ถาม.
อยากให้ขยายคำว่า ค้นหาของประทาน แล้วก็การฝึกใช้ในชีวิตเรา เราต้องทำยังไงบ้างค่ะ 2 คำนี้ค่ะ
ตอบ.
สำหรับการค้นหาของประทานนะครับ ก็คือเราลองใช้ดู เราอธิษฐานนะครับ
1. พระเจ้าจะให้เครื่องหมาย หรือฝัน นิมิตนะครับว่าเรามีอะไร
2. ก็คือ ลอง นะครับ ไปลองใช้ดู
มีคนไข้คนป่วย พี่น้องชวนไปเยี่ยมที่บ้านใคร เราก็อธิษฐานวางมือนะครับ ถ้าหากเขาหาย ไปทำนะครับ 10 คน 7- 8 คนหาย 2 คนไม่หาย ก็คือเป็นไปได้เรามีของประทานนะครับ
ถ้าสมมุติว่าบ้านไหนมีผีเข้านะครับ เราไปกับพี่น้อง เราไปไล่อธิษฐานมันออกนะครับ คือไป 10 บ้านนะครับ ใน 7-8 บ้าน ก็คือผีออก ก็คือเรามีของประทานในการไล่ผี
ถ้าหากสมมุติว่าพี่น้องเราได้ยินข่าวบ่อยมาก ได้ยินข่าวบ่อยมาก ปกติไม่ได้ยินข่าวนะครับ เรื่องพี่น้องขัดสน พี่น้องเดือดร้อน พี่น้องมีความจำเป็นเรื่องการใช้จ่าย ไม่มีเงิน เดือดร้อน ก็คือได้ยินบ่อยนะครับ แล้วก็พระวิญญาณก็เร้าใจเราให้เกิดเมตตาสงสาร แล้วไปช่วยเขาทั้งๆ ที่มีมากหรือมีน้อยไม่สำคัญนะครับ แต่คือพระเจ้าให้เราไปช่วยเขาให้ได้ แล้วเรามีใจนะครับร้อนรน คือร้อนใจ อยู่ยากอยู่ไม่ได้ อยากไปอยากช่วยแล้วก็ช่วยเขา ทำแบบนี้เป็นแบบนี้บ่อยๆ นะครับ ก็คือเรามีของประทาน ใจกว้าง มีของประทานในการให้
แล้วเรานะครับถ้าสมมุติว่าพูด พูด พี่น้องบอกว่าพูดต่ออยากฟังพูดต่อไป แล้วก็มีคนสนใจมีคนอยากฟัง ฟังแล้วคือได้รับเสียงได้ยินเสียงของพระวิญญาณ หิวกระหายนะครับ คือเกิดมีอาการหิวกระหายอยากฟัง อยากกินพระคำพระเจ้าผ่านเรานะครับ ก็คือเราก็พูดไป นี่คือเรามีของประทานในการเผยพระวจนะ
สรุปการค้นหาของประทานคือ..
1. ก็คือเราอธิษฐานขอนิมิต ขอความจริง ขอการเปิดเผยจากพระเจ้าว่าพระองค์ให้ข้าพระองค์มีของประทานอะไร แล้วก็ 2. ก็คือลองไปทำดู ถ้าเกิดผลจริง แสดงว่าเรามีของประทานในสิ่งนั้น
....
ถาม.
แล้วก็ฝึกใช้ไปด้วยใช่ไหมคะ
ตอบ.
การฝึกใช้นะครับ ก็คือเราต้องเรียนรู้นะครับ จากการที่ผู้นำ ผู้รับใช้ หรือพี่น้องที่มีของประทานเขาเคยทำมาก่อนนะครับ
ถ้าสมมุติว่าไปไล่ผีนะครับไปไล่ผี การฝึกของเรานะครับก็คือ เราให้พระวิญญาณเป็นคนนำ เราชำระตนนะครับให้บริสุทธิ์ก่อน เราอดอาหารนะครับ เรารู้ว่าผีเข้าบ้านนี้ เราอดอาหารขอการนำพาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ ไม่ใช่ว่าอยู่ๆ ก็จะไปนะครับ ต้องมีการเตรียมจิตใจของเรานะครับ
พอไปนะครับการพูด เราก็ต้องฝึกในการที่จะพูด ไม่ใช่ว่ามึงเป็นใคร มึงชื่ออะไร มึงมาทำไม ไม่จำเป็นนะครับ คือญาติของเขาต้องการให้เราไปไล่ให้ เราก็ไปแล้วก็อธิษฐาน ก็วางมือ แล้วก็ไล่ ก็แค่นั้นนะครับ นี่คือการฝึก คือการพูดให้ถูกวิธี ทำให้ถูกวิธี วางมือให้ถูกวิธี และเตรียมให้ถูกวิธีครับผม
อย่าลืมนะครับว่าทุกคนมีของประทานไม่มากก็น้อย ถ้าคนที่ไม่มีของประทานจริงๆ นะครับก็คือมี 1 ชิ้น 1 ของประทานแน่นอนครับ
พระเจ้าให้ทุกคนเป็นสาวก เราทุกคนอยากเป็นหรือไม่อยากเป็นก็ได้เป็นนะครับ
1. คือเป็นสาวก
2. คือเป็นผู้รับใช้
3. คือเป็นปุโรหิตหลวง
4. คือเป็นชาวไร่ชาวนา
5. คือเป็นชาวสวนของพระเจ้า
6. คือเป็นเจ้าสาวของพระเยซู
7. ก็คือเป็นคนต้นเรือน
เหล่านี่นะครับเป็นหน้าที่ที่พระเจ้ามอบหมายให้เรา เราอยากเป็นเราก็ได้เป็น เราไม่อยากเป็นนะครับเราก็ต้องได้เป็น เพราะว่าพระเจ้าเลือกเราแล้วให้เราเป็นแล้ว เพียงแต่ว่าถึงวันเวลาที่พระเยซูเสด็จกลับมา นำของขวัญ นำบำเหน็จ นำมงกุฎมาให้เรา แล้วพระองค์ก็จะถามเรานะครับว่าเราทำอะไรเพื่อพระองค์
นี่คือคำถามที่ควรจะถามเราตอนนี้นะครับว่า ที่ผ่านมาเราเป็นผู้รับใช้ เป็นสาวก เป็นปุโรหิตหลวง เป็นคนต้นเรือน เป็นชาวไร่ชาวนา เป็นชาวสวนในสวนองุ่น เป็นเจ้าสาวที่น่ารักของพระเยซูหรือไม่ ถ้าคำตอบว่าไม่นะครับ คือรีบลงมือทำ เอเมน
แล้ววันนี้เราก็คือมีโอกาสนะครับ ได้ร้องเพลงร่วมกับพี่น้อง ได้เผยพระวจนะ ได้แบ่งปัน ได้เสริม ก็คือการทำหน้าที่แล้ว อย่าให้โอกาสมันพลาดไป เราฉวยโอกาสทุกโอกาสที่มี
สำหรับผมนะครับ เมื่อก่อนถ้าจะพูดตามตรงก็คือ ผมเป็นคนที่พูดไม่เก่งและเป็นคนที่ไม่กล้าพูด คือเป็นคนขี้อาย พูดไม่เก่ง เป็นคนขี้อาย แล้วพูดอะไรออกมาก็คือคนไม่ค่อยชอบนะครับ แต่โดยการนำพาของพระวิญญาณนะครับ ผมจึงค่อยๆ เรียนรู้ที่จะพูด ในคำพูดที่ควรพูด และพูดในเวลาที่เหมาะสม แล้วก็พูดแบบสั้นๆ มีความหมาย (ไม่พูดยาวนะครับ ไม่พูดยาวน้ำท่วมทุ่งนะครับ) เวลามีค่าสำหรับการรับใช้นะครับ การพูด การทำอะไรก็แล้วแต่ คือให้เวลาเป็นสิ่งที่มีค่า แล้วก็ให้พระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นคนทำแทนเรา อย่าทำเอง การให้พระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นคนทำแทนเรา มันจะเกิดผลมาก แล้วมีผลต่อผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือนะครับ
เพราะฉะนั้นแต่สำหรับสิ่งหนึ่งที่พระเจ้าให้คริสตจักรมากกว่าใครก็คือ การเผยพระวจนะ พระเจ้าให้หลายๆ คนในคริสตจักรเดียว เผยพระวจนะได้ เพราะว่าพระเจ้าต้องการให้เราทุกคนมีโอกาสได้เผยพระวจนะ ได้แบ่งปัน ได้เสริมสร้างกันและกันนะครับ ไม่ใช่อาจารย์ ไม่ใช่ผู้นำ ที่เป็นคนที่พูดเก่ง หรือพระวิญญาณนำคนเดียวนะครับ เราเองที่นั่งอยู่ตอนนี้นะครับเราก็มีของประทานในการเผยพระวจนะ แต่เราไม่รู้ตัว เรามามองดูตัวเราเองใช่ไหม พูดก็ไม่เก่ง พูดก็ไม่ได้ พูดก็ไม่ดี ไม่มีใครอยากฟัง อย่าไปคิดแบบนั้นครับ ผมก็เคยคิดแบบนั้นแล้วผมก็เคยเป็นนะครับ
แต่ถ้าเสียงของพระวิญญาณออกมาผ่านเรานะครับ พระองค์จะพัฒนาให้การพูดของเราก้าวหน้านะครับ แล้วชีวิตพระเจ้าก็จะออกมาผ่านคำพูดของเรามากขึ้นมากขึ้น คือตอนนี้ก็เราอธิษฐาน เราขอการนำพาจากพระเจ้า เราขอการเปลี่ยนคำพูดของเรา เปลี่ยนน้ำเสียงของเรา เปลี่ยนทุกสิ่งของเรานะครับ ก็จะค่อยๆ ดีขึ้น นี่คือการฝึกใช้ของประทาน เอเมน
สรุปอีกครั้งการค้นหาและการฝึกใช้ของประทานคือ..
1. ก็คือเราอธิษฐานขอนิมิต ขอความจริง ขอการเปิดเผยจากพระเจ้าว่าพระองค์ให้ข้าพระองค์มีของประทานอะไร แล้วก็ 2. ก็คือลองไปทำดู ถ้าเกิดผลจริง แสดงว่าเรามีของประทานในสิ่งนั้น
- การฝึกให้ถูก คือการพูดให้ถูกวิธี ทำให้ถูกวิธี วางมือให้ถูกวิธี และเตรียมให้ถูกวิธี
* ทุกคนมีของประทานไม่มากก็น้อย ถ้าคนที่ไม่มีของประทานจริงๆ ก็คือมี 1 ชิ้น 1 ของประทานแน่นอน *