซาตาน)
ซาตานทุกวันนี้นะครับ มันไม่รู้ตัวว่ามันถูกหลอกใช้ ซาตานมันยั่ว มันยุ ให้ฟาริสี ธรรมาจารย์ทำลายพระเยซู แล้วมันคิดว่ามันจะชนะ แต่พอพระเยซูตายปุ๊บ อีกสามวันต่อมาพระเยซูฟื้นขึ้น มันตกใจ มันรู้ตัวว่าโอ๊ยแพ้แล้ว เล่นงานหัวหน้าไม่ได้ มันก็จะมาเล่นงานคริสเตียนทีนี้
มันเล่นงานคริสเตียนยังไง?
ซาตานนะครับมันฉลาดมาก แผนการของมันอันแรกที่มันทำ คือมันให้คนอเมริกัน คนทุกชาติแปลพระคัมภีร์ผิด จากภาษาต้นฉบับ จากภาษากรีก ฮีบรู ภาษาอังกฤษก็แปลผิดเยอะมากเป็นแสนๆ คำเลยนะ ฉบับคิงเจมส์ที่เราใช้ อเมริกันสแตนดาร์ที่เราใช้ เอ็นไอวีที่เราใช้ ทุกฉบับผิดหมดเลย แล้วก็ทีนี้ภาษาไทยที่เราแปลอยู่ เราแปลได้มาจากภาษาอังกฤษที่แปลผิดของเขาผิดหมื่นแสนคำ เราผิดเป็นล้านๆ คำ
ทีนี้คนที่มาสอน คนที่มาแบ่ง คนที่เทศนาให้เราฟัง เขาก็เอาเชื้อยีสต์ เอาคำสอนที่แปลผิดนี่แหละให้เรากิน สุดท้ายเราเป็นยังไงครับ โดนยาพิษ ถูกหลอก หลงทาง มีไหมสันติสุขนะมีไหม ไม่มี มีตอนที่มาโบสถ์เท่านั้นใช่ไหม แล้วมีไหมใจใหม่มีไหมจิตใจใหม่ ไม่มี ชีวิตเป็นยังไงครับ ขึ้นลง ขึ้นลง สุขทุกข์ ดีบาป ไปจนตาย ใครอยู่เบื้องหลัง (ซาตาน)
แล้วทีนี้มันต่อสู้หัวหน้าไม่ได้ มันมาจัดการกับลูกน้อง ก็คือคริสเตียนทั้งหลาย แต่ขอบคุณพระเยซู พระเยซูก็ทำงาน พยายามช่วยคริสตจักรทั้งหลายให้ได้มาพบคำแปลที่ถูกต้อง พระคำที่เป็นความจริง พระคำล้ำลึก
ผมอาจจะใช้คำว่า "มานาที่ซ่อนไว้" เพราะผมไม่รู้ว่าจะใช้ยังไงจะเรียกอะไร ที่จริงแล้วอยู่อเมริกาเขาก็ไม่ได้เรียก "มานาที่ซ่อนไว้" เขาเรียกว่า "Deeper Knowledge" คือความรู้ที่ล้ำลึก
พี่น้องอยากเอาไปใช้ก็ได้ไม่เป็นไร อันนี้เราไม่ได้ใช้ชื่อกลุ่มเรานะครับว่า พวกคริสตจักรมานา พวกมานา ไม่ใช่นะ พวกเราคือคริสตจักรของพระเยซูคริสต์ หรือว่าคริสตจักรของพระเจ้า และพวกเราเชื่อในพระคำที่เป็นส่วนของความจริงเท่านั้น เราไม่รับเชื้อยีสต์ ถามว่าเรารับอาหารเด็กไหม รับนะ ถ้าหากพี่น้องนำผู้เชื่อใหม่เข้ามา เราจะต้องป้อนอาหารเด็กให้เขา
แต่ถ้าพี่น้องเห็นว่าคริสตจักรพวกเราโต และก็รับมานาที่ซ่อนไว้เยอะแล้ว เราก็ให้ส่วนที่เป็นอาหารที่เป็นผู้ใหญ่ อย่าคิดว่า อ๋อ เด็กใหม่ๆ เข้ามาคริสเตียนใหม่ๆ เข้ามา เขาอาจจะไม่เข้าใจมันลึกมากให้เขาไปแบ๊พติสท์ก่อนดีไหม ไปฝากเอาไปฝาก ให้เขาหล่นจากพระคุณก่อน ไม่นะ สมัยนี้เป็นสมัยใกล้จะถึงยุคสุดท้ายแล้ว ผมพูดความจริงนะ ใกล้จะถึงยุคสุดท้ายแล้ว ดูสิน้ำท่วม ดูสิแผ่นดินไหว ดูสิพายุ ดูสิทอร์นาโด สึนามิอะไร คนตายเป็นเบือเลยใช่ไหม มันไม่เหมือนเมื่อก่อนนะ แล้วพระเจ้าจะเลือกคริสเตียนใหม่ๆ เข้ามาพบมานาเลยก็มี อันนี่เป็นพระคุณยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ก็ขอบคุณพระเจ้า
นี่นะครับซาตานอยู่เบื้องหลังทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วซาตานไม่รู้ตัวว่าพระเจ้าใช้มันในแผนการงานของพระองค์ มันถูกหลอก สุดท้ายเราก็รู้พระเอกต้องชนะ ก็คือพระเยซู เอเมน ถ้าเราสนับสนุนพระเยซูที่เป็นพระเอกของเรา พวกเราก็จะเป็นลูกๆ ของพระองค์ มีส่วนในการครอบครอง แค่นี้ครับหนังสือโรมครับ
(เราเห็นพระคัมภีร์โรมมากขึ้นใช่ไหม จากเมื่อก่อนที่ยังไม่มาสัมมนา กลับจากวันนี้ ทะลุไหม ขอบคุณพระเยซู ยังไม่พอนะ อันนี้เป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น พี่น้องต้องกลับไปบ้าน เเล้วก็อ่านบทเรียน ค้นหา อธิษฐาน ถ้าไม่เข้าใจในข้อไหนก็คุยกับผมได้ หรือฟังคลิปในยูทูป)
ถาม.
แล้วเราจะทำยังไงให้คริสตจักรต่างๆ ได้รับรู้การที่มีหนังสือโรมแบบนี้ แล้วก็คำสอนแบบนี้ที่อาจารย์สอน
ตอบ.
ในพระคัมภีร์มัทธิวบทที่ 13:11 บอกว่า "พระองค์ตรัสกับเขาว่า เพราะว่าข้อความลึกลับของอาณาจักรแห่งสวรรค์ทรงโปรดให้ท่านทั้งหลายรู้ได้ แต่คนเหล่านั้นไม่โปรดให้รู้"
แล้วพระเยซูยังบอกอีกในมัทธิวบทที่ 13:16 "แต่ตาของท่านทั้งหลายก็เป็นสุขเพราะได้เห็น และหูของท่านก็เป็นสุขเพราะได้ยิน"
มันเป็นเรื่องของตาครับ พระเจ้าจะเป็นคนเลือกเองว่าใครจะมาพบโรมบทเรียนนี้ ใครจะมาพบชีวิตผู้ชนะ พระเจ้าเป็นคนเลือกครับผม
เรามีหน้าที่แบ่งไปบอกไปส่งไป ใครรับเขาก็ได้ ใครไม่รับเขาก็ไม่ได้ อันนี้เป็นเรื่องของการเลือกของพระเจ้าที่จะนำเรามาเป็นรัฐบาลชุดเดียวของพระเยซู แต่พี่น้องเหล่านั้นทุกคนรอดทุกคนรอดหมด เพียงแต่ว่าเข้าไปในฟ้าสวรรค์ใหม่ไม่มีงานทำตกงานครับ
...
ถาม.
เราจำเป็นที่ต้องรู้รายละเอียดลึกแบบนี้หรอคะ แต่ละหนังสือ
ตอบ.
เรายิ่งรู้มากเท่าไหร่ โอกาสที่จะเป็นผู้ชนะตามเวลาของพระเจ้าก็จะมีมากเท่านั้น
...
ถาม.
ถ้าเราฝึกเดินแล้วเราไม่จำเป็นต้องรู้เยอะได้ไหม
ตอบ.
คือมันเป็นแบบนี้นะครับ
ถ้าตาของเราถูกเปิดมาก เราจะมีสันติสุขมาก
ถ้าตาเราถูกเปิดน้อย เราก็มีสันติสุขน้อย
ถ้าตาเราถูกเปิดมาก เราก็ทำบาปน้อย
ถ้าตาเราถูกเปิดน้อย เราก็ทำบาปมาก
มันเป็นเรื่องของตา
...
ถาม.
การถูกเปิดตาคือเกิดจากการได้รู้ หรือเกิดจากการสนิทค่ะ
ตอบ.
การถูกเปิดตา คือเกิดจากการได้รู้ก่อน และสนิทที่หลัง การได้รู้และการสนิทเป็นสิ่งที่ควบคู่กันไป
ถ้าคุณรู้แล้ว คุณอยากรู้เพิ่ม คุณต้องสนิท เมื่อคุณสนิท พระเจ้าก็เพิ่มเปิดตาให้คุณมากขึ้น
จากนั้นคุณก็สนิทมากขึ้น พระเจ้าก็เปิดตาคุณมากขึ้น การรับการเปิดตาอยู่ในการสนิท การสนิทได้รับความรู้ ความรู้การฝ่ายวิญญาณเป็นการฝ่ายวิญญาณ
เราอย่าหยุดอยู่แค่นี้นะครับ เราเน้นที่การสนิทบอกรักพระเยซู
(ถ้ายังไม่คุ้นเคย พี่น้องที่ประเทศลาวนะครับ ผมสอนเขาให้บอกรักพระเยซู เขาบอก อจ.ไม่เคยบอกรักสามีเลย จะไปบอกรักพระเยซูได้ยังไง แล้วผมก็ชวนเขาพูดนะครับ "พระเยซูข้าพระองค์รักพระองค์" ตอนแรกเขาก็บอก พระเยซูข้าพระองค์ อุ้ย.. (อาย) จากนั้นก็เริ่มพูดนะครับข้าพระองค์รักพระองค์ เดือนหนึ่งผ่านไป เขาโทรศัพท์มาบอกผม อจ. บอกรักพระเยซูทุกวันเลย)
มันเป็นสิ่งที่เราไม่คุ้นเคย หรือเราไม่เคยชินใช่ไหม ที่ลาวไทยเอเชียเรา การบอกรักมันเป็นสิ่งที่แบบเราคิดว่าไม่จำเป็น สามีภรรยาอยู่ด้วยกัน คือการรักกัน ก็คือการแสดงออกใช่ไหมการกระทำ เราคิดว่าอันนั้นบอกรักแล้ว จริงหรอครับ? ไม่จริงนะผมว่า การบอกรัก ใช่ การกระทำก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่เราต้องพูดด้วย การพูด มันเป็นการสื่อสารที่ชัดเจนมาก
สามีภรรยา สามีคุยกับภรรยา "ที่รัก ผมรักคุณนะ" แล้วภรรยาเราได้ยินเขาจะคิดยังไง "ผมรักคุณนะ" จะละลายใช่ไหม อันนี้คือความรักดั้งเดิม ความรักที่แบบสื่ออารมณ์ ความรู้สึก สื่อทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ภายในหัวใจของเรา ยิงไปหาเขา
พระเจ้าต้องการให้เราเข้าสู่ความรักดั้งเดิม ก็คือบอกรักพระเยซู พูดคุยกับพระเยซู สร้างความสัมพันธ์ ผูกพัน จนเราหลงรักพระเยซูได้
ใช่ครับ รู้กับการสนิทเป็นสิ่งที่คู่กัน สนิทมากก็ได้รู้มาก ขึ้น สนิทมากขึ้นก็ได้รู้มากขึ้น ถูกเปิดตามากเท่าไหร่ มีโอกาสเป็นผู้ชนะตามเวลากำหนดของพระเจ้า ถ้าถูกเปิดตาน้อย เปิดตาช้าเราก็โตช้า เลือกเอา แต่ทุกคนต้องโต เอเมน
...
ถาม.
แล้วเราจะสามารถเอาข้อต่างๆ เนี้ยไปให้กับพี่น้องที่อยู่ในโบสถ์ได้ไหม เราต้องบอกรักพระเยซู ให้เป็นเหมือนที่อาจารย์สอน คือทำให้คริสตจักรเหล่านั้นเปลี่ยนแปลงอะคะ
ตอบ.
เราทำ 2 สิ่งนะครับ สำหรับชีวิตคริสเตียนพวกเราที่เป็นฝ่ายวิญญาณ
1. เราอยู่ในการสนิท บอกรักพระเยซู
2. เราปรนนิบัติรับใช้มนุษย์ ก็คือนำข่าวประเสริฐไปบอกเขา ไปคุยกับเขา ไปบอกเขา
แต่วิธีที่เราทำที่ได้ผล
(พี่น้องเรา เหล่านี้เขามีประสบการณ์นะ) ถามเขาว่าเอามานาที่ซ่อนไว้ไปแบ่งยังไง ถึงจะไม่กระเด็นออกมา ถ้าคุณไปไม่ถูกนะ คุณกระเด็นออกมาแน่
คือมันมีวิธีการ พระเจ้าให้เราใช้วิธีการที่เหมาะสมนะครับ คือเราต้องรู้วิธีเข้าหาพี่น้องคริสเตียนที่เขายังเห็นว่าสิ่งเหล่านี้มันเป็นความรู้ที่แบบ เขารับไม่ได้ หรืออาจจะไม่เข้าใจ
แต่ที่ผ่านมานะครับ ครึ่งต่อครึ่งนะเห็นไหม เราไปแบ่งหลายคนก็รับ บางคนก็ไม่รับ ศิษยาภิบาลหลายคนก็รับนะ แล้วหลายคนก็รับไม่ได้ มันก็เป็นแบบครึ่งๆ เเหละ แต่ยังไงก็ดีนะครับ เราก็ต้องแบ่งไปส่งไป แต่ต้องส่งให้ถูกวิธี
ปกตินะครับพี่น้องที่เขามีประสบการณ์เขาจะส่งคลิปที่เป็นบทเรียน 001 002 003 รอดแล้วรอดเลย การยกโทษบาปของพระเจ้า มาทางพระโลหิต สิ่งเหล่านี้ที่พี่น้องฟังแล้วมันง่าย มันไม่มีอะไรที่ขัดแย้ง แล้วเขาก็รับได้
หลังจากที่เขารับที่เป็นแบบพื้นฐานได้ ส่งอันใหม่ไปเลย ส่งไปเลยเขารับได้หมด สิบลดเขาก็รับได้ คริสต์มาสก็ยังรับได้นะ แต่ตอนแรกอย่าไปส่งนะคริสต์มาส แอนตี้เลย ต่อต้านทันที
(ทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องมีด้านลบและมีฝ่ายบวก มีฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย ไม่เป็นไรเราทำหน้าที่ของเรา)
...
ถาม.
ความชอบธรรมที่ใช้คำว่า Justification กับคำว่า righteousness มันแตกต่างกันยังไงค่ะ
ตอบ.
พระเจ้าต้อง Justified เราก่อน เมื่อพระเจ้า Justified เราแล้ว เราถึงได้กลายเป็น righteousness / righteousness แปลว่าชอบธรรม ถ้าอยากชอบธรรมต้องรับการ Justified พระเจ้า Justified ก็คือชำระเรา
- พระเจ้าทำยังไง ชำระเรายังไงครับ?
1. ก็คือพระเจ้าจ่ายพระโลหิตให้ตัวบาป จ่ายหนี้บาปด้วยพระโลหิตของพระเยซู และการตายของพระเยซู หลังจากนั้นพระเจ้าฆ่าเราทิ้ง ฆ่าเราเลยนะ พระเจ้าประหารตัวเก่าชีวิตเก่าของเรา และพระเจ้าประทานชีวิตใหม่ให้เรา
หลังจากนั้นยังมีอีกนะ หลังจากนั้นพระเจ้าก็ให้พระเยซูคริสต์ในสภาพของพระวิญญาณบริสุทธิ์เข้ามาสถิตในวิญญาณใหม่ของเรา ยังไม่พอนะหลังจากนั้น ทุกครั้งที่พระเจ้ามองมาที่เรา พระเยซูที่อยู่ในเรา เป็นความชอบธรรมของเรา เรียกว่า righteousness
ตั้งแต่พระโลหิตชำระ ประหารชีวิตเรา เข้ามาอยู่ในเรา ประทานชีวิตใหม่ให้เรา แล้วก็ยืนเป็นป้อมยืนไม่ให้พระเจ้าเห็นตัวเรา เห็นแต่พระเยซูเป็นเสื้อที่ดีที่สุดที่ปกปิดเรา เรียกว่ากระบวนการเพื่อทำให้เรากลายเป็นคนชอบธรรม
ยังไม่พอนะยังไม่พอ พระเจ้ายังให้เรามายืนอยู่ต่อหน้าทูตสวรรค์ทั้งหลาย พระเจ้าเรียกนะตอนที่คุณเชื่อพระเยซูปุ๊บ พระเจ้าให้คุณบังเกิดใหม่เสร็จเรียบร้อย ตอนนั้นคุณยังยืนงงอยู่นะครับยังไม่รู้อะไรอยู่ในโบสถ์ พระเจ้าเรียกทูตสวรรค์ทั้งหลายเป่าแตร ทูตสวรรค์ทั่วโลกมายืนแล้วก็ดูแล้วก็ปรบมือ เอเมน ฮาเลลูยา ชื่นชมยินดี มีแค่คนเดียวที่กลับใจเชื่อมาหาพระเยซู ทูตสวรรค์ทั่วโลกทั้งจักรวาลดีใจ แล้วพระเจ้าประกาศตอนนั้นเลย "คนนี้เป็นบุตรที่รักของเรา เราพอใจเขามาก" เรียกว่าพอใจ (Justified เราพอใจเขาแล้ว) Justified แปลว่าทำให้พอใจ
- พระคัมภีร์โรมมี 3 เรื่องใหญ่ที่สำคัญที่สุด คือเรื่องอะไรบ้าง
1. เรื่องความรอด ทำยังไงถึงได้รับความรอดครับ เข้าสู่การ Justified ให้กลายเป็นคนชอบธรรม แล้วก็ได้รับความรอด
2. ก็คือการเปลี่ยนใหม่ เปลี่ยนแปลงชีวิต
3. ก็คือพระกายของพระเยซูที่อยู่ร่วมกันเป็นคริสตจักร
- พระคัมภีร์โรมมี 4 สิ่งที่พระเจ้าต้องการเปิดเผย
สิ่งแรก ก็คือพระเจ้าต้องการเปิดเผยความชอบธรรมของพระองค์
สิ่งที่สอง ถ้าพระเจ้าจะช่วยเรา พระเจ้าต้องทิ้งชีวิตเก่าของเรา ฆ่าเราทิ้ง ประหารชีวิตอาดัม แล้วสร้างมนุษย์เผ่าพันธุ์ใหม่ มนุษย์เผ่าพันธุ์นี้ก็คือมนุษย์วิญญาณ ตั้งแต่นี้ต่อไปพวกเราไม่ใช่อาดัม พวกเราไม่ใช่เนื้อหนังต่อไปแล้ว พวกเราคือมนุษย์วิญญาณ ภาษาไทยอาจจะฟังแบบคือมันแปลกๆ แต่ภาษาอังกฤษเพราะนะ spiritual man มนุษย์วิญญาณเป็นมนุษย์เผ่าพันธุ์ใหม่ เป็นคนใหม่แล้ว เผ่าพันธุ์ใหม่ เราจะต้องเป็นคนพิเศษ เดินไม่เหมือนเขา นั่งไม่เหมือนเขา ยิ้มไม่เหมือนเขา พูดไม่เหมือนเขา ทุกสิ่งทุกอย่างจะสำแดงชีวิตของพระเยซูคริสต์ให้เขาเห็น พิเศษนะ เข้าใจนะครับ เราพิเศษไหม เอเมนไหม หลังจากพระเจ้าสร้างมนุษย์เผ่าพันธุ์ใหม่แล้วมีอะไรเกิดขึ้นครับ
พระเจ้าเปลี่ยนใหม่ ทำให้เราดำเนินชีวิตที่บริสุทธิ์
แล้วประการสุดท้าย ก็คือคริสตจักร คริสตจักรที่พระเจ้าต้องการ