เรา คือพระกายของพระเยซู ทุกคนจะต้องมีใจที่พร้อม
ใจที่พร้อม คือไม่คิดถึงเรื่องอื่น ไม่คิดถึงปัญหา ไม่คิดถึงเรื่องฝ่ายโลก ไม่พูดถึงเรื่องอะไรทั้งนั้น เรานั่งรถด้วยกันเราคุยกันถึงเรื่องพระคำพระเจ้า เรื่องสรรเสริญพระเจ้า เรื่องวันขององค์พระผู้เป็นเจ้า แล้วเราทุกคนก็เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
ทุกคนอธิษฐาน บางคนกดมือถือ เปิดโซเชียล อันนั้นเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวไหม
ทุกคนจะต้องใจพร้อม เมื่อคุณตื่นนอนตอนเช้าคุณมานมัสการคุณต้องใจพร้อมเอเมนไหม
ทุกคนจะต้องใจพร้อมเพื่อไม่ให้การนมัสการเสียเปล่า เราต้องการเผาถวายเครื่องบูชาด้วยหัวใจอันบริสุทธิ์ การเผาถวายเครื่องบูชาต้องทิ้งขยะ ไม่เอาอันอื่น ไม่เอาเรื่องอื่น ทิ้งทุกอย่างไว้ข้างนอก
เป็นหนึ่งเดียว ก็คือทุกคนอธิษฐาน เราอธิษฐานด้วย ทุกคนพูดอะไรเราก็ร่วมด้วย อย่าปล่อยให้เขาอธิษฐานแล้วเรานิ่งเฉย แล้วใช้มือถือ หรือว่ามองที่หน้าต่าง เราจะพร้อมใจกันเราจะเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
เราฝึกอยู่ไม่ต้องห่วง เรายังฝึกอยู่ ต้องใช้เวลา ผมเข้าใจคืออันนี้ไม่ใช่การบังคับ แต่เป็นการแนะนำ เป็นการหนุนใจ เป็นการเตือน ให้พวกเราทุกคนมีส่วนด้วยกัน อยากให้ทุกคนเข้าอาณาจักรด้วยกัน เอเมน
แล้วคำว่า นมัสการ เมื่อเช้ามีพี่น้องท่านหนึ่งที่พูดว่าฝากปัญหาเรื่องของคนนี้ไว้กับพระองค์ขอเมตตาช่วยด้วย วันนี้เป็นวันแห่งการนมัสการ
คำว่า นมัสการ ก็คือเข้ามาแล้วนมัสการ ขอบพระคุณ สรรเสริญ ยกย่องพระนามพระเจ้า คือ พูดแต่สิ่งดีๆ อวยพรพระเจ้า เราเข้าใจกันไหมคำว่า อวยพรพระเจ้า อันนี้อาจจะเป็นคำใหม่ ในเอเฟซัสบทที่ 1:3 เราอวยพรพระเจ้า อวยพรคืออะไร เอเฟซัส 1:1-3 อวยพรพระเจ้า ก็คือ พูดแต่สิ่งดีๆ ให้พระองค์ พูดแต่สิ่งดีๆ ถวายพระองค์ เพราะว่าพระองค์สมควรที่จะได้รับคำสรรเสริญ ยกย่อง ขอบพระคุณ บอกรัก พูดแต่สิ่งดีๆ ให้พระองค์ เรียกว่าอวยพรพระเจ้า แต่มันไม่เหมือนคำที่เราใช้ว่า พระเจ้าอวยพร อันนั้นไม่ใช่ คือ อวยพร พูดแต่สิ่งดีๆ ให้พระเจ้า
บางคนอาจจะคิดน้อยใจว่าทำไมพระกายผู้ชนะ คริสตจักรเที่ยงแท้ ทำไมมีคนน้อยเหลือเกิน พระเยซูทำนายไว้แล้วในหนังสือวิวรณ์ บทที่ 3:8 บอกว่าเจ้ามีกำลังน้อย บางคนแปลว่ามีกำลังน้อยแต่คนเยอะไม่ใช่ ก็เพราะว่ามีคนน้อยนั่นแหละซึ่งมีกำลังน้อย พวกเรามีกำลังน้อย พวกเรามีคนน้อยไม่เยอะ คริสตจักรเที่ยงแท้ คริสตจักรผู้ชนะ คริสตจักรที่พระเจ้าเปิดตาให้เข้าสู่พระคำล้ำลึกให้เข้าสู่ความจริงของพระเจ้ามีน้อยมาก
เพราะฉะนั้นเราขอบคุณพระเจ้า เรามีน้อยพระวิญญาณก็อยู่กับเรา เรามีน้อยพระเยซูพระบิดาก็อยู่กับเรา เราไม่ได้มีน้อยนะทูตสวรรค์เยอะแยะเต็มไปหมดเลย แล้วเราไม่ได้มีน้อยพระเจ้าทั้งสามพระภาคก็อยู่กับเรา ถึงแม้ว่าเราจะอยู่กับคนกลุ่มน้อยแต่มีความเชื่อที่ถูกต้อง ฝึกเดินถูกต้อง นมัสการถูกต้อง เราอยู่กับคนกลุ่มน้อยดีกว่า ดีกว่าอยู่กับคนกลุ่มเยอะแต่นมัสการไม่ถูก ทำทุกสิ่งไม่ถูก อธิษฐานไม่ถูก ร้องเพลงไม่ถูก ทุกอย่างออกมาจากจิต แต่เรานมัสการในวิญญาณและในความจริง มีพี่น้องมากมายนมัสการในจิตและในความไม่จริง
เพราะฉะนั้นขอบคุณพระเยซู สำหรับคริสตจักรที่พระเจ้าเลือกให้มี เราขอบคุณพระบิดา
ปุโลหิตเมื่อมาคริสตจักร หน้าที่ของเราคือจุดไฟ จุดไฟแปลว่าอะไร กระตุ้นให้ทุกคนได้มีหัวใจที่อยากนมัสการพระเจ้า เริ่มตื่น เพราะบางคนมาถึงที่คริสตจักรแต่หัวใจยังอยู่ข้างนอก บางคนมาถึงคริสตจักรแต่หัวใจยังไม่ตื่น ยังเหงา อย่างเศร้าสร้อย คือจิตใจยังไม่พร้อม เราจุดไฟเขาเลย
จุดไฟ คืออะไร ร้องเพลงก็ร้องให้เสียงเพราะๆ กีต้าร์ก็ให้มันเพราะ คือทำอะไรให้มันเพราะ ร้องด้วยหัวใจบริสุทธิ์ ใช่แต่ต้องให้มันเพราะด้วยสิ ถ้าร้องด้วยหัวใจก็ต้องให้เพราะ ไม่ใช่ร้องแบบ .................. ร้องด้วยหัวใจนะ อันนั้นไม่ถูก ใช่มั้ยล่ะ
ถ้าคุณไม่รู้ทำนองเพลงคุณก็เสียงเบาๆ ให้คนอื่นที่รู้มีเสียงของคนที่ทำนองถูกกีต้าร์ เพราะบางคนเสียงเขาร้องทำนองไม่เป็น แต่ปรากฏว่าเสียงดังกว่าเพื่อน ทีนี้บรรยากาศมันก็เสีย เอเมน พระเยซูกำลังเปลี่ยน
เราไม่ว่ากันเราเข้าใจกัน เราทุกคนเราเข้าใจกัน เรารักกัน เราไม่ตัดสินกัน
แล้วปุโลหิตอีกหน้าที่หนึ่ง ก็คือล้างเท้ากันและกัน พวกเรามีหน้าที่ล้างเท้ากัน ล้างเท้าก็คือล้างใจ ล้างใจคืออะไร พอเราเข้ามาคนอื่นกำลังคุยกันเรื่องอื่นอยู่ เราบอกว่าวันนี้เรานมัสการพระบิดาถึงเวลาแล้วถึงเวลาแห่งการสรรเสริญ เราเรียกทุกคนมา เรียกว่าล้างใจ เพราะฉะนั้นเรามีหน้าที่เป็นปุโรหิตของพระเจ้า เราจะทำสิ่งนี้ในคริสตจักร ขอบพระคุณพระเยซู
อยู่ในความจริงของพระคริสต์ ก็คืออยู่ในสันติสุข อยู่ในความชื่นชมยินดี อยู่ในอารมณ์ที่ไม่แปรปรวน คือไม่ทุกข์ และก็ไม่โศกเศร้า หรือไม่ดีใจจนเกินไป จนมากเกินไป คือมันเป็นการเหมือนเรากระทำโชว์แสดงออกมา
แต่การนมัสการในเนื้อหนัง จะอยู่บนรากฐานบนพื้นฐานของอารมณ์และความรู้สึก อารมณ์และความรู้สึกคืออะไร เวลาเรานมัสการเพลงมันซึ้งมากเราก็ร้องไห้ พูดเสียงร้องไห้ไปด้วย อันนี้เรียกว่าใช้อารมณ์และความรู้สึกเป็นฝ่ายของเนื้อหนังไม่ใช่ฝ่ายวิญญาณ คือฝ่ายวิญญาณเราจะไม่แสดงว่าเราร้องไห้ เราไม่แสดงว่าเราเป็นอะไร คือเก็บไว้ในใจ
เวลานมัสการ พระเจ้าต้องการอยากให้เราชื่นชมยินดีเรามาหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ เข้ามาปุ๊บเราวางเรื่องทุกสิ่งทุกอย่างไว้ ผู้ที่เราจะให้เป็นศูนย์กลางเป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่ เป็นผู้ที่จะเข้ามาคือใคร นึกถึงพระเยซูเท่านั้น ใครหายโรค ใครเป็นอะไร ใครพระเจ้าช่วยอะไรเอาไว้ก่อน ไม่ต้องภูมิใจ ไม่ต้องชื่นใจ ไม่ต้องดีใจ เอาพระเยซูก่อน เราปรับปรุงกัน
การนมัสการในวิญญาณ เราจะไม่อาศัยอารมณ์ความรู้สึก หรือว่าการร้องไห้ หรือว่าการแสดงบางอย่างออกมา เราเก็บไว้ เข้าใจความหมายนะครับ อจ. พูดมีเหตุผลไหมครับ ขวัญอ่อน ใจอ่อน ขี้แง ชอบร้องไห้ง่าย เราวางสิ่งเหล่านี้ไว้
เราเอาใจแบบ (เอเมน ขอบคุณพระเยซู รักพระเยซู )
ใครหายป่วย ใครเป็นแบบไหนพระเจ้าช่วยอะไร วางเอาไว้ๆ
นมัสการในวิญญาณและในความจริง ไม่ใช่เอาอารมณ์นมัสการ
อันนี้เป็นตัวอย่างขอบคุณพระเยซูที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เพราะว่ามันจะมีพี่น้องบางคนทำอะไรไม่ถูก อจ. จะแนะนำ อันนี้พวกเราเรียกว่าเป็นการขัดเกลากัน เป็นการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเข้าสู่สิ่งที่ไม่ถูกต้องให้ถูกต้อง เราไม่ได้ติกันหรือตำหนิกัน ดีใจแค่ไหน เอาพระคำของพระเจ้าก่อน เอเมน เราทำให้ถูกต้องนะครับ
สำหรับพี่น้องเพนเทคอสพี่น้องกลุ่มไฟเขาจะใช้อารมณ์เพื่อนมัสการ เข้ามาปุ๊บ ร้องเพลงเเล้วก็ยกมือแล้วก็กระโดดเต้นแล้วก็ร้องไห้ บางครั้งก็หัวเราะ อันนี้เรียกว่านมัสการด้วยอารมณ์
เราไม่ทำ เรามาปุ๊บ สรรเสริญพระเยซู ยิ้มชื่นชมยินดี ขอบคุณพระเจ้า เอาใจเราใส่ที่พระเจ้า ไม่ใช่เอาใจเรามาใส่คนนี้ ดีใจพระเจ้าช่วย คนนี้ คนนั้น วางไว้ก่อน เอาพระเยซูก่อน เข้าใจความหมายนะครับ